วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บอดี้การ์ดหน้าใสกับคุณหนูตัวร้าย My pretty boy (NC17) ตอนที่ 4

ตอนที่ 4 หนี (Run away with me)
My Pretty boy
เฉินเหว่ยถิง : บอดี้การ์ดหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลา ดึงดูดใจ นิสัยเงียบขรึม บางครั้งก็ขี้เล่น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถูกประธานเคน เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ 10 ขวบ ไม่รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง จำได้เพียงชื่อตัวเองเท่านั้น

หลี่อี้เฟิง : คุณหนูของบ้านตระกูลหลี่ เป็นลูกคนเดียวของประธานบริษัทผลิตน้ำหอมรายใหญ่ของโลก จึงถูกเรียกว่าคุณหนู นิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถูกตามใจแต่เล็ก รวมทั้งพอแม่เสียตอนอายุ 15 ปี นิสัยนี้ยิ่งเป็นมากขึ้น อยากได้อะไรก็ต้องได้ เอาเงินซื้อทุกอย่าง

ประธานเคน : ประธานบริษัทหลี่เพอร์ฟูม ทำธุรกิจมากมาย ไม่มีเวลาให้กับลูกชายคนเดียวมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเมียตายจึงเสียใจมากและทุ่มเทกับงาน มีศัตรูมากมายจึงต้องจ้างบอดี้การ์ดดูแลหลายคน


อู๋อี้ฝาน : ลูกชายของบริษัทอู๋ คู่แข่งคนสำคัญของอี้เฟิง นิสัยร่าเริงสนุกสนาน มองโลกในแง่ดีตลอดเนื่องจากครอบครัวอบอุ่นมากจนบางทีเค้าก็บ่นว่าร้อนเลยทีเดียว

แม่นมเหยียน : ผู้ดูแลความเรียบร้อยในบ้านและอาหารการกินทุกอย่างของคุณหนูอี้เฟิง และเป็นคนดูแลเหว่ยถิงมาตั้งแต่ถูกเก็บมาเลี้ยงที่บ้านตระกูลหลี่

เลขาเทียน : ผู้คอยดูแลเรื่องเกี่ยวกับในบริษัทให้กับคุณหนูหลี่อี้เฟิง และต้องคอยบอกรายละเอียดงานกับบอดี้การ์ดเฉินเหว่ยถิงด้วย เขามักจะเห็นว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแปลกๆ แต่ก็ยังไม่มั่นใจนัก

Thanks original pics...


       หลังจากวางโทรศัพท์ ผมค่อยๆเอามือเขย่าร่างตรงหน้าเบาๆ...
"คุณหนูครับ ตื่นเถอะ เราต้องกลับบ้านกัน คุณท่านกลับมาแล้วครับ"


คุณหนูเอามือขยี้ตาเบาๆ แล้วหันหน้ามามองผม

"ไม่กลับไม่ได้เหรอพี่ถิง ผมไม่อยากเจอป๊า ไหนบอกว่าอีกเป็นเดือนกว่าจะกลับ ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ"

"คุณหนู อย่าเอาแต่ใจสิครับ ไปครับ ลุกขึ้น อึ้บบบบ"

ผมเอามือดันร่างเล็กของคนตรงหน้าขึ้น เค้าหนักนิดหน่อย แต่ผมก็สามารถดันเค้าขึ้นไปนั่งได้

"พี่ถิงอ่ะ ชอบบังคับผม ตกลงใครเป็นเจ้านายกันแน่"

"โธ่!!! คุณหนูครับ ผมแค่ไม่อยากให้คุณหนูมีปัญหากับท่าน เวลาคุณหนูทะเลาะกับท่านทีไร คุณหนูก็มีแต่โดนลงโทษ ผมไม่อยากเห็นคุณหนูต้องลำบากอีก"

"พี่ถิงก็เลยพลอยเจ็บตัวไปด้วย ผมยังจำรอยแผลนี้ได้ ตรงนี้"

คุณหนูก้มหน้าลงมาจูบเบาๆบริเวณหน้าท้องด้านขวา...

"นี่ยังเป็นรอยจ้ำแดงๆอยู่เลย!!!"

ผมเอามือจับแขนทั้งสองข้างของคุณหนูไว้
"รอยนี่หน่ะ ช่างมันเถอะครับ แต่ตอนนี้คุณหนูกำลังจะทำให้ผมมีรอยแดงใหม่ๆเต็มไปหมดนะ"

"ก็มันจริงนี่นา ตอนนั้นที่ป๊าจะตีผม พี่มาบังผมแล้วเลยไปโดนน้ำแกงร้อนๆตรงนี้ เจ็บมากมั้ย"

คุณหนูเอามือมาลูบที่แผลเบาๆ ทำให้ผมยังจำภาพนั้นได้...
ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ เอาตัวเข้าไปบังคุณท่านจากการที่จะเอาไม้มาตีคุณหนู ถึงจะเป็นเรื่องของพ่อกับลูก แต่คุณท่านไม่ฟังอะไร จะตีคุณหนูอย่างเดียว เลยทำให้ผมต้องเอาตัวเข้าไปขวาง ทำให้น้ำร้อนที่อยู่บนโต๊ะอาหารหกใส่ผมอย่างช่วยไม่ได้...แต่ช่างมันก่อน ตอนนี้ต้องรีบกลับไปที่บ้านก่อน เพราะผมก็ไม่รู้ว่าคุณท่านจะว่ายังไงต่อไป


"คุณหนูครับ กลับกันเถอะ เดี๋ยวจะสายมากไปกว่านี้นะครับ "

"ไม่ ผมไม่อยากกลับ พี่ถิง กลับไปป๊าก็ต้องบังคับอะไรผมอีก ให้ผมอยู่ที่นี่เถอะนะ"

"ไม่ได้หรอกครับ เราจะอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้ แล้วคุณท่านก็ไม่ได้อยากจะบังคับคุณหนู ที่ทำไปทั้งหมดเพราะท่านหวังดีกับคุณหนูนะครับ"

"ไม่ๆๆ ได้ยินมั้ยว่าไม่ไป ผมไม่ไป๊!!!"

ผมเอาตัวคุณหนูมากอดไว้ คุณหนูยังคงดิ้นไปมาในอ้อมกอดผม...

"ชู่วววว!!! คุณหนูๆๆ เชื่อพี่ถิงนะ กลับบ้านกัน ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรคุณหนูได้ แม้แต่คุณท่าน"

ผมก้มหน้าลงจูบหน้าผากและไล่ลงไปที่ริมฝีปากเด็กดื้อตรงหน้าอีกครั้ง...ยิ่งจูบยิ่งไม่อยากหยุด หรือผมจะฝืนคำสั่งอยู่ที่นี่ต่อไปดี แต่ไม่ได้หรอก ยังไงก็ต้องกลับไปเผชิญหน้าทุกอย่าง...ผมจึงค่อยๆถอนปากออกมาก

"นะครับ คุณหนูของผม"

"ก็ได้ แต่พี่ถิงต้องสาบานก่อนนะ ว่าจะอยู่กับผมตลอด แล้วก็อย่าให้ป๊ามาบังคับผมได้"

ผมรับปากไป คุณหนูจึงยอมแต่งตัวและกลับคฤหาสถ์หลี่แต่โดยดี...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน ในเมื่อเรื่องราวของผมยังไม่กระจ่าง และผมก็ขัดคุณท่านไม่ค่อยจะได้ด้วย...เฮ้อ!!!


เมื่อมาถึงคฤหาสถ์หลี่เคนชาง นายท่านนั่งรออยู่ที่โซฟาแล้ว คุณหนูเข้ามาจึงกระแทกตัวลงบนโซฟาด้านข้างด้วยหน้าตาบึ้งตึง

"นี่คือท่าทางการต้อนรับพ่อกลับบ้านของแกรึ หลี่อี้เฟิง...."


"ผมก็เป็นของผมแบบนี้ ก็ไหนป๊าบอกว่าอีกเป็นเดือนไงกว่าจะกลับ แล้วจะรีบเรียกผมมาทำไม ผมยังทำน้ำหอมใหม่ไม่เสร็จเลย"

"ชั้นก็รู้ว่าแกทำงาน แต่มีเรื่องที่จะสั่งให้แกทำ ไม่งั้นชั้นก็ไม่เรียกแกมาหรอก"

"มีอะไรล่ะป๊า ก็ว่ามาสิ"

"อาทิตย์หน้า บริษัทของฝรั่งเศสจะจัดงานมหกรรมน้ำหอมที่ปักกิ่ง ป๊าอยากให้แกเอาน้ำหอมตัวใหม่ของเราไปจัดแสดงด้วย เพราะป๊าต้องอยู่เคลียร์เรื่องในบริษัททางนี้ ที่รีบกลับมานี่เพราะว่าเรื่องทุจริตของรองประธานติงนั่นแหละ แกต้องไปแทนชั้นอย่าทำให้ชั้นขายหน้าล่ะ"

"โธ่เอ้ย!!! นึกว่ามีอะไร เรื่องแค่นี้เอง ป๊าเคยเห็นผมทำงานพลาดเหรอ"

"อืม ชั้นรู้ว่าแกไม่เคยพลาดหรอก แต่อยากจะย้ำอีกเรื่อง ในงานนี้แกต้องคอยระวังตัวให้มาก อ้อ เหว่ยถิง!!! ฝากดูคุณหนูด้วย เพราะชั้นได้ข่าวมาว่างานนี้อาจจะมีพวกกลุ่มไม่หวังดีออกมาป่วนงานได้"

"ครับ คุณท่าน ผมจะคอยระวังอย่างดี"

"ป๊าไม่ต้องห่วงหรอก ผมมีพี่ถิงอยู่ด้วย ไม่มีอะไรหรอกน่า"

"เออใช่!!! เห็นแม่นมบอกว่า แกขอให้เหว่ยถิงไปอยู่ในห้องด้วยเหรอ"

"ใช่ แม่นมนี่ก็รายงานทุกอย่างเลยนะ ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร มีพี่ถิงอยู่ด้วยผมก็สบายใจมากกว่า ทำไม ป๊าไม่โอเครึไง???"

"เปล่าหรอก ก็แค่ถาม แม่นมดูร้อนใจ สงสัยจะคิดถึงลูกตัวเอง ว่าแต่เหว่ยถิง ดูๆแม่นมด้วยล่ะ ดูแปลกๆ จะเครียดอะไรนักหนา"

"ครับ คุณท่าน แม่ก็เป็นแบบนี้แหละครับ กังวลไปหมด งั้นผมขอตัวไปสั่งงานลูกน้องก่อนนะครับ"

พอผมเดินออกไป ผมไม่รู้ว่าพ่อลูกเค้าคุยอะไรกันต่อ แต่คิดว่าคงไม่เกี่ยวกับผมแล้ว แต่จริงๆผมคิดผิดไปถนัด...




"ป๊า!!! จะบ้ารึไง!!!"

ผมได้ยินคำพูดนั้นลั่นบ้านออกมา เลยรีบวิ่งเข้าไปดู เห็นคุณท่านกำลังจับข้อมือคุณหนูไว้อย่างแรง

"ชั้นอยากให้แกทำ แกก็ต้องทำสิ เรื่องแค่นี้ทำไม ทำไม่ได้"

"ป๊า!!! ปล่อย...ผมเจ็บ"

คุณท่านยังไม่ยอมปล่อย ผมจึงรีบเข้าไปห้าม...

"คุณท่านใจเย็นๆครับ มีอะไรค่อยๆคุยกันจะดีกว่า"

ผมพยายามจะเอามือไปแกะมือคุณท่านออก

"เหว่ยถิง หยุดนะ นี่เป็นเรื่องของชั้น แกออกไปก่อน"

"แต่...คุณท่านครับ อย่าทำอะไรคุณหนูเลย คุณหนูตั้งใจทำงานช่วยท่านมาตลอด"


"เอ๊ะ!!! แกนี่เป็นยังไง ชั้นสั่งว่าให้ออกไป ชั้นจะคุยกับลูก"

หลังจากนั้นคุณท่านก็ยังบีบข้อมือคุณหนูไว้ แล้วพูด โดยไม่สนใจว่ามีผมยืนอยู่ด้วย

"ชั้นแค่บอกให้แกไปอยู่บ้านตระกูลอู๋ ไม่ได้ให้แกไปตายนะ!!! ในเมื่อบริษัทอู๋อยากจะเอาแกไปอยู่ด้วย ชั้นก็ยินดี พี่อู๋ก็บอกว่านี่เป็นเรื่องดี แกก็ไปอยู่ ไปเรียนรู้งาน ล้วงความลับออกมาก็แค่นั้น"

"ไม่ป๊า!!! ผมเกลียดบ้านนั้นอย่างกับอะไร ป๊ายังจะให้ผมไปอยู่กับมัน ป๊าบ้าไปแล้ว"


"ชั้นไม่รับรู้ ชั้นรู้แต่ว่า ทางนั้นเสนอมาซึ่งชั้นเห็นว่ามันก็ดี จบงานแสดงน้ำหอม แกก็ไปได้เลยนะ ชั้นบอกไปแล้ว"


"ป๊า!!! ผมเป็นลูกป๊านะ ป๊าจะให้ผมไปอยู่กับคนอื่น ป๊าไม่เคยรักผมเลยใช่มั้ย ตั้งแต่แม่ตาย ป๊าก็ไม่เคยสนใจผมอีก"


ผมคิดว่านี่เรื่องราวมันชักจะไปกันใหญ่ ทำไมคุณท่านต้องให้คุณหนูไปบ้านตระกูลอู๋ด้วย ผมก็งงเหมือนกัน แต่ว่าปัญหาตรงหน้าท่าทางจะมากกว่า...


