รายการฟิค

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

ดินแดนเหนือฟ้า ใต้หล้านี้เพื่อเธอ ตอนที่ 7



                  ดินแดนเหนือฟ้า  ใต้หล้านี้เพื่อเธอ
                                                                   …The land before time…
                                    มนุษย์ พื้นดิน แผ่นน้ำ ต่างมีต้นกำเนิดเป็นของตนเอง


บทที่ 7 ห้องแห่งจันทรา
                


               ณ ห้องโถงวังดินแดนยื่อ
                
                  เมื่อยามสายของวันนั้น องค์ชายและองค์หญิงจากทั้ง 9 ดินแดน ถูกเรียกตัวมารวมกัน
โดยมีองค์ราชาและราชินีนั่งอยู่บนบัลลังก์ที่มีรูปพระอาทิตย์ดวงใหญ่สีแดงเพลิงอยู่ด้านหลัง เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าที่นี่คือวังที่ยิ่งใหญ่จากดินแดนแห่งดวงอาทิตย์

ความลับการตายของอาจารย์ไป๋และทุกอย่างที่หลิงมู่บอกแก่เฟิงเยว่นั้น เฟิงเยว่ได้เล่ากับถิงยื่อและองค์ราชาฟังทั้งหมดแล้ว หากแต่ตอนนี้ต้องทำให้หลิงมู่เอาหยกออกมาตามที่เฟิงเยว่รู้มาเท่านั้น องค์ราชาจึงกล่าวออกไปว่า
เหล่าองค์หญิงและองค์ชายทุกคน ตอนนี้อาจารย์ไป๋ก็ได้สิ้นไปแล้ว อย่างที่ทราบดีว่าข้ายังพยายามหาตัวคนร้ายอยู่ ดังนั้นช่วงระหว่างนี้ ก็ขอให้ทุกคนรออยู่ที่พำนักตัวเอง ถอดจิตกลับดินแดนเพื่อบอกกล่าวแก่องค์ราชาทั้งหลายว่า ท่านจะต้องอยู่รออาจารย์คนใหม่ ที่ข้าจะทำการคัดเลือกให้

 และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แผ่นดินยื่อก็ต้องเป็นของถิงยื่อแล้ว ดังนั้นขอให้ทุกคนอยู่ร่วมพิธีที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ด้วย องค์ราชากล่าวชี้แจงทุกคนพยักหน้ารับฟัง ท่านจึงกล่าวต่ออีกว่า

และคราวนี้ข้าขอให้องค์ชายหลิงมู่ ท่านได้โปรดตามข้าและทุกคนไปที่ห้องของท่านเดี๋ยวนี้” 
องค์ราชาสั่งและลุกขึ้นจากบัลลังก์เพื่อเดินนำไป องค์ชายหลิงมู่ทำหน้ามึนงง ว่าเกิดอะไรกับตนเอง แต่ในเมื่อขัดไม่ได้ ก็ต้องเดินตามองค์ราชาไปยังห้องพักที่เรือนดินแดนมู่ของตน 

เมื่อมาถึงห้อง องค์ราชาทราบกลไกทางเข้าห้องเป็นอย่างดี จึงเปิดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย 
กองทหารองครักษ์รออยู่ด้านนอก มีเพียงเหล่าองค์ชายและองค์หญิงเดินตามเข้าไป

องค์ชายหลิงมู่ ไม่ทราบว่าตู้ไม้เล็กๆบนโต๊ะนั่น ที่ชั้นบนสุดท่านเก็บสิ่งใดไว้ หลิงมู่ตกใจในคำถามขององค์ราชาเมื่อเข้ามาถึง 


เอ่อ ก็ไม่มีอะไร มีเพียงของมีค่าส่วนตัวของข้าเท่านั้น องค์ชายหลิงมู่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่แน่ใจว่าองค์ราชาต้องการอะไร เรื่องที่หลิงมู่ได้พูดกับเฟิงเยว่เมื่อเช้า เขาลืมไปแล้วจนหมดสิ้นเพราะฤทธิ์น้ำจันทราและพลังหลานเหยียน


องค์ราชาจึงกล่าวต่อไปว่า ถ้าอย่างนั้นเพื่อความกระจ่างในใจข้า ถิงถิง เจ้าเปิดลิ้นชักนั่นให้พ่อหน่อย
ยังไม่ทันที่เจ้าของห้องจะได้พูดอะไร ถิงยื่อก็ตรงเข้าไปและเปิดลิ้นชักออก พร้อมกับพบว่ามีหยกสีแดงที่เขาเห็นใต้เตียง
อาจาย์ไป๋ในวันนั้น อยู่ที่นี่จริงๆ ท่านพ่อ นี่ครับ องค์ราชาเห็นเป็นจริงดังนั้นจึงกล่าวว่า 

