อ.เฉินเหว่ยถิง : อ.สอนคณะบริหารธุรกิจ ผู้ชื่นชอบการว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ มีรางวัลการันตีมากมาย แต่ความโหดขึ้นชื่อไปทั่ว นักศึกษากลัวกันทั้งมหาลัย เพราะแท้จริงแล้ว เค้ายังเป็นลูกชายอธิการบดีด้วย...
หลี่อี้เฟิง : นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ ปี2 เขายังมีตำแหน่งเป็นประธานชมรมว่ายน้ำชาย ตั้งแต่เขามารับตำแหน่งเมื่อปีก่อนแทนรุ่นพี่ที่จบไป สมาชิกก็ลาออกหายไป ไปแข่งที่ไหนก็ไม่ค่อยได้รางวัล ยกเว้นแต่เขาที่ยังพอสร้างชื่อให้ได้บ้าง...
บทนำ "เรื่องกล้วยๆ...Banana and me"
ณ ห้องพักชมรมว่ายน้ำชาย มหาวิทยาลัยกู่เจี้ยน>>>>>>>>>>
"ประธานเฟิง ปล่อยไว้แบบนี้ เราจะถูกยุบชมรมได้นะ" หม่าเทียนหยู หนึ่งในสิบสมาชิกชมรมที่เหลืออยู่ถามผมออกมา
"แล้วนายจะให้ชั้นทำยังไง พอมีที่ปรึกษาชมรมเข้ามา อยู่ได้ไม่นาน เค้าก็ออกหมด ไม่ใช่เพราะพวกนายหรอกเหรอ"
สาเหตุส่วนใหญ่ที่อ.ที่ปรึกษารับไม่ได้ก็คือความเกเรของเหล่าแก๊งค์คนโฉดที่เหลืออยู่นี่ล่ะ!!!!
"พวกชั้นเปล่าซะหน่อย ใช่มะ หยุนหลง" หม่าเทียนหันไปถามเพื่อนแก๊งค์โฉดอีกคน
"แล้วไง ไม่มีที่ปรึกษาจะตายมั้ย ชมรมก็ไม่เห็นต้องมีที่ปรึกษาเลย แค่เอาเงินบำรุงจากมหาลัยมาก็พอ"
ดูสิครับ.... เพื่อนผมทั้งหลาย นี่แค่ตัวอย่าง ยังไม่นับความเกรียนของพวกมัน ที่มารวมตัวกันอยู่ในชมรมนี้ มันเห็นชมรมว่ายน้ำของผมเป็นที่พบปะพูดคุยเล่นสนุกรึไงนะ
"นี่พวกนาย สมัยรุ่นพี่ยังอยู่ พวกนายไม่เห็นเป็นแบบนี้ แล้วทำไมพอชั้นขึ้นมารับผิดชอบ เป็นประธานให้ กลายเป็นแย่ไปได้" ผมไม่เข้าใจพวกนี้จริงๆ ผมรักพวกมันทุกคนนะ จริงๆแต่ละคนก็มีข้อดี แต่ว่าเดี๋ยวนี้ชักจะหนักข้อขึ้นทุกวัน
ผมยังคงถกเถียงกับพวกมันต่อไป เหล่าแก๊งค์คนโฉดก็ไม่ยอมช่วยให้ทุกอย่างมันดีขึ้น วีรกรรมพวกมันเยอะมากครับ ไว้มีเวลาผมจะเล่าให้ฟัง แต่อยู่ดีๆก็มีความคิดนึงสะดุดหูผมขึ้นมา...
"ประธานเฟิง ชั้นว่านายไปเชิญอ.เหว่ยถิงมาเป็นที่ปรึกษามั้ย มีคนบอกชั้นว่าเค้าว่ายน้ำเก่งมาก กวาดรางวัลมาเยอะแยะ แถมเคยอยู่ชมรมเรามาก่อนอีก" หม่าเทียนเพิ่งเสนอไอเดียที่ผมคิดว่าเริ่มจะเข้าท่าขึ้นมา
"ใช่ๆ อ.เหว่ยถิงก็ดีนะ ได้ข่าวว่าเค้าเป็นลูกชายอธิการ คงจะขอเงินสนับสนุนเพิ่มได้" หยุนหลงผู้เห็นเงินเป็นชีวิตจิตใจ พูดเรื่องเงินอีกแระ
"นี่พวกนาย พูดอะไรกัน อ.เหว่ยถิงเนี่ยะนะ เค้าโหดขั้นไหน ใครๆก็รู้กันทั้งมหาลัย พวกนายยังจะให้ชั้นไปเชิญเค้า อยากให้ชั้นไปตายรึไง" ผมเถียงพวกเค้าออกไป
"ก็ไหนนายว่าพวกชั้นไม่ช่วยคิด พอคิดแระก็ว่าไร้สาระอีก เฮ้อๆๆๆ เหมียวอ้วนเอ้ย จะเอาไงอีก ที่เรียกประธานเนี่ยะ เพราะไม่อยากจะเรียกชื่อเล่นนะ 5555" ดูหม่าเทียนครับพี่น้อง มันคือเพื่อนสนิทผมมั้ย ถามใจดู...แต่ละคำ ตัวเองผอมตายล่ะ!!!