"ผมไม่ไป ได้ยินมั้ยว่าผมไม่ไป"

"แกนี่!!! ชั้นสั่งอะไรแกต้องขัดตลอดใช่มั้ย อยากจะลองดีรึไง"

นายท่านดึงตัวคุณหนูลุกขึ้น แล้วลากไปเรื่อยๆ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากคอยเดินตามเฝ้าอยู่ใกล้ๆ

"ไหนไหว้ป้ายวิญญาณแม่แก แล้วบอกสิ แกเคยบอกว่าจะเชื่อฟังชั้น ไม่ใช่รึไง"

คุณท่านทิ้งตัวคุณหนูให้นั่งกับพื้น ตอนนี้คุณหนูน้ำตาไหลเอ่อ เต็มสองตาอย่างไม่อายใคร พอพูดเรื่องแม่ทีไร คุณหนูจะร้องไห้ไม่หยุดเหมือนเด็กขี้แย ซึ่งนี่เป็นอีกเรื่องที่เป็นปมในใจของทั้งสองคนเช่นกัน

"ป๊า!!! ฮือๆ อย่าบังคับผมเลย ผมไม่อยากไป....นะ ป๊า!!!"

"เอ๊ะ แกนี่มันยังไง โตจนป่านนี้แล้ว อย่ามาทำซำออย ชั้นบอกให้พูดไง ว่าแกจะเชื่อฟัง เหมือนที่เคยพูดเมื่อก่อน"

"ป๊า!!! ฮือๆๆๆ"


"หลี่อี้เฟิง หยุดร้องไห้ ลูกชายคนเดียวของตระกูลหลี่ทำไมถึงได้ขี้แยแบบนี้ อายเค้า หยุด!!!"

คุณหนูยังร้องไห้ต่อไปไม่หยุด โดยมีคุณท่านยืนมองและเริ่มโมโหมากขึ้น จนเดินไปหยิบไม้ที่เอาไว้หวดม้าเวลาไปขี่ม้าที่สนามแล้วตรงมาหาคุณหนู...

"แกจะหยุดมั้ย!!! หยุดร้องสิ อ่อนแอแบบนี้ แม่แกถึงได้ตาย"

คุณท่านเฆี่ยนตีตุณหนูเหมือนระบายอะไรบางอย่างมากกว่าอยากจะทำร้าย

"ป๊า!!! โอ้ย!!! ผมเจ็บ ป๊า!!! หยุดนะ"

คุณหนูลุกขึ้นมาทำท่าจะสู้ตอบ ผมเลยได้จังหวะเข้าไปขวาง...

"คุณท่านๆๆ หยุดเถอะครับ ผมขอร้อง อย่าตีคุณหนูเลย"



ทุกอย่างหยุดนิ่ง!!!

"ได้ ถ้าแกอยากจะปกป้อง ไอ้ลูกไม่รักดีคนนี้ ชั้นจะให้แกทำ นั่งลงสิเหว่ยถิง"

"ป๊า!!! จะทำอะไร ป๊าบ้า โรคจิตไปแล้ว"

ผมนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าป้ายวิญญาณคุณนาย...

คุณท่านมองป้ายวิญญาณครั้งนึงแล้วเริ่มหวดไม้นั่นใส่หลังผม...มันก็เจ็บแต่ไม่มากเท่าไหร่ เหมือนคุณท่านไม่ได้ใส่แรงมามากนัก ผมไม่ได้ร้องออกไป เพื่อคุณหนูผมก็ต้องอดทน...

คุณท่านหวดมาได้ 3 ครั้งก็หยุด แม่นมก็วิ่งเข้ามาพอดี...

"ดีมาก...อดทนได้ดี"


แม่นมยังไม่เข้าใจเหตุการณ์เท่าไหร่ ได้แต่ขอร้อง...

"คุณท่านคะ อิชั้นขอร้อง อย่ารุนแรงกันอีกเลย"

คุณท่านโยนไม้ทิ้งไป แล้วหันไปพูดกับคุณหนูอีกครั้ง

"ก็ได้ อี้เฟิง ถ้าแกไม่ไปอยู่บ้านตระกูลอู๋ ชั้นจะจัดการกับเหว่ยถิง แกก็รู้ว่าชั้นทำอะไรได้บ้างกับคนระดับนี้"

"ป๊า!!! บ้า!!! บ้าไปแล้ว!!!"

คุณหนูไม่พูดอะไรต่อ วิ่งขึ้นไปบนห้องด้วยแล้วปิดประตูเสียงดังลั่น ผมได้ยินโครมครามอยู่ภายในห้อง...



ผมกำลังจะลุกขึ้น คุณท่านจึงพูดกับผม...

"ขอบใจนะ ที่ช่วยอี้เฟิงมาตลอด ชั้นไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่ลูกดื้อคนนี้ไม่เคยเข้าใจ"

"ครับ คุณท่าน ผมแค่ต้องการปกป้องคุณหนู"

"ไปอยู่บ้านตระกูลอู๋ ชั้นให้แกไปด้วย แล้วสืบความลับบางอย่างให้ชั้นด้วย เข้าใจมั้ย ห้ามบอกใครแม้แต่อี้เฟิง"

ผมหันไปมองหน้าคุณท่าน แต่ก็รับคำสั่งโดยดี ไม่ว่าอะไรผมก็ต้องทำเพราะคุณท่านก็มีบุณคุณกับผมเช่นกัน...

"ไปเถอะ ดูแลคุณหนูแกด้วยล่ะ ชั้นมันพ่อไม่เอาไหน ทำได้แค่ฝากเค้าไว้กับแก"


พูดจบคุณท่านก็นั่งลงหน้าป้ายวิญญาณคุณนาย และดูเหมือนน้ำตาแห่งความเศร้าจะเอ่อล้นอยู่ภายใน...

ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงนั้นแล้ว จึงเดินขึ้นมาบนห้องคุณหนู...

พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก็พบคุณหนูนั่งอยู่ที่เตียง ก้มหน้าลงเหมือนคนคิดอะไรบางอย่าง...


"พี่ถิง เราหนีไปกันเถอะ ผมไม่อยากอยู่แล้ว ไอ้บ้านบ้าๆนี่ มีแต่พ่อบ้าๆๆ"

ผมเดินไปหยุดหน้าคุณหนู ดึงเค้ามากอดไว้...เอามือลูบหัวเบาๆ

"หนีไปไหนล่ะครับ เราหนีคุณท่านไม่พ้นหรอก คุณหนูไปไหนก็จะมีผมไปด้วย ไม่ต้องกลัวนะครับ"

"ไม่!!! ผมบอกแล้วว่าป๊าบังคับผม ผมไม่อยากไปอยู่บ้านอู๋นั่น"

"คุณหนูคิดว่าทำเพื่อบริษัทสิครับ แล้วอีกอย่างก็เพื่อผมด้วย"

คุณหนูผละตัวออกจากผมทันทีที่ได้ยินประโยคนี้..

"อะไร??? พี่ไปเกี่ยวอะไรด้วย หรือว่าพี่อยากจะอยู่กับมัน ก็ไปสิ ไปเลย"

"ไม่ใช่นะครับ คุณหนูฟังก่อน"

"พี่ชอบมันใช่มั้ย อู๋อี้ฝานนั่น พี่จะไปอยู่กับมัน!!!"

"คุณหนู ผมเปล่านะครับ"

"งั้นก็หนีไป ไปคืนนี้เลย ไปกับผม นะ!!!"

"คุณหนูครับ เราไม่ควรหนี เราควรไปบ้านอู๋นั่น ผมมีเหตุผล"


ผมนั่งลงคุกเข่าตรงหน้าคุณหนู ที่ดูเหมือนกำลังโกรธมาก...

"พี่ถิง ถอดเสื้อออก!!!" คุณหนูตะโกนสั่งออกมาเมื่อมองผมที่อยู่ด้านหน้า


"คุณหนู จะทำอะไร???" ผมเริ่มไม่เข้าใจ คุณหนูถอยหลังไปติดกำแพงแล้วนั่งกอดเข่าตัวเองมองผม

"ผมสั่งให้ถอดเสื้อออกไง"

ผมจึงต้องแกะกระดุมเสื้อและถอดเสื้อตัวเองออกแบบงงๆ...


"ถอดกางเกงออกด้วย"

"คุณหนู จะเล่นอะไรอีก ผมงงไปหมดแล้ว"


"สั่งก็ทำสิ!!! ไหนบอกว่าเชื่อฟังผมไง ไม่ได้อยากยุ่งกับไอ้บ้านั่น ก็ทำตามที่ผมสั่ง"

ผมจึงค่อยๆยืนขึ้น แล้วถอดเข็มขัดและกางเกงออกอย่างช้าๆ จนทุกอย่างมากองที่พื้น ผมเหลือแค่กางเกงชั้นในสีดำชิ้นเดียว คนตรงหน้จ้องทุกส่วนของผมอย่างไม่วางตา...

คุณหนูค่อยๆลุกขึ้น ยืนบนเตียงและมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าผม ค่อยๆเอามือล้วงลงไปในกางเกงชั้นในผม แล้วเริ่มบีบนวดคลึง แก่นกายของผมรู้สึกตัวตื่นอย่างฉับพลัน ผมจึงเอามือจับมือคุณหนูไว้...

"อืมมมมม อ๊าาาา คุณหนู...นี่มันอะไรกันครับ"

"ในเมื่อพี่ไม่หนีไปกับผม และยังอยากไปบ้านตระกูลอู๋นั่น พี่ก็ต้องตามใจผม"

"แต่...แต่ ที่ทำทั้งหมดนี่ ผมหวังดีกับคุณหนูนะ"

คุณหนูยังคงเอามือคลอเคล้าส่วนล่างนั่นไปเรื่อยๆ ไม่หยุด จนผมต้องปล่อยตามใจคุณหนู เพราะตอนนี้ผมก็ต้องการเช่นกัน และในเมื่อเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์...


"พี่ถิง ถอดเสื้อให้หน่อย"

แทบจะไม่ต้องสั่ง ผมแกะเสื้อคุณหนูออกอย่างรวดเร็วจนแทบจะฉีกก็ว่าได้...ร่างกายผมทำได้อย่างไม่ต้องคิด ผมกำลังจะเอามือลูบไล้อกขาวอวบด้านหน้า

"หยุด!!!ผมแค่ให้ถอดเสื้อ แล้วยืนเฉยๆ"

"คุณหนู ผมทำอะไรผิด ผมบอกแล้วว่าผมรักคุณหนู ผมไม่ทิ้งคุณหนูไปไหน อย่าทำแบบนี้สิครับ"


"ผมอยากหนีไปไหนก็ได้ ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับเรา พี่ก็ไม่ยอมไป เพราะงั้นคืนนี้พี่ก็ต้องตามใจผมด้วย...อย่ามาบังคับผมเหมือนป๊าอีกคน รู้มั้ย!!!"


คุณหนูคุกเข่าลงค่อยเอาปากดูดยอดอกผมอย่างแรง และไล่มาเรื่อยๆจากซ้ายไปขวา จนผมต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อแอ่นอกแข็งแรงรองรับจูบนั่นอย่างไม่กล้าปฏิเสธ...คุณหนูใช้มือนึงลูบไล้ส่วนบน อีกมือเกาะกุมด้านล่างเอาไว้อีก มันยิ่งทำให้ตัวผมแทบระเบิดออก...

คุณหนูดูดคลึงส่วนอก ขบกัดที่จุกยอดของมันเบาๆ จนผมเสี่ยวซ่านไปหมด ในขณะเดียวกันก็เอาสองมือสอดรูดกางเกงชั้นในของผมลงไปเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยสักกางเขนชัดเจน...

คราวนี้คุณหนูค่อยๆเลื่อนตัวลงจูบไปเรื่อยๆสะเปะสะปะจนถึงรอยสักนั่น แล้วเงยหน้ามาพูดกับผม...

