เฉินเหว่ยถิง = หมอเฉินเหว่ยถิง เป็นหมอฟัน เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ชื่อ “ถิงหยาฉือ”
อุปนิสัย-เงียบ สงบ เย็น ภูมิฐาน เป็นงานเป็นการ ความรู้แน่น แต่บางทีก็สามารถขี้เล่นขึ้นมาได้
หลี่อี้เฟิง = ดาราดาวรุ่งสุดฮอตแห่งวงการ ถ่ายละครและหนัง คิวแน่นไม่หยุดหย่อน
อุปนิสัย-ร่าเริง กินเก่ง ชอบกินขนม ของหวาน ลูกอม เค้ก ไอติม แต่กลัวเลือดมากที่สุด
สามวันแล้วนะ ที่เค้าไม่ติดต่อกลับผม...เชื่อไหมครับ ผมหงุดหงิดใส่ผู้ช่วยตลอดสามวันมานี้
จนคิดว่าตัวเองเป็นอะไร ผู้ช่วยทั้งหลายงงไปหมด ก็เพราะดาราดังตัวดี...หลี่อี้เฟิงนั่น ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ผมส่งข้อความหาเค้า เช้า กลางวัน เย็น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่แล้วก็เงียบ...
จนวันที่สาม ผมทนไม่ไหว วันนั้นผมเลิกคลินิกเร็วกว่าปกติ เลยรีบหาข้อมูล สืบจากผู้ช่วยบ้าง จากเว่ยป๋อบ้าง ว่าตอนนี้หลี่อี้เฟิง ดาราตาโตคนไข้ของผม เค้าไปถ่ายละครอยู่ที่ไหน...คอยดูนะ อย่าให้เจอเชียว ไม่รู้จักหมอถิงคนนี้ซะแล้ว ผมไม่เข้าใจ ทำไมถึงไม่ยอมตอบข้อความมาเลย...ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เค้าก็เหมือนจะตอบรับและดูชอบผมอยู่ไม่น้อย...ผมไม่ได้หลงตัวเองนะ หล่อขนาดนี้ แหมๆๆ
คนเรียนเก่งและสมองดีอย่างผม คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ว่าทำไมๆๆๆ หรือพวกดารานี่เค้าคิดอะไรกันอยู่ ถ้าจะมาแสดงละครใส่ผม ผมก็ว่าไม่ใช่นะ...ดังนั้น เมื่อได้สถานที่ถ่ายทำแล้ว ผมก็รีบไป แต่กว่าผมจะไปถึงก็ดึกมาก เหลือคนจัดเก็บของอยู่ไม่กี่คน ผมเลยเข้าไปถาม อ้างว่าเป็นนักข่าวที่ติดต่อกับผกก.ไว้ แต่ตอนนี้ติดต่อไม่ได้ ผมจึงรู้ว่า พวกเค้าไปกินข้าวมื้อดึกด้วยกัน...
ฮึๆๆๆ ผกก.นั่น ผมไม่ไว้ใจมันเลย...ตั้งแต่คราวก่อนที่เจอกัน ผมเห็นเจตนาที่ออกจะชัดเจนว่าเค้าต้องการตัวอี้เฟิงแน่ๆ แล้วก็เป็นดังที่ผมคาดไว้
ผมหน่ะ พอไปถึงร้านอาหาร ก็สั่งอาหารมาทาน หลบมุมในโต๊ะที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็น จนกระทั่งมีเสียงเอะอะออกมาจากห้องอาหารส่วนตัวห้องหนึ่ง สักพักผมก็เห็นอี้เฟิงเดินโซเซออกมาเกาะที่ประตูหน้า ตามมาด้วยไอ้บ้า ผกก.ลามกนั่นกำลั่งลูบๆ คลำๆ ดาราของผม เฮ้ย!!! แล้วเค้าปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นได้ยังไง ดูเหมือนจะดิ้นไม่หลุดซะด้วย ผมเลยต้องเข้าไปจัดการดึงเค้าออกมา พร้อมด้วยการผลักผกก.นั่นลงไปกองกับพื้น
นี่ถ้าไม่ติดว่า กลัวจะเรื่องยาว และผมเป็นห่วงคนตรงหน้ามากกว่า ผมต่อยหน้ามันไปแล้ว!!!
