วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558

ดินแดนเหนือฟ้า ใต้หล้านี้เพื่อเธอ ตอนที่ 9

                                                 ดินแดนเหนือฟ้า ใต้หล้านี้เพื่อเธอ
                                                     ...The land before time...
                             "ไม่ว่ามนุษย์หรือโลก ย่อมต้องการความอบอุ่น"

บทที่ 9 นักฆ่าฟางไห่

                   ณ ห้องปะการัง วังดินแดนเหอ
                 ห้องนี้เป็นห้องทรงงานถูกตกแต่งด้วยประการังหลากสีจากท้องทะเลติดดินแดนเหอ แต่ละกิ่งก้านล้วนดูสวยแต่เหมือนจะแหลมคม เฉกเช่นเดียวกับองค์ราชาแห่งดินแดนเหอ ภายนอกดูหล่อเหลาพอตัว ถึงแม้จะอายุมากสักหน่อย หากแต่จิตใจภายในนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต เขาเอ่ยถามคนตรงหน้าซึ่งมีหน้าตางดงามไม่ต่างจากบิดาของตัว

"สุ่ยเก๋อ ลูกกลับมาช่วยพ่อลอบสังหารถิงยื่อ ทำไมถึงทำไม่สำเร็จ กลับไปฆ่าได้แค่องค์ราชินีอ่อนแอเท่านั้น" 

"ท่านพ่อ ข้าจะลองใหม่อีกครั้ง คราวนี้จะนำคนไปเพิ่ม ท่านอาจารย์บอกข้าแล้วว่าเหล่าพี่น้องพร้อมสำหรับงานนี้แล้วค่ะ" องค์หญิงผู้มีโฉมสะคราญหากแต่ก็ยังแพ้องค์หญิงหมี่ซิงแห่งดินแดนดาวอยู่ดี นางจึงชอบแปลงร่างกายตัวเองให้เป็นหมี่ซิง แล้วไปหลอกล่อคนอื่นต่อ เชอะ!!!องค์ชายหลิงมู่นั่นก็ติดบ่วงนางอีกคน 

"ดีนะว่าตอนนี้ราชาดินแดนเยว่ก็ใกล้จะตายตามราชินีไปแล้ว ส่วนเฟิงเยว่ก็บาดเจ็บ แต่ถิงยื่อพามารักษากับแม่เฒ่านี่สิ จะทำยังไงกันดี" องค์ราชาคิดว่าต้องหาทางกำจัดถิงยื่อโดยเร็ว

"ไม่ยากท่านพ่อ ถ้าขัดขืนก็ฆ่าทั้งหมู่บ้าน ลูกจัดการเอง ขอเวลาไปเตรียมตัวก่อน พวกเราถูกฝึกมาอย่างดี เหล่านักฆ่าฟางไห่จะไม่พลาดอีกแน่นอนค่ะ"

 องค์หญิงมั่นใจ คราวก่อนนางรีบร้อนไปหน่อย จึงลงมือเงียบๆคนเดียว แต่ตอนนี้ถ้าไปกันหมด งานนี้จะต้องสำเร็จ 

จริงๆนางก็พอใจในตัวถิงยื่อนะ แต่ทำไมคนๆนี้ถึงไม่เคยมีสายตามองนางสักนิด คิดแล้วมันแค้นใจ เห็นอยู่แต่กับเฟิงเยว่ ทำให้ขัดตายิ่งนัก 

ดีแล้วที่บาดเจ็บไป ถ้าไม่พลาดไปหน่อย เฟิงเยว่น่าจะตายไปแล้ว ถิงยื่อจะได้เป็นของนาง คิดแค่นั้นนางก็เริ่มมีหวัง จึงรีบตรงไปหาอาจารย์เฮยไห่ทันที


                     อาจารย์เฮยไห่ คืออาจารย์ที่สอนนางมาตั้งแต่เด็ก เป็นผู้รอบรู้ที่ทะเยอทะยานอยากครอบครองดินแดนเช่นเดียวกัน 

เขาพยายามวิเคราะห์คำทำนายที่สืบทอดกันมา และยังมีหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ เขาจึงให้องค์หญิงสุ่ยเก๋อไปสืบความจริงในดินแดนยื่อ 

ตอนนี้เขารู้มากขึ้น จึงรู้แล้วว่าเป้าหมายที่ต้องทำนั้นคือฆ่าองค์ชายถิงยื่อให้ได้ และเหล่าคนที่เขาฝึกใช้พลังมนต์ดำมา ตอนนี้เหล่านักฆ่าฟางไห่น่าจะพร้อมสำหรับงานต่อไปแล้ว

                    ในบ้านพักแม่เฒ่าตงสุ่ย
                    ตอนนี้ถิงถิงต้องเฝ้าดูอาการเฟิงเฟิงอย่างใกล้ชิด เขาสลบไป 3 วัน 3 คืนแล้ว ตอนนี้ทุกครั้งที่เฟิงเฟิงรู้สึกตัวตื่น เขาจะอาเจียนเอาก้อนเลือดออกมามากมาย แล้วก็สลบไปอีก เขาดูทรมานมาก เป็นแบบนี้ไม่หยุดจนเขาอยากจะไปรับมีดเหอปิงแทน

"เฟิงเฟิง เจ้าเป็นยังไงบ้าง" เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นแมวน้อยหน้าซีดตรงหน้าลืมตาสีฟ้าขึ้นมา แต่แววตาเป็นสีฟ้าอ่อนมาก

"ข้าขอกระโถนนั่นหน่อย ข้าอยากอ๊วกออกมาให้หมด"แมวน้อยยังคงลุกขึ้นมาอาเจียนก้อนเลือดสีแดงขุ่นอีกรอบ

"ถิงถิง ข้าไม่ไหวแล้ว มันทั้งปวดบิดในท้อง แล้วก็อยากเอาเลือดร้อนๆในร่างข้าออกมาให้หมด ข้าใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว" เฟิงเฟิงพูดออกไปแบบหมดแรง หากแต่เขาต้องบอกให้คนตรงหน้ารู้เพราะเขาไม่แน่ใจว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน

"ไม่ได้นะเฟิงเฟิง เพื่อข้า เจ้าต้องอยู่ ตอนนี้ข้าเสียลูกไปแล้ว ข้าจะเสียเจ้าไปอีกไม่ได้" เขาบอกคนตรงหน้าอย่างหนักแน่น

เขาเห็นเฟิงเยว่สลบไปอีกจึงร้อนใจ ออกไปถามแม่เฒ่าอีกครั้ง

"แม่เฒ่า ตกลงข้าช่วยอะไรเฟิงเฟิงไม่ได้เลยเหรอ ข้าจะไม่เสียเขาไปแน่นะ ทำไมดูเขาอ่อนแอขนาดนั้นล่ะ"

"ข้าบอกแล้วว่าองค์ชายเสียทายาท ดังนั้นตอนนี้นั่นคือเลือดเสียที่เขาต้องขับออกให้หมด มันจะทรมานหน่อยแล้วหลังจากนั้นจึงค่อยมารักษาและบำรุงกันใหม่อีกครั้งนะองค์ชายถิงยื่อ" แม่เฒ่าตอบ

"ก็ได้แม่เฒ่า ข้าจะเชื่อท่าน ข้าเข้าไปดูเฟิงเฟิงก่อนล่ะ" ถิงยื่อไม่อยากปล่อยเฟิงเยว่ไว้คนเดียวอีกแล้ว 



คืนนี้เป็นคืนที่ 3 ที่เขาพาเฟิงเยว่มารักษา ตอนนี้ถิงยื่อสังเกตว่าสีหน้าเฟิงเยว่เริ่มดีขึ้นหน่อย 

แม่เฒ่าสั่งเอาไว้คืนนี้เขาต้องป้อนยาเฟิวเยว่ ระหว่างนั้น ก็ปรากฎเสียงประทัดเล็กๆตรงหน้าเขา
"ถิงยื่อ เจ้าอยู่นี่นี่เอง ข้ามาบอกข่าว" เป็นเทียนอวิ๋นที่ถอดจิตออกมาตามหาเขาจนเจอ

"อ้าว เทียนอวิ๋นมีอะไรว่ามา ข้ารอฟังอยู่และมีข่าวจะบอกด้วย" ถิงยื่อมีเรื่องจะต้องบอกอีกฝ่ายด้วย

