My Pretty boy
เลขาเทียน : ผู้คอยดูแลเรื่องเกี่ยวกับในบริษัทให้กับคุณหนูหลี่อี้เฟิง และต้องคอยบอกรายละเอียดงานกับบอดี้การ์ดเฉินเหว่ยถิงด้วย เขามักจะเห็นว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแปลกๆ แต่ก็ยังไม่มั่นใจนัก
เฉินเหว่ยถิง : บอดี้การ์ดหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลา ดึงดูดใจ นิสัยเงียบขรึม บางครั้งก็ขี้เล่น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถูกประธานเคน เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ 10 ขวบ ไม่รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง จำได้เพียงชื่อตัวเองเท่านั้น
หลี่อี้เฟิง : คุณหนูของบ้านตระกูลหลี่ เป็นลูกคนเดียวของประธานบริษัทผลิตน้ำหอมรายใหญ่ของโลก จึงถูกเรียกว่าคุณหนู นิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถูกตามใจแต่เล็ก รวมทั้งพอแม่เสียตอนอายุ 15 ปี นิสัยนี้ยิ่งเป็นมากขึ้น อยากได้อะไรก็ต้องได้ เอาเงินซื้อทุกอย่าง
ประธานเคน : ประธานบริษัทหลี่เพอร์ฟูม ทำธุรกิจมากมาย ไม่มีเวลาให้กับลูกชายคนเดียวมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเมียตายจึงเสียใจมากและทุ่มเทกับงาน มีศัตรูมากมายจึงต้องจ้างบอดี้การ์ดดูแลหลายคน
อู๋อี้ฝาน : ลูกชายของบริษัทอู๋ คู่แข่งคนสำคัญของอี้เฟิง นิสัยร่าเริงสนุกสนาน มองโลกในแง่ดีตลอดเนื่องจากครอบครัวอบอุ่นมากจนบางทีเค้าก็บ่นว่าร้อนเลยทีเดียว
แม่นมเหยียน : ผู้ดูแลความเรียบร้อยในบ้านและอาหารการกินทุกอย่างของคุณหนูอี้เฟิง และเป็นคนดูแลเหว่ยถิงมาตั้งแต่ถูกเก็บมาเลี้ยงที่บ้านตระกูลหลี่
หลี่อี้เฟิง : คุณหนูของบ้านตระกูลหลี่ เป็นลูกคนเดียวของประธานบริษัทผลิตน้ำหอมรายใหญ่ของโลก จึงถูกเรียกว่าคุณหนู นิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถูกตามใจแต่เล็ก รวมทั้งพอแม่เสียตอนอายุ 15 ปี นิสัยนี้ยิ่งเป็นมากขึ้น อยากได้อะไรก็ต้องได้ เอาเงินซื้อทุกอย่าง
ประธานเคน : ประธานบริษัทหลี่เพอร์ฟูม ทำธุรกิจมากมาย ไม่มีเวลาให้กับลูกชายคนเดียวมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเมียตายจึงเสียใจมากและทุ่มเทกับงาน มีศัตรูมากมายจึงต้องจ้างบอดี้การ์ดดูแลหลายคน
อู๋อี้ฝาน : ลูกชายของบริษัทอู๋ คู่แข่งคนสำคัญของอี้เฟิง นิสัยร่าเริงสนุกสนาน มองโลกในแง่ดีตลอดเนื่องจากครอบครัวอบอุ่นมากจนบางทีเค้าก็บ่นว่าร้อนเลยทีเดียว
แม่นมเหยียน : ผู้ดูแลความเรียบร้อยในบ้านและอาหารการกินทุกอย่างของคุณหนูอี้เฟิง และเป็นคนดูแลเหว่ยถิงมาตั้งแต่ถูกเก็บมาเลี้ยงที่บ้านตระกูลหลี่
หลังจากวางโทรศัพท์ ผมค่อยๆเอามือเขย่าร่างตรงหน้าเบาๆ...