สุดท้ายผมก็ทนการรบเร้าจากสมาชิกในชมรมทุกคนไม่ไหว มันสั่งให้ผมไปเชิญอ.เหว่ยถิงมาให้ได้ แต่ผมติดใจคำพูดสุดท้ายของหยุนหลงมาก
"ชั้นจะบอกอะไรให้นะ ท่านประธานเฟิง นายจะต้องไปเชิญอ.เหว่ยถิงมาให้ได้ แม้จะต้องเอาตัวเข้าแลกก็ตาม 555"
หลังจากที่ช่วยกันคิดพวกมันให้ผมไปเจออ.ที่รถของเค้า แถมไปสืบมาให้หมดว่าอ.เค้าชอบอะไร ไปไหนบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มมากนัก เพราะข่าวอ.มีบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่ เพราะเค้าค่อนข้างเก็บตัวไม่ยุ่งกับใคร ดังนั้นอีก 2 วันต่อมา ผมจึงมีหน้าที่ดักเจออ.ที่หน้ารถคันหรูของเค้า
ผมเห็นแล้ว อ.เหว่ยถิงกำลังเดินมาที่รถ พร้อมกับกดกุญแจเพื่อเปิดประตู ผมจึงเอาตัวเข้าไปขวางไว้ก่อนอ.จะถึงประตูรถ
“เอ่อ...อ.ครับ ผม...”
“หลีก” อ.เหว่ยถิงมองหน้าผมด้วยสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อผมเข้าไปด้วย
“อ.ครับ ผมขอ...”
“หลีก”
อ.เค้าพูดเป็นคำเดียวรึไงนะ ผมไม่ใช่เด็กคณะบริหารครับ จะได้กลัว ผมไม่เคยรู้หรอกว่าอ.เค้าเป็นยังไงกันแน่ เพียงแค่ได้ยินกิตติศัพท์ความโหดมานาน เพิ่งเจอกับตัวเองก็วันนี้ ผมควรจะทำยังไงดี อ้อ!!!ใช่ หยุนหลงให้ของผมมาเพื่อมาหยุดอ.โดยเฉพาะ ผมจึงยื่นมือออกไปพร้อมของที่เตรียมมา...
ได้ผลแฮะ...อ.หยุดมองที่มือผม
ได้ผลแฮะ...อ.หยุดมองที่มือผม
“อ.ครับ ผมหลี่อี้เฟิง อันนี้ผมเอามาให้ครับ”
ในมือผมคืออะไรหน่ะหรือครับ มันคือกล้วยหอม 1 ลูก ใช่ครับ!!!กล้วยหอม ผมก็ไม่เข้าใจ หยุนหลงบอกว่าอ.เค้าชอบกินกล้วยมาก ถ้าได้กินกล้วยอารมณ์จะดีขึ้น แต่ไงก็ตามเด็กบริหารพยายามเอากล้วยไปวางไว้ในห้องเรียนแล้ว แต่บางครั้งก็ไม่ช่วยอะไร...
อ.เหว่ยถิงหยิบกล้วยหอมจากมือผม ปอกและยืนกินตรงนั้นโดยไม่สนใจผมสักนิด ผมเลยถือโอกาสพูด ตอนอ.กำลังกินกล้วยอยู่พอดี
“ผมเป็นประธานชมรมว่ายน้ำชายครับ ผมอยากขอร้องให้อ.มาเป็นที่ปรึกษาชมรมให้พวกผม ผมรู้ครับว่ามันออกจะแปลกสักหน่อย...”