"ฟังนะ ตอนนี้องค์ราชาดินแดนเยว่สิ้นแล้ว พระศพทั้งสองรวมทั้งขององค์ราชินีถูกนำมาเก็บไว้ที่ดินแดนยื่อแล้ว ข้าเลยอยากให้เจ้าบอกกับเฟิงเยว่ด้วยว่าไม่ต้องห่วง ส่วนดินแดนเยว่ คงต้องรอเขาหายแล้วกลับมาจัดการนะ ตอนนี้ข่าวของคนชุดดำลึกลับก็ไม่ชัดเจน เจ้าต้องระวังด้วย แต่องค์ราชาสงสัยดินแดนเหอมากที่สุด แต่ท่านก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้เรื่องสำคัญคือการสืบทอดดินแดนของเจ้า เหลือเวลาอีกแค่เดือนกว่าแล้วนะ"
เทียนอวิ๋นเอ่ยเตือนเรื่องทั้งหมดตามคำสั่งองค์ราชา

"ได้ ข้าจะจัดการทุกอย่างเอง และฝากบอกท่านพ่อด้วยว่ารอเฟิงเฟิงหาย พวกเราจะกลับไป และบอกท่านด้วยสำหรับความตั้งใจของข้า" เสร็จแล้วถิงยื่อก็อธิบายเรื่องการรวมดินแดน ยื่ออ้ายเยว่ให้เทียนอวิ๋นฟัง เขาจะกลับไปเล่าด้วยตัวเองอีกที

เมื่อคุยกันเรียบร้อย เทียนอวิ๋นก็กลับไป ตอนนี้ดึกสงัด ถิงถิงก็เอายาที่แม่เฒ่าทิ้งไว้ให้ อมไว้ในปากก่อนจะค่อยๆช้อนตัวแมวน้อยที่ตอนนี้นอนหมดแรงขึ้นมาแล้วค่อยๆปล่อยยาเข้าปากทีละนิดๆ เมื่อได้ยาไปสักพัก เฟิงเยว่จึงค่อยๆลืมตาขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาเห็นแววตาลิงยักษ์ตรงหน้าชัดเจน เป็นแววตาอ่อนโยนที่คุ้นเคย เขาจึงโผเข้ากอด พร้อมน้ำตา

"ถิงถิง ลูกๆของเรา ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้เลยว่าในร่างข้ามีเขาอยู่ ข้ารู้แต่ว่าข้าเหมือนมีพลังความร้อนเพิ่มขึ้น อยากกินมากขึ้นและอยากสัมผัสแต่เจ้าแค่นั้น ข้าเสียใจ ท่านแม่ก็ไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ดินแดนเยว่จะเป็นเช่นไรกัน ท่านพ่ออีก ฮือๆๆๆ...ถิงถิง" 

สายตาที่เจ็บปวดมองเขา ตอนนี้ตาสีฟ้าตรงหน้าทำให้ใจเขาสั่นนิดๆ หากแต่เป็นการสั่นด้วยความกลัว กลัวว่าคนตรงหน้าจะเปราะบางและแตกไป เมื่ออยู่ด้วยกันมา เขารู้ว่าเฟิงเยว่นั้น แข็งแกร่งแต่อ่อนไหว เขาแค่แหย่นิดแหย่หน่อยก็รู้สึกไปหมด แต่เขาก็จำเป็นต้องบอกออกไป

"เฟิงเฟิง เจ้าฟังข้านะ เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เจ้าคือความสุขทั้งชีวิตของข้า ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าเป็นทุกข์เด็ดขาด แต่ว่ามีเรื่องที่ยังไงเจ้าก็ต้องรู้ องค์ราชาพ่อเจ้าสิ้นแล้ว พ่อข้าจัดการดูแลพระศพของท่านและท่านน้าเป็นอย่างดี เจ้าไม่ต้องห่วงนะเฟิงเฟิง" เขารู้ว่าคนตรงหน้าต้องเหมือนจะขาดใจแน่ๆ เขาจึงกอดแมวน้อยไว้แนบอกอย่างแน่นเพื่อส่งพลังใจให้ 

ตอนนี้เฟิงเฟิงเงียบไปนานมาก เขารู้สึกเสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขารู้แต่ว่าเขาต้องฝึกฝน เขาต้องเก่งขึ้นเพื่อไปล้างแค้นกับคนที่ทำ เขาจะต้องรีบหาย อีกอย่างลิงยักษ์คงเป็นห่วงเขามากแน่ๆ แต่วันนี้เขาจะขอร้องไห้กับอกนี่ก่อนแล้วกัน

หลังจากคืนนั้นเฟิงเฟิงร้องไห้อยู่นาน เขาเริ่มดีขึ้นแต่ยังไม่หายสนิท ถิงถิงป้อนยาทุกคืน ดูแลอย่างดี เขาซาบซึ้งและอบอุ่นใจที่มีลิงยักษ์นี้อยู่ข้างๆ เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับเขา คนๆนี้ไม่เคยปล่อยให้เขาต้องทุกข์ใจจริงๆ เขาจะต้องรีบหายเร็วๆ จะได้กลับไปจัดการเรื่องทุกอย่าง สองพี่น้องตระกูลเมาก็แวะมาหา มาเล่นด้วยบ่อยๆ ทำให้เฟิงเยว่รู้สึกดีขึ้นมาก 

คืนนี้ถิงถิงกำลังจะเตรียมป้อนยาอีกรอบ เฟิงเยวเห็นว่าเขากินยาเองได้แล้ว จึงบอกว่า
"ถิงถิง ข้ากินเองได้ เจ้าไปพักเถอะ เจ้าเหนื่อยมาหลายวันแล้วนะ" 

"ไม่เอา ข้าจะป้อนยาเจ้า ให้ข้าทำเถอะ ข้าอยากทำ" ถิงถิงอยากดูแลใกล้ๆที่สุดเท่าที่จะทำได้

ขณะที่กำลังถกเถียงกันเรื่องป้อนยา แม่เฒ่าก็เดินเข้ามาหาเพื่อตรวจอาการเฟิงเยว่

"องค์ชายทั้งสอง พวกท่านฟังข้านะ อีกไม่นานนักฆ่าฟางไห่จะมาที่นี่ ข้าจะพาคนในหมู่บ้านไปซ่อนตัวโดยเร็วที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่ข้าต้องบอกคือ คำทำนายส่วนหนึ่งจากอาจารย์ไป๋ ข้าเพิ่งได้รับมา นี่กระมังคือความลับที่คนร้ายตัวจริงต้องการ ซึ่งเขาน่าจะรู้แล้ว จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่วังเยว่ คำทำนายอีกส่วนบอกเอาไว้ว่า ผู้ใดได้ครอบครองหัวใจแห่งดวงอาทิตย์ มันผู้นั้นจะแข็งแกร่งและทำลายดินแดนเหนือฟ้าได้" แม่เฒ่าเอ่ยบอกความลับทั้งหมด

"ครอบครองหัวใจแห่งดวงอาทิตย์ ท่านหมายถึงยังไงกันแม่เฒ่า หมายถึงได้ครอบครองหัวใจของถิงถิงงั้นรึ" เฟิงเยว่ไม่แน่ใจ ก็เขานี่ไง ครอบครองดวงใจนี้อยู่ มันใช่รึเปล่า!!!