"คุณหนูครับ ตื่นเถอะ เราต้องกลับบ้านกัน
คุณท่านกลับมาแล้วครับ"
คุณหนูเอามือขยี้ตาเบาๆ แล้วหันหน้ามามองผม
"ไม่กลับไม่ได้เหรอพี่ถิง ผมไม่อยากเจอป๊า
ไหนบอกว่าอีกเป็นเดือนกว่าจะกลับ ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ"
"คุณหนู อย่าเอาแต่ใจสิครับ ไปครับ ลุกขึ้น อึ้บบบบ"
ผมเอามือดันร่างเล็กของคนตรงหน้าขึ้น เค้าหนักนิดหน่อย
แต่ผมก็สามารถดันเค้าขึ้นไปนั่งได้
"พี่ถิงอ่ะ ชอบบังคับผม ตกลงใครเป็นเจ้านายกันแน่"
"โธ่!!! คุณหนูครับ ผมแค่ไม่อยากให้คุณหนูมีปัญหากับท่าน
เวลาคุณหนูทะเลาะกับท่านทีไร คุณหนูก็มีแต่โดนลงโทษ
ผมไม่อยากเห็นคุณหนูต้องลำบากอีก"
"พี่ถิงก็เลยพลอยเจ็บตัวไปด้วย ผมยังจำรอยแผลนี้ได้ ตรงนี้"
คุณหนูก้มหน้าลงมาจูบเบาๆบริเวณหน้าท้องด้านขวา...
"นี่ยังเป็นรอยจ้ำแดงๆอยู่เลย!!!"
ผมเอามือจับแขนทั้งสองข้างของคุณหนูไว้
"รอยนี่หน่ะ ช่างมันเถอะครับ
แต่ตอนนี้คุณหนูกำลังจะทำให้ผมมีรอยแดงใหม่ๆเต็มไปหมดนะ"
"ก็มันจริงนี่นา ตอนนั้นที่ป๊าจะตีผม
พี่มาบังผมแล้วเลยไปโดนน้ำแกงร้อนๆตรงนี้ เจ็บมากมั้ย"
คุณหนูเอามือมาลูบที่แผลเบาๆ ทำให้ผมยังจำภาพนั้นได้...
ผมควบคุมตัวเองไม่ได้
เอาตัวเข้าไปบังคุณท่านจากการที่จะเอาไม้มาตีคุณหนู ถึงจะเป็นเรื่องของพ่อกับลูก
แต่คุณท่านไม่ฟังอะไร จะตีคุณหนูอย่างเดียว เลยทำให้ผมต้องเอาตัวเข้าไปขวาง
ทำให้น้ำร้อนที่อยู่บนโต๊ะอาหารหกใส่ผมอย่างช่วยไม่ได้...แต่ช่างมันก่อน
ตอนนี้ต้องรีบกลับไปที่บ้านก่อน เพราะผมก็ไม่รู้ว่าคุณท่านจะว่ายังไงต่อไป
"คุณหนูครับ กลับกันเถอะ เดี๋ยวจะสายมากไปกว่านี้นะครับ "
"ไม่ ผมไม่อยากกลับ พี่ถิง กลับไปป๊าก็ต้องบังคับอะไรผมอีก
ให้ผมอยู่ที่นี่เถอะนะ"
"ไม่ได้หรอกครับ เราจะอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้
แล้วคุณท่านก็ไม่ได้อยากจะบังคับคุณหนู
ที่ทำไปทั้งหมดเพราะท่านหวังดีกับคุณหนูนะครับ"
"ไม่ๆๆ ได้ยินมั้ยว่าไม่ไป ผมไม่ไป๊!!!"
ผมเอาตัวคุณหนูมากอดไว้ คุณหนูยังคงดิ้นไปมาในอ้อมกอดผม...
"ชู่วววว!!! คุณหนูๆๆ เชื่อพี่ถิงนะ กลับบ้านกัน
ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรคุณหนูได้ แม้แต่คุณท่าน"
ผมก้มหน้าลงจูบหน้าผากและไล่ลงไปที่ริมฝีปากเด็กดื้อตรงหน้าอีกครั้ง...ยิ่งจูบยิ่งไม่อยากหยุด
หรือผมจะฝืนคำสั่งอยู่ที่นี่ต่อไปดี แต่ไม่ได้หรอก
ยังไงก็ต้องกลับไปเผชิญหน้าทุกอย่าง...ผมจึงค่อยๆถอนปากออกมาก
"นะครับ คุณหนูของผม"
"ก็ได้ แต่พี่ถิงต้องสาบานก่อนนะ ว่าจะอยู่กับผมตลอด
แล้วก็อย่าให้ป๊ามาบังคับผมได้"
ผมรับปากไป คุณหนูจึงยอมแต่งตัวและกลับคฤหาสถ์หลี่แต่โดยดี...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน
ในเมื่อเรื่องราวของผมยังไม่กระจ่าง และผมก็ขัดคุณท่านไม่ค่อยจะได้ด้วย...เฮ้อ!!!