“หยุด...หลีกไป!!! พรุ่งนี้มาใหม่นะ เอากล้วยมาด้วยล่ะ อ่ะ!!! เอาไปทิ้งด้วย”
เฮ้ย+++ อะไรฟระ!!! ผมล่ะงงมาก เค้าเอาเปลือกกล้วยที่กินหมดอย่างรวดเร็วมายัดใส่มือผม แล้วผลักผมออกจากประตูรถ แล้วขึ้นรถขับออกไป อย่างไม่สนใจผมที่ยืนงงอยู่ริมถนน...
คุณครับ...เชื่อมั้ยว่า ผมทำแบบนี้มา 3 วันแล้ว อ.เหว่ยถิงก็ไม่พูดอะไรสักคำนอกจาก
“หลีกไป” ผมไม่รู้จะทำยังไง ทุกคนในชมรมบอกว่า แค่เค้ายังไม่ปฏิเสธ ผมก็ต้องทำต่อไป แต่ผมใกล้จะบ้าแล้วนะ อะไรกัน ให้ผมเอากล้วยมาให้เค้าทุกวัน ผมไม่ได้เลี้ยงลิงนะ จะได้ทำแบบนี้...
แต่แล้ววันนี้วันที่ 4 พอดี เมื่ออ.ยื่นเปลือกกล้วยคืนมา...
"พรุ่งนี้ไปที่ห้องพักชั้นตอนทุ่มนึงนะ ชั้นมีสอนเย็น เอากล้วยมาด้วยล่ะ”
เออนะ...พรุ่งนี้ให้ผมเปลี่ยนที่ให้กล้วยหรือยังไง??? แต่ก็เอาเหอะ ก็ยังดีกว่ามายืนดักที่นี่ทุกวันโดยไม่มีอะไรคืบหน้าก็แล้วกัน
....ห้องพักอ.เหว่ยถิง...
“เข้ามาสิ”
หลังจากผมเคาะประตูก็มีเสียงบอก ผมจึงเดินเข้าไป ภายในห้องก็ดูเรียบร้อยสะอาดดี และด้านหลังโต๊ะยังมีใบประกาศ ถ้วยรางวัลมากมาย ที่เค้าว่าอ.เก่งทั้งกีฬาและการเรียนท่าจะจริงแฮะ ผมจึงนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะอ.
“กล้วยล่ะ”
ฮ่วย!!! คนเรา จะกินกล้วยอะไรกันนักหนานะ
ผมจึงยื่นกล้วยหอมออกไปให้เค้าเหมือนเคย เค้ารับไปแล้วก็ปอกกิน ในระหว่างที่กำลังกินอยู่ เค้าเดินไปที่ประตูและล็อคที่ลูกบิด...
เฮ้ย!!! จะทำอะไรหน่ะ ล็อคทำไม เค้าจะต่อยผมมั้ยนะ ตัวอ.ก็ใหญ่กว่าผมมาก เดี๋ยวลองดูท่าทีก่อนแระกัน ไม่เป็นไร ทุกคนในชมรมรู้ว่าผมมาพบอ. ถ้าผมเป็นอะไรไป ก็ต้องมีเพื่อนที่รู้อยู่ดี
“ไปนั่งที่โซฟา”
อ.นี่ทำไมชอบพูดประโยคสั้นๆ แล้วก็สั่งอยู่ได้นะ
“เอ่อ อ.ครับ ผมนั่งตรงนี้ก็ได้ ว่าแต่อ.จะยอมรับเป็นที่ปรึกษาชมรมให้พวกผมแล้วใช่มั้ยครับ”
“หลี่อี้เฟิง ชั้นบอกให้ไปนั่งที่โซฟา” โหหหหห ดุชะมัด ชักเริ่มเข้าใจพวกที่กลัวเค้าแล้วอ่ะ
ผมจึงจำเป็นต้องลุกจากเก้าอี้ไปนั่งที่โซฟาสีฟ้าตัวใหญ่ด้านข้าง อ.เค้าเดินเอาเปลือกกล้วยไปทิ้ง แล้วมานั่งข้างๆผม เอามือมาแกะกระดุมเสื้อผมทีละเม็ด...
“อ.ครับ จะทำอะไร ผม...เอ่อ คิดว่า ผมกลับก่อนดีกว่า”
ผมเริ่มไม่เข้าใจท่าทีเข้าแล้วนะ ผมคิดว่าผมไปดีกว่า แต่พอผมจะลุกขึ้น เค้าก็พูดขึ้นพร้อมกับใช้แรงดันตัวผมให้นั่งลง
"นั่งลง!!!" ผมยังพยายามจะดันตัวขึ้น
“ตกลงมาขอร้องชั้นไม่ใช่เหรอ แค่นี้ก็จะกลับแล้ว???”