"องค์ชายเฟิงเยว่ ท่านฟังข้านะ การครอบครองไม่ใช่เพียงแบบที่ท่านคิด นั่นหมายถึงว่า การที่องค์ชายถิงยื่อต้องตาย แล้วอีกฝ่ายได้หัวใจไป แบบนี้ก็คือครอบครองเช่นเดียวกัน ดังนั้น นักฆ่าฟางไห่ จึงต้องการชีวิตองค์ชายถิงยื่อด้วย" หลังจากแม่เฒ่าอธิบาย เฟิงเยว่ก็กระจ่าง มิน่าล่ะ ถึงได้มีคนตามมาถึงวังเยว่ได้ 

"และส่วนท่าน องค์ชายถิงยื่อ ข้ามีอีกเรื่องที่ต้องบอก ในวันจันทร์เต็มดวงที่จะถึงนี้ พลังดวงอาทิตย์ของท่านจะแก่กล้าขึ้นเรื่อยจนกระทั่งวันเกิดของท่าน นั่นยิ่งจะดึงดูดศัตรูเข้ามา และมีพลังทำลายล้างไปในพื้นที่ต่างๆ ขอให้ท่านควบคุมตัวเองและมีเพียงองค์ชายเฟิงเยว่เท่านั้นที่จะทำให้พลังนั้นสงบได้ ข้าขอฝากพวกท่านดูแลความปลอดภัยและดินแดนเหนือฟ้าด้วย เพราะข้าก็ไม่แน่ใจว่า จะสามารถอยู่อย่างสงบได้อีกหรือไม่เพราะตอนนี้ดูเหมือนองค์ราชาจะไม่เป็นมิตรกับข้าอีกแล้ว" แม่เฒ่ากล่าว แต่ยังไม่ทันจะพูดคุยอะไรกันต่อ ก็เหมือนจะมีเสียงต่อสู้รุนแรงด้านนอก บ่งบอกว่ามีผู้บกรุกมากกว่าหนึ่ง

ถิงยื่อกับเฟิงเฟิงจึงจะออกไปดู ฉับพลันแม่เฒ่าก็เข้ามาปิดประตูลงกลอน แล้วหันไปพูดว่า
"องค์ชายทั้งสอง ท่านรีบหนีไปทางด้านหลังหมู่บ้าน มันจะเชื่อมต่อกับทะเลไห่หนาน มีเรือข้าแอบซ่อนอยู่ ไม่มีใครรู้ ท่านอาจต้องไปหลบที่นั่นก่อน ส่วนข้าจะรีบพาเด็กๆหนีไป"

"แม่เฒ่า ท่านให้ข้าออกไป ด้านนอกนั้น จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้" ถิงยื่อพยายามจะแหวกแม่เฒ่าเพื่อออกประตูไป

"ไม่ได้นะท่าน องค์ชายทั้งสอง ข้าบอกแล้ว พวกท่านคือส่วนนึงในลิขิตฟ้า ท่านต้องช่วยพวกเรา" สิ้นเสียงแม่เฒ่า ประตูถูกผลักเข้ามา คราวนี้ไวดังหนึ่งเงาเฉกเช่นเดียวกับในวังดินแดนเยว่ 
เงานั้นใช้มีดเหอปิงแทงหลังแม่เฒ่าครั้งเดียวก็ล้มลงและเงียบไป 

เสียงกรีดร้องด้านนอกเริ่มจะเบาลง ถิงถิงประจันหน้ากับคนชุดดำที่รวดเร็วคนเดิมอีกแล้วนะ เขาสัมผัสได้ แต่องค์ชายถิงยื่อไม่มีวันแพ้ เฟิงเยว่ก็พร้อมเข้ามาสู้ด้วย 

ตอนนี้คนชุดดำที่เข้ามาเริ่มมากขึ้นเป็น 4 คนแล้ว ถิงถิงเกือบพลาดโดนมีดเหอปิงไปหลายครั้ง ส่วนเฟิงเยว่ยังไม่หายดีสู้ไม่ค่อยไหวเลยจริงๆ ถิงถิงประเมินแล้วว่า พวกนี้มากันเยอะเกินกว่าที่เขาจะต้านไหว 

เขาจึงคิดว่าควรทำตามแม่เฒ่าจะดีกว่า จึงถอยหนีทางด้านหลังบ้าน พร้อมจับมือเฟิงเฟิง วิ่งทะลุผ่านป่าหลังหมู่บ้าน ลัดเลาะไปจนเจอเรือที่จอดอยู่ จึงรีบขึ้นไป และเอาเชือกที่คล้องกับเสาไว้ออก แล้วหนีไป

เมื่ออยู่บนเรือ ถิงถิงจึงวางใจและเห็นเงาดำๆที่ริมฝั่งหลายคนที่ไม่สามารถตามมาได้ คราวนี้เขาจึงสำรวจบนเรือและที่สำคัญเฟิงเฟิงของเขาเป็นไงบ้าง

"เฟิงเฟิง เจ้าไหวมั้ย" 
"ข้าไม่เป็นไร แค่เหนื่อยมาก" เขาเอ่ยบอกคนตัวใหญ่ตรงหน้าที่ต้องคอยปกป้องเขาอีกแล้ว 
"ไม่เป็นไร ข้าว่าเราน่าจะปลอดภัยแล้ว เจ้าพักก่อนนะ ในเรือแม่เฒ่านี่มีทุกอย่าง เจ้ากินน้ำสักหน่อย" ลิงยักษ์บอก

ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อนอะไร พักผ่อนบนเรือก่อน นี่ถ้าเรือนี่ลอยไปจนสุดฟ้า ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวใดๆก็คงจะดี เขาจะได้ลอยไปกับเฟิงเยว่เลย 

"ถิงถิง เจ้าว่า คนในหมู่บ้านจะเป็นยังไงกันบ้างนะ แล้วฮวาเมากับกวงเมาล่ะ ข้ายังไม่เห็นพวกเค้าเลย" เฟิงเยว่รู้สึกเป็นห่วงทุกคน นี่พวกเขานำความเดือดร้อนมาให้หรือเปล่า

"เฟิงเฟิง อย่าเพิ่งคิดอะไร ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง พวกเราจะต้องแก้แค้นให้พวกเค้าแน่ๆ" ถิงถิงรู้สึกโมโหมาก ความร้อนในตัววิ่งวนไปเรื่อยๆ

จริงๆถ้าจะมาฆ่า ก็มาฆ่าเขาสิ จะไปฆ่าคนอื่นทำไม คิดได้แบบนั้น เขาก็กำมือแน่นด้วยความโกรธ!!!

แต่แล้ว เฟิงเยว่ก็สัมผัสได้ ถึงไอร้อนที่เริ่มไหลออกมาจากร่างใหญ่ตรงหน้า เขาจึงเอามือไปจับที่มือที่กำอยู่แล้วบอกว่า
"ถิงถิง เจ้าต้องสงบนิ่ง จำที่แม่เฒ่าบอกได้มั้ย เจ้าต้องควบคุมตัวเองเอาไว้ พลังอาทิตย์ในตัวเจ้าจะได้ไม่มากเกินไป"

คืนนี้เป็นคืนจันทร์เต็มดวง นี่ก็ 3 วันแล้วที่พวกเขาต้องอยู่แต่ในเรือไม่ไปไหน เพราะยังไม่เห็นทางที่จะถึงฝั่งใดๆได้ แต่ตอนนี้ในเรือมีทุกอย่างพร้อม แม่เฒ่าเตรียมพร้อมไว้จริงๆ เหมือนรู้ล่วงหน้า ตอนนี้ถิงยื่อรู้สึกว่าผ่อนคลายมากขึ้น แต่ก็ไม่รู้ทำไมว่าพลังในตัวของเขาช่วงนี้ตั้งแต่แม่เฒ่าบอก มันไหลเวียนไปมาน่ารำคาญมาก แถมบางครั้งเหมือนจะระเบิดออกมาด้วยซ้ำไป เขาต้องพยายามกัดฟันสงบ โดยไม่บอกให้เฟิงเยว่รู้ เพราะกลัวเขาจะเป็นห่วง

การที่เขาได้อยู่ในเรือนี้โดยไม่ต้องทำอะไรนั้นยิ่งทำให้เขาเบื่อ ใจจริงเขาอยากจะเรียกเจ้าเอ้อมารับนะ แต่คิดว่ายังไม่อยากกลับตอนนี้ อีกอย่างถ้านักฆ่าพวกนั้น ตามไปถึงวังดินแดนยื่อ ก็คงมีคนล้มตายอีก เขาต้องหาทางจัดการคนพวกนี้ก่อนให้ได้