และสภาพผมตอนนี้ เลอะเทอะด้วยอ้วกของพระเอกน่ารักที่ตอนนี้ไม่ค่อยจะน่ารักซะแล้วครับ เค้าคงโดนวางยาในเหล้าที่กิน... ดีแล้วล่ะที่อ้วกมันออกมา แต่เสื้อผมนี่สิ มีแต่กลิ่นไม่พึงประสงค์ ผมเลยต้องลากเค้าเข้ามาในรถ...จัดการทำความสะอาดตัวเอง พอจะเช็ดหน้าเค้า ตอนนี้หน้าเค้าแดงมากครับ...แถมตาปรอยๆ ด้วยความมึนของเหล้าผสมยานั่น
ผมอดไม่ได้ที่จะจูบเค้า...ผมไม่ได้โรคจิตนะครับ อย่างน้อย ผมก็มีสติ และรู้ว่าอีกฝ่ายเต็มใจ ผมชอบที่ได้จูบเค้าและไม่อยากจะสนใจอะไร แต่ว่าท่าทีของเค้านี่สิ จริงๆดูเค้าก็เหมือนอยากจะให้ผมจูบ แต่กลับพูดแค่"ผมขอโทษ" แล้วก็ผลักผมออกห่างจากตัว
...
ตอนนี้เด็กเกียรตินิยมอันดับ 1อย่างหมอเฉินเหว่ยถิง ยิ่งงงมากขึ้น... ให้ตายเหอะ!!! มันน่าโมโหมั้ย... ผมมาตามหาเค้าขนาดนี้ ช่วยเค้าขนาดนี้ เค้ายังบอกว่า "คุณกลับบ้านไปเถอะ ผมกลับเองได้"
ผมไม่ชอบคำพูดและท่าทางแบบนี้เลย...มันทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ เหยียบคันเร่งรถเต็มแรง...
ผมขับรถไปบนถนนได้สักพัก ผมหันไปมองเค้า ตอนนี้เค้าดูครึ่งหลับครึ่งตื่น และดูกระซับกระส่าย...
"ผมร้อนๆๆ ร้อนไปหมด หมอเปิดแอร์อีกได้ไหม???"
ผมเอามือเอื้อมไปแตะแก้มเค้า ตอนนี้มันร้อนมากจริงๆ ผมคิดว่าคงเป็นฤทธิ์ยาที่ไอ้ผกก.นั่นใส่เอาไว้ ยังไม่หมดฤทธิ์ดี...
"อี้เฟิงๆ คุณเป็นอะไรมากมั้ย?"
"ไม่เป็นไร ไม่ต้องมายุ่งกับผม ปล่อยผม ผมจะลง จอดสิจอด" เค้ายังคงดิ้นไปมาภายใต้เข็มขัดที่รัดแน่นเหมือนคนไม่ค่อยมีสติ...ยังไม่หมดฤทธิ์อีกนะ+++
ผมตัดสินใจพาเค้ามาหยุดรถที่หน้าบ้าน ป่านนี้คนแถวนี้คงหลับกันหมดแล้ว...ผมว่าที่นี่น่าจะปลอดภัยจากสายตานักข่าวที่สุด บ้านผมมีรั้วรอบขอบชิด หลังก็ไม่ได้ใหญ่อะไร แต่กำแพงแยกเป็นสัดส่วนกับพี่สาวที่อยู่เป็นครอบครัว มีทางเชื่อมหากัน แต่ก็ทิ้งผมไว้กับบ้านหนุ่มโสดเพียงลำพัง เพราะทุกคนในบ้านรู้ว่าผมต้องการสมาธิอ่านหนังสือหรือทำงานสอนของผม บริเวณบ้านผมก็มีสระว่ายน้ำเล็กๆให้เล่นได้อยู่หน้าบ้าน...
ผมไม่ชอบคำพูดและท่าทางแบบนี้เลย...มันทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ เหยียบคันเร่งรถเต็มแรง...
ผมขับรถไปบนถนนได้สักพัก ผมหันไปมองเค้า ตอนนี้เค้าดูครึ่งหลับครึ่งตื่น และดูกระซับกระส่าย...
"ผมร้อนๆๆ ร้อนไปหมด หมอเปิดแอร์อีกได้ไหม???"