นี่คือหยกเหอเสวี่ยจริงๆ ทหาร!!!มาจับองค์ชายหลิงมู่ไปขังคุกหลวงเพื่อรอการสอบสวน
 ข้ามีหลักฐานว่าเขาได้ใช้หยกนี่ฆ่าอาจารย์ไป๋จริงๆ

หลังจากนั้นก็เกิดการวุ่นวายนิดหน่อย เมื่อองค์ชายหลิงมู่พยายามจะหนี แต่ก็ไม่สามารถหนีได้ จึงถูกทหารดินแดนยื่อจับไปขัง เมื่อทุกอย่างสงบลง องค์ราชาก็สั่งให้ทุกคนแยกย้ายกลับที่พักของตน และเรียกถิงยื่อกับเฟิงเยว่เข้ามาพบ

เอานี่ หยกเหอเสวี่ย ถิงถิง เจ้าจงใช้พลังนำเมล็ดเหอเสวี่ยที่ฝังอยู่ด้านในออกมา แล้วกินเข้าไปซะ เพื่อถอนพิษองุ่นแดงในตัวเจ้า จะได้หายขาดซะที แต่ว่าเจ้าจะอ่อนแรงลงอย่างมากในสองสามวันนี้ เจ้าต้องพักผ่อนให้มาก เข้าใจมั้ย เอาล่ะ รีบไป พ่อจะให้หมอหลวงไปตรวจเจ้าด้วยหลังจากเจ้าได้กินเมล็ดเหอเสวี่ยเข้าไปแล้ว เฟิงเยว่ ได้ฟังดังนั้นก็ค่อยว่างใจ
ถิงยื่อและเฟิงเยว่กำลังจะลากลับ องค์ราชาจึงกล่าวต่อว่า ถิงถิง เจ้าไปจัดการเรื่องของเจ้าให้เรียบร้อย 
องค์ชายเฟิงเยว่ ข้าขอคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวสักครู่ ถิงยื่อจำใจต้องเดินออกมา 
ด้วยขัดคำสั่งของพ่อเขาไม่ได้ แต่ในใจเขาอยากรู้มากว่าท่านพ่อจะพูดอะไร 

ต้องเป็นเรื่องแต่งงานแน่ๆ แล้วเฟิงเฟิงของเขาจะตอบว่ายังไงนะ ให้ตายเหอะ!!! เขาอยากรู้มาก 

ทำยังไงดี เขาไม่มั่นใจเลย ถึงแม้ว่าเมื่อคืนเฟิงเฟิงจะบอกรักเขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาก็รู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ 
ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ จึงกลับไปที่ห้องและคิดว่าถ้าถอนพิษตัวเองได้เมื่อไหร่ จะไม่สนใจอะไรแล้ว 

ต้องไปถามความจริงจากเฟิงเยว่ให้ได้
เอาล่ะ องค์ชายเฟิงเยว่ ตกลงท่านได้คำตอบเรื่องเซียงเซียงของข้าแล้วหรือยัง 
องค์ราชากล่าวถามเข้าประเด็นทันที

ข้าแต่องค์ราชา ข้าคิดว่าข้าอยากขอประทานอนุญาตกลับไปยังดินแดนเยว่สัก 10 วัน 
เพื่อพูดคุยตกลงกับท่านพ่อก่อนจะดีกว่า ข้าไม่แน่ใจว่าท่านพ่อนั้นคิดอย่างไร และไม่อยากถอดจิตไป เนื่องจากข้าอยากที่จะกลับไปอวยพรท่านแม่ด้วย นี่ก็ใกล้จะถึงวันเกิดท่านแล้ว ไม่ทราบว่าจะได้หรือไม่ 