บนเรือแม่เฒ่ามีตำรายาและตำราดวงดาวมากมาย ซึ่งเฟิงเฟิงของเขาดูสนใจและอ่านตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ โดยไม่ค่อยจะสนใจเขาแม้แต่น้อย เขาชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ เห็นหนังสือดีกว่าเขาได้ยังไง หลังทานข้าวเสร็จ เขาจึงหันไปกอดแมวน้อยของเขาจากด้านหลัง
"นี่เฟิงเฟิง กินข้าวเสร็จแล้ว เจ้าก็อ่านตำราแม่เฒ่าต่ออีกเหรอ เจ้าสนใจข้าบ้างสิ จำได้มั้ย แม่เฒ่าบอกว่าเจ้าต้องดูแลข้า" คนตัวใหญ่อยากอ้อนมาก บางครั้งเขาก็รู้สึกเหนื่อยล้าเหมือนกันนะ เหตุการณ์ร้ายๆที่เจอมา ทำให้เขาอยากอยู่เฉยๆและกอดแมวน้อยตรงหน้าแบบนี้ไปเรื่อยๆ

"ถิงถิง เจ้าไปฝึกพลังตรงโน้นก่อนนะ ข้าขออ่านบทนี้ก่อน มันเป็นการฝึกพลังที่จะควบคุมพลังของเจ้าได้ด้วยล่ะ ข้าอยากศึกษามันให้ละเอียดก่อน" เฟิงเฟิงรู้สึกว่า เขาไม่อยากปล่อยให้เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นกับพวกเขาอีกแล้ว

"เฟิงเฟิง นี่เจ้าจะไม่สนใจข้าจริงๆเหรอ ถึงแม้ว่า เรื่องนี้มันจะเกี่ยวกับข้าก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไง เจ้าก็ควบคุมข้าได้อยู่แล้ว นี่ไง ข้าพร้อมให้เจ้าควบคุมแล้วน้า" ตอนนี้เขาอยากให้คนตรงหน้ากอดเขา จูบเขาเหมือนที่เคย จึงกางแขนออกทั้งสองข้าง

แต่คนตรงหน้ายังสงบนิ่งและอ่านหนังสือต่อไป เขาจึงไม่ยอมลดละ
"เฟิงเฟิง ไหนดูสิ พลังไข่มุกของเจ้ายังเหลืออยู่มั้ย ทำไมพักนี้เจ้าถึงเฉยเมยกับข้านักนะ บนเรือแม่เฒ่านี่มีไข่มุกอีกมั้ยน้า ข้าอยากให้เจ้ากินอีก" ว่าแล้วเขาก็เอามือล้วงเข้าไปจากด้านหลัง และลูบไล้ที่เนินอกของคนตรงหน้าทันที เพื่อกระตุ้นอีกฝ่าย

"ถิงถิง เจ้า...เจ้า เจ้าอยู่นิ่งๆได้มั้ย ข้าบอกแล้วว่าข้าต้องการสมาธิ อย่าเพิ่งกวนสิ ลิงยักษ์ของข้านะ ขอข้าอ่านตรงนี้อีกครู่เดียวนะ" เสร็จแล้วเขาก็เอามือไปจับมือใหญ่ที่พยายามจะลูบคลำนั่นออกจากตัวเขา

คราวนี้ถิงยื่อโมโหจริงๆ พลังในตัวเขาพุ่งพล่านขึ้นมาก เหมือนคนที่อยากได้ของแล้วไม่ได้ เขาจึงจับมือที่ถือตำราชูขึ้น พร้อมให้คนด้านหน้าหันมาคุยกับเขา

"ข้าโกรธแล้วนะ ข้าสั่งแล้วเจ้าต้องทำตามสิ" เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ตาเริ่มแดงกล่ำ จนเฟิงเยว่รู้สึกตกใจ
"ถิงถิง เจ้าใจเย็นๆก่อนสิ ข้าก็อยู่นี่ ไม่ได้ไปไหน" อีกฝ่ายพยามบอกเพื่อให้เขาสงบ คราวนี้ลิงยักษ์เหมือนไม่รู้ตัว

"เฟิงเฟิง ข้าต้องการเจ้า ต้องการเดี๋ยวนี้ ต้องการเจ้าจริงๆ" ลิงยักษ์ที่ยังตาแดงอยู่กระชากอีกฝ่ายเข้ามาจูบ จูบนี้เร่าร้อนและรุนแรงมาก เฟิงเยว่รู้สึกได้ ร่างกายเขาเหมือนจะถูกเผาพลาญ นี่ถิงถิงของเขามีพลังความร้อนขนาดนี้เลยรึนี่ เขาแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว หากแต่ลิงยักษ์ยังไม่หยุด 

"ถิงถิง ข้าร้อน หยุด!!!หยุดก่อนได้มั้ย" เขาร้อนมาก พลังจันทราในตัวเขายังต้านทานไม่ไหวเลย

แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง ฉีกดึงเสื้อผ้าของเขาออกทั้งหมด และก้มลงจูบทุกส่วนอย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่งมาดูดบริเวณหน้าอกเขา มันเหมือนพลังจากไข่มุกที่ผสานในร่างกายของเฟิงเยว่แทรกซึมขึ้นมาจนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ถึงตอนนี้ถิงถิงหยุดทุกอย่างและสำรวจภาพตรงหน้า 

นี่เขาทำอะไรลงไป เขาตกใจและบอกกับเฟิงเยว่ว่า

"นี่ๆๆ นี่ข้าทำให้เจ้าเจ็บเหรอ เฟิงเฟิง ข้าเป็นอะไร" ตอนนี้ลิงยักษ์ตรงหน้าสีตากลับเป็นปกติ ร่างกายเริ่มค่อยๆเย็นลง เหมือนที่ในหนังสือเขียนว่า มีแต่พลังไข่มุกที่รวมกับพลังพระจันทร์ของเขาเท่านั้นที่จะสะกดพลังแสงอาทิตย์ในตัวถิงถิงได้

"ข้าไม่เป็นไร เจ้าแค่กำลังจะมีพลังร้อนแรงแบบมารแฝงมา" เขาจึงลุกขึ้นหลังจากที่อีกฝ่ายแทบจะผลักเขานอนลง

"ไม่จริง ดูร่างกายเจ้าสิ ตอนนี้มันดูเหมือนจะมีรอยไหม้เต็มไปหมด" ถิงถิงรู้สึกผิดมากเขาจึงดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด

"เฟิงเฟิง ข้าขอโทษๆๆๆ" พูดเสร็จ เขาก็ยังกอดอยู่แบบนั้น คราวนี้อีกฝ่ายจึงดันตัวเองออกมา เอามือลูบที่แก้มทั้งสองข้างแล้วพูดว่า

"ถิงถิงของข้า ข้าไม่เป็นไรจริงๆนะ ข้าขอโทษที่ปล่อยให้เจ้าเป็นแบบนี้" จริงๆเขาก็ผิดด้วยที่ไม่สนใจต่อสิ่งที่ลิงยักษ์ต้องการตั้งแต่แรก

"ดูสิ นี่รอยไหม้ที่แขนนี่ ข้าจะช่วยรักษาให้นะ" เขาค่อยๆดูดและเลียแต่ละรอยที่มือและแขนแมวน้อยอย่างแผ่วเบา 
"เอางี้นะ ข้าจะให้เจ้าทำให้ทุกแผลเลยดีมั้ย ถิงถิงของข้า ข้าจะชดใช้ให้นะ" เสร็จแล้วเขาจึงโน้มคอคนตรงหน้ามาหาแล้วนอนลง พร้อมกับชี้
" นี่ด้วย ตรงนี้ด้วย ตรงนี้อีก" คราวนี้แมวน้อยรู้สึกสนุกในขณะที่อีกฝ่ายก็ดูดคลึงอย่างนุ่มนวล 
"หมดรึยังน้า" ลิงยักษ์แกล้งถาม พร้อมทำท่าสำรวจไปด้วย แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นแผลเป็นที่เฟิงเฟิงถูกมีดเหอปิงแทงผ่าน จึงเอามือลูบไปที่แผลบริเวณท้องน้อย พร้อมกับพูดว่า