"พี่บอกเองนะว่า รอยสักนี่เป็นของผม จำเอาไว้ มันเป็นของผม"

ผมพยักหน้างึกงักเหมือนคนไร้สติ ตอนนี้สติผมแทบหลุดไปแล้ว คงเหลือแต่ความรู้สึกอยากปลดปล่อยไปกับคนตรงหน้าแบบควบคุมไม่ได้...คุณหนูเอาปากครอบแก่นกลางกายของผมไว้อย่างไม่ปราณี พร้อมด้วยการเอาฟันครูดไปเบาๆในจังหวะเดียวกับการขึ้นและลงเพื่อปลุกเร้าผม จนผมต้องเอามือไปบดขยี้ผมคุณหนูพร้อมร้องออกไป...

"อื๊อออออ คุณหนูๆ อ๊าาาาา"

ยังไม่ทันที่คุณหนูจะทำอะไรต่อ ส่วนที่อัดอั้นอยู่ด้านในก็ทะลักออกมาเป็นน้ำสีขาวขุ่น เลอะเทอะปากและส่วนนั้นเต็มไปหมด...

คุณหนูเอามือป้ายปากเหมือนเช็ดแล้วยืนขึ้น


"ถอดกางเกงให้ผมสิ"

ผมจึงทำตามคำสั่งแต่โดยดีและเต็มใจ เอามือรูดซิบและค่อยๆถอดกางเกงออก พร้อมลูบไล้โคนขาไปเรื่อยๆ...

"ถอดให้หมดสิพี่ถิง"

ผมจึงเอามือรูดกางเกงในสีขาวของคุณหนูออก แล้วโยนไปด้านข้างเตียง...ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว พร้อมมาก

"คุณหนูครับ ผมไม่ไหวแล้ว!!!"

คุณหนูเอามือสองข้างมาดึงหน้าผมเข้าไปจูบ ลิ้นกวาดไปทั่วปาก ไอร้อนจากลมหายใจตรงหน้าปะทะหน้าผม ลิ้นผมตอบรับอย่างดี ปลายลิ้นหยอกเย้าแตะกัน หวานมากจนผมรู้สึกได้...มันดีจริงๆ

"อืมมม พี่ถิง แสดงให้ผมเห็นสิว่ารักผม" คุณหนูถอนปากออกมา...

"คะ..ครับ คุณหนู ผมเป็นพี่ถิงที่ตามใจคุณหนูคนเดียวเท่านั้น"

หลังจากประโยคนั้น ผมแทบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป ผมพลักคนตรงหน้าลงไปที่เตียง แล้วผมก็ยกสะโพกเค้าขึ้นนิดหน่อย ดันขาแยกออกเพื่อรับส่วนของผมให้เข้าไปได้อย่างเต็มที่...

ช่องทางด้านหลังที่ยังไม่เปิดเท่าไหร่ ผมจึงเอานิ้วมือที่ชุ่มน้ำรักสีขาวนั่นสอดเข้าไปเบิกทางให้ก่อน ดันเข้าออกสักพักพร้อมจูบไปที่หน้าอกคนตรงหน้าอย่างไม่ออมแรง ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้ว สอดใส่ส่วนกลางกายที่ตั้งชันของผมเข้าไปเต็มที่...

"อ๊าาาาา พี่ถิง อ๊าาาา"

ผมยังคงใส่เข้าไปอีก พร้อมยกขาพาดไหล่ผมเอาไว้..คุณหนูเอามือจิกที่ไหล่ผมเต็มแรง...

"อ๊าาาา พี่ถิง เจ็บ เจ็บนะ"

"คุณหนูๆๆ อึกกก"

ผมไม่สนใจอะไร สอดใส่เข้าออกและดันสะโพกคนตรงหน้าให้สอดรับกันเป็นจังหวะ และเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแรงและเร็ว

"พี่ถิง อ๊าาา ซีสสสสสส"

ผมรู้สึกได้ถึงเสียงร้องที่พอใจของคุณหนู ผมยังหยุดไม่ได้และรู้สึกดีที่ทำให้เค้าพอใจมากขึ้น...

"คุณหนูเชื่อผมใช่มั้ย ว่าผมรักคุณหนู"

"อ๊าาาา อะ..อืมมมมมม"

"อึกกก"

ผมดันเข้าไปลึกขึ้นอีก จนคนตรงหน้าร้องออกมาอีก...เล็บยังคงจิกที่ไหล่ผมอย่างแรง...

"อ๊าาาา ดีๆ อ๊าาา พี่ถิง"

ผมก้มลงจูบไล้ไปที่ซอกคอและกระซิบข้างหู...

"ไม่ต้องหนีไปไหนนะครับ ผมจะเชื่อฟังคุณหนูแบบนี้ต่อไป"

คุณหนูไม่พูดอะไรแต่หันหน้ามาจูบตอบผมอย่างรุนแรงอีกครั้ง ปากดูดเข้าออก พร้อมโยกตัวเพื่อกระแทกให้เป็นจังหวะต่อไปอีกสักพัก...

ผมค่อยๆผ่อนจังหวะช้าลงเพราะเหงือที่เริ่มผุดขึ้นมาตรงหน้าผาก ผมจึงปล่อยเค้านอนลง แล้วพลิกตัวมานอนอยู่ข้างๆ


"คุณหนูผมมีหลายเรื่องอยากจะบอก นอนพักก่อนนะครับ"

คุณหนูพยักหน้าและหลับตาลงในอ้อมแขนผม...ตอนแรกก็เหมือนจะเอาแต่ใจ ออกคำสั่ง อารมณ์ร้าย แต่พอเห็นแบบนี้ทีไร คุณหนูเหมือนเด็กน้อยๆที่ผมอยากกอดเอาไว้แบบนี้ทุกทีสิ


...............................โปรดติดตามตอนต่อไป................................

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วุ่นนัก...ที่รักผมเป็นหมอ(ฟัน) บทที่ 9

เฉินเหว่ยถิง = หมอเฉินเหว่ยถิง เป็นหมอฟัน เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ชื่อ “ถิงหยาฉือ”
                    อุปนิสัย-เงียบ สงบ เย็น ภูมิฐาน เป็นงานเป็นการ ความรู้แน่น  แต่บางทีก็สามารถขี้เล่นขึ้นมาได้

หลี่อี้เฟิง = ดาราดาวรุ่งสุดฮอตแห่งวงการ ถ่ายละครและหนัง คิวแน่นไม่หยุดหย่อน 
                   อุปนิสัย-ร่าเริง กินเก่ง ชอบกินขนม ของหวาน ลูกอม เค้ก ไอติม แต่กลัวเลือดมากที่สุด



บทที่ 9 ตอน ดูแล (Take care)



          ใกล้รุ่งสาง ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้น นึกขึ้นได้ว่ามี คนตัวใหญ่กอดก่ายทับอยู่บนตัวผม หลังจากเหตุการณ์ที่พื้นพรมด้านนอก ผมก็ได้รับการทะนุถนอมและดูแล เหมือนผมเป็นคนไข้ที่มีหมอมาคอยดูแลตลอด เค้าอุ้มผมมานอนที่เตียงหลังจากที่เราสัมผัสแนบชิดกันและกัน ตอนนี้ผมรู้ว่า ผมรักเค้ามากขึ้นจากการสัมผัสแบบนี้ ผมชอบมากแต่ยังไงก็ตาม ผมก็ต้องไปทำหน้าที่ของผม ผมจึงพยายามดันตัวเค้าออกไป...

ไม่น่าเชื่อว่าดาราดังอย่างหลี่อี้เฟิง จะมานอนอยู่บนเตียงในคอนโดหรูของเซี่ยงไฮ้ กับหมอฟันร่างยักษ์คนนี้ได้ ผมติดสินใจแล้วว่าจะคบกับเค้าแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็คงต้องค่อยๆแก้ปัญหากันไป แต่เรื่องราวมันก็คงจะไม่ง่าย ผมต้องกลับไปคุยกับบริษัทต้นสังกัดที่ปักกิ่งก่อน ผมจึงต้องกลับไปคอนโดแล้ว เพราะต้องไปขึ้นเครื่องอีก แต่คนร่างยักษ์ก็ยังคงพลิกตัวกลับมากอดผมในร่างเปลือยเปล่าของเราทั้งคู่ ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ เค้ากระซิบข้างหูผม...

"คุณจะไปไหน ผมรู้นะ ผมไม่ให้ไป!!!"

ผมต้องดันมือที่เค้ากอดผมไว้ออกก่อนจะหันหน้าไปบอกเค้า

"ผมต้องไปแล้ว หมอ...ผมบอกแล้วว่าผมต้องไปปักกิ่ง"

"ทำไมล่ะ ผมเลี้ยงคุณได้ มาเป็นคุณนายเฉินไง ผมบอกแล้ว ผมรักคุณนะ"

เค้าค่อยๆบรรจงหอมแก้มผมหนึ่งที แล้วกระซิบต่อ...

"อย่าไปเลย ผมอยากเก็บคุณไว้แบบนี้ น้ำเน่าเนอะ แต่ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆนะ" 

ใจจริงผมก็ไม่ได้อยากไปหรอกนะ บทละครแบบนี้ผมเล่นออกบ่อย แต่เป็นผมที่เล่นบทพระเอก ไม่ยอมให้นางเอกไปไหน นี่ดูเหมือนผมจะอยากอ้อนเค้าให้เค้าดูแล แต่ผมจะทำแบบนี้ได้เหรอ ได้จริงๆเหรอ!!! ผมไม่อยากต่อต้านคนตรงหน้าเลย ทำยังไงดีล่ะ...

"ผม...ถ้าผมไม่ไป หมอจะให้ผมทำยังไง"


"เอาแบบนี้นะ เดี๋ยวคุณก็โทรไปหา ผจก.คุณว่าขอไปพักผ่อน หลบเรื่องยุ่งๆสัก 2-3 วัน เสร็จแล้วคุณค่อยกลับไป วันนี้ผมจะเข้าไปเคลียร์คนไข้ แล้วลาหยุดเพื่ออยู่กับคุณ"

"หมอ...ผมทำให้คุณลำบากหรือเปล่า???"

"ไม่หรอก ปกติผมทำงานตลอด วันหยุดก็คือไปเที่ยวกับที่บ้าน นอกนั้นผมไม่เคยไปไหนเลยนะ ผมให้เวลาคุณ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากทำ แต่เราก็ต้องแลกกัน คุณต้องเป็นคุณนายเฉินสักสองสามวัน ได้มั้ยครับ"

เสียงเค้า สัมผัสเค้า ที่กำลังกอดผมให้แน่นขึ้น มันทำให้ดาราอย่างผม ไร้สติ ผมไม่อยากไปจากอ้อมกอดนี้ ไม่อยากห่างจากเค้า เมื่อก่อนผมไม่เห็นเคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลย นี่ผมเพิ่งเจอเค้าเองนะ ลำแขนแข็งแรงและใบหน้าที่หนักแน่น ทำให้ผมเชื่อเค้าทุกอย่าง...


อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนะ...หลี่อี้เฟิง!!!


เช้านั้นผมตัดสินใจโทรไปหา เจ๊เฉิน เธอโวยวายใหญ่ว่าผมหนีไปได้ยังไง หนีไปตอนไหน แล้วเธอจะทำยังไง จะตอบบริษัทว่ายังไง!!!


ผมก็บอกไปว่า ผมขอเวลาไปพักผ่อนก่อน ยังไงผมก็ถ่ายหนังต่อไม่ได้อยู่แล้ว แล้วอีก 2 วันค่อยไปหาเค้าเพื่อไปคุยเรื่องงานต่อก็ไม่เห็นเสียหายตรงไหน...นี่ผมเอาแต่ใจขนาดนี้ได้ยังไง

ผมกำลังคุยโทรศัพท์กับเจ๊เฉินอยู่ในห้องนอน หมอถิงลุกขึ้นไปอาบน้ำและเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันอยู่ที่เอว ร่างกายเค้ามันดึงดูดผมมากกว่าอะไรทั้งหมด ผมมองกล้ามเนื้อแต่ละส่วนของเค้าอย่างไม่วางตา เค้ากำลังถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดเนื้อตัวส่วนบน แล้วเห็นสายตาผมพอดี

"นี่...คุณดารา มองแบบนี้แปลว่าอะไรครับ"

"อะไร??? ผมเปล่ามองซะหน่อย"

"แหน่ะ ก็ผมเห็นคุณมองชัดๆ"

"ผมไม่ได้มองนะ"

เค้ามานั่งลงที่เตียงข้างตัวผม มองหน้า แล้วจูบเบาๆอีกที ช่างเป็นเช้าที่มีความสุขมากจริงๆ

"อ่ะ เช้าๆปากไม่สะอาด เดี๋ยวหมอจะแปรงฟันให้นะ"

เค้าเอาปากประกบลงมาใหม่อีกรอบ แล้วเอาลิ้นเข้ามาในปากผม ควานไปที่ลิ้นและฟัน หยอกเหย้าเล่นไปทั่ว แล้วส่งท้ายด้วยการดูดที่ริมฝีปากล่างก่อนจะปล่อยปากผมออกมา

"อ่ะ สะอาดแล้ว"

 ผมแอบเขินนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาจูบผมแบบนี้ ในการแสดงเราก็อาศัยมุมกล้องและก็ถ้าจูบจริง ก็ไม่มีใครเอาลิ้นมาแตะทุกส่วนในปากผมขนาดนี้มาก่อน ผมจึงหลบตาลง...

