รายการฟิค

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

รอรัก...ที่ปารีส บทที่ 2

รอรัก...ที่ปารีส 

Love me=>if you dare

บทที่ 2 Macaron มาการอง

ยังจำกันได้ใช่มั้ยครับ ผม"หลี่อี้เฟิง" รับงานพิเศษพานักท่องเที่ยวชาวจีนที่ติดต่อมาแบบส่วนตัว เพื่อมาเที่ยวปารีส ตอนนี้ผมอยู่ในสวนของพระราชวังแวร์ซายกับเค้าคนนี้ "เฉินเหว่ยถิง" ผู้ขโมยจูบแรกของผม และกำลังจูบผมเป็นครั้งที่สอง แต่ที่น่าเจ็บใจคือ ผมชอบเค้าจูบมากเลยครับ มันหวานจนผมแทบลืมหายใจ นี่ผมยังไหวมั้ยเนี่ยะ

"เอ้ยๆๆ ตัวแสบ แมวใจกล้า เงียบไปเลยนะ พูดอะไรกับพี่หน่อยสิ พี่อุตส่าห์จำนายได้แล้วนะ" เหอะ!!!ใช้คำว่าอุตส่าห์ แสดงว่าไม่ได้อยากจะจำงั้นสิ เอาเถอะ พี่เค้าคงแกล้งผมเล่นอีกแล้ว

"เอ่อ ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง เรื่องมันก็นานแล้ว อีกอย่างผมถามหม่าเทียน หลังจากวันนั้นไม่นานพี่เรียนจบแล้วก็ย้ายไป ผมคิดว่าพี่คงจำผมไม่ได้จริงๆ" ผมแอบคิดด้วยซ้ำว่าเค้าย้ายบ้านหนีผมหรือเปล่า

"เอาเถอะ เรื่องนั้นช่างมัน แต่ตอนนี้พี่จำได้หมดแล้วนะ คราวนี้อย่ามาทำว่าเราไม่สนิทกันอีกล่ะ พี่ขอเตือน ไม่งั้นสงสัยต้องเตือนความจำกันบ่อยๆ"ว่าแล้วเค้าก็ยื่นหน้ามาใกล้ คราวนี้ผมเลยร้องขึ้น

"เอ่อ...พวกเราไปกันเถอะครับนี่ก็บ่ายมากแล้ว เดี๋ยวต้าหลุนจะคอยนาน เข้าไปในเมืองรถจะติดด้วย"
ผมรีบตัดบทไปก่อนจะเคลิ้มต่อปากเรียวสวยตรงหน้าอีก 

พออยู่บนรถ พี่ถิงไม่พูดไม่จา มานอนบนตักผมเหมือนตอนขามาไม่มีผิด อะไรกันเนี่ยะ!!! เป็นนายจ้างที่เอาแต่ใจชะมัด ผมเงียบไม่พูดและไม่ขยับตัว พี่ถิงดูหลับสบาย หน้าได้รูปที่แฝงความเจ้าเล่ห์ไว้เนี่ยะ พอเวลาหลับแล้วก็น่ารักดีนะ ท่ามกลางความเงียบต้าหลุนก็พูดขึ้นมาว่า

"คุณอี้เฟิงครับ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คุณอยู่กับคุณถิงไปตลอดเลย" อะไรนะ!!! นายต้าหลุนนี่อะไรของเค้า

"ทำไมล่ะครับ" ผมเลยถามออกไป

"คุณรู้มั้ย ผมไม่เคยเห็นคุณถิงยิ้มและหัวเราะ มากแบบนี้มานานแล้ว ยิ่งตั้งแต่ปีก่อน ที่คุณหนูหายไป"

"ต้าหลุน นายเงียบเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะพักผ่อน" คนตัวใหญ่ที่ถือวิสาสะนอนตักผม เค้าได้ยินแฮะ ดีนะที่ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปมาก แล้วต้าหลุนก็เงียบไป ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับพี่ถิงบ้าง ผมก็ไม่รู้ แต่ต้องมีเรื่องร้ายแรงแน่ๆ ไม่งั้นต้าหลุนคงไม่พูดแบบนี้ แต่ช่างเถอะ อีกไม่กี่วัน ก็หมดหน้าที่ไกด์จำเป็นแบบผมแล้ว ก็คงไม่มีอะไรอีก...