"เฟิงเฟิง ข้าขอโทษนะ ที่ทำให้เจ้ามีรอยแผลนี่ มา ข้าจะรักษาให้อีก" คราวนี้เขาค่อยๆเอามือลูบที่แผลนั่น อย่างแผ่วเบา ซึ่งเป็นการกระตุ้นอีกฝ่ายได้อย่างดี เหมือนมีการเชื่อมโยงระหว่างแผลกับหัวใจของเฟิงเฟิง ที่ตอนนี้เต้นรัวไม่หยุด 
ลิงยักษ์ใช้ปากจูบและเลียที่แผลเพื่อรักษาอีกครั้ง คราวนี้เขารู้ว่าอีกฝ่ายพอใจแล้ว จึงดันตัวขึ้นแล้วดึงตัวอีกฝ่ายขึ้นมา จากนั้นแมวน้อยก็นั่งบนตักเขา พร้อมกับจูบที่หวานซึ้งแต่ก็รุนแรง ด้านล่างยังคงสอดแทรกเบียดกันในหว่างขาของทั้งคู่ จังหวะเรือที่โคลงเบาๆเป็นจังหวะเดียวกับการตอบรับกันของทั้งสองฝ่าย ตอนนี้เรือโคลงมากขึ้น ทำให้น้ำรอบๆกระเพื่อมเป็นจังหวะที่รวดเร็วและรุนแรง 

"อ่าาาาา แมวน้อยของข้า ตอนนี้ข้าแทบจะมอดไหม้แทนแล้ว" แมวน้อยไม่พูดอะไร คราวนี้เขาหันหลังให้อีกฝ่าย พร้อมจับมือเขามากอด

"ถิงถิง เจ้ากอดข้าสิ จูบข้าสิ ข้าจะชดใช้ให้เจ้าอีก เจ้าอยากได้มั้ย อยากได้อีกหรือเปล่า" สิ้นเสียงเรียกนั้นลิงยักษ์แทบบ้าอีกรอบ เขาระดมจูบไปที่ซอกคอและเอามือลูบไล้ด้านหน้าของอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง ด้านล่างก็ตอบรับแรงขึ้นจนทำให้เรือโคลงอีกครั้งอย่างรุนแรงไม่ยอมหยุด

คืนนี้เป็นอีกคืนที่ยาวนานจริงๆ จนกระทั่งเรือสงบนิ่ง...

ใกล้สว่างแล้ว ถิงถิงขยับผ้าห่มให้เฟิงเฟิงสูงขึ้น พร้อมกับหอมแก้มอวบตรงหน้าอีกที เขารักแมวน้อยนี้ยิ่งกว่าอะไร เขาเดินไปเพื่อจะอาบน้ำด้านใน โดยไม่รู้ว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนตัวอยู่ใต้เรือนี้ด้วย...


                                              โปรดติดตามตอนต่อไป...















                   

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

ดินแดนเหนือฟ้า ใต้หล้านี้เพื่อเธอ ตอนที่ 8



ดินแดนเหนือฟ้า  ใต้หล้านี้เพื่อเธอ
                                                                   …The land before time…
                                                ไม่ว่าเวลาหรือสายน้ำ ย่อมไม่ไหลย้อนกลับ ชีวิตมนุษย์ก็เช่นกัน

บทที่ 8 มีดเหอปิง
                ณ ห้องโถงดินแดนเยว่
                องค์ราชาแห่งดินแดนเยว่ ค่อนข้างมีอายุมาก เกือบ 70 ปีแล้ว ท่านปกครองดินแดนเยว่มาช้านาน สุขภาพร่างกายจึงไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เมื่อได้มาแต่งงานกับองค์ราชินีที่เด็กกว่าเป็นสิบปี ทำให้เกิดข้อติฉินนินทามากมาย เมื่อก่อนนี้องค์ราชาก็ยังใส่ใจต่อคำกล่าวว่าร้ายเหล่านั้นอยู่บ้าง แต่ช่วงหลัง เมื่ออายุมากขึ้น หลายๆอย่างในชิวิตทำให้เรียนรู้ว่า ความทะเยอทะยานหรือความอยากที่จะครอบครองดินแดนทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่ฝุ่นควัน เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่มีอะไร มีเพียงองค์ราชินีที่จงรักภักดีและดูแลทุกสิ่งภายในวังได้ดีมาตลอดไม่เว้นแม้แต่ตัวของเขาเอง เขาจึงปลงมากขึ้น ไม่ใส่ใจคำคนอื่น รวมทั้งไม่อยากบังคับเฟิงเยว่อีกต่อไปแล้ว และยิ่งตอนนี้เมื่อหมอหลวงบอกว่า เขาอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน เขาก็ยิ่งอยากเห็นเฟิงเยว่มีแต่ความสุข แต่ทำไมเฟิงเยว่ถึงไม่ยอมรวมดินแดนโดยการแต่งงาน เขานั้นยังไม่กระจ่าง เพียงแค่ ไม่อยากเห็นการเข่นฆ่าอีกต่อไป

เช้านี้องค์ราชาฟงแห่งดินแดนเยว่ต้องแปลกใจ เมื่อผู้ที่มาเฝ้าตรงหน้าไม่เพียงแต่องค์ชายเฟิงเยว่ ลูกของเขาเท่านั้น หากแต่มีองค์ชายถิงยื่อ จากดินแดนยื่อด้วย เขาจึงเอ่ยถาม
ไม่ทราบว่าองค์ชายมาตั้งแต่เมื่อใด มิได้จัดการต้อนรับ ลุงต้องขอโทษเจ้าด้วยเป็นอย่างมาก ไม่ทราบว่าน้องเซียะสบายดีหรือไม่
เรียนท่านลุง ท่านพ่อสบายดี ท่านฝากความระลึกถึงมาถึงท่านด้วย ที่ข้ามาในวันนี้เป็นการภายในและไม่ได้แจ้งให้ใครทราบ ข้าเพียงแต่มีเรื่องอยากจะเรียนต่อหน้าท่าน และทำความตกลงในฐานะผู้ที่กำลังจะขึ้นครองดินแดนยื่อให้ท่านได้คิดและตัดสินใจ ถิงถิงเอ่ยทุกคำอย่างหนักแน่น วันนี้เขาสุขุมมากอย่างไม่น่าเชื่อ และดูภูมิฐานในฐานะองค์ชายใหญ่แห่งดินแดนยื่อที่กำลังจะสืบต่ออำนาจอันยิ่งใหญ่เหนือดินแดนอื่นจริงๆ เฟิงเยว่มองเขาไม่วางตา เพราะภาพตรงหน้ามันช่างทำให้เขายิ่งรักคนๆนี้มากขึ้นไปอีก

มีสิ่งใดล่ะหลาน เจ้าพูดมาได้เลย หรือว่าเจ้าจะพูดเรื่องแต่งงานของลูกเฟิง ในเมื่อพ่อเจ้าและข้าตกลงกันแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอันใดนี่นา องค์ราชาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ

ตอนนี้น้องเซียงเซียงของเราไม่สามารถแต่งงานกับเฟิงเฟิงได้อีก เนื่องจากนางมีคนรักอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ท่านพ่อก็ทราบเรื่องแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือองค์ชายเทียนอวิ๋น ซึ่งข้าและทุกๆคนก็คงไม่ขัดข้อง เลยจะขอให้ท่านลุง ยกเลิกการแต่งงานนี้เสีย เพื่อความสุขทั้งชีวิตของน้องข้า ไม่ทราบว่าท่านเห็นเป็นเช่นไร ถิงยื่อเอ่ยถามความเห็นและอธิบายทุกอย่างด้วยความกระจ่าง

อ้าว ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็คงไปบังคับพวกเจ้าไม่ได้ แต่แบบนี้ ดินแดนเยว่ก็ไม่สามารถจะรวมกับดินแดนยื่อได้ ลุงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่คิดว่า ถ้ารวมกัน มันก็จะดีกับทุกฝ่าย องค์ราชารู้สึกเสียดายมากที่ความหวังของเขาต้องดับสิ้นลง

หาเป็นเช่นนั้นไม่ ขอเรียนท่านลุง เรื่องนี้ ข้าขอยื่นข้อเสนอให้ โดยเป็นสิ่งที่ข้าตัดสินใจเองและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่ในเรื่องนี้ท่านพ่อไม่ทราบ หากแต่ว่าเป็นข้า องค์ชายถิงยื่อเป็นผู้ทำความตกลงกับท่าน ไม่ทราบท่านจะฟังหรือไม่ ถิงยื่อให้ข้อเสนอที่เขาคิดมาแล้วว่าจะต้องทำให้ได้