อ.พูดไปก็แกะกระดุมเสื้อผมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเม็ดสุดท้าย ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ ที่ตอนนี้เสื้อผมเผยออกให้เห็นหน้าอกและส่วนท้อง
แต่ผมก็ไม่สามารถทิ้งความหวังไปตอนนี้ ในเมื่ออ.เค้าพูดแบบนี้
“ครับ ผมอยากขอให้อ.เป็นที่ปรึกษาให้ ผมหวังว่าอ.จะช่วยชมรมเราได้หน่ะครับ”
“ถอดเสื้อ” ฮะ!!! คำสั่งนี้ เค้าจะให้ผมถอดเสื้อทำไม มันเกี่ยวอะไรกับการเป็นที่ปรึกษาชมรมฟระ!!!
ผมจึงเอามือดึงเสื้อปิด พร้อมกับจะยืนขึ้น...
“ตกลงนายยังอยากจะให้ชั้นเป็นที่ปรึกษามั้ย” อ.ดึงชายเสื้อผม ทำให้ผมต้องลงมานั่ง ผมยังคงเอามือดึงเสื้อปิดไว้
“อยากครับ” แต่ผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วที่ตอบแบบนี้ไป
“งั้นถอด” เค้าพูดแค่นี้ แล้วผมจะทำยังไงได้นอกจากทำตาม
ผมจึงค่อยๆถอดเสื้อตัวเองออก โดยที่มีอ.เหว่ยถิงมองผมไม่วางตา @_@
ทำไมผมรู้สึกเขินนะ ก็ผู้ชายด้วยกัน ถอดเสื้อออกก็ไม่เห็นจะเป็นไร แต่เค้ามองเหมือนจะกลืนผมเข้าไปให้ได้นี่สิ ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าอ.เหว่ยถิงจะหื่นขนาดนี้ ผมว่าเค้าต้องมีจิตประหลาดวิปริตไปแล้วแน่ๆนี่มาจ้องนิสิตถอดเสื้อเนี่ยะ!!!
หลังจากนั้นเค้าเอามือมาลูบกล้ามเนื้อที่ท้องและส่วนหน้าอกของผม จนผมเสียววาบไปหมด เดี๋ยวนะ!!! ผมว่านี่มันชักจะยังไงๆแระ
“กล้ามเนื้อไปไหนหมด ทำไมมีแต่ไขมัน เป็นแบบนี้จะไปว่ายน้ำแข่งกับคนอื่นเค้าได้ยังไง ดูแผ่นหลังนี่สิ นุ่มนิ่มขนาดนี้ นี่เป็นประธานชมรมว่ายน้ำหรือปลาพะยูนฮะ...หลี่อี้เฟิง”
ผมทั้งอาย ทั้งร้อนไปหมดทั้งหน้า ตกลงนี่เค้าสำรวจกล้ามเนื้อผม ว่าผม แต่ทำไมผมรู้สึกได้ว่าสัมผัสเหล่านี้มันทำให้ผมเคลิ้มล่ะ นี่มันจะบ้าไปแล้ว...หลี่อี้เฟิง เค้าว่านายเป็นพะยูน นายควรจะโมโหเค้าสิ!!!
“อาจารย์...เอ่อ...”
ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อ อ.เขยิบตัวเข้ามาใกล้มากแล้วจ้องตาผม เอาปากและจมูกเข้ามาใกล้มากจนแทบจะหายใจรดกัน
“นายกลั้นหายใจได้นานแค่ไหนตอนอยู่ในน้ำ”
ผมยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร อ.ก็เอาปากมาประกบปากผม พร้อมกับเอามือมาบีบจมูกผมไว้ ตอนนี้ผมหายใจไม่ออกเลยเอามือมากันอ.ออก แต่อ.เอามือเดียวมาจับมือสองข้างของผมรวบเข้าไว้ไขว้หลังผมเองอย่างรวดเร็ว...
“อื้ออออ อื้อออ” ผมได้แค่หายใจทางปากผ่านปากอ.เท่านั้น อ.ยังคงส่งลมหายใจและผมก็รับ สลับไปมาแบบนั้นไปเรื่อยๆ เกินนาทีเลยที่ผมหายใจไปพร้อมกับอ. จนผมแทบจะลืมหายใจเองไปด้วย และในที่สุดอ.ก็ถอนปากและมือออกไป ทำให้ผมได้หายใจได้อีกครั้ง...