หลังจากนั้นเราก็แวะทานอาหารเย็นง่ายๆที่ร้านข้างทาง เมื่อมาถึงโรงแรม ผมก็ได้มาที่ห้องสวีทนี้อีกครั้ง ด้านในแบ่งเป็น ห้องรับแขกด้านนอก ห้องแต่งตัว ห้องน้ำ 2 ห้องอยู่ในห้องพี่ถิงและด้านนอกอีกห้อง ต้าหลุนก็พาผมไปพักห้องข้างๆที่อยู่ติดกับห้องพี่ถิง แล้วบอกว่าผมต้องอาบน้ำห้องเดียวกับเขา ซึ่งไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ผมยังไงก็ได้ อย่าให้ไปอาบกับกอริลล่านั่นก็พอ >>>> 

พอผมเข้ามาที่ห้อง ก็พบว่าในตู้มีแต่เสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ ซึ่งน่าจะเป็นของพี่ถิง เค้าคงไม่มีที่แขวนล่ะมั้ง แต่แล้วผมก็มองหากระเป๋าผม ไหนล่ะกระเป๋าผม!!! ผมหาทั่วห้องก็ไม่มี จึงเดินออกไปนอกห้อง พบพี่ถิงนั่งดูเอกสารบางอย่างและพิงโซฟาอย่างสบาย โดยมีต้าหลุนยืนชี้ให้ดูจากด้านหลัง ผมจึงถามไป

"มีใครเห็นกระเป๋าใบเมื่อเช้าของผมมั้ยครับ ที่ใบใหญ่ๆ"

"อ้าวก็พี่ให้คนเอาไปเก็บในห้องแล้วนี่ ใช่มั้ยต้าหลุน" 

"เอ่อ...คุณถิงสั่งให้เอากลับไปคืนบ้านเช่าคุณอี้เฟิงไม่ใช่รึครับ"

"อ้าวเหรอ จำไม่ได้ ไม่รู้เลยนะเนี่ยะ" 


พระ!!! บ้าไปแล้ว อีตานี่ ชักจะมากไปแล้วนะ แล้วดูท่าทางกวนๆนั่นสิ ฮึม!!! นี่ถ้าไม่ติดว่าเค้าเป็นเจ้านายอยู่ล่ะก็...

"งั้นผมจะกลับไปเอา" 

"เอ้!!!! นายนี่ยังไง ให้เอากลับไปก็จะไปเอามาอีก ไหน!!!มานี่สิ ต้าหลุนฝากนายดูเอกสารไปพลางๆก่อนนะ ขอชั้นพาคุณอี้เฟิงไปหาชุดนอนก่อน" ว่าแล้วเขาก็จับมือผมลากๆมาที่ห้องเพื่อดูในตู้ที่เป็นเสื้อผ้าเค้า 

"นี่ไง พี่จะให้ใส่ชุดพี่ ชุดนอนพี่ก็มีตั้งหลายชุด ใส่ไปก่อน อ้อ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยไปช็อปปิ้งที่ถนนช็องเซลิเซ่กัน ตกลงตามนี้ ทัวร์พรุ่งนี้ซื้อของที่ช็องเซลิเซ่ ออกสบายๆ สัก 9 โมงโอเค้!!!" พี่ถิงเดินเข้ามาประชิดตัวผมมากขึ้นเรื่อยๆจนผมถอยแทบจะติดตู้เสื้อผ้า

"แต่ว่าผมจะนอนไม่หลับ ถ้าไม่มีเอ่อ...ในกระเป๋าผมมีเอ่อ...เติ่งเติงน้อยครับพี่" 

