วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

Battle of love : Against the devil EP.1 (NC-17)

Chain Reaction


"เจ้าชายวาวาล่ะ" ราชาปิศาจวิลเลี่ยมเอ่ยถามทันทีเมื่อกลับจากการสะสาง หรือต้องเรียกว่า ทำลายล้างมากกว่า นักโทษถูกนำกลับมาที่ดาวอาเรสด้วยเพื่อเป็นทาสและบางส่วนถูกจับไปขังไว้ก่อนเพื่อรอคำสั่งอีกครั้งจากราชาผู้เหี้ยมโหด

"พวกข้านำตัวไปไว้ที่ห้ององค์ราชาแล้วขอรับ"

"พวกเจ้าทำร้ายเค้าหรือเปล่า"

"เหตุใดองค์ราชาถึงถามแบบนั้นล่ะขอรับ ทุกครั้งไม่เห็นท่าน...อึ๊ก"

ยังไม่ทันที่ทหารคนนั้นจะได้พูดอะไรต่อ แม้กระทั่งเอ่ยถามเขากลับยังไม่ควรทำ เหตุใดเขาถึงจะปล่อยให้มันมาพล่ามถามอะไรแบบนี้...

ราชาวิลเลี่ยมสะบัดมือครั้งเดียว ศีรษะของทหารคนนั้นก็หลุดออกมากลิ้งอยู่ที่พื้นทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย เหล่าทหารคนอื่นพากันถอยกรูดออกไปจากบริเวณนั้น ปิศาจบริวารบนดาวอาเรสทุกตนต่างพากันหวาดเกรง แต่ไม่คาดคิดว่าการถามด้วยความสงสัยแค่นี้ถึงทำให้ทหารคนสนิทคนนี้ต้องตายอย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งๆที่ปกติ เมื่อกลับจากทำลายดาวอื่นได้ ราชาวิลเลี่ยมก็มักจะอารมณ์ดีและเล่นขบขันบ้างกับเหล่าทหารคนสนิท...

"ใครจะบังอาจสงสัยอะไรอีกมั้ย ข้าถามว่าพวกเจ้าทำร้ายเค้าหรือเปล่า!!!"เสียงคำรามดังก้องอีกครั้ง

"หามิได้ขอรับ พวกเราต้องมัดโซ่และใส่กุญแจมือไว้เพราะเจ้าชายวาวาพยายามจะหลบหนีตลอด"

ทหารคนหนึ่งกล่าวบอกพร้อมก้มหน้าตลอดเวลาเพราะกลัวความผิด

"เขากินอะไรหรือยัง"

"ไม่เลยขอรับ เขาไม่แตะแม้กระทั่งน้ำสักหยด"

"บัดซบๆๆ ไปจัดอาหารแล้วก็น้ำเอาไปไว้ในห้องข้า ก่อนที่ข้าจะถึงห้อง" ฝ่ามือใหญ่ตบหน้าทหารรายตัวโดยที่ทหารเหล่านั้นไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้

ราชาวิลเลี่ยมสั่งการทุกอย่าง แล้วก้าวเข้าไปที่ห้องสำคัญห้องหนึ่งก่อน เป็นที่รู้กันว่าถ้าราชาเข้าห้องนี้ห้ามใครรบกวน

"ข้ากลับมาแล้ว ท่านเป็นไงบ้าง"

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ มีแต่ร่างไร้วิญญาณนอนอยู่บนแท่นศิลา แสงจันทร์จากดวงจันทร์บริวารทั้ง 10 ดวงของดาวอาเรส ทอดส่องสว่างมายังห้องนี้ ทำให้เห็นร่างไร้วิญญาณนั้นผิวขาวเปล่งปลั่งเหมือนจะปล่อยพลังงานออกมาได้

"วันนี้ข้าเหนื่อย ท่านรู้ใช่มั้ยว่าข้าเหนื่อย"

ราชาวิลเลี่ยมเอื้อมมือไปจับข้อมืออันเหี่ยวแห้งนั้นแล้วนั่งลงคุกเข่า...

"ท่านบอกว่าข้าเหี้ยมโหด แต่ท่านเห็นมั้ย ตอนนี้ท่านยังอยู่ได้ก็เพราะความเหี้ยมโหดของข้า สักวันท่านจะต้องตื่นมาเห็นด้วยตาตัวเองว่าข้ายิ่งใหญ่เพียงไร...ใช่มั้ย??? ท่านแม่"

ทั้งห้องยังคงเงียบสงัด ภาพความหลังหลายๆภาพผุดขึ้นมาในหัวเขา แต่มันไม่ใช่อีกต่อไป เจ้าชายวิลเลี่ยมผู้อ่อนโยน บัดนี้ไม่มีอีกแล้ว...