เมื่อมาถึงคฤหาสถ์หลี่เคนชาง นายท่านนั่งรออยู่ที่โซฟาแล้ว
คุณหนูเข้ามาจึงกระแทกตัวลงบนโซฟาด้านข้างด้วยหน้าตาบึ้งตึง
"นี่คือท่าทางการต้อนรับพ่อกลับบ้านของแกรึ
หลี่อี้เฟิง...."
"ผมก็เป็นของผมแบบนี้ ก็ไหนป๊าบอกว่าอีกเป็นเดือนไงกว่าจะกลับ
แล้วจะรีบเรียกผมมาทำไม ผมยังทำน้ำหอมใหม่ไม่เสร็จเลย"
"ชั้นก็รู้ว่าแกทำงาน แต่มีเรื่องที่จะสั่งให้แกทำ
ไม่งั้นชั้นก็ไม่เรียกแกมาหรอก"
"มีอะไรล่ะป๊า ก็ว่ามาสิ"
"อาทิตย์หน้า บริษัทของฝรั่งเศสจะจัดงานมหกรรมน้ำหอมที่ปักกิ่ง
ป๊าอยากให้แกเอาน้ำหอมตัวใหม่ของเราไปจัดแสดงด้วย
เพราะป๊าต้องอยู่เคลียร์เรื่องในบริษัททางนี้
ที่รีบกลับมานี่เพราะว่าเรื่องทุจริตของรองประธานติงนั่นแหละ แกต้องไปแทนชั้นอย่าทำให้ชั้นขายหน้าล่ะ"
"โธ่เอ้ย!!! นึกว่ามีอะไร เรื่องแค่นี้เอง
ป๊าเคยเห็นผมทำงานพลาดเหรอ"
"อืม ชั้นรู้ว่าแกไม่เคยพลาดหรอก แต่อยากจะย้ำอีกเรื่อง
ในงานนี้แกต้องคอยระวังตัวให้มาก อ้อ เหว่ยถิง!!! ฝากดูคุณหนูด้วย
เพราะชั้นได้ข่าวมาว่างานนี้อาจจะมีพวกกลุ่มไม่หวังดีออกมาป่วนงานได้"
"ครับ คุณท่าน ผมจะคอยระวังอย่างดี"
"ป๊าไม่ต้องห่วงหรอก ผมมีพี่ถิงอยู่ด้วย ไม่มีอะไรหรอกน่า"
"เออใช่!!! เห็นแม่นมบอกว่า
แกขอให้เหว่ยถิงไปอยู่ในห้องด้วยเหรอ"
"ใช่ แม่นมนี่ก็รายงานทุกอย่างเลยนะ ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร
มีพี่ถิงอยู่ด้วยผมก็สบายใจมากกว่า ทำไม ป๊าไม่โอเครึไง???"
"เปล่าหรอก ก็แค่ถาม แม่นมดูร้อนใจ สงสัยจะคิดถึงลูกตัวเอง
ว่าแต่เหว่ยถิง ดูๆแม่นมด้วยล่ะ ดูแปลกๆ จะเครียดอะไรนักหนา"
"ครับ คุณท่าน แม่ก็เป็นแบบนี้แหละครับ กังวลไปหมด
งั้นผมขอตัวไปสั่งงานลูกน้องก่อนนะครับ"
พอผมเดินออกไป ผมไม่รู้ว่าพ่อลูกเค้าคุยอะไรกันต่อ
แต่คิดว่าคงไม่เกี่ยวกับผมแล้ว แต่จริงๆผมคิดผิดไปถนัด...
"ป๊า!!! จะบ้ารึไง!!!"