ผมขอแนะนำก่อนนะ เติ่งเติงน้อย เป็นตุ๊กตาลิงที่ตอนนี้มันเน่าๆ ไม่มีมันผมจะนอนไม่ค่อยหลับ มันเป็นตุ๊กตาที่แม่ให้ผมมาด้วยตอนมาเรียนที่นี่ มันเหมือนผมมีแม่และมีอะไรให้นอนกอด ผมถึงหลับได้
พูดจบผมมุดหน้าหลบลงมองพื้นด้วยความอาย>>>>

"5555555 อะไรนะ ขอชื่ออีกทีสิ เติ่งเติงน้อย มันตัวบ้าอะไร นายนี่มันขำจริงๆ 55555 ตลกชะมัด" ผมว่าเสียงหัวเราะคงดังไปถึงห้องข้างๆแน่ๆ นี่ทำไมมันถึงต้องเป็นแบบนี้ คนๆนี้ทำให้ผมอายอีกแล้วนะ...

"จะขำอีกนานมั้ย" ผมพึมพำกับตัวเอง เท่านั้นแหละ พี่ถิงก็ยื่นมือสองข้างมาแปะที่ประตูตู้เสื้อผ้า ซึ่งทำให้หน้าเค้ามาใกล้หน้าผมมาก

"บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าพูดเบาๆ เอางี้นะ คืนนี้น้องเฟิงใส่ชุดพี่นอนไปก่อน พรุ่งนี้ก่อนกลับโรงแรม เราค่อยไปแวะเอาเติ่งเติงอะไรนั่นอีกที แต่บอกเลยนะ พรุ่งนี้พี่จะซื้อเสื้อผ้าที่ช็องเซลิเซ่ให้ใหม่ทั้งหมด ตลอดการเที่ยวหลังจากนี้ น้องเฟิงจะต้องใส่ชุดที่เราไปซื้อกันพรุ่งนี้เข้าจั้ย!!! นี่เป็นค่าเหนื่อยสำหรับทริปนี้ด้วย ตามข้อตกลง" พูดจบเขาก็หอมแก้มผมมาทีนึง

"โอ้ย นายนี่มันน่ารักชะมัด 55555" เสร็จแล้วเค้าก็เดินผิวปากสบายอารมณ์ออกไป ปล่อยผมที่กำลังอึ้ง นั่งลงกองหน้าตู้ อะไรของเค้าฟระเนี่ยะ

หลังจากนั้นผมก็ต้องทำตามแต่โดยดี ช่วยไม่ได้ นี่มันก็ดึกแล้ว ผมจึงไปอาบน้ำ พร้อมหยิบชุดนอนตัวหลวมๆสบายๆของคนตัวใหญ่นี่มาใส่ มันเหมือนมีกลิ่นหอมจางๆ ของตัวพี่ถิงมาด้วย ทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก 
พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ กอริลล่ายักษ์ นอนหลับอยู่ที่เตียงผมครับ!!!

ช่วยด้วย!!!นี่มาได้ยังไง มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วจะนอนยังไงกันล่ะทีนี้ 

คนตรงหน้าดูเหมือนจะหลับจริงๆ ผมควรทำยังไง ควรปลุกเค้ามั้ย ถ้าเขาตื่นแล้วอาละวาดใส่ผมล่ะ หรือผมจะไปตามต้าหลุนมาดี ผมได้แต่นั่งจ้องหน้าเค้า แล้วก็เริ่มสำรวจไปทั่ว เค้าเป็นคนรูปร่างดีมาก 
ผมคิดอะไรเตลิดเปิดเปิงไปเรื่อย ไม่ได้ๆๆ ผมต้องปลุกเค้าก่อน 

"พี่ถิงครับ พี่ถิงๆๆ พี่มานอนตรงนี้ได้ยังไง นี่มันห้องผมนะ พี่กลับไปนอนที่ห้องพี่สิ" ผมจับแขนเขาเพื่อลากให้เขารู้สึกตัว เขารู้สึกตัวแล้วดึงผมไว้จนผมหงายลงนอนบนเตียง