ยังไงกันล่ะ เจ้าลองว่ามาสิ ข้าจะลองฟังก่อน องค์ราชาย้อนถาม

ข้าถิงยื่อ พร้อมที่จะรับเฟิงเฟิงเข้าไปปกครองดินแดนร่วมกัน เราจะมีอำนาจเท่าเทียม และรวมดินแดนใหม่ที่ชื่อว่าดินแดนยื่ออ้ายเยว่ 

ไม่ทราบว่าท่านเห็นเป็นเช่นไร แต่ข้าขอบอกท่านไว้ก่อนเลยว่า การตัดสินใจของท่านมีผลกับคนทั้งแผ่นดิน 
เพราะไม่ว่าอย่างไร เมื่อข้าได้ขึ้นครองราชย์ แม้นว่าท่านไม่ตกลง ข้าก็จะทำให้เกิดดินแดนใหม่นี้ แม้จะต้องใช้การรบก็ตาม และเหนืออื่นใด ข้าต้องการให้เฟิงเฟิงไปอยู่ที่วังใหม่กับข้า 

ซึ่งข้าจะสร้างเพื่อปกครองดินแดนนี้ร่วมกัน 
พูดง่ายๆว่า ถ้าท่านลุงไม่ยอม อีกสามเดือนข้างหน้า ท่านเตรียมตัวรับศึกจากข้าได้เลย 

ถิงยื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงแสดงอำนาจ เขาคิดเช่นนั้นจริงๆ เขาจะเอาเฟิงเฟิงมาเป็นของเขาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เขาก็คิดนะ ทำแบบนี้องค์ราชาคงไม่ปลื้มเขาเท่าไหร่นัก

พอจบประโยคเฟิงเยว่หันหน้าไปมองถิงถิงของเขา ที่ยังคงนิ่ง และดูเหมือนว่าจะเขาจะเตรียมการมาพร้อม นี่เขากล้าขู่ท่านพ่อเลยเหรอเนี่ยะ!!!

หลานถิงยื่อ เจ้าใจเย็นก่อน ถ้าถึงขนาดจะต้องรบกัน ใยข้าจะอยากให้เกิด 
ข้ารู้ว่าดินแดนเยว่นั้น ไม่สามารถจะสู้กำลังของเจ้าได้อยู่แล้ว 
ข้าไม่อยากให้ประชาชนของข้าต้องลำบาก แต่ว่าการรวมดินแดนก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ 
เหตุใดเจ้าจึงอยากให้เฟิงเฟิงของข้าไปปกครองกับเจ้าล่ะ

องค์ราชาไม่ได้อยากสู้รบอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจในเป้าหมายขององค์ชายถิงยื่อนัก

เอาเป็นว่า ข้าอยากดูแลเฟิงเฟิง และอยากให้เฟิงเฟิงมาเป็นคู่คิดในการปกครองดินแดนใหม่นี้ร่วมกับข้า ไม่ทราบว่าท่านลุงจะขัดข้องหรือไม่ ถิงยื่อยังคงยืนยันคำเดิม

ลุงก็แก่แล้ว คงอยู่ได้อีกไม่นาน  มีคนมาดูแลและให้อำนาจ รวมทั้งทำให้ดินแดนและคนของลุงเป็นสุข ลุงก็ย่อมยินดี แต่ลุงก็ต้องถามความคิดของลูกเฟิงก่อนว่าเขาเห็นเป็นเช่นไร 

เฟิงเฟิงเ จ้าว่าไงล่ะ เจ้าทะเลาะกับพ่อมาหลายวันเพราะเรื่องนี้ หรือเจ้าก็รู้เรื่องดินแดนใหม่นี้ 

จริงๆองค์ราชาก็ยังไม่เข้าใจเท่าใดนัก เขารู้เพียงว่าไม่ว่าจะคิดในแง่ไหน นี่ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น แต่เขาก็ต้องถามความเห็นเฟิงเยว่ด้วย

เปล่านะ ท่านพ่อ ข้าไม่รู้มาก่อนจริงๆ ข้ารู้เพียงว่า ถ้านั่นทำให้ท่านพ่อและทุกคนสบายใจ

ข้าก็จะทำ และอีกอย่าง ข้าก็เชื่อว่าถิงถิงสามารถดูแลประชาชนของเราได้ 

เขาแข็งแกร่งและเก่งมาก ข้ายอมรับทั้งตัวและหัวใจ 


พูดเสร็จเขาก็มองหน้าลิงยักษ์ตรงหน้าและนึกขำ นี่เหมือนเขาจะมาสู่ขอข้าเลยนะเนี่ยะ แต่เขาก็รู้สึกดีมากที่ท่านพ่อเห็นด้วยในวิธีการนี้

องค์ราชาเห็นสายตาที่สองคนมองกันแล้วรู้สึกว่า ไม่มีอะไรไม่ดี ดูทั้งสองคนนี้จะผูกพันลึกซึ้งมากกว่าที่เขาคิด 
แต่เอาเถอะไม่ว่าจะอย่างไร ก็ดีต่อทั้งสองดินแดน เขาจึงตกลงและบอกให้ถิงยื่อจัดการตามนั้นเมื่อได้ครองบัลลังก์แล้ว หลังจากนั้นจึงบอกว่าให้องค์ราชินีจัดห้องรับรองให้กับถิงยื่อ 

หากแต่ถิงยื่อปฎิเสธและยืนกรานว่าจะพักกับเฟิงเยว่ในห้องแห่งจันทราอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อทำอะไรไม่ได้ คืนนี้ลิงยักษ์ก็ได้มาครอบครองที่เตียงของเฟิงเยว่อีกคืนซึ่งเขาชอบมาก 

ห้องแห่งจันทรานี้มีมนต์ขลัง...เพิ่มพลังลึกล้ำในจิตใจ...ถิงยื่อบ่นพึมพำ เขารู้สึกแบบนี้จริงๆเมื่ออยู่ในห้องนี้ 

ตอนนี้ลิงยักษ์นอนเล่นสบายอยู่บนเตียง ในขณะที่เฟิงเยว่กำลังจะไปอาบน้ำ เขาจึงบอกว่า
"ถิงถิง เจ้ารออยู่นี่นะ ข้าจะไปอาบน้ำและเตรียมน้ำอาบเอาไว้ให้เจ้า นอนเล่นไปก่อนก็แล้วกัน

 คนอะไร บอกมาได้ ไม่อยู่ห้องอื่น จะอยู่ห้องนี้ แล้วก็มาแย่งเตียงนอนคนอื่นเค้า ตัวเจ้าก็ใหญ่จะแย่" คนตาสีฟ้าหันมาทำตาเขียวใส่ 

ลิงยักษ์รู้สึกสนุกและเป็นสุขที่ได้อยู่แบบนี้ แต่แล้ว เขาก็คิดแผนใหม่ได้ เขาลุกขึ้น กระโดดอย่างเร็วไปที่ตัวของเฟิงเยว่ และกอดจากด้านหลัง
"เฟิงเฟิง ให้ข้าไปอาบน้ำด้วยนะ เจ้าจะได้ไม่ต้องเตรียมน้ำอาบใหม่หลายรอบ ข้าอยากอาบน้ำกับเจ้า นะๆๆๆ" ลิงยักษ์อ้อนและเขย่าร่างอีกฝ่ายเบาๆ
"อะไรนะ!!! เจ้าจะไปอาบน้ำกับข้า ทะลึ่งอีกแล้วนะ" เฟิงเยว่ตกใจร้องขึ้น

"น้าๆๆเฟิงเฟิง ไม่มีใครว่าอะไรหรอก องค์ชายถิงยื่อจะอาบน้ำด้วย ถ้าเจ้าไม่สั่งคนให้เตรียมน้ำอาบด้วยกัน ข้าจะไปฟ้องท่านน้านะ" ถิงยื่อเอาองค์ราชินีมาขู่ เพราะก่อนจะออกไป นางสั่งเขาเอาไว้ว่าถ้าต้องการอะไรอีกก็บอกได้เลย 

"เจ้านี่มัน....เอาแต่ใจจริงๆเลยนะ ลิงยักษ์บ้า" เฟิงเยว่ขัดไม่ได้ เพราะไม่ว่ายังไง แม่เขาก็ต้องทำตาม ท่านแม่นี่ก็แปลก ดูจะเอาใจเจ้าลิงยักษ์และชอบเขามากซะด้วย