"คุณดาราครับ คุณรู้ตัวมั้ย นับวันคุณยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะ นี่อายผมเหรอ 555"

ผมไม่อยากตอบเรื่องนี้ เลยเฉไฉไปเรื่องอื่น

"หมอ...ให้ผมกลับไปคอนโดเอาเสื้อผ้าก่อนได้มั้ย"

"ไม่ต้องหรอก คุณใส่ชุดนี้ เดี๋ยวผมเอาให้ แล้วก็เดี๋ยวผมทำอาหารเช้าให้ นั่งเล่นไปก่อน ส่วนตอนเที่ยง ผมก็จะเตรียมไว้ คุณก็แค่เอามาอุ่น พักผ่อนไปนะ ไม่ต้องคิดมาก ดูทีวีหรืออ่านหนังสือก็ได้ ผมมีเยอะ แล้วเย็นๆผมจะมารับออกไปทานข้าว"

"นี่คุณ จะให้ผมมาอยู่กับคุณเฉยๆแบบนี้จริงๆเหรอ"

"ใช่ไง ผมบอกแล้ว อยู่กับผม คุณไม่ต้องทำอะไร หมอถิง มีเงินพอเลี้ยงคุณได้ ไม่ต้องห่วง เอาล่ะ ไปอาบน้ำเถอะ อ้อ ตอนเย็น...ใส่ชุดที่ผมเตรียมไว้นะครับ คุณนายเฉิน 555"


สักพัก เค้าก็เดินหายลับไปยังห้องแต่งตัวข้างๆ ที่มีห้องแยกเป็นสัดส่วนหลายห้อง สมกับเป็นคอนโดราคาแพงที่ในแต่ละชั้นมีห้องแค่ห้องเดียว...

หลังจากนั้นทั้งวัน หมอถิงก็ออกไปทำคนไข้ตามปกติ มีแต่ผม ที่นั่งเล่นนอนเล่น ดูทีวี อ่านหนังสือ โดยที่รู้สึกว่าทำไมเวลาแห่งความสุขแบบนี้มันช่างผ่านไปรวดเร็วจริงๆ ผมรู้สึกสบายใจที่ตอนนี้ไม่ต้องคิดอะไร แค่พักผ่อนรอเค้ากลับมา พาผมไปกินข้าว ก็รู้สึกดีมากๆแล้ว...นี่ผมเป็นอะไร ผมอยากเป็นคุณนายเฉินจริงๆเหรอ เหมือนรอสามีกลับบ้านอะไรแบบนี้ จากคนไข้คนนึง มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ผมเองยังไม่รู้ตัวเลย...


พอใกล้ๆจะ 6 โมงเย็น หมอก็บอกว่าให้แต่งตัว เตรียมตัวออกไปข้างนอก เค้าจะมารับด้านล่างให้ลงมารอได้เลย...

แต่ชุดที่เค้าเตรียมให้นี่สิ ไม่รู้ไปเอามาจากไหน เป็นกระโปรงผู้หญิงแล้วก็มีวิกผมหยิกเล็กน้อย พร้อมกับหมวกสวยเก๋ใบนึง ผมก็ใส่แว่นตาดำอำพรางด้วยความเคยชิน แล้วลงไปรอเค้าด้านล่าง โดยที่ไม่มีใครจำได้ แต่ก็มีคนมองว่า ทำไมเย็นโพล้เพล้ขนาดนี้แล้ว ผมยังใส่แว่นตาดำอีก แต่เทคนิคการอำพรางตัวของผมก็สุดยอดอยู่แล้ว การเป็นดาราเราต้องปรับตัวง่าย เข้ากับสถานการณ์ ผมจึงไปแวะร้าน มินิมาร์ทด้านล่างคอนโดเพื่อซื้อเครื่องสำอางค์นิดหน่อย แล้วไปแต่งหน้าในห้องน้ำก่อนที่หมอถิงจะมา...

พอเค้ามารับ ผมก้าวขึ้นบนรถ เค้าดูตะลึงมาก!!!

ผมถอดแว่นตาดำออก เผยให้เห็นแก้มเนียนใสจากการแต่งหน้าแบบเบาๆ 

"หมอ...มองอะไร!!!"

"อี้เฟิง คุณ เอ่อ...คุณทำไม สวยขนาดนี้"

"หมออ่ะ...อย่าล้อสิ คุณก็นะ เอาชุดอะไรให้ใส่ แถมมีวิกด้วย ไปเตรียมมาตอนไหน"

"มันเป็นของที่พี่สาวผมไม่ใช้แล้ว ชอบเอามาทิ้งไว้ที่นี่หน่ะ บางทีเค้าก็มานอน ผมเลยอยากให้คุณลองใส่ดู แต่ว่าไม่คิดว่าวิกกับหน้าคุณ มันจะทำให้ผมแทบจำไม่ได้"

"หมอ...ไปเถอะ ผมหิวแล้ว วันนี้เป็นไง เหนื่อยมั้ย!!!"

"ไม่เหนื่อยเลย แค่ผมคิดว่ามีคุณรอผมอยู่ ผมนี่อยากจะรีบทำๆคนไข้ให้เสร็จเร็วๆ อ้อ แล้วก็ผมว่างแล้วนะ พอดีให้น้องเค้ามาอยู่แทนให้แล้ว เรื่องอื่นๆคุณไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ผมว่างทั้งวันนะ"

"หมอ...แน่ใจเหรอว่าจะทำแบบนี้ ว่างแน่เหรอ หยุดวันเดียวก็ดูลำบากจังนะ"

"อี้เฟิง ผมบอกแล้วไง ผมแค่อยากมีคุณอยู่ด้วย ไม่ว่ายังไง ผมก็จะทำ ไม่ว่าจะต้องมีอุปสรรคอะไรอีก"

ระหว่างกินมื้อค่ำกัน ไม่มีใครมองออกเลยว่าที่นั่งอยู่เป็น หลี่อี้เฟิง ดาราดัง...พระเอกดาวรุ่งคนนั้น คงมีแต่ผมและเค้าเท่านั้นที่รู้ว่า ใครเป็นใคร...


ระหว่างที่กำลังกินข้าวกัน เค้าก็คอยดูแลผมอีกแล้ว คนเป็นหมอนี่เค้าเหมือนมีใจอยากให้ความช่วยเหลือหรืออะไร ผมมักจะรู้สึกว่าเวลาอยู่กับเค้าไม่ต้องทำอะไรมาก หมอถิงจะดูแลเอง...

สักพักก็มีโทรศัพท์จากเจ๊เฉิน...

"ครับ เจ๊!!!"


"อี้เฟิงอยู่ไหน ออฟฟิศใหญ่บอกว่า เราไม่ต้องไปหาเค้าแล้ว ให้เราไปหาข้อมูลทำรายการ ที่เธอเคยคุยกับผู้ใหญ่ไว้หน่ะ"

"ฮะ!!! อะไรนะเจ๊ ผู้ใหญ่อนุมัติเหรอ ขนาดผมทำแบบนี้อ่ะนะ"

"นั่นสิ นี่เราโชคดีมากนะ เจ๊ยังกังวลอยู่เลย เจ๊หวังก็บอกนะว่า เดี๋ยวจะคุยกับผกก.ให้ก่อน แต่ว่ารายการเนี่ยะ จะเตรียมโปรโมทและให้เราเตรียมตัวหาข้อมูลได้เลย เดี๋ยวพี่จะจองตั๋วเครื่องบินให้"

"จองตั๋วให้ ที่ผมเคยออกแบบรายการไว้ เราต้องไปหลายๆประเทศ หมายถึงจะให้ผมไปไหนก่อนล่ะ"

"พักผ่อนอีกวัน เจ๊ให้เวลาเรา ไหนๆก็ไหนๆแล้ว วันมะรืน เริ่มงานที่แรกไปเมืองไทยนะ โอเคมั้ย เจอกันที่สนามบิน เดี๋ยวพี่จองตั๋วแล้วจะส่งรายละเอียดไปใน email นะ"

"ครับๆ ได้ ขอบคุณมากนะเจ๊ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ผมเอาแต่ใจ"

"อืม ไม่เป็นไร แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้ไม่เครียดมาก ไปทำงานที่อื่นๆหลายๆที่ ข่าวเรื่องผกก.นี่จะได้ซาลงไปด้วย"

พอผมวางโทรศัพท์ไป หมอถิงมองผมด้วยสายตาจดจ่อ......

"หมายความว่าอะไร คุณต้องไปไหน???"

"หมอถิง...ผมต้องไปหาข้อมูลรายการที่เมืองไทย อีกสองวันหน่ะ ผมอยู่กับหมอได้อีกแค่วันเดียวนะ คราวนี้ผมต้องไปจริงๆ เพราะนี่คือโอกาสของผม"

หลังจากกินข้าวเสร็จ หมอก็พาผมกลับมาที่คอนโด แล้วทิ้งตัวลงที่โซฟา เค้าเงียบไป ไม่พูดอะไรอีก ผมเลยลงไปนั่งข้างๆเค้า เอามือจับไปที่ต้นขาเค้า เขย่าเบาๆ...

"หมอ เป็นอะไรไป อย่าเป็นแบบนี้สิ ผมแค่ไปถ่ายรายการ ไปหาข้อมูลเองนะ"

"ผมได้หยุดงานแค่วันเดียว ยังไม่ทันอะไร คุณก็จะไปอีกแล้ว"

ผมรู้สึกว่าเค้าเหมือนจะน้อยใจ เลยเอามือกอดเอวเค้าไว้

"โธ่ หมอ ผมไปทำงาน ไปแป๊บเดียว เดี๋ยวก็กลับมา แล้วผมจะส่งข้อความหรือโทรหาบ่อยๆนะ"

เค้าเอามือกอดผมไว้...

"อยู่กับผมนะ อยู่กับผม"

ผมกอดเค้าแน่นขึ้น แล้วซุกหน้าเข้าไปที่ซอกคอเค้า...

"ผมไม่อยากไปไหนหรอก จริงๆแล้วที่นี่คือที่หลบภัยของผมเหมือนกันนะ"

ผมรู้สึกว่า มันอบอุ่นมากเมื่อผมกอดเค้าและซุกไซร้ไปกับตัวเค้าแบบนี้จริงๆนะ

เค้าเอามือช้อนคางผมแล้วจูบลงมาที่ริมฝีปากแดงๆที่ยังมีคราบลิปสติกอยู่...

หลังจากนั้น เค้าก็ค่อยๆแกะชุดกระโปรงของผมออกทีละชิ้นๆ แล้วดันตัวผมนอนลงที่โซฟา  วันนี้ผมจะยอมเค้าทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้า เราสองคนจะยังได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีกมั้ย ตอนนี้ร่างคนตัวใหญ่คร่อมอยู่บนร่างผม แรงปรารถนาของผมและเค้าผสมกลมกลืนกันจนแผ่ขยายไปเต็มโซฟาตัวใหญ่...

เสียงกระเซ่าและร่างกายที่เร่าร้อนของเราทั้งคู่ยังไม่ยอมหยุด จนกระทั่งผมแทบหมดแรง...

หมอถิงลุกขึ้นแล้วมองดูผมที่นอนอยู่บนโซฟา...ผมได้ยินเสียงเค้าพูดเบาๆ 

"ผมไม่มีวันปล่อยคุณไป...หลี่อี้เฟิง"



..........................................โปรดติดตามตอนต่อไป...........................














วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

รอรัก...ที่ปารีส ตอนพิเศษ 1121

Love me=> if you dare

ตอนพิเศษ 2 :  1121
                     
             เช้านี้ผมตื่นมายืนรับลมทะเลอยู่ด้านหน้าบ้านพัก เดินเล่นรู้สึกเย็นสบายจริงๆ ผม...หลี่อี้เฟิง ตอนนี้หลบเรื่องราวร้ายๆจากปารีส มายังฮาวาย มาหาเค้า เจ้าของตัวและหัวใจของผม...พี่ถิงมาติดต่อธุระและให้ผมมาพักกับเค้าที่นี่ เค้าว่างสองวัน ผมกับเค้ายังเหลือเวลาอยู่ด้วยกันอีกวันนึง ผมยังไม่รู้จะเอายังไงต่อ ก็คงต้องแล้วแต่เค้า รอให้เหตุการณ์ทุกอย่างเรียบร้อย ผมต้องกลับไปปารีสอีกครั้งเพื่อรับปริญญาแน่นอน ผมเดินกลับเข้าไปในบ้านพัก เห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงยิ้มให้ เค้าเอาสองมือประสานไปที่ท้ายทอย นอนมองมาที่ผมอย่างสบายอารมณ์...