ผมเอามือเอื้อมไปแตะแก้มเค้า ตอนนี้มันร้อนมากจริงๆ ผมคิดว่าคงเป็นฤทธิ์ยาที่ไอ้ผกก.นั่นใส่เอาไว้ ยังไม่หมดฤทธิ์ดี...
"อี้เฟิงๆ คุณเป็นอะไรมากมั้ย?"
"ไม่เป็นไร ไม่ต้องมายุ่งกับผม ปล่อยผม ผมจะลง จอดสิจอด" เค้ายังคงดิ้นไปมาภายใต้เข็มขัดที่รัดแน่นเหมือนคนไม่ค่อยมีสติ...ยังไม่หมดฤทธิ์อีกนะ+++
ผมตัดสินใจพาเค้ามาหยุดรถที่หน้าบ้าน ป่านนี้คนแถวนี้คงหลับกันหมดแล้ว...ผมว่าที่นี่น่าจะปลอดภัยจากสายตานักข่าวที่สุด บ้านผมมีรั้วรอบขอบชิด หลังก็ไม่ได้ใหญ่อะไร แต่กำแพงแยกเป็นสัดส่วนกับพี่สาวที่อยู่เป็นครอบครัว มีทางเชื่อมหากัน แต่ก็ทิ้งผมไว้กับบ้านหนุ่มโสดเพียงลำพัง เพราะทุกคนในบ้านรู้ว่าผมต้องการสมาธิอ่านหนังสือหรือทำงานสอนของผม บริเวณบ้านผมก็มีสระว่ายน้ำเล็กๆให้เล่นได้อยู่หน้าบ้าน...
ผมเอารถมาจอดในบ้าน เมื่อประตูอัตโนมัติถูกเปิด ดาราหนุ่มที่ตอนนี้สภาพดูไม่ต่างจากคนเมายา พยายามดิ้นรนจะเปิดประตูรถแบบไร้สติอีกรอบ...
"หมอ...ผมจะกลับ ผมร้อนๆๆ ผมจะไป โอ้ย!!!ประตูนี่ทำไมเปิดไม่ออกนะ"
"จะไปได้ยังไงครับคุณดารา เข็มขัดคุณยังไม่เอาออก ล็อคก็ยังไม่เปิด คุณนี่อย่าดิ้นสิ"
ผมเอื้อมมือไปปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย เมื่อปลดล็อคประตูจึงอ้อมลงไปเปิดประตูฝั่งเค้า...
ผมมองดูใบหน้าแดงกล่ำ เสื้อหลุดออกจากกางเกงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ดาราหน้าใสกำลังพยายามจะแกะกระดุมเสื้อตัวเองออก โดยที่ไม่สำเร็จเท่าไหร่นักเพราะดูมึนๆ
"หมอ...อยู่ดีๆทำไมมันร้อนมากขึ้น ผม...ผม อยากเอาเสื้อออก ทำไมกระดุมนี่มันแกะไม่ออกนะ"
"มานี่!!! คุณนี่ท่าจะไม่ไหวแล้ว"
ผมเข้าไปช้อนตัวเค้าออกมาจากรถ อุ้มเค้าไว้ ตัวเค้าไม่ได้หนักอะไร ผมอุ้มได้สบายๆ ตลอดเวลาที่ผมอุ้ม เค้าพยายามดิ้น ผลักผมด้วยแรงอันน้อยนิด
"หมออออ...ปล่อยๆๆ ผมจะกลับๆๆ ปล่อยนะ"
ผมมาหยุดตรงสระว่ายน้ำ...
"อ่ะ!!! อยากให้ปล่อยใช่มั้ย?"
ตูม!!!!!!!!!!!
เค้าตะเกียกตะกายในสระ...ดาราหมดสภาพครับ เหมือนลูกหมาตกน้ำ!!!...ผมโหดไปมั้ย ไม่หรอก นี่เป็นทางช่วยให้เค้าเย็นลงและจะได้มีสติ...
ผมโดดตามลงไป...
สระว่ายน้ำผมก็ไม่ได้ลึกมากอะไร ตอนนี้เค้ายืนนิ่ง ผมเลยเข้าไปยืนตรงหน้า จับที่แก้มทั้งสองข้างเค้าไว้!!!