"ข้าไปก่อนล่ะ ไม่รู้ทำไม เห็นหน้าเจ้าชายวาวาแล้ว ข้านึกถึงท่าน...ไม่สิ ช่างเถอะ เจ้าชายวาวาจะต้องถูกทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ เหมือนที่ข้าเคยถูกท่านทำเอาไว้"

แววตาเหี้ยมโหดกลับมาอีกครั้ง ความทรมานที่เขาเคยได้รับ จะต้องถูกส่งต่อให้ ทายาทเทพบาเตสที่มีแต่ความรักและน่าทะนุถนอมคนนั้น ทุกคนจะต้องได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่เขารู้สึก...คอยดูก็แล้วกัน

ราชาวิลเลี่ยมเดินออกจากห้องพร้อมสะบัดผ้าคลุมสีดำผืนใหญ่ ประตูบานใหญ่ก็ปิดเสียงดังลั่นวัง ทหารทุกคนบัดนี้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเรื่องของราชาอีก ที่นี่ไม่มีผู้หญิง เพราะผู้หญิงที่ทำร้ายเขาก็คือแม่แท้ๆของเขาเองดังนั้น เขาจึงไม่อยากให้ผู้หญิงเข้ามาวุ่นวายให้เกะกะและทำให้เขานึกถึงเรื่องราวใดๆอีก แต่วันนี้แววตาเจ้าชายวาวา ที่สุกสกาวและใบหน้าสวยงามที่แฝงไว้ด้วยความสุข ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในใจไปพร้อมกัน...

ประตูห้องนอนใหญ่ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ราชาวิลเลี่ยมก้าวเข้ามาพร้อมด้วยแส้อันใหญ่ เมื่อเขาสะบัดผ้าคลุมทิ้งลงพื้นทำให้ประตู หน้าต่างทุกบานปิดหมด แสงเทียนถูกจุดขึ้นทันทีทั่วห้อง


ร่างที่ดูอิดโรยของเจ้าชายวาวานอนอยู่บนเตียง โดยสองมือถูกใส่กุญแจมือและคล้องโซ่ไว้กับหัวเตียง ผ้าม่านที่ล้อมรอบเตียงนั้นสะบัดเปิดให้เห็นลางๆว่า ร่างกายที่นอนอยู่นั้นดิ้นน้อยๆจนข้อมือแดงและถลอกเพื่อหาทางรอด ใบหน้าซีดขาว ริมฝีปากเริ่มแห้งแตกเพราะร่างกายขาดน้ำ 

ราชาวิลเลี่ยมเห็นแล้วยิ้มในใจ เขาชอบการต่อสู้แบบนี้ คนๆนี้ดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้จริงๆ นี่ขนาดแทบไม่มีแรงหนี แต่ก็ยังจะพยายาม...ทันใดนั้น เขาก็ฟาดแส้ไปแหวกม่านที่คลุมออก จนผ้าก็ไปพันไว้กับเสาต้นหนึ่งข้างเตียงอย่างง่ายดาย


"ปล่อย...ปล่อย"

เสียงแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากปากแห้งๆ มีรอยแตกนิดๆ ของร่างที่นอนอยู่บนเตียง ราชาวิลเลี่ยมเอามือรูดส่วนปลายของแส้ไปมา 

"คิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆหรือยังไง"

เขาก้มหน้าลงไปมองตานักโทษของเขา

"ถุย!!!"

น้ำลายที่มาจากน้ำอันน้อยนิดในปากของเจ้าชายวาวาถูกถ่มใส่หน้าราชาวิลเลี่ยมอย่างแรง ดีนะที่ในปากน้อยๆนี่แทบไม่หลงเหลือน้ำอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็...

"หืมมม เจ้าคิดว่าทำแบบนี้แล้วข้าจะโมโห จนฆ่าเจ้าทิ้งหรือยังไง??? 555 เจ้าผิดแล้วล่ะ"

"ฆ่าข้าสิ ฆ่าข้าเลย จะรออะไร ในเมื่อเจ้าก็ทำลายดาวข้าหมดแล้ว ว่าแต่พ่อแม่ข้าล่ะ???"