"ไปไหนมา เฟิงเฟิง"

"เดินเล่นครับ พี่ถิงตื่นแล้ว อยากทานอะไรมั้ย ผมจะไปสั่งให้"

ผมเดินไปนั่งข้างเตียงเค้า มองหน้าเค้า เค้าก็ยังคงยิ้มแล้วมองมาที่ผม...


"ทานเฟิงเฟิงต่อได้มั้ย เมื่อคืนยังไม่อิ่มเลย"

"พี่ถิง ทะเล้นอีกแล้วนะ ไปครับ ไปอาบน้ำ ผมอยากไปเที่ยวฮาวายบ้าง ไหนพี่บอกจะเป็นไกด์พาผมเที่ยวไง"


ผมพยายามจะฉุดคนตรงหน้าขึ้นเพื่อให้ไปอาบน้ำ แต่เค้าก็แกล้งไม่ยอมลุก จนผมลงไปกองอยู่บนตัวเค้าอีกรอบ...

"จะรีบไปไหนล่ะเฟิงเฟิง เรายังมีเวลาอีกทั้งวันทั้งคืน พี่ยังไม่อยากไปไหนนี่นา"


เอาล่ะ ตามใจเค้าหน่อยก็ได้ ผมเลยไม่ขยับตัว นอนอยู่บนตัวเค้าแบบนั้น แล้วเอามือกอดเค้าไว้

"พี่ถิง พี่มีเวลาแค่นี้ เราก็ใช้มันให้คุ้มค่านะ เพราะไม่รู้ว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกเมื่อไหร่"


"ไม่!!! เฟิงเฟิง พี่ตัดสินใจแล้ว พี่จะขอลุงโจนาธานให้เฟิงเฟิงมาอยู่ที่บริษัท เรียนจบแล้ว มาอยู่กับพี่ เข้าใจมั้ย"

"ฮะ อะไรนะครับ"

ผมลุกขึ้นมองหน้าเค้า...ผมไม่เคยคิดว่าจะไปทำงานกับเค้ามาก่อน ผมไม่ได้เรียนอะไรที่เป็นประโยชน์กับเค้าได้เลย การแสดงเนี่ยนะครับ จะไปทำงานเกี่ยวกับการขายของโบราณ...


"ใช่ เรียนเสร็จแล้ว ก็กลับมาฮ่องกง ออฟฟิศใหญ่พี่อยู่ฮ่องกง พี่จะไม่ให้เราไปไหนอีก"


"พี่ถิงจะให้ผมทำอะไร ผมไม่ได้เรียนอะไรที่เกี่ยวกับบริษัทพี่มาเลยนะ"


"ก็ไม่เห็นต้องเรียนอะไร อยู่กับพี่ แค่นี้ต้องเรียนด้วยเหรอ พี่ให้ทำอะไรก็ทำ พี่ให้เงินเดือนนะ เฟิงเฟิงคนเดียว พี่เลี้ยงได้สบายอยู่แล้ว"


"ผมไม่ได้อยากจะเป็นภาระพี่นะ ผมเรียนมาก็อยากจะทำงานที่ผมถนัด"

"แสดงว่าจะไม่อยู่กับพี่เหรอ พี่บอกแล้วว่าพี่เลี้ยงเฟิงเฟิงได้ ไม่เห็นต้องกลัวเลย"

ผมยังไม่รู้อนาคตเลยว่าจะเอายังไงดี ผมเลยไม่อยากรับปากเค้า ผมรักเค้า แต่ระหว่างเราสองคนก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญของการท่องเที่ยว เราเพิ่งได้อยู่ด้วยกันแค่ช่วงสั้นๆ ยังไม่รู้เลยว่า ถ้าผมต้องไปอยู่กับเค้าจริงๆจะเป็นยังไง


"ผมไม่รู้ครับ ผมบอกไม่ได้ ผม...เอ่อ...ผมอาจจะอยู่ปารีสต่อก็ได้"


คราวนี้เค้าดันตัวผมออก แล้วนอนหันหน้าไปอีกทาง ไม่ยอมมองผมเลย


"พี่ถิง พี่อย่าเป็นแบบนี้สิ ผมบอกแล้วว่าเราควรใช้เวลาอยู่ดัวยกันให้มีค่า"

"เฟิงเฟิงไม่รักพี่ ไม่ได้อยากอยู่กับพี่ ไหนบอกกันตอนนั้น ที่บนเรือแม่น้ำแซนแล้วก็อีกตั้งหลายที่ในปารีส ว่ารักพี่ไง"


"ผมรักพี่ แต่ว่ารักกับการอยู่ด้วยกัน บางทีมันก็ไม่ใช่นะครับ ผมคิดแบบนั้น"

"อะไร คนรักกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ ทำไม กลัวว่าคนอื่นจะนินทา หรือไม่ชอบหรือยังไง"


"เปล่านะครับ ผมแค่ไม่อยากให้พี่ต้องมาแบกภาระเลี้ยงดูผม"


เค้ายังคงไม่หันหน้ามา พูดแบบหันหลังหาผม

"พี่เลี้ยงได้ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา พี่บอกแล้ว ถ้าเฟิงเฟิงเรียนจบก็มาทำงานกับพี่ มาดูแลพี่ แบบนี้ไม่ได้เหรอ หรือว่าระหว่างที่พี่ไม่อยู่เฟิงเฟิงมีคนอื่นไปแล้ว มันเป็นใคร??? บอกมาเลย พี่จะไปจัดการกับมัน"



"พี่ถิง มันไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย พี่เข้าใจผมบ้างสิ"


คราวนี้ผมรู้สึกว่าไม่อยากง้อเค้าแล้ว ทำไมไม่เข้าใจสิ่งที่ผมบอก ผมแค่ขอเวลาคิดและตัดสินใจ มันคือเรื่องของอนาคต ควรอยู่ด้วยกันตอนนี้ให้นานที่สุดจะดีกว่า

ผมเลยลุกมาห้องรับแขกด้านนอก แล้วยืนมองไปที่หน้าต่างที่เห็นวิว ขอรับลมทะเลของฮาวายให้สบายดีกว่า

สักพักก็มีเสียงอาบน้ำด้านใน คนตัวใหญ่นั่นคงมีสติและรู้เรื่องแล้วนะ ผมก็ไม่อยากคิดอะไรตอนนี้ เอาเป็นว่ารับปริญญาเสร็จค่อยคิดแล้วกันนะ ผมเลยมานั่งที่โซฟาตัวใหญ่กลางบ้าน แล้วจึงเผลอหลับไป...


ผมรู้สึกว่ามีสัมผัสเบาๆที่ปาก 

"อืมมม อร่อยจัง" ผมคิด กำลังจะเอาลิ้นเลียขนมหวานที่มาแตะที่ปากนั่น แต่มันก็เหมือนไม่ใช่...ผมจึงรู้สึกตัว คนตรงหน้าจึงถอนปากออกไป

"พี่ขอโทษ เราไปเที่ยวฮาวายกันนะ"


ผมกำลังจะลุกขึ้นตามเค้าไป แล้วก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาจึงเซล้ม เค้าเอาแขนประคองเอวผมไว้

"อะไรกัน เฟิงเฟิง เป็นอะไรรึเปล่า"

"เปล่าครับ คงแค่แปลกที่ แปลกเวลา แล้วก็ไม่ค่อยได้นอน"

ผมจึงนั่งลงที่โซฟาอีกครั้ง คราวนี้คนตรงหน้าคุกเข่าลงต่อหน้าผม จับมือซ้ายผมไปแล้วลูบเบาๆอย่างทะนุถนอม

"เฟิงเฟิง ไม่ต้องคิดมากนะ พี่ก็เป็นแบบนี้แหละ มีแต่เงินแล้วก็คิดว่าเงินซื้อทุกอย่างได้"

"ไม่เป็นไรครับ เอาเป็นว่าผมอยากให้พี่เข้าใจผมด้วย ผมรักพี่นะ แต่ขอเวลาหน่อย แล้วผมจะบอก"


"งั้นเราไปกินข้าวกัน แล้วพี่ก็จะพาเฟิงเฟิงไปล่องเรือ พี่เช่าเหมาเรือเล็ก สบายๆไว้ไปเที่ยวกันด้วย"


หลังจากนั้นผมและพี่ถิงก็มาอยู่ในเรือยอร์ช ลำไม่ใหญ่มาก แต่พี่ถิงเก่งนะ สามารถบังคับเรือแบบนี้ได้ด้วย พอมาห่างฝั่งหน่อย พี่ถิงก็ถอดเสื้อแล้วโดดลงไปในทะเลเลย พร้อมตะโกนบอก

"เฟิงเฟิง ลงมาสิ มาเล่นน้ำกัน"

"ไม่เอาหรอกครับ ผมว่ายน้ำไม่ค่อยแข็ง"

"ลงมาเถอะ ตามใจพี่หน่อยสิ ไม่กล้ารึไง เราหน่ะ ปกติไม่เห็นเคยกลัวอะไร"


พอได้ยินคำนี้เหมือนมากระตุ้นตัวผม ไม่มีอะไรที่ผมไม่กล้า จริงๆนะครับ ผมจึงกระโดดลงไปทั้งเสื้อผ้า

....ตู้มมมมมมม....


เสียงน้ำทะเลแตกกระจาย แล้วผมก็โผล่ขึ้นมา ลอยตัวอยู่ใกล้ๆคนที่อยู่ในน้ำก่อนแล้ว เค้าว่ายเข้ามาหาผม

"ใครเค้าลงน้ำมาแล้วใส่เสื้อผ้ามาแบบนี้ล่ะ"

พี่ถิงตรงเข้ามาถอดเสื้อและกางเกงผม โยนกลับขึ้นไปบนเรือ ตอนนี้ผมเหลือแค่กางเกงในตัวเดียวแล้ว ไม่ยุติธรรมเลย เค้ายังเหลือกางเกงอยู่นะ 


"แล้วนี่อะไรครับ!!!" ผมเอื้อมมือไปในน้ำเพื่อจะไปปลดกางเกงเค้าออก แต่เค้าจับมือผมไว้ ถอดกางเกงแล้วเอามือผมไปจับส่วนนั้นของเค้าอย่างเต็มมือ ผมร้อง!!!

"พี่ถิงงงง นี่มันนน"

เค้าไม่พูดอะไร หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แล้วดันตัวเองเข้ามาหาผม แต่เอามือผมไปกอดคอเค้าไว้ แล้วก้มลงจูบผม ค่อนข้างจะลำบากนิดหน่อย เพราะผมลอยตัวไม่ค่อยเก่ง คอยจะจมอยู่เรื่อย แต่คนตรงหน้านี่สิครับ เค้าแข็งแรงกว่าผมมาก ทำให้ผมยังลอยตัวอยู่ได้เมื่อเอามือกอดคอเค้าไว้

"ขึ้นเรือกันเถอะ แดดร้อนไปหน่อย"

พี่ถิงบอกผมให้ขึ้นไปบนเรือ พอผมเดินเข้าไปในเรือ เค้าก็ถอดกางเกงตัวเองออก ตอนนี้เราสองคนเหลือแค่กางเกงในคนละตัวและตัวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำทะเลที่นี่ เค้าเดินเค้ามาหาผม ดันผมติดผนังเรือแต่เป็นแววตาเจ้าเล่ห์

"เฟิงเฟิงรู้มั้ย วันนี้วันอะไร???"

