วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

ลิขิตแห่งฟ้า ใต้หล้านี้เพื่อเธอ ตอนที่ 3

ตอนที่ 3 เกสรดอกโบตั๋น

"สติคือการระลึกรู้"



...วันนี้เฟิงเยว่รู้สึกเบื่อๆ ก็เลยออกมานั่งเล่นในสวนของวังพร้อมกับจัดดอกไม้ไปด้วย จริงๆแล้วเขาไม่เคยคิดเลยว่า ชีวิตจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ด้วยความที่ถิงยื่อไม่อยากให้เข้าไปยุ่งกับงานที่เป็นส่วนของการดูแลทหารหรือภายนอกวัง จึงยกหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในวังแห่งดินแดนยื่ออ้ายเยว่นี่ให้เขาหมด เขาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถือว่านี่เป็นงานของเขาแทน โดยไม่รู้สึกว่าติดขัดอะไร ตรงกันข้าม กลับรู้สึกว่าเขาทำได้ดีกว่าให้ไปนั่งคุยราชการกับคนอื่นซะอีก...

"ผิงอัน เจ้ายิ้มอะไร ข้าเห็นนะ" เฟิงเยว่เอ่ยถามสาวรับใช้คนสนิท

"ข้าก็แค่ชื่นชมราชินีของข้า ท่านดูงามมากเมื่ออยู่ในสวนดอกไม้นี่"

"เจ้านี่นะ ชักจะเป็นเหมือนถิงถิงเข้าไปทุกวัน"

"แหมๆๆ ดูท่านสิ คิดถึงองค์ราชาถิงยื่ออยู่ล่ะสิคะ"

"ไม่ใช่ซะหน่อย ข้าแค่คิดว่าคำพูดคำจาเจ้า ชักจะถอดแบบนายของเจ้าเข้าไปทุกทีแล้วนะ"

"เปล่านะคะ ข้าแค่ชมไปตามที่เห็น อุ้ย!!! นั่น ราชินีของข้า ท่านต้องระวังนะคะ นางมาโน่นแล้ว"


"ใครกัน??? อ้อ องค์หญิงอู๋อี้ มาอยู่ในวังตั้งหลายวัน อยู่แต่ในห้องคงจะอึดอัด ก็ออกมาเดินเล่นบ้างไม่เห็นเป็นไร"

"ดูสิ!!! พี่กวงเมาก็อะไร ตามติดไม่ห่างเลย เชอะ!!!"


"เอาน่า ผิงอัน นี่เป็นคำสั่งถิงถิง เจ้าก็ต้องเข้าใจนะ"

สองนายบ่าวหยุดการพูดคุยเมื่ออีกฝ่ายก้าวเท้าเข้ามาใกล้ จนน่าจะได้ยินการสนทนาบ้างแล้ว

"ถวายคำนับเพคะ ราชาเฟิงเยว่"

"หามิได้องค์หญิง ไม่ต้องมากพิธี เราก็เป็นพันธมิตรผูกสัมพันธไมตรีกันแล้ว เรียกข้าว่าเฟิงเยว่เฉยๆก็ได้"

"งั้นข้าขอเรียกว่าพี่เฟิงเยว่แล้วกันนะคะ ส่วนท่านก็เรียกข้าว่าอู๋อี้เฉยๆก็ได้ ในเมื่อข้าอายุน้อยกว่า"


"เจ้าคงจะเบื่อสินะ ว่าแต่กำหนดกลับของเจ้าคิดว่าจะเป็นสักเมื่อไหร่กันรึ"

ราชาเฟิงเยว่ไม่รอช้า เอ่ยถามสิ่งที่อยู่ในใจทั้งหมด ทำให้องค์หญิงอู๋อี้แทบซ่อนสายตาแค้นเคืองไว้ไม่อยู่แต่ก็ยังกลั้นใจคิดถึงแผนที่วางไว้

"ข้าคิดว่าคงอีกไม่ช้า เพียงแต่ว่า ข้ารู้สึกอยากชมวังและเมืองให้ทั่วๆก่อน ที่นี่ไม่เหมือนดินแดนซาท่านก็รู้ แผ่นดินข้าแห้งแล้ง เรามีแต่ทรัพยากรมีค่าทางการค้า แต่ไม่มีธรรมชาติแบบนี้เลย"