เฟิงเยว่คิดว่า เขาควรกลับไปคุยด้วยตัวเองให้กระจ่างก่อนจะดีกว่า แล้วอีกอย่างเขาก็อยากเจอท่านแม่มาก ในภาวะที่ร่างกายเขาแปลกๆแบบนี้ เขาอยากเจอท่านแม่มากที่สุด ท่านแม่ที่แสนน่ารักและใจดีของเขา ถึงแม้ว่าจะไม่สวยเท่าองค์ราชินี แต่ทุกคนก็ยังชมว่าแม่ของเขาน่ารักมากๆ ที่สำคัญแววตาของเขาก็ได้มาจากท่านแม่นี่แหละ ส่วนเรื่องของถิงถิง เขาก็วางใจแล้ว เพราะตอนนี้ถิงถิงน่าจะได้ถอนพิษเรียบร้อย

ได้สิ ที่นี่ ก็ไม่ได้ห่างจากวังของท่านมากนัก แล้วตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสอนหนังสือท่านได้อยู่ดี ก็ดีเหมือนกัน ข้าจะฝากของไปให้พี่ฟงด้วยนะ เราอนุญาต หลังจากนั้นเฟิงเยว่จึงออกมาจากห้องโถงใหญ่ แล้วตรงกลับไปที่ห้องพักตนเอง

คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด พลังเขาจึงมีไม่มากเท่าไหร่ และตอนนี้เจ้าลิงยักษ์ก็น่าจะสลบอยู่เนื่องจากการถอนพิษ 

เขาจึงคิดว่า เขาจะไม่บอกถิงถิง เรื่องที่เขาจะกลับบ้าน ปล่อยให้เขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จะดีกว่าแล้วเขาก็หลับไป 

ในไม่ช้าเมื่อใกล้สว่าง เขาเริ่มมีแรงมากขึ้น และคิดว่าเดี๋ยวจะออกเดินทางกลับแล้ว จึงได้คิดว่าจะแอบไปลาถิงยื่อก่อนแล้วค่อยไป หวังว่าเจ้าลิงยักษ์คงยังไม่ตื่นหรอกนะ

ระหว่างทางเดินไปห้องถิงยื่อ เขาได้เห็นภาพชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มในสวนหลังก้อนหินใหญ่ ซึ่งเขาก็คิดว่าจะผ่านแถวๆนั้นเพื่อหลบไปยังเรือนดินแดนยื่อ 

เขาจึงแอบซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินอีกก้อน และกลัวว่าจะถูกจับได้ หากแต่ชายหญิงคู่นั้นประหนึ่งโลกนี้มีเพียงเราสอง ไม่สนใจผู้ใดเลย 

เมื่อเขาเพ่งมองเข้าไปใกล้ๆ จึงพบว่า นั่นคือเซียงยื่อและเทียนอวิ๋นนั่นเอง นี่สินะ สาเหตุที่เซียงเซียงไม่ยอมแต่งงานกับเขา 

แต่เขาดีใจนะ ดีใจมากที่ทั้งคู่พบกับความสุขของตน และคิดว่าถ้าองค์ราชา ราชินีได้ทราบ คงจะไม่ขัดข้องเช่นเดียวกัน เขาจึงหมดห่วงไปอีกเรื่อง 

เหลือก็แต่เจ้าลิงยักษ์ของเขาเท่านั้นที่เขายังเป็นห่วงจับใจ เมื่อเข้าไปในห้องของถิงยื่อ เฟิงเยว่ก็เข้าไปนั่งที่เตียง พร้อมกับมองใบหน้าคมคายได้รูปนั่นให้ชัดๆ เขารักใบหน้านี้หมดหัวใจ

สีหน้าของถิงยื่อดีขึ้นมาก ดูมีสีเลือด อีกทั้งดูสดใสดึงดูดใจยิ่งนัก เขาจึงก้มลง จูบที่หน้าผาก 1 ครั้ง แล้วไปจูบที่ปากของถิงยื่ออีกที

คนตรงหน้ายิ้มบางๆออกมา เห็นแค่นี้เขาก็มีความสุขแล้ว ในจังหวะที่เขากำลังจะลุกขึ้น พลันก็มีมืออันใหญ่และแข็งแรง ฉุดกระชากตัวเขาเอาไว้อย่างแรงจนเขาต้องนั่งกระแทกลงอีกครั้ง

ถิงยื่อลุกขึ้นมาทำตาสดใสเป็นประกาย พร้อมกับบอกว่า ฮั่นแน่!!! นี่เจ้าคิดถึงข้าจนทนไม่ไหวใช่มั้ย ข้าจะไปหาเจ้าเมื่อคืนนะ แต่ข้าไปไม่ไหวจริงๆ 