ผมได้ยินคำพูดนั้นลั่นบ้านออกมา เลยรีบวิ่งเข้าไปดู
เห็นคุณท่านกำลังจับข้อมือคุณหนูไว้อย่างแรง
"ชั้นอยากให้แกทำ แกก็ต้องทำสิ เรื่องแค่นี้ทำไม ทำไม่ได้"
"ป๊า!!! ปล่อย...ผมเจ็บ"
คุณท่านยังไม่ยอมปล่อย ผมจึงรีบเข้าไปห้าม...
"คุณท่านใจเย็นๆครับ มีอะไรค่อยๆคุยกันจะดีกว่า"
ผมพยายามจะเอามือไปแกะมือคุณท่านออก
"เหว่ยถิง หยุดนะ นี่เป็นเรื่องของชั้น แกออกไปก่อน"
"แต่...คุณท่านครับ อย่าทำอะไรคุณหนูเลย
คุณหนูตั้งใจทำงานช่วยท่านมาตลอด"
"เอ๊ะ!!! แกนี่เป็นยังไง ชั้นสั่งว่าให้ออกไป
ชั้นจะคุยกับลูก"
หลังจากนั้นคุณท่านก็ยังบีบข้อมือคุณหนูไว้ แล้วพูด
โดยไม่สนใจว่ามีผมยืนอยู่ด้วย
"ชั้นแค่บอกให้แกไปอยู่บ้านตระกูลอู๋ ไม่ได้ให้แกไปตายนะ!!!
ในเมื่อบริษัทอู๋อยากจะเอาแกไปอยู่ด้วย ชั้นก็ยินดี พี่อู๋ก็บอกว่านี่เป็นเรื่องดี
แกก็ไปอยู่ ไปเรียนรู้งาน ล้วงความลับออกมาก็แค่นั้น"
"ไม่ป๊า!!! ผมเกลียดบ้านนั้นอย่างกับอะไร
ป๊ายังจะให้ผมไปอยู่กับมัน ป๊าบ้าไปแล้ว"
"ชั้นไม่รับรู้ ชั้นรู้แต่ว่า
ทางนั้นเสนอมาซึ่งชั้นเห็นว่ามันก็ดี จบงานแสดงน้ำหอม แกก็ไปได้เลยนะ
ชั้นบอกไปแล้ว"
"ป๊า!!! ผมเป็นลูกป๊านะ ป๊าจะให้ผมไปอยู่กับคนอื่น
ป๊าไม่เคยรักผมเลยใช่มั้ย ตั้งแต่แม่ตาย ป๊าก็ไม่เคยสนใจผมอีก"
ผมคิดว่านี่เรื่องราวมันชักจะไปกันใหญ่
ทำไมคุณท่านต้องให้คุณหนูไปบ้านตระกูลอู๋ด้วย ผมก็งงเหมือนกัน
แต่ว่าปัญหาตรงหน้าท่าทางจะมากกว่า...
"ผมไม่ไป ได้ยินมั้ยว่าผมไม่ไป"
"แกนี่!!! ชั้นสั่งอะไรแกต้องขัดตลอดใช่มั้ย
อยากจะลองดีรึไง"
นายท่านดึงตัวคุณหนูลุกขึ้น แล้วลากไปเรื่อยๆ
ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากคอยเดินตามเฝ้าอยู่ใกล้ๆ
"ไหนไหว้ป้ายวิญญาณแม่แก แล้วบอกสิ แกเคยบอกว่าจะเชื่อฟังชั้น
ไม่ใช่รึไง"
คุณท่านทิ้งตัวคุณหนูให้นั่งกับพื้น ตอนนี้คุณหนูน้ำตาไหลเอ่อ
เต็มสองตาอย่างไม่อายใคร พอพูดเรื่องแม่ทีไร คุณหนูจะร้องไห้ไม่หยุดเหมือนเด็กขี้แย
ซึ่งนี่เป็นอีกเรื่องที่เป็นปมในใจของทั้งสองคนเช่นกัน
"ป๊า!!! ฮือๆ อย่าบังคับผมเลย ผมไม่อยากไป....นะ ป๊า!!!"