"อืม ข้าเข้าใจ งั้นเจ้าก็พักผ่อนให้สบายเถอะ อยากไปไหนก็บอกท่านแม่ทัพกวงเมาได้ ไม่ต้องเกรงใจ"

ราชาเฟิงเยว่หันไปสบตากวงเมา สหายเก่าจากหมู่บ้านดินแดนเหอที่ติดตามกันมานาน จนสังเกตได้ว่าสายตานั่น ไม่ได้มองที่ผิงอันเหมือนที่ผ่านๆมา กลับไปจดจ่ออยู่ที่องค์หญิงตรงหน้า

"ถ้าอย่างไรเสีย ข้าอยากให้พี่เฟิงเยว่พาข้าชมสวนทางด้านโน้นหน่อยได้หรือไม่ ข้าเห็นมีบ่อน้ำและเรืออยู่หลายลำ"

"เอ่อ...ข้าไม่ค่อยสะดวกใกล้น้ำสักเท่าไหร่"

เขากับน้ำควรอยู่ให้ห่างกันไว้ ทุกครั้งที่เจอน้ำ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะไม่รู้สึกทรมานเลย มันทำให้เขาหนาว และร่างกายเย็นขึ้นแทบสิ้นใจทุกครั้งไป...


"ไม่เอาน่าพี่เฟิงเยว่ ไหนท่านว่าเราเป็นพันธมิตรกันไงล่ะ ท่านพี่ช่วยพาข้าชมหน่อยเถอะ ใครจะมารู้จักวังนี้ได้ดีเท่าท่านกันล่ะ"

ในที่สุดราชาเฟิงเยว่ก็ต้องจำใจพาองค์หญิงอู๋อี้มาชมวังส่วนที่เขาไม่ค่อยได้มา จะมาก็ต่อเมื่อราชาถิงยื่ออยู่ด้วยเท่านั้น 

"เอ๊ะ ท่านพี่เฟิงเยว่ ขอข้าขึ้นไปบนเรือได้มั้ย"

"ได้สิ เรือนี้ ดินแดนเหอให้เป็นของกำนัล ทั้งสวยงามและมีความพิเศษมากมาย"


"อ้อ ถ้าอย่างนั้น ท่านช่วยส่งข้าขึ้นไปชมหน่อย"

ระหว่างการเดินไปขึ้นเรือนั้น เฟิงเยว่รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยที่มี เขาคิดว่าองค์หญิงอู๋อี้ไม่ได้มาดีแน่ๆ แต่ใครจะคิดว่านางจะทำจริงๆ เมื่อสองคนอยู่ใกล้เรือและไม่ทันตั้งตัว องค์หญิงอู๋อี้ก็ผลักเฟิงเยว่ตกน้ำลงไปจริงๆ ถึงแม้ทหารจะมีหลายคนและผิงอันก็จับตามองอยู่ แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ๆได้เพราะทั้งสองเป็นเจ้านายตน

"อร๊ายยย พี่กวงเมา ทหารเร็วเข้าๆ ราชินีของข้า ตกน้ำไปแล้ว!!!"

กวงเมาไม่รอช้า กระโดดลงไปช่วยทันที แต่เฟิงเยว่ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายตัวเองหนาวมากและเย็นลง เขาไม่รับรู้เรื่องราวและได้ยินอะไรอีก...


เฟิงเยว่เห็นภาพตรงหน้า เป็นราชาถิงยื่อที่เดินห่างออกไป ข้างกายเขาเป็นผู้หญิงคนนึง ซึ่งเขาจำได้ดีว่านั่นคือองค์หญิงอู๋อี้ นี่เขาตายไปแล้วหรือยังไงนะ องค์หญิงทำให้เขาตายเหรอ แล้วถิงยื่อก็ไปกับนาง...

"ถิงถิง เจ้าจะไปไหน เจ้าจะทิ้งข้าไปเหรอ"

แต่แล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่เข้ามาในตัว ริมฝีปากเริ่มมีความรู้สึก ไอร้อนจากจมูกของอีกคนเข้ามาปะทะใบหน้า...

ลำแขนแข็งแรงที่โอบกอดร่างกายเขาไว้ ความอบอุ่นนี้ที่เขาจำได้ ทำให้เฟิงเยว่ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็พบว่าถิงยื่อยังคงจูบเขาไม่ยอมปล่อยและกอดให้แน่นขึ้นอีก จนกระทั่งเขาได้สติก็กอดตอบและจูบรับกันอย่างแนบแน่น...