ผมแอบนั่งหายใจตัวโยน พร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของอ.
ผมเลยลอบมองไปทีนึง เห็นเค้ายิ้มน้อยๆด้วย เหมือนจะอารมณ์ดีนะ
เวลาเค้ายิ้มนี่แอบน่ารักนะ มิน่า!!!สาวๆในมหาลัยถึงได้บอกว่า อ.เหว่ยถิงโหดแต่น่ารัก
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิดว่าอ.บ้านี่น่ารักนะ นี่มันวิธีอะไรของเค้าเนี่ยะ
“ฮึๆๆ เนี่ยะนะ กลั้นหายใจได้แค่นี้ อย่าคิดว่าจะชนะใครได้”
“อ.แกล้งผม ถ้าอ.ไม่เต็มใจช่วย ผมคิดว่า ผมกลับดีกว่าครับ”
พอดีกว่าก่อนที่มันจะมีอะไรแปลกๆเกิดกับผมอีก
ผมกำลังจะลุกขึ้น อ.ก็ดึงมือผมไว้ ผมก็ต้องนั่งลงที่โซฟาอีกครั้ง เมื่อไหร่จะหลุดจากตรงนี้นะ
“ชั้นจะเป็นที่ปรึกษาชมรมให้นาย ถ้านายรับปากชั้นอย่างนึง”
“จริงรึครับอ. ให้ผมทำอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น ขอเพียงให้ช่วยให้ชมรมผมดีขึ้น”
เย้ๆๆ ผมรับปากไป สบตากับอ.ตรงๆ ผมรู้สึกว่าเค้าจ้องผมตอบเหมือนมีอะไร แต่ผมก็เผลอจับมืออ.เขย่าโดยที่ไม่ได้ฟังที่อ.จะบอกเลย จะอะไรก็ได้ขอแค่ให้เค้ามาเป็นที่ปรึกษาให้ ผมก็พอใจแล้ว...
“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป หลังเลิกชมรม นายจะต้องเอากล้วยมาให้ชั้นและอยู่ฝึกกับชั้นตามที่ชั้นสั่งทุกวัน ถ้าไม่รับปาก ชั้นก็ไม่เป็นที่ปรึกษาให้”
“เอากล้วยมาให้!!! แล้วฝึกอะไรครับอ. ผมนี่เก่งที่สุดในชมรมแล้วนะครับ” นี่ถ้ามาฝึกแบบนี้ทุกวัน ผมว่าต้องบ้าแน่ๆ
“เนี่ยะเหรอเก่ง ไม่ได้เรื่องเลยสิไม่ว่า คนอื่นชั้นจะสอนให้ แต่กับนาย ชั้นจะฝึกพิเศษให้ ถ้าไม่อยากทำก็ตามใจ งั้นก็แค่นี้แหละ ไปได้”
อะไรกัน ขอแบบนี้เนี่ยะนะ แล้วผมควรรับปากมั้ย ถ้าไม่รับปาก ผมต้องโดนพวกแก๊งค์โฉดด่าแน่ๆ
“ก็ได้ครับ” ผมจึงรับปากไป ผมเห็นอ.เหว่ยถิงยิ้มที่มุมปากทีนึง ก่อนจะทำหน้าโหดอีกรอบแล้วเอื้อมมือมาติดกระดุมกลับให้ทีละเม็ด พร้อมประโยคสุดท้าย
“หลี่อี้เฟิง นายจำไว้ ถ้าอยากเก่งขึ้นต้องเชื่อฟังชั้น”
หลังจากนั้นผมจึงกลับออกจากห้องพักอ.ไป พร้อมด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่บอกไม่ถูก ผมเอามือลูบริมฝีปากตัวเอง
...แบบนี้เค้าเรียกว่าจูบกันมั้ยนะ ผมรีบส่ายหัว นี่จะบ้าใหญ่แล้วหลี่อี้เฟิง!!!
แล้วทำไมผมรู้สึกว่าคำพูดอ.มันลอยอยู่ในหัวผมเต็มไปหมด แต่ช่างเถอะ ไงก็ตามภารกิจขอร้องเค้าก็สำเร็จ ต้องรีบไปบอกที่ชมรมแล้ว...
..............................โปรดติดตามตอนต่อไป..........................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น