พลังเมล็ดเหอเสวี่ยทำให้ข้าต้องปรับร่างกายใหม่ ตอนนี้ข้ามีแรงเพิ่มขึ้นไม่มากเลย ข้าคิดถึงเจ้ามากนะเฟิงเฟิง เจ้าจะไปไหน ทำไมแต่งตัวเหมือนจะเดินทางแบบนี้ล่ะ 

เฟิงเยว่ไม่ตอบ เพราะเขาไม่อยากบอกให้คนตรงหน้าเป็นกังวลใดๆ เขาจึงได้แค่เขยิบตัวเข้าไปและหอมแก้มสีชมพูตรงหน้า แล้วยิ้ม

เอ๊ะ!!! อะไรของเจ้าเนี่ย ข้าจะบอกให้น้า ตั้งแต่เจ้ากินไข่มุกเข้าไป เจ้าชักจะหว่านเสน่ห์ให้ข้าหลงมากขึ้นทุกวันนะรู้มั้ย

ไหน ข้าไม่ให้เจ้าไปไหนหรอก ข้ายังไม่หายดี เจ้าก็ต้องดูแลข้าสิ นี่ชุดแบบนี้ข้าจะถอดออก ไม่ให้เจ้าใส่หรอก เข้าใจมั้ย ใส่ชุดแบบนี้แล้วทำให้ข้าคิดว่าเจ้าจะหนีข้าไปไหน ดังนั้นข้าไม่ยอมหรอกนะ 

เขาไม่พูดเปล่า เอามือค่อยๆแกะเสื้อของอีกฝ่ายออกอย่างช้าๆ 

เฟิงเยว่ไม่ขัดขืน นั่งมองมือเขาและปล่อยให้เขาถอดชุดออกจนท่อนบนเปลือยเปล่า 

เขาคิดในใจว่า เขาจะมอบความรักให้เป็นความทรงจำก่อนที่จะไม่เจอกันอีกหลายวัน และไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

ถิงยื่อไม่รอช้า เขาคิดว่าเฟิงเฟิงในวันนี้ดูสวยเหลือเกิน นี่มาหาเขาถึงห้อง แถมยังไม่ขัดขืนให้เขาต้องออกแรงสักนิด 

ช่วยไม่ได้ เขาคงจะต้องฝากรอยรักเอาไว้เยอะๆซะแล้ว คิดแค่นั้น เขาก็ระดมจูบลงไปอย่างไม่หยุด จนกระทั่งอีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้เขาแล้วบอกเขาข้างหูว่า ถิงถิง ข้ารักเจ้านะ 

หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความรักอีกครั้ง โดยไม่รู้จักคำว่าพอ 

ไหนถิงถิงบอกว่าไม่มีแรงไง นี่อะไรกัน เขายังคงมีแรงมหาศาล ทำให้เขามีรอยช้ำไปทั่วร่าง 

แต่ก็ดีนะ เขาจะได้เก็บความทรงจำนี้ไว้คิดถึงในช่วงเวลาที่ห่างกัน

ดังนั้นลิงยักษ์ที่เหน็ดเหนื่อยจึงหลับไป โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้น ได้จูบลาและแต่งตัวใหม่ พร้อมทั้งออกเดินทางไปยังบ้านเกิดของตน

              หลายวันมาแล้วที่ถิงยื่อหลับๆตื่นๆ โดยสลับกับหมอหลวงที่มาตรวจอาการเขาทุกวัน เขาเคลิ้มๆ บางทีก็รู้สึกว่าเฟิงเยว่มาพูดกับเขา ว่าจะลาเขาไปไหนไกลๆ ไม่เขาไม่ยอมหรอก 

แต่เขาก็หลับไปด้วยความเพลียและหมอหลวงก็เหมือนจะให้ยาให้เขาหลับต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ากี่วันแล้วที่เขาสลึมสลือนอนเยอะมากแบบนี้

                ณ วังดินแดนเยว่
                ภายในห้องแห่งจันทรา เป็นเขตห้องพักของเฟิงเยว่ ถูกประดับตกแต่งด้วยสีเหลืองนวล ซึ่งเป็นสีของพระจันทร์ที่สว่างสวยงาม เสื้อผ้าที่เข้าสวมใส่ล้วนเป็นสีฟ้า แตกต่างจากตอนอยู่ที่ดินแดนยื่อที่บางครั้งจะต้องใส่สีแดงที่เป็นสีของดินแดนนั้น เขาในคืนนี้ยังคงนั่งคิดถึงลิงยักษ์ว่าเป็นเช่นใดบ้าง
น้าหรือเขาควรจะถอดจิตไปหาดี 