ผมงงๆ ตอบไป"ก็วันที่ 21 เดือนพฤศจิกาไงครับ"

"ใช่ 1121 วันนี้วันเกิดพี่"

"อ้าววว จริงเหรอครับ แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ"

"ไม่เอาๆ ไม่เอาแบบนี้ อวยพรแค่นี้เองเหรอ"

"แล้วพี่ถิงจะให้ทำไงล่ะ"

"ขอของขวัญด้วย"

"เราอยู่กันในเรือแบบนี้ผมจะไปหาของขวัญจากไหนมาให้พี่ล่ะ"


"ก็นี่ไง เอาเฟิงเฟิงผูกโบว์ให้พี่ได้มั้ย"

ว่าแล้วเค้าก็ไปหาริบบิ้นในเรือมาอันนึง แล้วถามใหม่

"นี่ไง ขอผูกก่อน เป็นของขวัญได้มั้ย"

แล้วเค้าก็เอาริบบิ้นมาพันรอบมือผม แล้วยิ้ม

"เป็นของขวัญที่วิเศษที่สุดในรอบปีเลย ขอแกะของขวัญก่อนนะ"

เค้าก้มลงมาจะจูบผม ผมเลยเอามือไปบังไว้

"พี่ถิงเดี๋ยวก่อน ผมนึกออกแล้วว่ามีอะไรจะให้"


ผมนึกถึงสิ่งที่ผมพกมาด้วย กะว่าจะให้เค้าจริงๆ มันยังอยู่ในกระเป๋า ผมรื้อออกมา เป็นแหวนสีเงินเกลี้ยงวงนึง ด้านในสลักคำเป็นภาษาอังกฤษว่า Paris แล้วใส่ให้เค้าที่นิ้วที่มีรอยสัก

"อ่ะ นี่ ผมให้ เวลาเห็นมันก็จะได้คิดถึงผมนะ"

"ไม่เอาอ่ะ พี่อยากได้ทั้งตัว ไม่ได้อยากได้แหวน"


"พี่ถิง ผมบอกแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ ผมให้เพราะรักพี่ แหวนนี้มีค่ากับผมมาก ผมชอบมาก ซื้อเก็บไว้นานแล้ว พอมีพี่ ผมเลยอยากให้มันอยู่กับพี่ เมื่อไหร่ที่คิดถึงเรื่องของเรา พี่ก็ต้องคิดถึงปารีสไง"

ผมสวมที่นิ้วเค้า เค้ายอมให้ผมสวมแต่โดยดี แล้วดึงผมไปกอด

"ทำยังไง เฟิงเฟิงถึงจะยอมอยู่กับพี่ล่ะ วันนี้วันเกิดพี่ พี่ขอไม่ได้เหรอ"

"ขออะไร ขอให้ผมไปอยู่กับพี่หน่ะเหรอ ไม่ได้สิ ผมบอกแล้วว่าขอคิดดูก่อน"

"เฟิงเฟิงใจร้าย ไม่เห็นใจพี่เลย"

"วันนี้วันเกิดพี่ ผมให้ได้แค่ตัวผมตอนนี้เลย"

ผมค่อยๆยื่นหน้าขึ้นไปจูบเค้า กอดเค้าและลูบไล้แผ่นหลังที่กว้างนั่น ทุกส่วนยังคงเปียกอยู่...

เค้าอุ้มผมขึ้นไปยังส่วนที่เป็นเตียงนอน เตียงนอนในเรือเป็นเตียงพิเศษ แบบด้านในก็มีน้ำ มันจึงช่วยให้สองร่างที่เปลือยเปล่า ได้เคลื่อนไหวรับกับจังหวะการเคลื่อนที่ของเตียง ส่งผลให้เรือโคลงไปมาเบาๆ ตามกระแสคลื่นและกระแสของความรักที่ส่งผ่านกัน


ผมบอกไม่ได้หรอกว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่วันนี้วันเกิดพี่ถิง วันที่ 1121 นั่นหมายถึง สองคนจะรวมเป็นหนึ่งเดียว ผมคงต้องให้ของขวัญเค้าจริงๆ พรุ่งนี้เราต้องไปจากฮาวายแล้ว ไม่ว่าจะที่ไหนๆ ขอเพียงได้อยู่กับเค้า ผมก็รู้สึกมีความสุขมาก ขอบคุณที่เค้าเกิดมาในโลกใบนี้

"พี่ถิง ผมรักพี่นะ สุขสันต์วันเกิดครับ"

"อือออออออ ขอบคุณนะเฟิงเฟิง"


                            .................จบค่าาาาาา...............
 







วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บอดี้การ์ดหน้าใสกับคุณหนูตัวร้าย My Pretty boy (NC17) ตอนที่ 3

บอดี้การ์ดหน้าใสกับคุณหนูตัวร้าย...My Pretty Boy (NC-17)

NC-17 

My Pretty boy
เฉินเหว่ยถิง : บอดี้การ์ดหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลา ดึงดูดใจ นิสัยเงียบขรึม บางครั้งก็ขี้เล่น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถูกประธานเคน เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ 10 ขวบ ไม่รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง จำได้เพียงชื่อตัวเองเท่านั้น

หลี่อี้เฟิง : คุณหนูของบ้านตระกูลหลี่ เป็นลูกคนเดียวของประธานบริษัทผลิตน้ำหอมรายใหญ่ของโลก จึงถูกเรียกว่าคุณหนู นิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถูกตามใจแต่เล็ก รวมทั้งพอแม่เสียตอนอายุ 15 ปี นิสัยนี้ยิ่งเป็นมากขึ้น อยากได้อะไรก็ต้องได้ เอาเงินซื้อทุกอย่าง

ประธานเคน : ประธานบริษัทหลี่เพอร์ฟูม ทำธุรกิจมากมาย ไม่มีเวลาให้กับลูกชายคนเดียวมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเมียตายจึงเสียใจมากและทุ่มเทกับงาน มีศัตรูมากมายจึงต้องจ้างบอดี้การ์ดดูแลหลายคน


อู๋อี้ฝาน : ลูกชายของบริษัทอู๋ คู่แข่งคนสำคัญของอี้เฟิง นิสัยร่าเริงสนุกสนาน มองโลกในแง่ดีตลอดเนื่องจากครอบครัวอบอุ่นมากจนบางทีเค้าก็บ่นว่าร้อนเลยทีเดียว

แม่นมเหยียน : ผู้ดูแลความเรียบร้อยในบ้านและอาหารการกินทุกอย่างของคุณหนูอี้เฟิง และเป็นคนดูแลเหว่ยถิงมาตั้งแต่ถูกเก็บมาเลี้ยงที่บ้านตระกูลหลี่

เลขาเทียน : ผู้คอยดูแลเรื่องเกี่ยวกับในบริษัทให้กับคุณหนูหลี่อี้เฟิง และต้องคอยบอกรายละเอียดงานกับบอดี้การ์ดเฉินเหว่ยถิงด้วย เขามักจะเห็นว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแปลกๆ แต่ก็ยังไม่มั่นใจนัก


ตอนที่ 3 ลงโทษ (Who is the Punisher?)

               ใกล้สว่างแล้ว แขนเล็กๆของคุณหนูยังคงพาดทับอยู่บนตัวผม แขนข้างหนึ่งของผมแทบจะเป็นเหน็บชา แต่ทว่าผมก็ไม่กล้าขยับ เพราะกลัวร่างที่อยู่ข้างๆจะตื่น ผมคอยคุ้มครองเค้า ไม่อยากให้เค้าได้รับอันตรายทั้งยามหลับและยามตื่น นี่คือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด...

              คุณหนูคือผู้ให้ชีวิตใหม่กับผม แต่ผมก็อยากรู้ว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวและตัวผมกันแน่ ดังนั้นผมต้องสืบให้ได้ไม่ว่าจะยากแค่ไหน...
             แต่ไปๆมาๆ ดูเหมือนหลักฐานที่ผมมีจะโยงไปที่ตระกูลอู๋ ตอนนี้คุณนายอู๋ก็ให้แค่ที่อยู่มา เอาเป็นว่าคงต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะไม่ว่ายังไงตอนนี้ชีวิตผมก็ต้องขึ้นกับคนตรงหน้ามากกว่า ผมก้มลงจูบที่ผมเค้าเบาๆ เค้าขยับตัวเล็กน้อย พร้อมส่งเสียงในลำคอด้วยความพึงพอใจ...

เช้านี้อาจจะแปลกกว่าทุกวันเพราะคนที่ดูแลคุณหนูปกติจะต้องเป็นแม่นม แต่วันนี้พอแม่นมมาเคาะประตู คุณหนูกลับไล่แม่นมไป

"มีพี่ถิงแล้ว แม่นมไม่ต้อง ไปเตรียมอาหารเถอะ" เสียงคุณหนูตะโกนออกไป ตอนที่ผมยังใส่เสื้อไม่เรียบร้อยแต่กำลังติดกระดุมเสื้อให้คุณหนู โดยที่คนตรงหน้านี่มือซุกซนเอานิ้วลากไปตามแผ่นอกผมตลอดเวลา
"คุณหนูครับ ทำแบบนี้ผมจะไม่แต่งตัวให้นะ"
"ได้ยังไงล่ะ พี่ถิงต้องดูแลการแต่งตัวผมแทนแม่นมสิ"
"แหน่ะๆ ยังไม่ยอมหยุดนะครับ"
"พี่ถิงก็ติดกระดุมไปสิ ทำไม??? แค่นี้ก็ทำไม่ได้เหรอ นี่เป็นคำสั่งนะ"

ผมเลยต้องฝืนคำสั่งดึงคนตรงหน้ามาจูบหนักๆไปสองสามครั้ง...
เค้ายังคงพอใจที่จะลูบไล้แผ่นอกผมอย่างเต็มไม้เต็มมือและจูบตอบผมอย่างเร่าร้อน
"อืมมมมมม"
ผมถอนปากออกแล้วพูดออกไป
"คุณหนูครับ เราจะไปทำงานสายได้นะ!!!"
"ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็ผมอยากอยู่กับพี่ถิงแบบนี้มากกว่า"
"คุณหนูนี่เอาแต่ใจอีกแล้วนะครับ ไม่งั้นผมจะโดนดุไปด้วย"
"ก็ได้ เห็นแก่พี่นะ แม่นมก็อะไรนักหนาก็ไม่รู้ โน่นนั่นนี่ ผมล่ะเบื่อมาก!!!"
"เอาน่า แม่ก็รักและเป็นห่วงคุณหนูเหมือนผมนั่นแหละ คุณหนูอย่าไปเบื่อแกเลย"
"เหมือนเหรอ เหมือนที่ไหน ผมไม่ไปจูบแม่นมแบบนี้นะ"
คราวนี้คุณหนูยืดตัวขึ้นมาจูบปากผมทีนึง แล้วหันหลังไปติดกระดุมเสื้อตัวเอง แต่งตัวจนเรียบร้อย เราจึงลงไปกินข้าวเช้าและเข้าบริษัทกัน...


บริษัทน้ำหอมหลี่เพอร์ฟูม บริหารงานกันโดยมีท่านประธานเคนเป็นผู้บริหารสูงสุด แต่เวลานี้ท่านประธานไม่อยู่ คุณหนูหลี่จึงต้องมาจัดการเรื่องภายในบริษัทและเซ็นต์เอกสารต่างๆให้เรียบร้อย ตอนเช้าพอเข้ามาที่ห้อง เลขาเทียนรออยู่แล้ว มีเอกสารเป็นกองมากมายที่คุณหนูจะต้องจัดการ ผมจึงต้องถามเลขาเทียนก่อน

"โปรแกรมวันนี้มีอะไรบ้างครับ"

"ก็ไม่มีอะไรมากครับ แต่ว่าคุณหนูต้องเคลียร์เอกสารการส่งออกเหล่านี้ให้หมด แล้วบ่ายก็มีประชุมผู้ถือหุ้นแทนคุณท่านด้วย วันนี้น่าจะมีแค่นี้นะครับ ไม่มีนัดที่อื่น"

"น่าเบื่อชะมัด เลขาเทียนไปประชุมแทนไม่ได้เหรอ พวกลุงๆพวกนั้นหน่ะ ผมไม่ชอบเลย ชอบทำเหมือนผมดูแลบริษัทนี้ไม่ได้ ทั้งๆที่ผมก็ออกแบบกลิ่นน้ำหอมแล้วก็ทำกำไรให้บริษัทปีนึงไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ยังจะมองผมเป็นเด็กอยู่นั่นแหละ"

"เอาเถอะครับคุณหนู พวกเค้าก็รู้แหละ เพียงแต่ว่าคนอายุมากก็อยากให้คนเห็นความสำคัญ คุณหนูก็ไม่ต้องใส่ใจหรอกนะครับ อ้อ!!! แต่ว่าคุณท่านสั่งผมไว้ว่า ให้คุณหนูจับตาดูรองประทานติงด้วย เพราะคุณท่านสงสัยว่าเค้ายักยอกเงินบริษัทหน่ะครับ แต่ยังหาหลักฐานไม่ได้"



เลขาเทียนยังคงบอกเล่าเรื่องราวในบริษัทต่อไปซึ่งตรงนั้นผมเองก็ไม่มีหน้าที่ไปก้าวก่าย หน้าที่ผมมีแค่ดูแลความปลอดภัยให้คุณหนูเท่านั้น เรื่องงานอื่นๆ ผมก็ไม่ได้ยุ่งด้วย ดังนั้นผมจึงออกมานอกห้องแล้วก็เกิดความคิด พอเลขาเทียนออกมา ผมจึงบอกเค้าไปว่า

"ผมไปธุระข้างนอกก่อนนะครับ ฝากดูคุณหนูด้วย เดี๋ยวผมให้อาฟงกับอาเกา มาเฝ้าหน้าห้องไว้ให้นะ แล้วผมจะกลับมาก่อนเที่ยงนะครับ"


...เลขาเทียนพยักหน้าตอบ หลังจากนั้นผมจึงรีบออกไปจากออฟฟิศ ผมจำได้ว่าที่อยู่ที่คุณนายอู๋ให้มานั้น ไม่ไกลจากออฟฟิศสักเท่าไหร่ ผมเลยคิดว่าไปตอนนี้เลยดีกว่า ผมอยากรู้เรื่องมากแล้ว 

คุณนายอู๋เคยเห็นรอยแผลเป็นที่หน้าผากผม เค้าเคยมาคุยกับผมแบบลับๆครั้งหนึ่ง เค้าบอกว่าผมหน้าคล้ายและมีแผลที่เดียวกับลูกชายของเพื่อนสนิทเค้าที่หายไปนานมาก แต่ว่าคุณนายก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนนี้มานานแล้วด้วยปัญหาบางอย่าง เค้าจึงให้ผมมาตามที่อยู่นี้ ผมไม่แน่ใจหรอกครับ รอยแผลแบบนี้ใครๆก็มีกันได้ แต่ผมก็เสียดายทุกเบาะแส...


