บทนำ Bonjour บงชูร์ สวัสดี
ตอนนี้เพิ่งหัวค่ำ ผู้คนยังคงเดินสวนกันขวักไขว่ในถนนเส้นหลักของปารีสและเป็นถนนที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก ใช่ครับ!!! ผมกำลังพูดถึง "ถนนช็องเซลิเซ่"
ผมกำลังเดินไปตามถนนนี้ ผมเดินผ่านโรงละคร คาเฟ่ และร้านขายของแบรนด์เนมมากมาย ผม"หลี่อี้เฟิง" เป็นเด็กนักเรียนจีน ที่สอบชิงทุนมาเรียนต่อที่นี่ครับ ตอนนี้ผมอยู่มาเกือบ 4 ปีแล้ว มหาวิทยาลัยของผมไม่ห่างจากถนนเส้นนี้นัก ผมจึงใช้การเดินจากมหาลัยเพื่อไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใกล้ๆตามที่นัดกันไว้
ผมกระชับเสื้อด้านนอกให้มากขึ้น ช่วงนี้เริ่มเปลี่ยนจากฤดูร้อนเป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่หนาวเลย หากแต่ก็เริ่มมีลมมาตั้งแต่หัวค่ำแบบนี้ได้ และตอนนี้ผมก็ต้องเดินไปอีกสักพัก ผมนัดใครไว้หน่ะเหรอ>>>>
งานพิเศษของผม คือรับเป็นไกด์ให้ชาวจีนที่อยากจะมาเที่ยวที่นี่ ตามที่ป้าซาแมนธาและลุงฟิลิปจะแนะนำมา ผมเช่าบ้านพวกเขาอยู่ สามีภรรยาคู่นี้เป็นชาวฝรั่งเศสที่ติดต่อกับคนจีนมานาน พวกเขาจึงมีธุรกิจนำเที่ยวส่วนตัวนี้ด้วย นอกจากเปิดบ้านให้นักเรียนจีนเช่าอยู่...
วันนี้ผมจึงต้องมารับงานนี้ครับ ป้าซาแมนธาบอกว่าเขาเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ที่รวยมากของจีน นำเข้าสินค้าจากหลายประเทศในแถบยุโรป คราวนี้เขาต้องมาเลือกซื้อสินค้าและอยากจะท่องเที่ยวส่วนตัวด้วย จึงติดต่อมา
ผมเดินมาถึงโรงแรมและเดินไปยังห้องสวีทใหญ่ที่สุดของโรงแรมตามที่ได้หมายเลขห้องมาจากป้าอีกที
โอ้โฮ!!! ถ้าจะพักห้องขนาดนี้ได้และอยู่ใกล้ขนาดนี้ นี่เขาขายอะไรนะ เขาเป็นใครกันแน่
เมื่อมาหยุดยืนหน้าห้อง ผมจึงกดออดเพื่อเรียกคนด้านใน จากนั้นจึงมีคนมาเปิดประตู
"สวัสดีครับ ผมหลี่อี้เฟิง คุณป้าซาแมนธาบอกให้ผมมา"
พอผมพูดจบ เขาก็เปิดประตูกว้างเพื่อให้ผมเข้าไปในห้อง คนๆนี้ดูเหมือนจะเป็นผู้ติดตามหรืออะไรไม่ทราบ บอดี้การ์ดเหรอ หน้าก็ไม่เห็นจะโหดร้ายหรือดุสักนิด เขาเรียกผมให้ไปนั่งที่โซฟาใหญ่พร้อมบอกว่า
"รอตรงนี้สักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะไปตามคุณถิงมาให้ ผมต้าหลุนครับ เป็นเลขาของคุณถิง เราคงต้องเจอกันอีกหลายวันนะครับ"
ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรออกไป คนชื่อต้าหลุนที่รูปร่างท้วมนิดๆ ก็เข้าไปในห้องด้านใน เปิดประตูไว้แล้วหายไปอีกห้องหนึ่ง
หลังจากนั้นก็มีเงาของร่างใหญ่ร่างหนึ่งเดินออกมา คนๆนี้แต่งตัวสบายๆ ใส่แค่เสื้อยืดสีขาวธรรมดา มีเสื้อคลุมเท่ห์ๆ กางเกงขาสั้น ดูกวนๆแต่ก็น่ารักมากสำหรับสายตาผม
เขาทิ้งตัวลงที่โซฟาอย่างสบาย พร้อมด้วยใบหน้าสวย ตาคม และยิ้มอันสดใส เขาทักทายก่อนว่า
"บงชูร์ ใช่มะ ที่นี่ฝรั่งเศส 555 ผมพูดถูกมะคุณ เอ่อ คุณ แนะนำตัวเองสิ"
"เอ่อๆ ผม...ผม ผมชื่อหลี่อี้เฟิงครับ"
"ตกลงผมออกเสียงถูกมั้ย คุณหลี่อี้เฟิง อ้อ ขอแนะนำตัวเองก่อนนะ ผมเฉินเหว่ยถิงครับ บงชูร์ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย 5555" สิ้นเสียงหัวเราะที่ระเบิดออกมานั่น เขาจำได้ทันที ภาพเก่าเมื่อ 10 ปีก่อน สมัยเรียนมัธยมผุดขึ้นตรงหน้า
"วันนี้ฉันชวนพี่ถิงมาร่วมงานเลี้ยงฉลองการแสดงของพวกเรานะ เอ้า!!!เฮียพูดไรหน่อยสิ"
ผมจำได้ดี ที่หม่าเทียนเพื่อนสนิทของผม มันชวนพวกเราชมรมการแสดงมาฉลองใหญ่กัน แต่พี่ถิงเป็นคนดังของโรงเรียนเรา และเป็นพี่ที่สนิทกับหม่าเทียนมาก เพราะบ้านสองคนนี้ติดกัน ผมไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพี่เค้ามากหรอก แต่ใครๆในโรงเรียนทุกคนก็สนใจเขา รวมทั้งผมด้วย
"หม่าเทียน นายเริ่มจะเมาแล้วนะ นี่พวกนายยังเด็กๆกันทั้งนั้น กินเหล้ากันแบบนี้แล้วจะกลับหอกันยังไง"
"ไม่พี่ พวกผมสบายมาก มาๆๆ เรามาเล่นเกมส์กันต่อ เฮียก็มาเล่นด้วยกันสิ นี่กำลังสนุกเลยนะ"
"เกมส์อะไรของนายฮึ"
"เกมส์นี้ชื่อว่า "Truth or Dare" ครับเฮีย มาๆ ผมสอนให้ นี่พวกเรามีไพ่กันอยู่ในกองนี้นะ หยิบกันไปคนละใบ ใครจับได้ดอกเดียวกัน ต้องโดนจับคู่ทำ Truth or dare ครับพี่"
วันนั้นพวกเราเล่นเกมส์นี้กันไปก่อนที่พี่ถิงจะมาหลายรอบมากๆ ทุกคนต้องเลือกว่าจะทำอะไร
"Truth หมายถึงพูดความจริง Dare หมายถึงกล้าทำบางอย่าง" ทุกคนสนุกมากที่ได้พูดและทำในสิ่งที่เพื่อนคนอื่นๆสั่ง ส่วนใหญ่ก็หม่าเทียนนี่ล่ะ ที่กำลังได้ที่กว่าเพื่อน แต่ก็พาให้ทั้งวงสนุกกันมาก
เกมส์วันนั้นผมจำได้ไม่ลืม ผมและพี่ถิง จับได้ไพ่หัวใจเหมือนกัน เป็นเราสองคนที่ต้องเล่นคู่กัน
พี่ถิงถามผม "เอ้า นายแมวน้อยนี่ นายจะเลือกอะไรล่ะ ฉันแล้วแต่นายเลย"