"เอ๊ะ แกนี่มันยังไง โตจนป่านนี้แล้ว อย่ามาทำซำออย
ชั้นบอกให้พูดไง ว่าแกจะเชื่อฟัง เหมือนที่เคยพูดเมื่อก่อน"
"ป๊า!!! ฮือๆๆๆ"
"หลี่อี้เฟิง หยุดร้องไห้
ลูกชายคนเดียวของตระกูลหลี่ทำไมถึงได้ขี้แยแบบนี้ อายเค้า หยุด!!!"
คุณหนูยังร้องไห้ต่อไปไม่หยุด โดยมีคุณท่านยืนมองและเริ่มโมโหมากขึ้น
จนเดินไปหยิบไม้ที่เอาไว้หวดม้าเวลาไปขี่ม้าที่สนามแล้วตรงมาหาคุณหนู...
"แกจะหยุดมั้ย!!! หยุดร้องสิ อ่อนแอแบบนี้ แม่แกถึงได้ตาย"
คุณท่านเฆี่ยนตีตุณหนูเหมือนระบายอะไรบางอย่างมากกว่าอยากจะทำร้าย
"ป๊า!!! โอ้ย!!! ผมเจ็บ ป๊า!!! หยุดนะ"
คุณหนูลุกขึ้นมาทำท่าจะสู้ตอบ ผมเลยได้จังหวะเข้าไปขวาง...
"คุณท่านๆๆ หยุดเถอะครับ ผมขอร้อง อย่าตีคุณหนูเลย"
ทุกอย่างหยุดนิ่ง!!!
"ได้ ถ้าแกอยากจะปกป้อง ไอ้ลูกไม่รักดีคนนี้ ชั้นจะให้แกทำ
นั่งลงสิเหว่ยถิง"
"ป๊า!!! จะทำอะไร ป๊าบ้า โรคจิตไปแล้ว"
ผมนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าป้ายวิญญาณคุณนาย...
คุณท่านมองป้ายวิญญาณครั้งนึงแล้วเริ่มหวดไม้นั่นใส่หลังผม...มันก็เจ็บแต่ไม่มากเท่าไหร่
เหมือนคุณท่านไม่ได้ใส่แรงมามากนัก ผมไม่ได้ร้องออกไป เพื่อคุณหนูผมก็ต้องอดทน...
คุณท่านหวดมาได้ 3 ครั้งก็หยุด แม่นมก็วิ่งเข้ามาพอดี...
"ดีมาก...อดทนได้ดี"
แม่นมยังไม่เข้าใจเหตุการณ์เท่าไหร่ ได้แต่ขอร้อง...
"คุณท่านคะ อิชั้นขอร้อง อย่ารุนแรงกันอีกเลย"
คุณท่านโยนไม้ทิ้งไป แล้วหันไปพูดกับคุณหนูอีกครั้ง
"ก็ได้ อี้เฟิง ถ้าแกไม่ไปอยู่บ้านตระกูลอู๋
ชั้นจะจัดการกับเหว่ยถิง แกก็รู้ว่าชั้นทำอะไรได้บ้างกับคนระดับนี้"
"ป๊า!!! บ้า!!! บ้าไปแล้ว!!!"
คุณหนูไม่พูดอะไรต่อ วิ่งขึ้นไปบนห้องด้วยแล้วปิดประตูเสียงดังลั่น
ผมได้ยินโครมครามอยู่ภายในห้อง...
ผมกำลังจะลุกขึ้น คุณท่านจึงพูดกับผม...
"ขอบใจนะ ที่ช่วยอี้เฟิงมาตลอด ชั้นไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้
แต่ลูกดื้อคนนี้ไม่เคยเข้าใจ"
"ครับ คุณท่าน ผมแค่ต้องการปกป้องคุณหนู"
"ไปอยู่บ้านตระกูลอู๋ ชั้นให้แกไปด้วย
แล้วสืบความลับบางอย่างให้ชั้นด้วย เข้าใจมั้ย ห้ามบอกใครแม้แต่อี้เฟิง"
ผมหันไปมองหน้าคุณท่าน แต่ก็รับคำสั่งโดยดี
ไม่ว่าอะไรผมก็ต้องทำเพราะคุณท่านก็มีบุณคุณกับผมเช่นกัน...