นี่เขาก็กลับมาได้ 3วันแล้วหากแต่คนตัวใหญ่ก็อาจจะพักฟื้นและยังไม่มีใครบอกเรื่องเขาก็ได้ เขาจะหายดีรึยังนะ 

ทำไมถึงได้คิดถึงจูบของคนตัวยักษ์ได้ขนาดนี้นะ เขาเอามือลูบที่ซอกคอและกอดตัวเองเพื่อให้รู้สึกถึงพลังที่หลงเหลืออยู่ในตัวเขา 

แล้วเขาก็มองแสงจันทร์อ่อนๆที่สาดเข้ามาแล้วก็ทนไม่ไหว จึงได้นั่งสมาธิและถอดจิตไป ขอแค่ได้ไปเฝ้าดูทุกๆวันก็ยังดีนะ 
เขาคิด...
                

คืนวันที่ 3 ของการกลับวัง วันนี้องค์ราชินีจึงนำนมอุ่นๆมาให้ลูกชายที่ไม่ได้เจอเสียนานหลายปี นางคิดถึงจับใจ

"เฟิงเฟิง มากินนมอุ่นๆก่อนนอนเถอะลูก นี่เจ้าถอดจิตอีกแล้วเหรอ ดินแดนยื่อนี่มีอะไรดีนะ เจ้าถึงกลับไปตลอดเลย ไหนว่าไม่อยากรวมกันไงล่ะ เห็นเถียงกับท่านพ่อจนต้องโกรธกันแบบนี้ นี่เจ้าจะปล่อยให้แม่พูดคนเดียวอีกนานมั้ย กลับมาได้แล้ว" เมื่อรู้สึกเหมือนมีคนถูกเรียก เฟิงเฟิงจึงกลับเข้าสู่ร่างของตน

"โธ่!!! ท่านแม่คนสวยของข้า ท่านงอนอีกแล้วน้า เดี๋ยวจะหน้าแก่กว่าวัยข้าไม่รู้ด้วยนะ" เฟิงเฟิงพูดเล่นกับแม่ของเขา เขาอยู่กับท่านแม่มากกว่าท่านพ่ออีกเมื่อตอนเด็ก เขาจึงรักและผูกพันกับท่านมาก

"เจ้านี่น้า ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงได้กล้าพูดกล้าทำขึ้นทุกวันๆ 
อ้อ!!!คงเป็นเพราะพลังจากไข่มุกแน่ๆ แม่เคยไปไถ่ถามแม่เฒ่าหลายครั้งตอนได้ข่าวเจ้า แม่เฒ่าเตือนแม่ว่าพลังของมันจะทำให้เจ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้ 

ตอนนี้เจ้าเป็นยังไงบ้าง แม่ยังไม่ได้ถามเจ้าเลย เจ้าก็มัวแต่ถกเถียงเรื่องดินแดนกับท่านพ่อไม่ว่างเว้น" องค์ราชินีดินแดนเยว่ถามด้วยความเป็นห่วง

"ท่านแม่ ข้าก็ไม่เข้าใจ ตอนนี้ข้าเหมือนคล้ายๆจะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ความรู้สึก ควาต้องการและหลายๆอย่าง แปลกและต่างออกไปจากเดิม แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงข้าก็ยังเป็นลูกที่น่ารักของท่านเหมือนเดิม" เฟิงเยว่อธิบาย พร้อมกอดแม่ของเขา

"เอาล่ะๆ เจ้าดื่มนมแล้วก็พักผ่อนเถอะ แม่ไม่กวนแล้ว พรุ่งนี้เจ้าต้องถกเถียงกับพ่อเจ้าอีก" หลังจากนั้นองค์ราชินีจึงออกจากห้องเขาไป

ตอนนี้ เขาดื่มนมเรียบร้อย รู้สึกยังนอนไม่ค่อยหลับ ภายในห้องแห่งจันทราของเขา มันมีมนเสน่ห์บางอย่างที่นุ่มนวลแต่ว่าเร่าร้อนเหมือนเจ้าของห้อง 

เขารู้สึกว่า ภายในตัวเขา มีพลังบางอย่างวนไปมา จริงๆนะ เขายังไม่ค่อยเข้าใจดีนัก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อนอะไร เขานั่งมองพระจันทร์ที่ส่องแสงตรงกับหน้าต่างห้องของเขาอีกสักครู่ แล้วก็เป่าเทียนในห้องดับไป เพื่อจะพักผ่อน 