สองร่างกายประสานกันเหมือนเดิม ไม่ยอมแยกออกจากกัน แต่สักพักก็เริ่มมีเสียงขึ้นจากด้านข้าง

"อะ...แฮ่มมมม!!!"

เมื่อริมฝีปากอุ่นถูกถอนออกจากคนตัวเย็นตรงหน้า ก็เริ่มมีเสียงดังขึ้น

"แหม...แม่เฒ่า ท่านจะอะไรนักหนา" ถิงยื่อหันหน้าไปต่อว่า

"หามิได้เพคะ ราชาทั้งสองช่วยเกรงใจคนแก่อย่างข้าด้วย"

"แม่เฒ่าตงสุ่ย ท่านมาได้ยังไง" คราวนี้เฟิงเยว่เริ่มได้สติและหันไปถาม


"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าหม่อมชั้นไม่มา เกรงว่าจะไม่ทันการ"

"โธ่!!! แม่เฒ่า จะมาหม่อมชั้นอะไรกัน แทนตัวเองเหมือนเดิมเถอะ เราใช่คนอื่นคนไกล" 

ถิงยื่อที่กำลังร้อนใจยังเอ่ยต่อว่าคนแก่ไม่หยุด

"ตอนนี้ราชาถิงยื่อคงหายกังวลแล้วนะ นี่ท่านแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับมาสองวันแล้ว"


"ฮะ!!! อะไรกัน นี่ข้าเป็นอะไร ไม่รู้สึกตัวสองวันเลยรึ"

เฟิงเยว่ไม่รู้เลยว่ามันนานขนาดที่จะทำให้คนตัวใหญ่ตรงหน้าแทบจะฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะองค์หญิงอู๋อี้ที่เอาแต่ปฏิเสธและร้องไห้ แต่เขาก็ยังสั่งให้เก็บตัวอยู่แต่ในห้องเท่านั้น

"แม่เฒ่า ขอบคุณท่านมากที่มา ถ้าไม่ได้ท่านเอายามาให้และรักษา เฟิงเฟิงก็ไม่รู้จะเป็นยังไง"

"องค์ราชาถิงยื่อ รบกวนท่านออกไปก่อนได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับราชาเฟิงเยว่เพียงลำพัง"

"อะไรกัน ท่านนี่...ข้าไม่ไป ท่านจะคุยอะไร ในเมื่อข้ากับเฟิงเฟิงก็เป็นคนๆเดียวกัน มีอะไรจะต้องปิดข้าอีก"

"ถิงถิง เจ้าอย่าว่าแม่เฒ่าสิ ออกไปก่อน ข้ายังไม่อยากเถียงกับเจ้านะ"

"ไม่สิ เฟิงเฟิง เจ้าห้ามมีความลับกับข้า ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบตาย แต่พอฟื้น เจ้าก็จะมาไล่ข้าออกไป"

หลังจากถกเถียงกันสักพัก ราชาถิงยื่อก็ต้องยอมออกไปแต่โดยดีเพราะคนเดียวที่เขาไม่กล้าขัดก็คือราชาเฟิงเยว่

"แม่เฒ่าตงสุ่ย ท่านมีอะไรก็ว่ามาเถอะ ข้าพร้อมจะฟังแล้ว"

"ข้าแค่จะบอกว่า ร่างกายของท่าน ตอนนี้พลังของไข่มุกยังไม่จางหายใช่หรือไม่ บางวันท่านก็ร้อน บางวันท่านก็หนาว แต่ด้วยความที่ท่านมีพลังจากร่างกายของราชาถิงยื่อ ทำให้อาการดีขึ้น"

"ท่านแม่เฒ่า ข้ารู้ดี ว่าพลังของไข่มุกเลี่ยงซิน มีผลกับตัวข้าแค่ไหน แต่ว่ามันรุนแรงขึ้นทุกทีตามที่ท่านบอก หากวันไหนข้าไม่ได้ใกล้ชิดกับถิงยื่อมันก็จะเป็นมากขึ้น"