ผมกดกริ่งหน้าบ้านอยู่นานก็ไม่มีใครมาเปิดประตู หลังจากนั้นบุคคลไม่คาดคิดก็มายืนอยู่ข้างๆผม

"ไม่มีใครอยู่เหรอครับพี่ถิง!!!"

"คุณชายอู๋ คุณมาได้ยังไง" 

"ผมกะแล้วว่าพี่ต้องมา แต่ไม่คิดว่าพี่จะมาเร็วแบบนี้ เอาเป็นว่าผมมีสายสืบของผมก็แล้วกัน ว่าแต่วันนี้คุณหนูของพี่เค้าไม่กักตัวพี่ไว้เหรอครับ"

"คุณชายอู๋ ผมต้องรีบไป ขอผมดูบ้านนี้ให้แน่ใจก่อนนะครับ"

"ผมว่า ไม่น่าจะมีใครอยู่มั้งครับ อ้าวๆ นั่นไง มีคนออกมาแล้ว"

........................................................................

"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า คุณนายหวังอยู่มั้ย"

"ไม่อยู่หรอกค่ะ คุณนายไปข้างนอก เย็นๆกว่าจะกลับ มีอะไรรึเปล่า เอ๊ะ คุณ...เอ่อ...พวกคุณเป็นใครคะ"

"ผมชื่อ เฉินเหว่ยถิงครับ พอดีว่าผมมีธุระอยากจะคุยกับคุณนายหวังนิดหน่อย"

"ป้าครับ แล้วมีเบอร์โทรมั้ยครับ พวกเราอยากจะติดต่อหน่ะครับ" คุณชายอู๋ช่วยผมอีกแรง

"เอ่อ...ดิชั้นคงให้พวกคุณไม่ได้หรอกค่ะ คุณนายจะว่าเอาได้ เอาเป็นว่าไว้มาใหม่วันหลังก็แล้วกันนะคะ ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ"

เสร็จแล้วป้าคนนั้นก็รีบเดินเข้าบ้านไป เหมือนกลัวใครจะมาเห็น ก็แปลกดีนะ ตอนแรกเค้าทำเหมือนคุ้นหน้าผม จ้องผมด้วยสายตาแปลกๆด้วยซ้ำ แต่ว่าอยู่ดีๆก็ตัดบทไป เฮ้อ!!! ไว้ต้องมาใหม่สินะ...

"คุณชายอู๋ครับ กลับไปก่อนเถอะ วันนี้ไม่ได้อะไรเลย ผมต้องกลับแล้ว เดี๋ยวคุณหนูจะถามหา"

"ฮึๆ ห่างกันไม่ได้เลยนะครับ ว่าแต่พี่ถิงมายังไง ให้คนของผมไปส่งมั้ย จะได้ถึงเร็วหน่อย"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกลับเองได้"

"แล้วยัยคุณหนูนั่น วันนี้ไม่ไปไหนเหรอครับ ถึงได้ปล่อยพี่ออกมาได้แบบนี้"

"ไม่ครับ วันนี้คุณหนูอยู่ที่ออฟฟิศ ผมไปก่อนนะครับคุณชาย"

"เอาแบบนี้มั้ยพี่ถิง ผมจะให้คนมาเฝ้าให้ ถ้ามีความเคลื่อนไหวอะไร ผมจะบอกไป พี่มาแบบนี้ก็อาจจะไม่สะดวก ใช้คนของที่บ้านก็ไม่ได้ด้วย ผมจะช่วยพี่อีกแรง"

ผมคิดไปคิดมา แค่นี้ผมก็เกรงใจคนสกุลอู๋จะแย่แล้ว แต่ว่าเหตุผลเค้าก็ถูก ผมจะเทียวไปเทียวมาแบบนี้บ่อยๆคงไม่ได้ ถ้ามีอะไรหรือว่าคุณนายหวังอยู่ ผมค่อยหาทางมาใหม่จะดีกว่า ผมเลยตกลงยอมรับความช่วยเหลือ

หลังจากนั้นผมก็กลับไปประจำหน้าที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งตอนบ่าย พอการประชุมสิ้นสุดลง ผมก็คุ้มกันคุณหนูไปขึ้นรถ คุณหนูสั่งคนขับ

"ไปบ้านพักที่โรงงาน พี่ถิงสั่งแม่นมว่า คืนนี้ผมไม่กลับบ้านนะ ผมจะนอนที่บ้านเล็ก"

บ้านเล็กคือบ้านที่คุณหนูเอาไว้ออกแบบกลิ่นน้ำหอมต่างๆ จะมีข้อมูลและน้ำหอมหลากหลายยี่ห้อ รวมทั้งส่วนผสมทางเคมีต่างๆมากมายในบ้านนั้น ผมเคยตามคุณหนูมาที่นี่ไม่บ่อยนัก เพราะส่วนใหญ่ถ้าคุณหนูมาที่นี่แปลว่าคุณหนูต้องการสมาธิและทำงานอย่างจริงจัง ที่โรงงานมีระบบป้องกันภัยค่อนข้างดี จึงไม่ต้องเป็นห่วงมาก...

อืม ก็แปลกดีนะ หรือว่าการประชุมมีอะไร หรือว่าคุณหนูคิดอะไรออกถึงต้องมานอนที่นี่กัน

"พี่ถิง แล้วก็สั่งให้คนเอาอาหารมาส่งที่บ้านเล็กด้วย ผมขอไปทำงานก่อน แล้วจะเรียกนะ"

...ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ทำตามที่คุณหนูสั่งทุกอย่าง ผมก็รอที่ด้านนอกห้องทำงาน ภายในบ้านเล็ก ทุกอย่างมีแต่ของใช้ที่มีการออกแบบ คุณหนูเป็นคนชอบงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์ สมแล้วที่เป็นคุณชายที่สามารถออกแบบกลิ่นน้ำหอมมาขายทำกำไรให้บริษัทหลี่ได้มากมาย ด้วยความที่เป็นศิลปินนี่เอง...

หลังจากนั้นสักพักใหญ่ คุณหนูก็ออกมาจากห้องทำงาน พร้อมกับน้ำหอมขวดนึง แล้วเดินตรงมาหาผม...


"พี่ถิง ลองดมสิ นี่น้ำหอมกลิ่นใหม่นะ ผมลองทำดู หอมมั้ย"

ผมดมเข้าไป แล้วก็รู้สึกว่าหอมเย็นๆ รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก...

"อืม หอมดีครับ เหมาะกับผู้ชายที่ไม่ชอบแบบหอมหวานมาก ว่าแต่คุณหนูตั้งชื่อไว้รึยังครับ"

"ชื่อเหรอ อืมมมม รอก่อนนะ อ่ะ ผมให้ดมอีกทีนะ หอมใช่มั้ย นี่ผมออกแบบให้พี่ถิงคนเดียวเลยนะ"

"ผมเนี่ยะนะ ผมไม่สำคัญขนาดนั้นหรอกครับ" ผมได้ดมน้ำหอมอีกรอบ กลิ่นเริมจะฉุนขึ้นนิดหน่อย

"ทำไมจะไม่ ผมบอกพี่แล้ว พี่เป็นของผม ผมจะทำน้ำหอมนี่ไว้ให้พี่ถิงคนเดียว แล้วไหนล่ะ ผมหิวแล้ว มา กินข้าวกัน"

สักพักผมก็เอาอาหารเย็นมาจัดให้คุณหนู พร้อมนั่งกินด้วยกัน คุณหนูเวลากินนี่น่ารักดีนะ ผมมองเค้าตักอาหารทุกอย่างตรงหน้าเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

"พี่ถิง มองอะไร"

"ก็เวลากินคุณหนูน่ารักดีนี่ครับ ผมชอบมอง"

"พี่ถิงกินสิ อาหารตั้งเยอะ ผมกินคนเดียวไม่หมดหรอก กินก่อนนะ แล้วค่อยว่ากัน"

ผมไม่แน่ใจว่าทำไมคุณหนูทำท่าทางแปลกๆ แต่เห็นเค้ากินอิ่ม นอนหลับได้ผมก็มีความสุขแล้ว ผมจึงก้มลงจะตักอาหารเพิ่ม แต่แล้วก็เริ่มมีความรู้สึกบางอย่าง ร่างกายผม...มันเริ่มจะอึดอัดส่วนล่างขึ้นหน่อยๆ หรือว่าอากาศภายในห้องนี้ไม่ค่อยถ่ายเท ก็ไม่นะ ผมว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ผมก็ยังคงกินต่อไปอีกนิด จนเริ่มรู้สึกร้อนทั้งตัวจนทนแทบไม่ไหว...


"คุณหนูครับ ผมอิ่มแล้ว ขอไปอาบน้ำก่อนนะ คุณหนูอิ่มแล้วก็วางไว้นะครับ เดี๋ยวผมมาจัดการเอง"

"อะไรกันพี่ถิง...กินไปนิดเดียวเอง จะไปอาบน้ำเหรอ ผมฝากเปิดแอร์ในห้องนอนด้วยนะ เดี๋ยวผมตามเข้าไป"

ผมรู้สึกไม่สบายตัวแบบบอกไม่ถูก จึงเดินเข้าไปเปิดแอร์ในห้องนอนคุณหนูและกำลังจะเดินออกจากห้อง คุณหนูก็เดินตามเข้ามา...

"พี่ถิง จะไปไหน???"


"ผมร้อนครับคุณหนู ขอไปอาบน้ำก่อนจริงๆ เอ่อ...ตอนนี้มันรู้สึกอึดอัดมาก"


"พี่ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เรามีเรื่องต้องคุยกัน"

"เดี๋ยวก่อนได้มั้ยครับ คุณหนู!!! จะทำอะไรหน่ะ"

แล้วคุณหนูก็เดินเข้ามาหาผม แกะกระดุมเสื้อผมออกทีละเม็ดอย่างรวดเร็ว เค้ากระซิบข้างหูผม...

"พี่ถิงรู้มั้ย น้ำหอมใหม่ของผม ชื่ออะไร"

"อะไรเหรอครับ???"

"น้ำหอมออกัสซัม"

"ฮะ!!! อะไรนะครับคุณหนู"

"ออกัสซัมแปลว่าอะไรล่ะครับ หรือว่าพี่ถิงไม่รู้???"

"แล้วผมใช้แล้วจะ...เอ่อ ถึงจุดสุดยอดเหรอครับ คุณหนูๆๆๆ เดี๋ยวสิครับ!!!"


อยู่ดีๆคุณหนูก็ถอดเสื้อผมออก แล้วมัดมือผมไว้ด้วยกันด้านหลังด้วยเชือกเส้นใหญ่

"นี่เป็นบทลงโทษของคนโกหก!!!"

"คุณหนูๆ คุณหนูปล่อยผมครับ อะไรกันหน่ะ ผม...คุณหนู!!!"

ตอนนี้ร่างกายผมมันรู้สึกร้อนรุ่มและต้องการมาก ที่อึดอัดอยู่คือความอยากแบบนี้นี่เอง น้ำหอมนั่นที่คุณหนูให้ผมดม มันกำลังเกิดปฏิกิริยาสินะ แต่ว่าคุณหนูเป็นอะไรไป เค้าเอาผมมามัดไว้กับหัวเตียงด้านหนึ่งอย่างแน่นหนา ผมพยายามดิ้น และตอนนี้เหงื่อเริ่มไหลซึม ด้วยความร้อนและความอยาก ทำให้คนตรงหน้าดูเหมือนจะพอใจ...