ทันใดนั้น ก็มีมือใหญ่มาจากไหนไม่รู้ปิดปากเขาไว้ ไม่ให้เขาร้อง 
แล้วอีกมือก็กอดที่เอวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาดิ้นๆๆ ไปมาและสุดท้ายก็กัดลงไปที่มือนั่นได้พอดี แล้วพุ่งตัวออกมาเพื่อมองศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าให้ชัดๆ 

ยังไม่ทันที่เขาจะได้มอง คนตรงหน้าก็เอามือมาปิดตาเขา แล้วก็จูบมาที่ปากเขาอย่างรุนแรง เขายังไม่รู้ว่าใครก็กัดไปที่ปาก 

คราวนี้คนตรงหน้าร้องโอ้ย!!!เบาๆด้วยความเจ็บ เขาจึงตบเข้าที่หน้าอย่างแรง คราวนี้อีกฝ่ายร้องโอ้ย!!!อีกรอบ พร้อมกับบอกว่า 

"เฟิงเฟิง นี่ข้านะ ถิงถิงของเจ้า โอ้ย!!!เฟิงเฟิง เจ้าจะฆ่าข้ารึไง ข้าจะไม่ตายจากพิษ แต่จะมาตายในมือเจ้านี่แหละ แมวน้อยของข้า ไม่เจอกันไม่กี่วัน ทำไมถึงได้แรงเยอะขนาดนี้ฮึ" 

อะไรกัน นี่มันห้องแห่งจันทรา ห้องของเขา เจ้าลิงยักษ์มาได้ยังไง แล้วดูสิ เขาทำร้ายถิงถิงไปเยอะมาก 

" ถิงถิงๆ นี่เจ้าจริงๆเหรอ เจ้ามาได้ยังไงหน่ะ" เขาเอ่ยถามพร้อมกับเอามือประคองคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง 


"ก็ข้าคิดถึงเจ้า คิดถึงมากๆ อยากกอดเจ้า อยากจูบเจ้า พอข้าตื่นมา เหมือนเห็นเจ้า เจ้ามาดูแลทุกวัน มาบอกลา แต่มันเหมือนภาพฝัน พอข้าได้สติเมื่อกี้ ไปหาเจ้าที่ห้อง ก็ไม่เจอเจ้า ทหารองครักษ์บอกว่าเจ้ากลับวัง ข้าเลยขี่เจ้าเอ้อ มาหานี่ไงล่ะ 

นี่คือสิ่งที่คนคิดถึงเจ้าทุกลมหายใจควรได้รับรึไง" คราวนี้ลิงยักษ์ที่จับแก้มตัวเอง และปากที่ยังมีเลือดออกซิบๆ งอนตุบป่องๆเลย แหมๆ ลิงตัวใหญ่ที่เวลางอนยิ่งน่ารักเหมือนกันนะ เขาคิด 

"โอ๋....ที่รักของข้า เจ้าเจ็บมากมั้ย ไหน ขอข้าดูหน่อยสิ อย่าเพิ่งทำหน้างอนแบบนี้สิ 

ตัวก็ใหญ่แต่ทำไมใจน้อยแบบนี้ล่ะ ข้าก็คิดถึงเจ้า แต่ไม่อยากให้เจ้าเป็นห่วงก็แค่นั้น" เฟิงเยว่เอามือลูบที่แก้ม ที่เขาตบไป และลูบปากที่เลือดออกซิบๆ เขาไม่รอช้าเอานิ้วที่ถูกกัดมาดูดซับเลือดเล่นและใช้ลิ้นโลมเลียนิ้วนั้นเหมือนกระหายอยากจะดูดเลือด 

ถิงยื่อรู้สึกว่าร่างกายเขาเสียววาบไปหมดทั้งตัว จึงไม่รอช้า ก้มลงจูบและซุกไซร้ซอกคออีกฝ่ายอย่างกระหายเช่นเดียวกัน เขากระซิบข้างหูว่า

"เมื่อข้าโดนเจ้าตบ ข้าต้องจูบคืน 10 ทีนะ นี่เป็นกฎ" คนตัวใหญ่ตอนนี้พอใจมากที่เฟิงเยว่ของเขาดูจะต้องการเขามากเช่นเดียวกัน สองคนโอบกอดซึ่งกันและกัน