"นั่นล่ะ ข้าเลยสงสัยว่าร่างกายท่านอาจจะมีทายาทพวกท่านก็เป็นได้ แต่ด้วยความที่ท่านโดนความเย็นของน้ำซ้ำเติม ข้าจึงยังไม่แน่ใจ ตอนนี้ยาที่ข้าให้ประกอบกับความร้อนจากร่างกายของราชาถิงยื่อก็ยังช่วยท่านได้ แต่ข้าขอบอกตามตรง เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในดินแดนเหนือฟ้ามาก่อน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป ตอนนี้ข้าทำนายได้เพียงว่า หนทางข้างหน้าจะวุ่นวายมาก ท่านต้องมีสติและระมัดระวังให้ดี"

"แม่เฒ่า ข้าเข้าใจ"

"เอาเป็นว่า ตอนนี้ท่านจะบอกราชาถิงยื่อว่าอย่างไรดี"


"ข้าขอยังไม่บอกได้หรือไม่ แค่ทุกวันนี้เขาก็เป็นห่วงข้าจะแย่แล้ว อีกอย่างยังไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าเขารู้ว่าร่างกายข้าเป็นยังไง เขาจะยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก"

"ท่านนี่น้า เป็นอย่างไรก็อย่างนั้น เก็บทุกอย่างไว้กับตัวตลอด ไม่เหมือนราชาถิงยื่อสักนิด รายนั้น มีอะไรแทบจะร้องตะโกนบอกทั้งดินแดนแล้ว"

"ก็เพราะเขาเป็นแบบนี้ไง ข้าถึงยิ่งให้รู้ไม่ได้ ท่านแม่เฒ่า ท่านไม่รู้หรอกว่าข้าคิดว่าข้ากำลังถูกปองร้าย"

"องค์หญิงอู๋อี้สินะ"

"อืม ข้าถูกนางผลักตกน้ำ ทั้งๆที่ข้ารู้ว่านางเป็นอันตราย แต่ข้าก็เลี่ยงไม่ได้ ข้ายังไม่อยากให้ถิงยื่อต้องมีปัญหาระหว่างดินแดนเพราะข้าอีก"

"เอาล่ะ ทุกอย่างสุดแล้วแต่ฟ้า ในเมื่อพวกท่านเป็นแบบนี้ เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะอยู่ที่วังสักระยะ คอยดูแลท่านด้วยดีมั้ยล่ะ อีกอย่างฮวาเมาคงคิดถึงพี่สาวของนางจะแย่แล้ว ขอข้าไปรับนางมาด้วยได้มั้ย"



"ได้สิ ข้าก็คิดถึงนาง ดีเหมือนกันข้าจะได้ไม่เหงา ขอบคุณท่านแม่เฒ่ามาก"

หลังจากแม่เฒ่าออกไป ถิงยื่อก็สั่งให้ห้องครัวทำอาหารและข้าวต้มมาให้เฟิงเยว่ เขาดูแลไม่ห่าง เขาไม่อยากปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว 

"ผิงอัน นี่อะไร!!!"

เขาเห็นขวดที่วางอยู่ข้างสำรับอาหาร หลังจากที่ป้อนข้าวต้มให้เฟิงเยว่กินจนเกือบหมด 

"เห็นแม่เฒ่าฝากเอาไว้ บอกว่าเป็นยาบำรุงให้ราชินีของข้า ราชาถิงยื่อห้ามกินนะคะ"

"ก็แล้วมันอะไรเล่า ไหนดูสิ!!!"

"ถิงถิง เจ้าอย่ายุ่งเลย เอามาให้ข้านี่ ผิงอันหมดธุระแล้วเจ้าออกไปก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการต่อเอง"

"โธ่!!! องค์ราชินีของผิงอัน เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ใจดีอีกแล้วนะคะ ไม่เห็นเหมือนยัยองค์หญิงนางยักษ์นั่น"

"ผิงอัน เจ้าไม่ต้องพูดมาก ออกไปก่อน"

เฟิงเยว่อยากคุยกับถิงยื่อลำพัง จึงได้ไล่ผิงอันออกไปก่อนที่จะพูดมากจนเป็นเรื่อง...