"ไปเถอะ ดูแลคุณหนูแกด้วยล่ะ ชั้นมันพ่อไม่เอาไหน
ทำได้แค่ฝากเค้าไว้กับแก"
พูดจบคุณท่านก็นั่งลงหน้าป้ายวิญญาณคุณนาย
และดูเหมือนน้ำตาแห่งความเศร้าจะเอ่อล้นอยู่ภายใน...
ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงนั้นแล้ว จึงเดินขึ้นมาบนห้องคุณหนู...
พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก็พบคุณหนูนั่งอยู่ที่เตียง ก้มหน้าลงเหมือนคนคิดอะไรบางอย่าง...
"พี่ถิง เราหนีไปกันเถอะ ผมไม่อยากอยู่แล้ว ไอ้บ้านบ้าๆนี่
มีแต่พ่อบ้าๆๆ"
ผมเดินไปหยุดหน้าคุณหนู ดึงเค้ามากอดไว้...เอามือลูบหัวเบาๆ
"หนีไปไหนล่ะครับ เราหนีคุณท่านไม่พ้นหรอก
คุณหนูไปไหนก็จะมีผมไปด้วย ไม่ต้องกลัวนะครับ"
"ไม่!!! ผมบอกแล้วว่าป๊าบังคับผม
ผมไม่อยากไปอยู่บ้านอู๋นั่น"
"คุณหนูคิดว่าทำเพื่อบริษัทสิครับ
แล้วอีกอย่างก็เพื่อผมด้วย"
คุณหนูผละตัวออกจากผมทันทีที่ได้ยินประโยคนี้..
"อะไร??? พี่ไปเกี่ยวอะไรด้วย หรือว่าพี่อยากจะอยู่กับมัน
ก็ไปสิ ไปเลย"
"ไม่ใช่นะครับ คุณหนูฟังก่อน"
"พี่ชอบมันใช่มั้ย อู๋อี้ฝานนั่น พี่จะไปอยู่กับมัน!!!"
"คุณหนู ผมเปล่านะครับ"
"งั้นก็หนีไป ไปคืนนี้เลย ไปกับผม นะ!!!"
"คุณหนูครับ เราไม่ควรหนี เราควรไปบ้านอู๋นั่น ผมมีเหตุผล"
ผมนั่งลงคุกเข่าตรงหน้าคุณหนู ที่ดูเหมือนกำลังโกรธมาก...
"พี่ถิง ถอดเสื้อออก!!!"
คุณหนูตะโกนสั่งออกมาเมื่อมองผมที่อยู่ด้านหน้า
"คุณหนู จะทำอะไร???" ผมเริ่มไม่เข้าใจ
คุณหนูถอยหลังไปติดกำแพงแล้วนั่งกอดเข่าตัวเองมองผม
"ผมสั่งให้ถอดเสื้อออกไง"
ผมจึงต้องแกะกระดุมเสื้อและถอดเสื้อตัวเองออกแบบงงๆ...
"ถอดกางเกงออกด้วย"
"คุณหนู จะเล่นอะไรอีก ผมงงไปหมดแล้ว"
"สั่งก็ทำสิ!!! ไหนบอกว่าเชื่อฟังผมไง
ไม่ได้อยากยุ่งกับไอ้บ้านั่น ก็ทำตามที่ผมสั่ง"
ผมจึงค่อยๆยืนขึ้น แล้วถอดเข็มขัดและกางเกงออกอย่างช้าๆ
จนทุกอย่างมากองที่พื้น ผมเหลือแค่กางเกงชั้นในสีดำชิ้นเดียว คนตรงหน้จ้องทุกส่วนของผมอย่างไม่วางตา...
คุณหนูค่อยๆลุกขึ้น ยืนบนเตียงและมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าผม
ค่อยๆเอามือล้วงลงไปในกางเกงชั้นในผม แล้วเริ่มบีบนวดคลึง
แก่นกายของผมรู้สึกตัวตื่นอย่างฉับพลัน ผมจึงเอามือจับมือคุณหนูไว้...