"ผม ชื่ออี้เฟิงครับพี่ ผม เอ่อ ผม...เอ่อ เลือก Dare ได้มั้ยครับ" ทำไมวันนั้นผมถึงเลือก Dare เหรอ??? ไม่รู้สิ หัวผมมันตื้อไปหมด เมื่อคนตรงหน้าหันมาถามใกล้ๆ
"เอ้า!!! Dare ก็ Dare" พี่ถิงเห็นด้วย
คนอื่นๆในวงนี่จิบเหล้ากันไปหนักพอควร มีผมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่ เพราะผมแพ้หน่ะครับ กินปุ๊บ ตัวจะร้อนและผื่นขึ้นเลย ส่วนพี่ถิงก็เพิ่งมา คงมีแต่เราสองคนมั้งที่ยังมีสติครบถ้วน
"ทำไรดีน้าาาาา ขอคิดก่อนนะ" วันนั้น หม่าเทียนผู้คุมเกมส์นี้เกือบหมดยิ้มเจ้าเล่ห์มาก
"เอาล่ะ ในเมื่อพวกเฮียเลือก Dare จริงๆ ผมว่านะ ผมจะให้ เฮียจูบเฟิงเฟิง!!!"
"ฮะ!!! อะไรนะ" ผมตะโกนเสียงลั่น หม่าเทียนแกจะฆ่าชั้นรึไง
"ทำเลย จูบเลย ทำเลย จูบเลย!!!!" เพื่อนทุกคนยังร้องเชียร์ไม่หยุด ผมเลยหันไปมองหน้าสวยๆนั่นแล้วบอกไปว่า
"เอ่อ พี่ครับ ไม่จำเป็นต้อง....." ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค คนตัวใหญ่ที่นั่งด้านข้าง เอี้ยวตัวเอาหน้ามาบังหน้าผมจากหน้าทุกคน แต่ว่ามีแต่ผมเท่านั้นที่สัมผัสได้ ว่าปากนั้นมาแตะปากผม พร้อมการคลอเคลียอย่างนุ่มนวลและช่ำชอง ไม่นานนักเขาก็หันหน้าออก
"อ่ะ จูบแระนะ" พี่ถิงบอกทุกคน
"เฮ้ย!!!ไรอ่ะเฮียยังไม่มีใครเห็นเลย เอาใหม่ดิ" หม่าเทียนยังคงส่งเสียงเหมือนคนหงุดหงิด......
"เอ้า คุณ คุณอี้เฟิง ตกลงผมพูดชัดมั้ย บงชูร์เนี่ยะอ่ะ ไม่เห็นตอบเลย"
ผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ภาพเหตุการณ์ตอนนั้นกลับมาชัดเจนมาก เขาคือจูบแรกของผม คนตรงหน้านี่ล่ะ
"ผมอยากให้คุณพาผมเที่ยวชมกรุงปารีสให้ทั่ว ผมมีเวลาอยู่ที่นี่อีกอาทิตย์ เห็นพวกเค้าบอกว่าคุณจะว่างมาเป็นไกด์ส่วนตัวให้ผม ผมบอกก่อนนะ ผมเอาแต่ใจ แต่ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำให้คุณเสียเวลาเปล่าแน่ๆ เงินหน่ะไม่ใช่ปัญหาของผม เข้าจั้ย!!! ว่าแต่ทำไม ผมคุ้นๆหน้าคุณจัง เราเคยเจอกันมาก่อนมั้ย 555 ทำไมผมทำเหมือนจะจีบคุณเลย มุกนี่มันเก่าชะมัด 555"
เสียงหัวเราะกังวาลใสนี้ ทำให้ใจผมเต้นแรงอีกแล้ว หลังจากที่ไม่ได้เป็นแบบนี้มาเกือบ 10 ปี ตั้งแต่คืนที่เล่นเกมส์ Truth or Dare นั่น...
โปรดติดตามตอนต่อไป.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น