"อะไรกัน มีแบบนี้ทีไหน ข้าไม่เคยได้ยิน" อีกฝ่ายตอบโต้ออกไปเบาๆพร้อมโอบกระชับแน่นขึ้น

"ข้าขอให้เจ้าซับเลือดที่ปากด้วยนะ เจ้ากัดข้า เจ้าทำแผลที่นิ้วให้ข้าแล้ว ตอนนี้ต้องทำแผลที่ปากให้ข้าด้วย เข้าใจมั้ย" 

คราวนี้เมื่อปากประกบปาก เฟิงเยว่ไม่ต่อต้าน เขาคิดถึงมาก เขารู้สึกสงสารที่ทำให้คนตัวใหญ่ตรงหน้าต้องเจ็บตัว 

เขาจึงเอาลิ้นออกมาเลียแผลที่ปากด้านล่างเบาๆ แล้วก็ใช้ปากดูดคลึงเหมือนจะดื่มเลือดเข้าไปในตัวเอง เอาลิ้นเข้าไปแตะและตวัดลิ้นของอีกฝ่ายให้คลายกระหายจากความคิดถึง 

คนตัวใหญ่ไม่รอช้า เอามือโอบกอดพร้อมกดหน้าลงมาให้แนบชิดกัน เหมือนจะดูดกลืนซึ่งกันและกัน 

เมื่อหมดอากาศหายใจ เขาจึงถอนปากออกจากกัน คนตัวใหญ่ตรงหน้าพูดขึ้นว่า"เจ้ารู้มั้ย เจ้าไม่อยู่ ข้าแทบจะคลั่งตาย มานี่ก็โดนเจ้าทำร้ายอีกแต่ก็คุ้มนะ ได้รักษาแบบนี้ข้าชอบจัง ข้าให้เจ้ากัดอีกก็ได้นะ" 

ถิงถิงของเขาก็ทะเล้นเหมือนเดิม เขาจึงเอามือทุบไปที่หน้าอกข้างหน้าแล้วบอกว่า 
"นี่แหนะ เจ้าหน่ะยังจะมาล้อเล่นอีก หลายวันมานี่ข้ากังวลมาก

ใครใช้ให้เจ้าเข้ามาเงียบๆล่ะ ว่าแต่ตอนนี้หายดีแล้วใช่มั้ย ข้าก็เป็นห่วงเจ้า แต่ข้ามีเรื่องต้องคุยกับท่านพ่อ" เขาพยายามจะอธิบายให้เข้าใจ

"ใช่!!!ข้าหายดีแล้ว เป็นลิงยักษ์ของเจ้าที่แข็งแรงมากกว่าเดิมอีก ไม่เชื่อข้าจะพิสูจน์ให้ดูอีกก็ได้นะ" ว่าแล้วเขาก็อุ้มเฟิงเยว่ไปที่เตียง 

"ถิงถิง เจ้าไม่เป็นอะไร ก็ดีแล้ว เจ้าไม่ต้องพิสูจน์หรอก เจ้าแข็งแรงแค่ไหน ข้ารู้อยู่แล้ว ลิงยักษ์ของข้า" เขาโอบที่คอพร้อมส่งสายตาหวานซึ้งให้อีกฝ่าย 

"แหม เจ้าแมวน้อย นี่ไม่อยู่ด้วยกันไม่กี่วัน เจ้าส่งสายตายั่วข้าแล้วเหรอ เจ้าอยากให้ข้าคลั่งเจ้าตายใช่มั้ยฮะ!!!" 

"อะไร ข้าเปล่านะ ดูเจ้าสิ ผอมลงไปตั้งเยอะ" ว่าแล้วเขาก็เอามือลูบที่แก้มแล้วยิ้ม "ข้าคิดถึงลิงยักษ์จะแย่อยู่แล้ว" เขาโน้มคนตัวใหญ่มาจูบปากอีกครั้งแล้วยิ้ม

 "เจ้านี่นะ ชักจะปั่นหัวข้ามากขึ้นทุกวันๆนะ 
งั้นขอข้าจัดการเจ้าให้หายคิดถึงก่อนนะ ก่อนที่เจ้าจะยั่วข้ามากกว่านี้" 

หลังจากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายและตัวเองออกพร้อทก้มลงจูบที่เนินอกขาวตรงหน้าและดูดกินอย่างช้าๆ คล้ายจะกลืนเฟิงเยว่เข้าไปทั้งตัว 