"ดีขึ้นมั้ยครับคุณดารา...ป่ะ เข้าบ้านสงบสติอารมณ์ก่อนนะ"
"ฮือๆๆๆๆ ผม...ผมขอโทษๆ"
หลังจากนั้นเค้าเอาหน้ามาซบที่หน้าอกผม แล้วกอดแน่นพร้อมกับร้องไห้ตัวโยน...ผมกอดและลูบหัวเค้าสักพัก จนร่างกายตรงหน้าสงบลง
ผมค่อยๆอุ้มเค้า เข้ามาในบ้าน สภาพดาราเปียกน้ำ ยืนตัวสั่นในห้องผม...หน้าตามีแต่คราบน้ำตา ดูตลกดีครับ แต่ใบหน้าไม่แดงเท่าเดิมอีกแล้ว น่าจะหมดฤทธิ์ยาแล้วล่ะ ตอนนี้เหลือแค่เป็นแก้มแดงๆที่สุกปลั่งแบบที่ผมชอบ...
ผมเอาผ้าเช็ดตัวห่มให้เค้า พร้อมกับกอดเค้าไว้แล้วบอกว่า
"อาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวจะไม่สบาย มีอะไรไว้ค่อยคุยกัน ห้ามพูดว่าจะกลับอีก...เข้าใจมั้ย คุณคนไข้ของผม"
ผมช้อนหน้าเค้าที่เปียกปอนขึ้นมาจูบ...เค้าพยักหน้าแต่โดยดี หมดฤทธิ์ซะที เฮ้อ!!! เล่นเอาเหนื่อยเลย...
ผมจึงปล่อยให้เค้าอาบน้ำ ส่วนผมตอนนี้จัดการกับตัวเอง เช็ดตัวให้แห้ง และเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวเพื่อรอจะอาบน้ำเพราะผมก็ไม่อยากเป็นหวัดเหมือนกัน...
ภายในบ้านผม แบ่งเป็นห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องครัวและก็ห้องนอน แต่งสีแบบคุมเอิร์ทโทนสบายๆ น้ำตาลอ่อนปนฟ้าดูแล้วสบายตาดี...ไม่มีที่ไหนสบายเท่าที่บ้านแล้วล่ะครับ ผมว่า...
พระเอกตรงหน้าใส่ชุดนอนตัวใหญ่ของผม หลวมๆ น่ารักดี...ผมหน่ะไม่เคยพาใครมาบ้าน ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย เป็นอันรู้กันว่านี่คือหลุมหลบภัยของผม ไว้หนีจากเรื่องวุ่นวายรอบตัว สำหรับผมมีที่อื่นให้พาไปอีกเยอะครับ 555 เค้าเป็นคนแรกที่ผมพามาเพราะคิดถึงความปลอดภัยมาก่อน...
"คุณไปนอนก่อนนะ ผมขออาบน้ำก่อน พักผ่อนตามสบายเลย" ผมเอ่ยบอกและมากระซิบข้างหู
"ผมไม่ทำอะไรคุณเหมือนไอ้ผกก.บ้ากามนั่นหรอก ถึงตอนนี้ชุดนอนผมจะทำให้คุณดูน่ารักมากขนาดนี้"
เค้าแอบยิ้ม ผมเห็น...
"รอแป๊บนะ ฮัมๆๆ 1121" ผมมีความสุขมาก แค่เห็นเค้าแบบนี้ ผมร้องเพลงตลอดเวลาที่อาบน้ำเพราะอารมณ์ดีสุดๆ
ในห้องผมไม่หนาวมาก ผมชอบอากาศกำลังสบาย ผมเดินเช็ดผมที่เปียกออกมา และพบว่าคุณดาราของผมหลับไปตรงเก้าอี้โซฟาที่อยู่ใกล้ๆเตียงนอน...
เค้าหลับเป็นเด็กน้อยยั่วผมอีกแล้ว...
ฮ่วย!!! ผมไปพูดทำไมนะว่าจะไม่ทำอะไรเค้า ในเมื่อตอนนี้ ผมอยากจะกลับคำพูดจะแย่!!!
ผมวางผ้าเช็ดตัวแล้วไปอุ้มเค้ามานอนที่เตียง เหมือนเค้าจะรู้สึกตัวนิดหน่อย...
พอผมวางเค้าลงที่เตียง ผมก็ลงนั่งคุกเข่าข้างเตียง มองเค้า...ผมชอบมองเค้าครับ ทั้งใบหน้าและตัวเค้ามันมีเสน่ห์ดึงดูดเข้าหาจริงๆ สมกับเป็นออร่าของคนเป็นดาราสินะ...