"อืมมมมม อ๊าาาา คุณหนู...นี่มันอะไรกันครับ"
"ในเมื่อพี่ไม่หนีไปกับผม และยังอยากไปบ้านตระกูลอู๋นั่น
พี่ก็ต้องตามใจผม"
"แต่...แต่ ที่ทำทั้งหมดนี่ ผมหวังดีกับคุณหนูนะ"
คุณหนูยังคงเอามือคลอเคล้าส่วนล่างนั่นไปเรื่อยๆ ไม่หยุด
จนผมต้องปล่อยตามใจคุณหนู เพราะตอนนี้ผมก็ต้องการเช่นกัน
และในเมื่อเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์...
"พี่ถิง ถอดเสื้อให้หน่อย"
แทบจะไม่ต้องสั่ง
ผมแกะเสื้อคุณหนูออกอย่างรวดเร็วจนแทบจะฉีกก็ว่าได้...ร่างกายผมทำได้อย่างไม่ต้องคิด
ผมกำลังจะเอามือลูบไล้อกขาวอวบด้านหน้า
"หยุด!!!ผมแค่ให้ถอดเสื้อ แล้วยืนเฉยๆ"
"คุณหนู ผมทำอะไรผิด ผมบอกแล้วว่าผมรักคุณหนู
ผมไม่ทิ้งคุณหนูไปไหน อย่าทำแบบนี้สิครับ"
"ผมอยากหนีไปไหนก็ได้ ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับเรา พี่ก็ไม่ยอมไป
เพราะงั้นคืนนี้พี่ก็ต้องตามใจผมด้วย...อย่ามาบังคับผมเหมือนป๊าอีกคน
รู้มั้ย!!!"
คุณหนูคุกเข่าลงค่อยเอาปากดูดยอดอกผมอย่างแรง
และไล่มาเรื่อยๆจากซ้ายไปขวา
จนผมต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อแอ่นอกแข็งแรงรองรับจูบนั่นอย่างไม่กล้าปฏิเสธ...คุณหนูใช้มือนึงลูบไล้ส่วนบน
อีกมือเกาะกุมด้านล่างเอาไว้อีก มันยิ่งทำให้ตัวผมแทบระเบิดออก...
คุณหนูดูดคลึงส่วนอก ขบกัดที่จุกยอดของมันเบาๆ จนผมเสี่ยวซ่านไปหมด
ในขณะเดียวกันก็เอาสองมือสอดรูดกางเกงชั้นในของผมลงไปเล็กน้อย
เผยให้เห็นรอยสักกางเขนชัดเจน...
คราวนี้คุณหนูค่อยๆเลื่อนตัวลงจูบไปเรื่อยๆสะเปะสะปะจนถึงรอยสักนั่น
แล้วเงยหน้ามาพูดกับผม...
"พี่บอกเองนะว่า รอยสักนี่เป็นของผม จำเอาไว้ มันเป็นของผม"
ผมพยักหน้างึกงักเหมือนคนไร้สติ ตอนนี้สติผมแทบหลุดไปแล้ว
คงเหลือแต่ความรู้สึกอยากปลดปล่อยไปกับคนตรงหน้าแบบควบคุมไม่ได้...คุณหนูเอาปากครอบแก่นกลางกายของผมไว้อย่างไม่ปราณี
พร้อมด้วยการเอาฟันครูดไปเบาๆในจังหวะเดียวกับการขึ้นและลงเพื่อปลุกเร้าผม
จนผมต้องเอามือไปบดขยี้ผมคุณหนูพร้อมร้องออกไป...
"อื๊อออออ คุณหนูๆ อ๊าาาาา"
ยังไม่ทันที่คุณหนูจะทำอะไรต่อ
ส่วนที่อัดอั้นอยู่ด้านในก็ทะลักออกมาเป็นน้ำสีขาวขุ่น
เลอะเทอะปากและส่วนนั้นเต็มไปหมด...
คุณหนูเอามือป้ายปากเหมือนเช็ดแล้วยืนขึ้น
"ถอดกางเกงให้ผมสิ"
ผมจึงทำตามคำสั่งแต่โดยดีและเต็มใจ เอามือรูดซิบและค่อยๆถอดกางเกงออก
พร้อมลูบไล้โคนขาไปเรื่อยๆ...
"ถอดให้หมดสิพี่ถิง"
ผมจึงเอามือรูดกางเกงในสีขาวของคุณหนูออก
แล้วโยนไปด้านข้างเตียง...ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว พร้อมมาก
"คุณหนูครับ ผมไม่ไหวแล้ว!!!"