หลังจากนั้นถิงยื่อไม่รอช้า ลงอาบในถังน้ำใบใหญ่ด้วยร่างเปลือยเปล่าพร้อมกับเฟิงเยว่ เขารู้สึกว่าน้ำอุ่นกำลังดี ช่วยให้เขาสบายและกล้ามเนื้อผ่อนคลายมาก ที่สำคัญ แมวน้อยน่าหงิกตรงหน้า มันช่างเป็นความสุขเสียนี่กระไร

"เฟิงเฟิง ถูหลังให้ข้าหน้อยสิ นะๆๆ ที่รักของข้า" พูดเสร็จก็ก้มลงหอมแก้มสีชมพูระเรื่อของเฟิงเยว่ 

ตอนนี้น้ำอุ่นทำให้เขาร้อน หรือว่าเขาเขินลิงยักษ์นี่จนร้อนไปหมดก็ไม่รู้นะ

"เจ้าก็ถูเองสิ มือก็มี ใหญ่อีกต่างหาก ดูสิ มาถึงบ้านเค้า มานอนห้องเค้า ยังจะมาใช้เค้าอีกนะ" เฟิงเยว่ตัดพ้อด้วยความเขินอาย

"เฟิงเฟิง เจ้าจะทำดีๆหรือต้องให้ข้าบังคับและทำโทษ โทษฐานขัดคำสั่งข้า อ้อ!!!ต่อไป เมื่อรวมดินแดนแล้ว เจ้าห้ามขัดคำสั่งข้า ข้าบอกไว้เลยนะ มาลองซ้อมดูก่อน" เขาเอ่ยบอกแกล้งคนตรงหน้า นี่มันสนุกจริงๆนะ

"อะไรของเจ้าเนี่ยะ!!!" ว่าแล้วก็บ่นกระปอดกระแปด แต่มือก็ต้องเอาใยบวบมาถูที่หลังให้ลิงยักษ์ที่หันไปแต่โดยดี พร้อมกับเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

"ถิงถิง เจ้าจะทำแบบที่บอกท่านพ่อจริงๆเหรอ จะรวมดินแดนจริงๆเหรอ เจ้าไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย" 

"ข้าอยากทำแบบนี้ ข้าอยากให้เจ้าอยู่กับข้าอย่างเปิดเผย เราปกครองดินแดนด้วยกัน ไม่ต้องกลัวใคร เจ้าเข้าใจมั้ย ข้ารักเจ้า ข้าบอกแล้วว่าข้าจะอยู่กับเจ้า ข้าให้สัญญา"

 พูดถึงตรงนี้ เฟิงเยว่รู้สึกว่าข้างในเขามีพลังบางอย่างไหลเวียนและเรียกร้องอีกแล้ว เขาจึงเอาปากจูบที่แผ่นหลังคนตรงหน้าไปหนึ่งที แล้วใช้น้ำสะอาดลูบไล้ไปทั่วหลัง สลับกับใช้ปากจูบไปเรื่อยๆ 

"เฟิงเฟิง เจ้า...เจ้ายั่วข้าอีกแล้วนะ ข้าให้เจ้าถูหลัง นี่เจ้าจะทำอะไร" เขารู้สึกเย็นวาบที่หลังเมื่อเฟิงเยว่เอาปากมาจูบและเอามือมาลูบไล้เขาจึงหันกลับไปประจันหน้า

 แล้วจับข้อมือทั้งสองของอีกฝ่ายชูขึ้นเหนือหัว เผยให้เห็นหน้าอกที่ขาวนวลและดูเหมือนจะอูมนูนขึ้นทุกวัน หลังจากนั้นจึงเอามือของอีกฝ่ายพาดมาที่ไหล่ของตัวและเอามือบีบคลึงที่หน้าอกตรงหน้า พร้อมกับก้มลงจูบและดูดที่ยอดเนินสีชมพูนั่นอย่างเป็นสุข
 
เฟิงเฟิง ซึ่งตอนนี้แทบจะละลายไปกับน้ำอุ่นแล้ว เริ่มซุกหน้าไปที่แก้มลิงยักษ์ตรงหน้าแล้วพูดด้วยเสียงกระซิบว่า
"ถิงถิง ข้าก็ถูหลังให้เจ้าไง ข้าก็รักเจ้า ข้าจะทำทุกอย่างให้เจ้ามีความสุข เจ้าเชื่อข้ามั้ย อยากให้ข้าถูหลังให้อีกมั้ยล่ะ" 

ตอนนี้ลิงยักษ์แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว เฟิงเฟิงของเขาเร่าร้อนและต้องการตลอดเวลา แถมตอนนี้ทรวดทรงองค์เอว ดูจะยั่วยวนมากขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังแฝงความแข็งแกร่งและเย็นเฉียบแบบที่เขาชอบ ไม่รู้สิ มันมีเสน่ห์จนห้ามใจที่จะพุ่งเข้าใส่ไม่ได้ทุกครั้งไป เจ้าแมวน้อยนี้ทำไมถึงได้น่าฟัดแบบนี้นะ เขาจะขย้ำไม่ให้ได้หายใจเลยคอยดู

เสร็จแล้วทั้งคู่ก็คลอเคลียกันอยู่ในน้ำไม่หยุด น้ำในถังหกกระเฉาะออกมาเป็นระยะๆราวกับมีคลื่นน้อยๆถาโถมเข้าใส่กัน ตอนนี้ถิงถิงอุ้มเฟิงเยว่ขึ้น ก้าวขาออกมาจากถังใบใหญ่ ที่อยู่ในส่วนด้านหลังของห้องแห่งจันทราตรงมาที่เตียงนอน 

เฟิงเยว่นอนเหมือนแมวน้อยเปียกน้ำที่หมดแรง แต่ทว่ายังคงอวบอัดไปทุกสัดส่วน ถิงถิงเพ่งมองไม่วางตา ให้ตายเหอะ ยิ่งเปียกน้ำยิ่งยั่วเย้าเขา ร่างกายตรงหน้าดูวิบวับในความคิดเขา มีผ้าบางๆห่อหุ้มร่างนั่นไว้ เขาจึงบอกออกไปเบาๆว่า
"ต่อไปข้าจะเช็ดตัวให้เจ้าล่ะนะ เฟิงเฟิงของข้า" 

ถิงยื่อเอาผ้าออก ใช้ปากและลิ้น จูบและดูด เหมือนจะซับน้ำไปทั่วทั้งร่างไม่หยุด แมวน้อยยังคงส่งเสียงอืม สลับครางด้วยความพอใจเป็นระยะ ยิ่งถิงถิงของเขาไล่ลงไปต่ำเท่าไหร่ เสียงครางยิ่งถี่และดังขึ้น เมื่อถิงถิงมาหยุดแถวท้องน้อยของเขา พลังความร้อนยิ่งทวีความรุนแรง จนเขาต้องเอามือขยี้ที่หัวลิงยักษ์ตรงหน้า พร้อมกับเสียงร้อง

"อ่าาา ถิงถิง เจ้า...เจ้า...ข้าจะเป็นของเจ้าตลอดไป" สิ้นเสียงนั้น แมวน้อยอ่อนปวกเปียกไปทั้งร่าง แต่ทว่าลิงยักษ์ยังไม่หยุด คราวนี้เขาไล่ขึ้นจูบที่ปาก พร้อมกับแผ่ความร้อนไปยังด้านล่างเป็นจังหวะที่เร็วและรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ เขาไม่สามารถหยุดทุกอย่างได้แล้ว ตอนนี้ในอกเขาเหมือนพร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ เขาจึงบอกว่า

 
"เฟิงเฟิง ข้ารักเจ้าๆๆ" เขาพูดได้แค่นี้จริงๆ ตอนนี้จังหวะของการเรียกร้องของทั้งคู่เร่งเร้าขึ้นอีกครั้ง แล้วค่อยๆช้าลง จนกระทั่งสงบนิ่ง...ค่ำคืนอันหอมหวานของทั้งคู่ใกล้จะผ่านไปอีกแล้ว แต่ถิงยื่อไม่อยากให้เช้าเลย เขาอยากให้แมวน้อยนี่ยั่วเขาและต้องการเขาไม่หยุดตลอดเวลาแบบนี้ เขาเองก็มีพลังที่ไม่เคยมอดไหม้ เมื่ออยู่กับคนข้างๆนี้เช่นเดียวกัน...

แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนอยู่ที่ด้านนอกห้อง เขาจึงไม่รอช้า ห่มผ้าให้เฟิงเยว่และใส่เสื้อคลุมทันที พอเปิดประตูออกมาก็ไม่พบใคร แต่เหมือนเห็นเงาวูบๆไปตามทางเดิน เขาเลยเดินสำรวจออกมาอีกหน่อย 

ตอนนี้ภายในวังเยว่ยังเงียบเชียบอยู่ มีเพียงเสียงทหารองครักษ์และนางกำนัลที่เข้าเวรเท่านั้น แต่เมื่อเขาเดินต่อไปอีกหน่อย เขาจึงได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง

"อ้อ องค์ชายถิงยื่อ ท่านต้องการสิ่งใด มีอะไรให้น้าช่วยมั้ยจ๊ะ" เสียงหวานๆจากหญิงวัยกลางคน แต่ทว่าใบหน้ายังอ่อนเยาว์น่ารักเอ่ยถามอย่างเอ็นดู ถิงถิงจึงหันไปตอบ

"หามิได้ท่านน้า พอดีหลานอยากได้น้ำร้อนไปชงชา หลานรู้สึกกระหายและหนาวนิดหน่อยเท่านั้น" 

"อืม ข้าก็ว่าห้องลูกเฟิงหน่ะมีพลังเย็นจากพระจันทร์ เจ้าก็ยังอยากจะอยู่ เอาล่ะๆ เดี๋ยวข้าจะให้เด็กๆเอาไปให้เจ้านะ ว่าแต่ข้ามีอะไรจะถามเจ้าพอดี เจ้าพอจะมีเวลาคุยกับน้าสักหน่อยมั้ย ไป เราเดินไปด้วยกันจะได้ไม่เสียเวลา" องค์ราชินีชวนคุยเล่นไปจนถึงหน้าห้องแห่งจันทรา 

องค์ราชินีนึกชมชอบองค์ชายถิงยื่ออยู่แล้ว แค่มองตาเฟิงเฟิงทีเดียวก็รู้ว่าสองคนนี้เป็นยังไง

คนเป็นแม่มีรึจะดูไม่ออก นางไม่รู้สึกแปลกอะไร ตรงข้ามกลับชอบถิงยื่อซะด้วยซ้ำ
และคิดว่าคงดูแลเฟิงเฟิงของนางได้เป็นอย่างดี นางจึงเอ่ยถามประโยคที่ตรงจุด เมื่อทั้งสองมาหยุดยืนหน้าห้อง

"องค์ชายถิงยื่อเจ้ารักลูกเฟิงของน้าใช่มั้ย?" 
คราวนี้ถิงถิงถึงกับชะงัก แต่แล้วก็หันไปตอบอย่างหนักแน่นว่า

"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้ารักเฟิงเฟิงและขอดูแลเขาตลอดไป
ท่านน้า ท่านไม่ต้องเป็นห่วง"

ฉับพลันก็ปรากฎเงาของคนที่รวดเร็วมากมาจากทางด้านหลังเขารู้สึกถึงพลังเย็นวาบได้

องค์ราชินีเห็นเมื่อเงานั้นโผล่มาใกล้มากและกำลังจะแทงด้านหลังของถิงยื่อ นางจึงผลักเขาหลบและรับมีดนั้นเอง ทันใด ร่างส่วนท้องที่ถูกมีดแทง กลายเป็นน้ำแข็งทันทีและแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ นางร้องเสียงดังขึ้นมา 

รวดเร็วเช่นเดียวกัน เฟิงเยว่เปิดประตูห้องออกมาประจันหน้ากับเงานั่นที่กำลังจะหลบหนี จึงถูกมีดแทงแฉลบมาที่ท้อง เขาทรุดลงแต่ยังเป็นห่วงแม่ของเขา
จึงรีบคลานเข้าไปดู ถิงยื่อตามเงานั่นไปได้ไม่ไกลนัก มันหายตัวไปทางไหนแล้วไม่รู้ แต่เขาเป็นห่วงสองคนที่เป็นคนสำคัญของเขาเท่าชีวิต จึงกลับไปดู 

"ท่านแม่ๆ ท่านเป็นยังไง ท่านแม่ ท่านตอบข้าสิ ท่านพูดกับข้าสิ" ตอนนี้เขาไม่อายใคร น้ำตาไหลอาบไปทั่วใบหน้า 

องค์ราชินีหายใจแผ่วเบา แต่กลั้นใจจับมือเฟิงเยว่และถิงยื่อมาไว้ด้วยกันพร้อมกับพูดว่า

"ถิงยื่อ น้าฝากด้วยนะ เฟิงเฟิง ดูแลตัวเองนะลูก แม่รักเจ้า" พอขาดคำ น้ำแข็งที่ร่างก็ลามไปทั่ว จนองค์ราชินีหลายเป็นน้ำแข็ง นางกำนัลเข้ามาเห็นแระกรีดร้อง ทหารถึงเพิ่งจะเข้ามา 

แต่ตอนนี้เฟิงเยว่แทบสิ้นสติ แม่เขาๆๆ แม่เขาตายแล้ว เขายังคงร้องไห้และเอามือกุมท้องส่วนที่มีน้ำแข็งเกาะ

"ถิงถิงๆๆ ท่านแม่ๆๆ โอ้ย!!!ข้าปวด ปวดท้องจังเลย" ถิงยื่อเห็นหน้าเฟิงเฟิงซีดมาก เขาคิดอะไรไม่ออก ทำไงดี มีเพียงคนเดียวที่จะช่วยได้ ใช่!!! แม่เฒ่าตงสุ่ย 

เขาจึงหันไปออกคำสั่งทหาร
"เจ้าไปบอกองค์ราชา มีคนร้ายเข้ามา...รักษาร่างองค์ราชินีด้วย และบอกท่านลุงว่าเฟิงเฟิงบาดเจ็บข้าจะพาเขาไปหาแม่เฒ่าเพื่อรักษา เข้าใจมั้ย" ทหารรับคำสั่ง เขาจึงรีบเรียกเจ้าเอ้อมาและพาเฟิงเยว่ไปหาแม่เฒ่าทันที

ระหว่างทางเฟิงเยว่ยังคงกุมท้องเอาไว้แล้วเอาแต่ร้องว่า "ข้าปวด ปวดเหลือเกิน ถิงถิง ช่วยข้าด้วยๆ" 

ตอนนี้ถิงยื่อรู้สึกใจไม่ดีเลย เมื่อมาถึงหมู่บ้าน แม่เฒ่าก็ออกมาเปิดประตูรับด้วยความตกใจ

เขาอุ้มเฟิงเยว่ที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วเข้าไปให้แม่เฒ่าตรวจอาการ

เมื่อตรวจดูอาการ นางก็ส่ายหัว พร้อมกับพูดว่า "องค์ชาย พิษจากมีดน้ำแข็งเหอปิงได้ทำลายเขาแล้ว ทายาทท่านถูกทำลายแล้ว"

"ฮะ!!!อะไรนะ!!! ท่านว่าอะไรนะแม่เฒ่า" ตอนนี้เขางงมาก อะไรทายาท 
อะไรคือมีดน้ำแข็งเหอปิง 

"ใช่ท่านฟังไม่ผิดหรอก ก่อนนี้พลังจากไข่มุกที่หลอมรวมกับร่างกายขององค์ชายเฟิงเยว่ เมื่อรวมกับท่าน ได้ก่อตัวขึ้นเป็นทารกน้อย แต่ว่าตอนนี้ข้าไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้แล้ว...แต่ข้าจะพยายามยื้ออีกชีวิตนี้ให้ได้แล้วกันนะ"

เฟิงเฟิงของเขาจะต้องไม่เป็นอะไร แล้วเงาที่รวดเร็วนั่นเป็นใคร ต้องการอะไร มันฆ่าลูกของเขา เขาจะต้องให้มันชดใช้อย่างสาสม...


                       โปรดติดตามตอนต่อไป......