เค้าลืมตาขึ้นมาสบตาผม...
"ผม...ผม ผมชอบคุณ คุณหมอของผม" เค้าบอกผมในขณะที่เอามือมาลูบที่แก้มผมอย่างแผ่วเบา
ผมเอามือจับมือเค้า...
"นี่คุณเมายาหรือว่าอะไรครับ คุณดารา..." ผมแกล้งแหย่เค้าเพราะไม่คิดว่าเค้าจะพูดออกมา
คราวนี้เค้ายกตัวขึ้นมา จูบผมเบาๆ แล้วนอนลงไป...
ผมมองหน้าเค้าด้วยความงง ว่าอะไรทำให้เค้า มาจู่โจมผมแบบนี้...
ผมก้มหน้าลง กำลังจะไปจูบเค้า เค้าเอานิ้วชี้มาปิดปากผมไว้...
"ไหนว่าจะไม่ทำอะไรไง?" อ่ะๆๆ ผมไม่ทำอะไร แต่เค้ามาทำผมได้เนี่ยะนะ
"งั้นคุณห้ามหนีหมออีก ไม่งั้นล่ะก็จะหาว่าหมอถิงไม่เตือนนะครับ โอเคมั้ย?"
เค้าพยักหน้า...แล้วเอามือโน้มคอผม ลงไปจูบอีกครั้ง...
ริมฝีปากเราบดเบียดกันอีกอย่างแนบแน่น แต่คราวนี้ผมรู้สึกได้ว่ามันลึกซึ้งกว่าเดิม...เค้าชอบผม นั่นน่าจะจริง เพราะรสจูบคราวนี้หวานกว่าครั้งก่อน ผมไล่จูบไปที่แก้ม และหน้าผาก
"ฝันดีครับ คุณดาราของผม" เค้ายิ้มและหลับตาลงเหมือนเด็กน้อยว่าง่าย...
ผมก็ห่มผ้าให้เค้า เดินไปปิดไฟ ก่อนที่จะไปสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งรอบบ้าน แล้วกลับมาสอดตัวใต้ผ้าห่ม ทั้งบ้านเงียบสนิท แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่เงียบนะ เพราะตอนนี้มีเสียงลมหายใจของคนข้างๆผมที่ทำให้อบอุ่นใจแบบที่ผมไม่เคยมีมาก่อน...
@@@@@@@@@@@@@@@@@
พอฟ้าสว่างก็มีเสียงดังโครมครามมาจากห้องนั่งเล่น...พร้อมเสียงพูดคุยโต้กันแบบที่ผมคุ้นเคย
ผมจึงเปิดประตูออกไปจัดการ เพื่อไม่ให้คนข้างๆผมตื่น...
"น้าถิงๆๆ ไปกินข้าวครับ หม่าม้าให้มาตาม"
"เมื่อคืนน้ากลับตอนไหน พวกผมไม่เห็นรู้เลย"
เป็นเจ้าสองแฝดแสบหลานผมครับ ผมจะวุ่นวายก็เพราะเจ้าสองคนนี้แหละ เฮ้อ!!! ชีวิต...
"ชู่!!! นี่!!! น้ามีแขก เงียบๆกันหน่อยได้มั้ย"
"อะไรๆๆ ใครกันครับ"
"ไหนๆ ผมอยากเห็น"
สองตัวแสบยังคงซักไซร้ผมไม่เลิกอีกสักพัก ผมพยายามต่อรองให้เงียบ...จนกระทั่ง
คุณดาราเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเก่าที่ผมไม่ใช่แล้วและคาดว่าเค้าน่าจะพอใส่ได้วางไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้าสะอาดหมดจด...แหมๆ ดูแลตัวเองตอนตื่นได้เป็นมืออาชีพจริงๆ จนผมนี่อยากจะเข้าไปหอมแก้มใสๆนั่นอีกสักฟอด...
แต่ยังไม่ทันทำอะไร ลิงน้อยสองแฝดหลานผม วิ่งเข้าไปเกาะขาเค้าเขย่าและตะโกนพร้อมกัน...
"ซูซู นี่มันพี่ซูซูนี่นา!!!" เอ้า!!!อะไรนี่เด็กพวกนี้
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น