"ไหน นี่ห้องใคร นี่มันห้องพี่ทั้งนั้นแหละ นี่ก็เตียงพี่ อ่ะ พี่ให้เรานอนด้วย นอนข้างๆนี่แหละ 
นายก็คิดซะว่าพี่เป็นเติ่งเติ๋งอะไรนั่นของนายก็แล้วกัน จะได้นอนหลับ" เขาพูดเสร็จก็นอนหงายไปข้างๆผม 
อะไรของเขาเนี่ยะ ผมจะหลับได้ยังไง ถ้าเขายังนอนข้างๆแบบนี้ ตอนนี้ใจผมเต้นตูมตามไปหมด 
นี่ผมตื่นเต้นอะไรนักหนา กับกอริลล่าที่นอนด้านข้างและหายใจแรงแบบดูเหมือนจะหลับไปแล้วจริงๆ 

คืนนั้นทั้งคืน พี่ถิงดูหลับสบายมาก แต่ผมนี่สิ หลับๆตื่นๆ เพิ่งได้มาหลับจริงตอนรู้สึกตัวว่าคนข้างๆลุกไปอาบน้ำแล้ว 

ตอนเช้าผมอาบน้ำแต่งตัว และออกมาด้วยชุดของพี่ถิงที่ผมคิดว่าใส่ได้มากที่สุด แต่ก็ยังดูหลวมๆอยู่ดี 

พี่ถิงนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะก็เอ่ยทัก

"เป็นไงน้องเฟิง หลับสบายดีมั้ย พี่หลับสบายมากเลยนะ" แหมๆ ร่าเริงมาก เห็นหน้าผมมั้ยว่าตาเป็นแพนด้าแล้วเนี่ยะ แต่ขี้เกียจตอบอะไรให้มันเจ็บแค้น ผมจึงถามไปว่า

"ต้าหลุนล่ะครับ ไม่เห็นเลย" 

"พี่ให้เค้าไปทำธุระให้ วันนี้เราจะไปเที่ยวกันสองคนนะ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จก็ไปกันเลย"

การไปเดินช็องเซลิเซ่วันนี้ แตกต่างจากทุกครั้งที่ผมเคยเดิน เพราะบางร้านผมไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้เข้า 

เสื้อผ้าบางยี่ห้อ ผมอยากเข้าไปดูแบบและเรียนรู้ แต่มันแพงจนผมไม่กล้าเข้าไป แต่วันนี้พี่ถิงถามผมว่าเข้ามั้ย ร้านนี้อยากเข้ารึเปล่า ผมเลยอดไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นโอกาสที่หาได้ยาก ผมเลยขอเข้ามันทุกร้านที่ไม่เคยได้เข้า วันนี้ผมเหมือนพระนางมารีอังตัวแน็ตมาช็อปปิ้งจริงๆครับ แย่ชะมัดที่ผมชอบมาก...

เสื้อผ้าที่พี่ถิงซื้อให้นี่มันแฟชั่นมาก จนผมยังอึ้งว่าตกลงใครเรียนแฟชั่นกันแน่ และแล้วก็มาถึงร้านหลุยส์วิกตอง แบรนด์เนมยี่ห้อดังที่ใครๆก็ต้องมา ร้านนี้มีคนต่อแถวมากมาย เค้าจำกัดทั้งคนเข้าและจำนวนของที่ซื้อ แต่พี่ถิงยืนยันว่าจะเข้า  

ผมเลยได้มีโอกาสเข้าไปกับเค้าด้วย ในร้านมีกระเป๋าหลายแบบ ที่ผมไปยืนดูคือกระเป๋าสตางค์ใบเล็กของผู้ชาย แค่อยากดูว่าเค้าตัดเย็บยังไง ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ พี่ถิงมายืนข้างหลังผมแล้วถามว่า

"ไง เรา ชอบเหรอ??" 