"เฟิงเฟิงนี่อะไรหน่ะ ตกลงเมื่อบ่าย แม่เฒ่าคุยอะไรกับเจ้ากันแน่ ข้าไม่ชอบเลยที่เจ้ามีความลับกับข้าอีกแล้วนะ"

ถิงยื่อเอาขวดนั่นลงไปนั่งข้างเตียงใกล้ๆเฟิงเยว่

"ทีเจ้ายังมีความลับกับข้าเลย เจ้าลืมไปแล้วหรือไง"

"โธ่เอ้ย!!! นี่มันเหมือนกันซะทีไหนเล่า แล้วนี่อะไร ตกลงข้างในคืออะไรกันแน่"

"อันนี้เป็นเกสรดอกโบตั๋น ข้าต้องกินทุกคืนแม่เฒ่าสั่งเอาไว้ แล้วก็...ก่อนจะไปยังสั่งอีกว่า..."


"ว่าอะไรเล่า รีบๆบอกสิ ข้าอยากรู้"


"ถิงถิง เจ้าต้องป้อนเกสรนี่ให้ข้าทุกคืน เพราะมีแต่เจ้าเท่านั้นที่ทำให้ร่างกายข้าอบอุ่นได้"

"โธ่เอ้ย!!! ถึงไม่ต้องป้อนเกสรนี่ ข้าก็ทำให้เจ้าอบอุ่นอยู่ทุกคืนอยู่แล้ว จริงมั้ย 555"

"ถิงถิง ลิงยักษ์บ้า"

ถิงยื่อยิ้มจนแก้มบุ๋ม มีลักยิ้มขึ้นมา เขาดูมีความสุขมากเมื่อเห็นคนตาสีฟ้าตรงหน้าดวงตากลับสุกสว่างอีกครั้ง 

"ไหนๆ ข้าต้องอมเข้าไปก่อนสินะ โหหห!!! ขมจังเลยแต่ไม่เป็นไร พอผ่านปากข้า มันก็จะหวานแล้ว"

"ถิงถิง แม่เฒ่าให้เจ้าป้อนอย่างเดียวนะ ไม่ได้บอกให้เจ้าทำแบบนี้"

"อะไรเล่า ก็ข้าจะให้ความอบอุ่นนี่ไง"

ถิงยื่อไม่รอช้าถอดชุดตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แล้วดันตัวคนตรงหน้าให้นอนลงที่เตียง กดปากที่มีเกสรขมๆนี่ลงไปแล้วเอาลิ้นดันให้อีกฝ่ายกลืนเข้าไปอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นจึงเอาปลายลิ้นแตะเข้าออกเพื่อให้ความหวานมีเพิ่มขึ้น แล้วจึงไปกระซิบที่ข้างหู

"ข้ารู้ว่าเจ้าเพิ่งฟื้น ข้าไม่รุนแรงหรอกน่า ข้าแค่อยากบอกว่าข้าคือความอบอุ่นของเจ้า เจ้าไม่ต้องห่วงนะ ข้ารักเจ้าคนเดียวเท่านั้น จะไม่มีวันแยกจากเจ้าไปไหน"

เฟิงเยว่ยิ้มเอามือกอดและดึงคนตัวใหญ่ตรงหน้ามากอดไว้ ความอบอุ่นนี้ เขาจะต้องมีมันทุกวัน จะไม่หายไปไหน เขามั่นใจ ตราบใดที่ร่างกายทั้งสองยังกอดก่ายกันไปมาแบบนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่มีทางทำอะไรได้แน่ๆ

สองร่างเปลือยเปล่าแนบแน่นในห้องแห่งจันทราเหมือนทุกครั้ง สักพักร่างกายเฟิงเยว่เหมือนจะร้อนขึ้นอีก...
"อื้อออออ ถิงถิง"



ในขณะเดียวกันคนที่ถูกกักบริเวณอยู่ที่อีกฝากหนึ่งของวังก็กอดนัวเนียกับแม่ทัพหนุ่มบนเตียง พร้อมกับถามว่า...


"ท่านเปลี่ยนขวดแล้วแน่นะ"

"เปลี่ยนแล้วสิ เจ้าสั่งให้ข้าทำอะไรข้าก็ทำตามนั้น"

"ดีมาก ท่านแม่ทัพกวงเมา"

ใบหน้าหญิงสาวที่ถูกกระหน่ำจูบบนร่างกายไม่หยุดยังคงกัดฟันแน่นและยิ้มในความมืดอย่างไม่ปราณี...


......................................โปรดติดตามตอนต่อไป.............................
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น