เขาพูดขึ้นว่า"เฟิงเฟิง เวลาเจ้าอยู่ที่ห้องแห่งจันทรานี่ทำไม ถึงได้เหมือนจะยั่วยวนข้าตลอดเวลาแบบนี้ล่ะ ข้าอยากจะอยู่ห้องนี้ไปตลอดได้รึเปล่า" 

เฟิงเฟิงไม่ตอบอะไร ได้แต่เอามือค่อยๆซุกซนไต่ไปที่ด้านล่างของอีกฝ่ายและคลึงเคล้าเพื่อยั่วเล่น พร้อมแผ่ความเย็นจากร่างเขาไปตรงจุดนั้นไม่หยุด 

คราวนี้ถิงยื่อรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว เขามองหน้าแมวน้อย และจูบรับกับจังหวะด้านล่างเขาที่สอดประสานพลังเข้ากันเป็นอย่างดี 

ตอนนี้เขามองลงเห็นเนินหน้าอกขาวอวบอัดด้านหน้าอย่างชัดเจน "เฟิงเฟิง เจ้า...เจ้าน่ารักมาก และสวยเหลือเกิน" 

คราวนี้เขาก้มลงดูดกลืนหน้าอกขาวนั่นอีกครั้ง ทั้งคู่เหมือนจะโหยหากันมากขึ้นๆเรื่อยๆ ภายในห้องแห่งจันทรานี้มีแค่เขาสองคนที่กอดก่ายอยู่ด้วยกันไม่ยอมหยุด

ทั้งสองนอนหายใจหอบถี่อยู่ด้านข้างๆกัน ถิงยื่อรู้สึกพอใจมากเขาหันหน้ามามองอีกฝ่าย พร้อมเอามือเท้าที่หัวเขาไว้และยังคงเอานิ้วมือลูบไล้ที่หน้าอกสวยด้านข้างตลอดเวลา "เฟิงเฟิงเจ้านี่เวลาอยู่บ้านแล้วน่ารักมากกว่าเดิมมากๆเลยนะ ห้องนี้มันมีพลังอะไรกันเนี่ยะ ข้าอยากรู้นัก" 

"เจ้าอ่ะนะ อีกหน่อยก็หมดรักข้า" เฟิงเฟิงแกล้งยั่ว 
"แมวขี้ยั่วแบบเจ้า ข้าต้องจัดการให้เข็ด เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีวันไม่รักเจ้า 

ไม่ว่าใครในดินแดนนี้ก็สู้เจ้าไม่ได้สักคน จริงๆนะ" เขาในตอนนี้รู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นนางแมวยั่วสวาทขึ้นทุกวัน

"เจ้าพูดแบบนี้แปลว่าเจ้าอยู่กับคนอื่นมามากมายงั้นสิ" เฟิงเฟิงแกล้งยั่วอีก
"เจ้านี่นะ พูดแบบนี้อยากให้ข้าทำโทษอีกใช่มั้ย เมื่อกี้ทำโทษที่หนีมาโดยไม่บอก และต่อไปห้ามทำแบบนี้อีกนะ" ถิงยื่ออยากตักเตือนแมวน้อยของเขา เขาเอามือไปโอบกระชับคนร่างอวบอัดที่ยั่วเขาตรงหน้าให้แนบชิดมาอีก

"ถิงถิง ข้าไม่อยากแยกจากเจ้าหรอก แต่ทำไงได้ ตอนนี้ข้ายังเปลี่ยนใจท่านพ่อกับองค์ราชาไม่ได้เลย แล้วอีกอย่าง เซียงยื่อกับเทียนอวิ๋นก็รักกัน เราควรทำยังไงดี" เฟิงเฟิงต้องบอกเขา

"ขอให้เชื่อข้า พรุ่งนี้ข้าจะทำให้ดูว่าเจ้าต้องเป็นของข้า ไม่มีใครมาห้ามข้าได้ ข้าองค์ชายถิงยื่อจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นเอง 

แต่ตอนนี้ ขอจัดการแมวยั่วอย่างเจ้าก่อนนะ ข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ข้างในข้ามันเรียกร้องหาเจ้าตลอดเวลาเลยแมวน้อยของข้า" ว่าแล้วเขาก็ก้มลงจูบพร้อมกับเริ่มสอดประสานพลังรักใหม่อีกครั้ง 

เขาขอเติมพลังก่อนจะจัดการเรื่องใหญ่ๆพรุ่งนี้แล้วกัน ถิงยื่อคิด...


                                             

โปรดติดตามตอนต่อไป...


               
                
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น