"เปล่าครับ แต่เห็นว่ามันสวยดี ตัดเย็บก็ดี แต่ละใบก็มีเอกลักษณ์ ลายไม่เหมือนกันเลย"

"งั้นพี่ซื้อให้ เอาใบนี้ครับ" เขาชี้ไปที่ตู้แล้วคนขายก็หยิบออกมาให้ดู พี่ถิงคุยภาษาอังกฤษกับพนักงาน เขาไม่ต้องให้ผมช่วย แต่ไม่ได้นะ จะมาซื้อกระเป๋าแพงๆแบบนี้ให้ผมทำไม!!!

"ไม่เอาครับพี่ ผมมีกระเป๋าเก่าอยู่แล้ว"

"เอ๊ะ น้องเฟิง พี่บอกว่า พี่จะซื้อให้ ทำไม ของที่พี่ให้นี่ไม่อยากจะรับงั้นสิ" 

"เปล่านะครับ ผมเกรงใจ"

"ก็พี่บอกว่าพี่จะให้ ถ้านายขัดใจพี่อีก พี่จะยกเลิกการทัวร์แล้วนะ " เอาอีกแล้ว เอามุกนี้มาขู่อีกแล้ว แล้วจะยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้นทำไมเนี่ยะ

"งั้นเอาแบบนี้ พี่ให้จริงๆนะ แต่จะขอให้เราติดหนี้พี่ไว้ก่อน ไว้คิดออกว่าพี่อยากได้อะไร จะมาทวงค่ากระเป๋า แบบนี้ก็เสมอกัน โอเคมั้ย"

ฟังๆแล้วผมก็ยังงงๆ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า ว่าหน้าคนเจ้าเล่ห์นั่นดูเหมือนจะชอบใจอะไรบางอย่าง

"อันดับแรก ต่อไปนี้พี่จะเรียกน้องเฟิงว่าเฟิงเฟิงนะ ส่วนน้องเฟิง พี่อยากให้เรียกพี่ว่าเติ่งเติ๋ง 5555 ตามนี้นะ" 

โอ้ย!!! นี่มันบ้าอะไร เติ่งเติง เค้าต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ นี่อยากจะเป็นตุ๊กตาลิงเน่ารึไงนะ

"ไม่เอาอ่ะ ผมยอมให้พี่เรียกเฟิงเฟิงได้ แต่ผมไม่เรียกพี่ว่าเติ่งเติงเด็ดขาด ผมยอมรับกระเป๋าที่พี่ซื้อให้อย่างไม่เต็มใจ พี่ยังจะมาบังคับผมอีก ผมไม่ใช่คนที่จะมาให้พี่เล่นสนุกนะครับ" ว่าแล้วผมก็เริ่มเคืองเลยเดินออกมาจากร้าน พี่ถิงได้ของแล้วเลยรีบตามออกมา

"เฟิงเฟิงๆ เดี๋ยวก่อนๆ โอเคๆ อย่าเพิ่งงอนสิ แหมๆ ทำตัวเป็นแมวขี้งอนไปได้ เอางี้เดินมาจนเหนื่อยแล้ว แล้วก็เย็นมากแล้วด้วย แต่พี่อยากกินขนม มันมีขนมอย่างนึงที่พี่ต้องกินให้ได้ มันเป็นเหมือนคุ้กกี้สองอันติดกัน แล้วมีใส้ตรงกลาง เป็นสีๆ หลายสีมาก มีคนเคยทำให้พี่กิน เค้าบอกว่าต้องมากินร้านต้นตำหรับที่นี่ เฟิงเฟิงรู้จักมั้ย"

เออ...ถามเรื่องแบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย ผมไม่อยากจะเชื่อว่ากอริลล่ายักษ์ตรงหน้าจะอยากกินขนมหวาน ที่เรียกว่า มาการอง มันดูไม่เข้ากันเลย

"อ้อ เค้าเรียกว่ามาการองครับพี่ มีร้านเก่าแก่เลยที่นี่ ชื่อร้าน ลาดูเร่ (LADURÉE) เป็นร้านดังที่ใครๆที่มาที่นี่ก็ต้องมากิน ผมเคยซื้อกินชิ้นสองชิ้น เพราะมันแพงมากครับ" 