คุณหนูเอามือสองข้างมาดึงหน้าผมเข้าไปจูบ ลิ้นกวาดไปทั่วปาก
ไอร้อนจากลมหายใจตรงหน้าปะทะหน้าผม ลิ้นผมตอบรับอย่างดี ปลายลิ้นหยอกเย้าแตะกัน
หวานมากจนผมรู้สึกได้...มันดีจริงๆ
"อืมมม พี่ถิง แสดงให้ผมเห็นสิว่ารักผม"
คุณหนูถอนปากออกมา...
"คะ..ครับ คุณหนู ผมเป็นพี่ถิงที่ตามใจคุณหนูคนเดียวเท่านั้น"
หลังจากประโยคนั้น ผมแทบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
ผมพลักคนตรงหน้าลงไปที่เตียง แล้วผมก็ยกสะโพกเค้าขึ้นนิดหน่อย
ดันขาแยกออกเพื่อรับส่วนของผมให้เข้าไปได้อย่างเต็มที่...
ช่องทางด้านหลังที่ยังไม่เปิดเท่าไหร่
ผมจึงเอานิ้วมือที่ชุ่มน้ำรักสีขาวนั่นสอดเข้าไปเบิกทางให้ก่อน
ดันเข้าออกสักพักพร้อมจูบไปที่หน้าอกคนตรงหน้าอย่างไม่ออมแรง
ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้ว สอดใส่ส่วนกลางกายที่ตั้งชันของผมเข้าไปเต็มที่...
"อ๊าาาาา พี่ถิง อ๊าาาา"
ผมยังคงใส่เข้าไปอีก
พร้อมยกขาพาดไหล่ผมเอาไว้..คุณหนูเอามือจิกที่ไหล่ผมเต็มแรง...
"อ๊าาาา พี่ถิง เจ็บ เจ็บนะ"
"คุณหนูๆๆ อึกกก"
ผมไม่สนใจอะไร
สอดใส่เข้าออกและดันสะโพกคนตรงหน้าให้สอดรับกันเป็นจังหวะ และเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งแรงและเร็ว
"พี่ถิง อ๊าาา ซีสสสสสส"
ผมรู้สึกได้ถึงเสียงร้องที่พอใจของคุณหนู
ผมยังหยุดไม่ได้และรู้สึกดีที่ทำให้เค้าพอใจมากขึ้น...
"คุณหนูเชื่อผมใช่มั้ย ว่าผมรักคุณหนู"
"อ๊าาาา อะ..อืมมมมมม"
"อึกกก"
ผมดันเข้าไปลึกขึ้นอีก
จนคนตรงหน้าร้องออกมาอีก...เล็บยังคงจิกที่ไหล่ผมอย่างแรง...
"อ๊าาาา ดีๆ อ๊าาา พี่ถิง"
ผมก้มลงจูบไล้ไปที่ซอกคอและกระซิบข้างหู...
"ไม่ต้องหนีไปไหนนะครับ ผมจะเชื่อฟังคุณหนูแบบนี้ต่อไป"
คุณหนูไม่พูดอะไรแต่หันหน้ามาจูบตอบผมอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ปากดูดเข้าออก พร้อมโยกตัวเพื่อกระแทกให้เป็นจังหวะต่อไปอีกสักพัก...
ผมค่อยๆผ่อนจังหวะช้าลงเพราะเหงือที่เริ่มผุดขึ้นมาตรงหน้าผาก
ผมจึงปล่อยเค้านอนลง แล้วพลิกตัวมานอนอยู่ข้างๆ
"คุณหนูผมมีหลายเรื่องอยากจะบอก นอนพักก่อนนะครับ"
คุณหนูพยักหน้าและหลับตาลงในอ้อมแขนผม...ตอนแรกก็เหมือนจะเอาแต่ใจ
ออกคำสั่ง อารมณ์ร้าย แต่พอเห็นแบบนี้ทีไร คุณหนูเหมือนเด็กน้อยๆที่ผมอยากกอดเอาไว้แบบนี้ทุกทีสิ
...............................โปรดติดตามตอนต่อไป................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น