"อืม...พี่ถิง เมื่อเช้าพี่ไปไหนมา???"


คุณหนูถอดเสื้อตัวเองออก เผยให้เห็นเนื้อเนียนขาวอวบอัดที่ตอนนี้ผมเห็นแล้วรู้สึกอยากกอดและจูบไปหมดทั้งตัว ส่วนล่างของผมรู้สึกว่ามันจะตั้งชันขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไร มันเป็นไปเองเมื่อเห็นร่างกายด้านหน้าเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองให้ผมเห็น

"คุณหนูๆๆ ปล่อยผมสิ ผมไม่ไหวแล้ว มันอึดอัดมาก ช่วยผมหน่อยนะๆๆ"

"ไม่!!! ถ้าพี่ถิงไม่ตอบว่าเมื่อเช้าทำไมพี่ถึงอยู่กับนายอู๋อี้ฝานนั่นได้"

คุณหนูเอาหน้าเข้ามาใกล้หน้าผม ปล่อยลมหายใจร้อนปะทะใบหน้าผมเป็นเชิงท้าทาย ผมยื่นหน้าไปจะจูบเค้า แต่เค้าเอาหน้าหนีไป โอ้ย!!! ทำไมต้องทรมานผมแบบนี้ด้วย 

"คุณหนูได้โปรดเถอะครับ ผม...ผมต้องการคุณหนูมาก ปล่อยผมเถอะ"

"ไม่!!! ตอบมาก่อน พี่ไปไหนมา"

คุณหนูเอามือมาปลดเข็มขัดและรูดซิบออก ทันทีที่ทุกอย่างถูกเปิด ส่วนนั้นพร้อมมากแล้ว ขยายและตั้งชูขึ้นอย่างเห็นได้ชัดว่าต้องการอะไร คุณหนูก้มมองมันด้วยความพอใจ แต่ไม่ทำอะไร!!!!!!

"ถ้าตอบ ผมจะช่วยพี่ แต่ถ้าไม่ตอบ ก็ทนเอานะ ดูสิ ว่าพี่จะทนไหวมั้ย"

คราวนี้คุณหนูถอดกางเกงตัวเองออก เผยให้เห็นส่วนล่างที่ยังไม่พร้อมเต็มที่เท่าไหร่นัก เริ่มเอามือปลุกเร้าส่วนนั้นของตัวเองเหมือนยั่วผม แล้วมากอดคอผมไว้พร้อมเลียที่แก้มไล่ไปจนถึงใบหูอย่างช้าๆ...

"คุณหนูๆๆ ได้โปรด ผม...อืมมม ผม...ปล่อยผมได้มั้ย ผมขอร้อง ผมไม่ไหวแล้ว ผมต้องการ...คุณหนู!!!"

"ก็แค่ตอบ ตอบสิ!!!"

"ผม..ผม ผมไปทำธุระครับ"

คุณหนูเอาลิ้นมาเลียตรงหน้าอกผม มันทำให้ผมแทบอยากจะคลั่ง อยากจะโถมตัวเข้าใส่คนตรงหน้า แต่ผมพยายามจะดิ้นเท่าไหร่ เชือกที่มัดไว้ก็ไม่หลุดสักที...

"ธุระ!!! ธุระอะไร ทำไมถึงได้มีนายนั่นด้วย ตอบสิ ผมรู้พี่อึดอัดมาก"

คุณหนูยังใช้ทั้งมือและปากลูบไล้ตัวผมไปทั่ว ตั้งแต่ซอกคอ แผ่นอกและกล้ามท้อง แต่ว่าไม่ยอมทำอะไรกับส่วนล่างผมเลย ยังคงปล่อยให้มันขยายตัวเองมากขึ้นทุกทีๆ..

"คุณหนู จูบผมนะ ได้โปรด ช่วยผมหน่อยนะครับ นี่มันไม่ไหวแล้ว ผมร้อนข้างในมากเหมือนจะระเบิดแล้วด้วย"

"ไม่!!! จนกว่าพี่จะตอบว่าพี่ไปทำอะไรกับมัน"

ผมรู้สึกว่าทำแบบนี้ผมยิ่งทรมานกว่าอะไรทั้งหมด อยากปลดปล่อยความรู้สึกด้านใน แต่มันทำไม่ได้ เพราะไม่ได้รับการตอบสนอง ผมต้องหาทางรอดให้ได้สินะ...

"ผมไปหาเพื่อนครับ แล้วพอดีคุณชายอู๋ก็มาเจอพอดี บังเอิญจริงๆนะครับ คุณหนูผมตอบแล้ว ปล่อยผมเถอะ ได้โปรด ผมขอร้อง!!!"


คุณหนูพุ่งเข้ามาจูบผม ปากชนมาอย่างรุนแรง ลิ้นแลกลิ้นกันอย่างดุเดือด มือคุณหนูลูบที่กล้ามท้องผมไปมาอีกครั้ง คราวนี้ยิ่งกระตุ้นส่วนล่างให้อยากปลดปล่อยมากขึ้นอีก คุณหนูหยุดจ้องหน้าผม สายตานั่นมันยั่วผมมาก...

"คุณหนูแกล้งผม โหดร้ายกับผมมาก ทำไมทำกับพี่ถิงแบบนี้ล่ะครับ อย่าทรมานผมอีกเลย ผมต้องการคุณหนูมาก คุณหนูก็ต้องการผม อย่าให้ผมหลุดไปได้นะ คุณหนูจะโดนทำโทษ"

"ฮึๆ พี่ถิง ผมกำลังทำโทษพี่นะ พี่จะมาทำโทษผมได้ยังไง"


"ผมก็ตอบแล้ว ปล่อยผมสิครับ!!! มันไม่มีอะไรจริงๆ"

"ไม่!!! พี่ต้องทรมาน พี่เป็นของผม ผมบอกแล้วพี่ห้ามไปยุ่งกับคนอื่น โดยเฉพาะนายอู๋อี้ฝานนั่น"

"คุณหนู ผมไม่เคยไปยุ่งกับใครเลยนะ ปล่อยผมเถอะนะๆๆ คุณหนูของผม"

ผมพยายามขยับข้อมือเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าที่มัดไว้เริ่มคลายออกแล้ว ผมจึงไม่รอช้าโถมตัวเข้าใส่คนตรงหน้าอย่างไม่ยินยอมให้ถูกทรมานอยู่ฝ่ายเดียวอีกต่อไป....

ตอนนี้ผมจึงคร่อมอยู่บนตัวคุณหนู

"พี่ถิง!!! อะไรเนี่ยะ พี่ต้องถูกทำโทษสิ ก็พี่ไปเจอมัน มันเยาะเย้ยผม!!!"

เค้าเอามือปัดป้องตัวผมไปมา ผมจึงใช้แรงกดข้อมือทั้งสองลงบนเตียงอย่างแรง

"คุณหนูจะได้รู้ว่าน้ำหอมออกัสซัม มันออกฤทธิ์ยังไง จะทำโทษผมเหรอ ดูสิว่าใครกันแน่ที่จะต้องโดนลงโทษ!!!"

ผมก้มลงบดปากตัวเองเข้ากับใบหน้าคนตัวเล็กด้านล่างอย่างกระหายอยาก ร่างกายผมตอนนี้มันร้อนรุ่มด้วยความปรารถนาที่สุมอยู่เหมือนไฟ ส่วนล่างผมไม่รอช้าแล้ว ผมเอามือมาแยกขาสองข้างของคุณหนูออก สอดใส่ความต้องการด้านล่างเข้าไปในช่องทางด้านหลังของคุณหนูอย่างไม่ปราณี..

"อื้อออ อื้อออ พี่ถิง...เจ็บๆๆ อึกก เจ็บ"

ผมไม่ฟังอะไร เพราะตอนนี้สมองผมมันไม่สั่งการ มีเพียงสันชาตญาณดิบที่จะต้องปลดปล่อยเท่านั้น...

น้ำหล่อลื่นสีขาวขุ่นจากความต้องการที่เต็มเปี่ยมของผมไหลทะลักออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับจังหวะที่สอดดันเข้าไป เพื่อให้สัมผัสจุดสุดยอดของคนด้านล่าง...ผมยังคงดันเข้าออกสลับไปมา โดยไม่ได้สนใจคนตรงหน้าที่ยังคงร้อง...

"อึกๆ อื้อๆๆ พี่...ถิงงง อื้อออ อ๊า"

แล้วผมก็ใช้แรงยกเค้าขึ้นแล้วพลิกตัวกลับให้เค้าคว่ำตัวลงโดยที่เอามือประคองเอวเค้าไว้...

แล้วสอดใส่เข้าไปอีกครั้งด้วยช่องทางที่ขยายมากขึ้นกว่าเดิม...แต่เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีกพร้อมกับจับเอวเข้ากระแทกเข้าออกไปด้วยกัน

"อ๊าาาา อ๊าาาา พี่ถิงๆ ผม...ซีสสส"

"คุณหนู ผมไม่ไหวแล้วครับ เจ็บหน่อยนะ แต่ผมต้องการจริงๆ ใครล่ะที่ลงโทษผมแบบนี้"

อึก....อึก...

"อื้อ อื้อออ พี่..."


ผมยังคงกระแทกเป็นจังหวะเข้าออกไปเรื่อยๆ เหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...มันเป็นความต้องการที่มีความสุข มันรู้สึกสุดยอดมากจริงๆ ผมชักชอบน้ำหอมนี่ซะแล้ว แต่คนตรงหน้าสิครับ ดูหมดแรงไปเลย ผมจึงค่อยๆช้อนตัวเค้าขึ้นมาพิงกับอกผม ตอนนี้เหงื่อคุณหนูออกแทบจะมากกว่าผมในตอนแรกอีก...

"คุณหนู ชอบมั้ย...ผม...ผมยังต้องการอีก"

"อื้อ ผม...พี่ถิง อื้อ"

ผมยังคงสอดใส่เข้าออกไปเรื่อยๆด้วยแรงที่ไม่มากเท่าเดิมแล้วแต่คุณหนูร้องและบิดตัวไปมาเบาๆ อย่างมีความรู้สึกตอบสนอง...

ผมหยุดจังหวะลง เราหอบหายใจด้วยร่างกายที่กอดกัน ร่างกายผมยังคุกเข่ารองรับตัวเค้าค้ำยันอยู่บนเตียง...

"พี่ถิง...ตกลงพี่ไม่มีอะไรกับนายนั่นแน่นะ"

"โธ่...คุณหนู ขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก ใครจะไปกล้าครับ ดูคุณหนูของผมสิ ลงโทษผมแบบนี้แล้วคุณหนูก็ต้อง..."

คุณหนูบิดตัวหันมาจูบผม...
"พี่ถิง...พี่ห้ามทรยศผม รู้รึเปล่า ไม่งั้นพี่จะถูกลงโทษอีก"

"ผมสาบานเลย คุณหนูของผม ผมรักคุณหนูนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไม่ทรยศคุณหนูหรอกครับ"

ผมพูดกระซิบข้างหูด้วยเสียงกระเซ่าแหบพร่า แรงแห่งความปรารถนายังรุนแรงมาก ผมเอาปากจูบที่หลังคุณหนูไปเรื่อยๆ ลงมาจนกระทั่งถึงแนวสะโพก แล้วเอามือช้อนไว้ เพื่อเริ่มสอดใส่มันอีกครั้ง...

"อีกนะครับ ผมขออีก"

"อื้อออ พี่ถิง...อ๊าาา"


คืนนั้น คนที่เหมือนถูกลงโทษคือคุณหนูครับ ไม่ใช่ผม...ผมแทบจะคลอเคลียและรุกไล่ร่างกายทุกส่วนของคุณหนูทั้งคืน เหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ช่องทางหลังบวมแดง ปากเจ่อแดงด้วยความต้องการของผมที่ถูกปลดปล่อย น้ำหอมนี่ทำให้ผมเป็นได้ขนาดนี้ หรือว่ามันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือตัวผมเองที่ต้องการร่างกายคนตรงหน้าไม่หยุดแบบนี้ คุณชายอู๋นะคุณชายอู๋ เล่นอะไรอีกเนี่ยะ!!! 
ผมลูบไล้ทุกส่วนอย่างสำนึกผิดที่รุนแรงกับเค้าไปเรื่อยๆ จนคุณหนูหลับไปในอ้อมกอดผม...


เช้าขึ้นมา มีเสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ใครนะ!!! 


แม่นมนั่นเอง ผมจึงเอื้อมมือมารับโทรศัพท์ โดยที่มีคุณหนูซุกหน้าอยู่กับอกผม

"ครับแม่"

"พาคุณหนูกลับมา!!! คุณท่านกลับมาแล้วและต้องการเจอคุณหนูเดี๋ยวนี้"


                                                          ....โปรดติดตามตอนต่อไป.......