"ไม่เป็นไร พี่อยากกิน เราไปร้านนี้กัน" ผมแปลกใจว่าทำไม เขาดูตั้งใจอยากกินมาก 

พอไปถึงร้าน คนแน่นตลอดเลย ทุกครั้งที่ผมมา ผมก็เลยสั่งมาการองมาหลายสี มีไส้หลายๆแบบ เพื่อให้พี่ถิงลองกิน ถ้าจะให้อร่อย ต้องกินกับชาอังกฤษก็ดีมากนะ ผมเลยกะว่าจะกลับไปชงชาเอิร์ลเกรย์ที่ผมชอบให้พี่ถิงกินด้วย ผมเห็นมีชาอยู่ในครัวนี่นา

หลังจากได้มาการองมาแล้ว เมื่อมาถึงห้องผมก็ขอโชว์ฝีมือชงชาสไตล์ยุโรปที่มีติดตัวมาบ้าง กะความร้อนและน้ำให้พอดีกับชา มันถึงจะอร่อย แล้วผมก็เอามาการองจัดใส่จาน พร้อมยกชุดน้ำชาหรูที่ทางโรงแรมมีให้ไปวางที่โต๊ะอาหาร

"มาการองที่ดีเวลากินจะละลายในปากเลยนะครับพี่" พอผมมองคนตรงหน้า เค้าถือมาการองขึ้นมาพินิจพิเคราะห์อย่างตั้งใจ ดูแปลกมากในสายตาผม เค้าค่อยๆกัดทีละนิดแล้วหลับตา ทำหน้าเหมือนซาบซึ้งจนผมคิดว่ามันอร่อยจนเขาจะร้องไห้แล้วด้วยซ้ำ 

"เฟิงเฟิงรู้มั้ย ตอนอยู่ที่บ้าน พี่ได้กินหลายครั้งเลย แต่พอ...." เขาไม่พูดต่อ ผมเห็นนัยตาเค้าดูเศร้า ผมไม่อยากเห็นภาพแบบนั้น

"พี่ถิงครับ ลองชิมรสนี้สิ ผมชอบที่สุด รสช็อคโกแลต" ผมกำลังจะยื่นให้เขา

"ไม่เป็นไร เฟิงเฟิงกินสิ" เขาเอามือมาดันมือผม แล้วหันไปยกชาขึ้นมาจิบแล้วมองผม

ผมจึงกินมาการองอันนั้นเป็นรสที่ผมชอบ ยังไม่ทันหมด พี่ถิงวางถ้วยชา แล้วลุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมาหาผม เอามือมาจับมือผมออก แล้วเอาปากมาจ่อ พร้อมกินมาการองรสช็อคโกแลตที่ผมกินด้วย เมื่อหมดชิ้น ปากเราก็มาชนกันพอดี 

คราวนี้พี่ถิงเอาลิ้นเข้ามาตวัดลิ้นผมเหมือนจะไล่หาความหวานจากมาการองต่ออีก ผมจึงตอบรับลิ้นนั้นเป็นอย่างดี แล้วให้เค้าได้ลิ้มรสความหวานได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นพี่ถิงยืนขึ้นแล้วเอาตัวมาติดกับผม พร้อมกับเลียนิ้วผมที่เปื้อนคราบช็อคโกแลตด้วย อร๊ายๆๆๆ ผมรู้สึกร้อนหน้าขึ้นมาเลย...

"อืม อร่อยจริงๆแหละ ขออีกชิ้นได้มั้ย!!!"

คนตรงหน้าผม ทำไมถึงได้สายตาหวานเยิ้มปนร้ายกาจอีกแล้วนะ เขาชอบทำให้ผมอยากจะมุดหน้าแทรกไปทุกที แต่ความเศร้าตอนแรกมันคืออะไรนะ เขาดูน่าสงสารมาก มันเริ่มทำให้ผมอยากรู้ซะแล้วสิ 
ว่าแต่บนโต๊ะยังเหลือมาการองอีกหลายชิ้น เขาจะกินต่ออีกเหรอเนี่ยะ!!!


                                                โปรดติดตามตอนต่อไป.....











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น