ดวงตากลมโตตรงหน้า ถึงจะแทบไม่มีเสียงก็ยังไม่ลดละความพยายามจะโต้เถียง

"ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าตายง่ายๆหรอก จนกว่าเจ้าจะทรมานยิ่งกว่าข้า"

ราชาวิลเลี่ยม ถือแก้วน้ำแล้วราดลงไปบนหน้าของเจ้าชายวาวา อีกฝ่ายแทบจะสำลักเพราะน้ำเข้าปากไปแบบกระทันหัน

"แค่กๆๆ"

"กินน้ำนี่"

ราชาวิลเลี่ยมบีบปากอีกฝ่ายให้อ้าออก พร้อมกรอกน้ำลงไปอีกรอบอย่างไม่รอช้า...เมื่อน้ำหมดแก้ว ก็ประกบปากตามลงไปอีกเอาลิ้นกวาดชอนไชสัมผัสกับความชุ่มชื่นที่เริ่มมีอยู่ทั่วปาก ริมฝีปากแตกได้รับความชุ่มชื่นอีกครั้ง 

"อืมมมม อื้ออออ"

การตั้งรับที่ไม่ตั้งตัวคราวนี้ ส่งผลให้เจ้าชายวาวาไม่คาดคิดว่าจะถูกบังคับจูบอีกครั้ง เขาไม่ต่อต้านเนื่องจากความกระหายน้ำที่มีมาก่อนหน้า และการจู่โจมที่รุนแรงแต่ว่ามีความหวานของลิ้นจากอีกฝ่าย ทำให้ปากเขาเริ่มดูดกลืนริมฝีปากของอีกฝ่ายด้วยความต้องการเช่นกัน จนกระทั่งฝ่ายที่อยู่เหนือกว่าพอใจ จึงถอนปากออก

"อ๊าาา เจ้าก็กระหายข้าเหมือนกันสินะ เจ้าชายวาวา"

"ไม่ ปล่อยข้า ปล่อยข้าสิ"

เมื่อรู้ตัวว่าเผลอใจไปพักหนึ่ง เขาก็เริ่มดิ้นรนอีกครั้ง ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยหยดน้ำ และริมฝีปากเจ่อแดงจากการได้รับน้ำอีกครั้ง ทำให้ราชาวิลเลี่ยมพอใจในภาพตรงหน้าเป็นอย่างมาก เค้าเอาแส้ขึ้นมาลูบอีกครั้ง

"เทพบาเตส บรรพบุรุษของเจ้า สร้างเจ้ามาให้เป็นตัวแทนแห่งความรักและความสุข ซึ่งข้าไม่เคยรู้จัก แต่จากนี้ เจ้าจะได้รู้ว่า ข้าอยู่มาด้วยความกระหายทางรอด ข้าจะทำให้รู้ว่าความเจ็บปวดนั้นเป็นอย่างไร"

"จะฆ่าก็ลงมือมาเถอะ ข้าไม่คิดว่าจะทำให้เจ้ารู้จักความรักได้หรอกนะ คนเหี้ยมโหดอย่างเจ้าคงไม่มีวันเข้าใจ"

"เจ้าคิดว่าแส้นี่ ข้าจะเอามาฆ่าเจ้างั้นรึ???"

เสียงแส้ฟาดรุนแรงดังขึ้นหลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงร้องจากเจ้าชายวาวา ตรงกันข้าม เขากลับตกใจในภาพที่เห็น

"หยุดสิ หยุด ปิศาจร้ายเจ้าทำแบบนี้ทำไม"

"หึๆๆ ข้ามันคือปิศาจร้ายไง 5555"

แส้ถูกฟาดที่หลังของราชาวิลเลี่ยมด้วยน้ำมือเขาเองครั้งแล้วครั้งเล่า โดยที่ราชาปิศาจไม่ร้องออกมาเลยสักนิด มันทำให้เขาเจ็บปวด แต่ก็มีความสุขเพราะเหมือนกับสมัยก่อนที่เขาถูกแม่ทำเช่นนี้เหมือนกัน โดยที่ถูกสอนว่านี่คือความรัก ความสนใจ...

"เจ้าปิศาจ เจ้ามันบ้า บ้าไปแล้ว"

ราชาวิลเลี่ยมโยนแส้ทิ้งไปข้างเตียง แล้วฉีกเสื้อคนตรงหน้าออกอย่างไม่ปราณี ใบหน้าของเขาตอนนี้แทบเหมือนคนบ้าคลั่ง เขาดูดคลึงยอดตุ่มไตตรงหน้า ขบกัดอย่างกระหาย ทำให้เจ้าชายวาวาบิดตัวต่อต้านไปมาอย่างไม่ยินยอม

"อื้อออ ปิศาจ ปิศาจร้าย เจ้า..."

ราชาวิลเลี่ยมยังคงใช้ปากและลิ้นเลียส่วนอกอย่างพึงพอใจ การต่อต้านนี้ไม่มีผลอะไร เพราะถึงอย่างไร มือของเจ้าชายวาวาก็ถูกตรึงเอาไว้ เขาใช้มือลูบไล้ที่ท้องน้อยจนกระทั่งล้วงเข้าไปในกางเกงเพื่อเสาะหาส่วนที่ต้องการ

"หยุด หยุดนะ เจ้า...อ๊าาาาา"

ส่วนล่างถูกเกาะกุม บีบแน่นและเริ่มรูดไปมา โดยที่ราชาวิลเลี่ยมยังคงพอใจที่จะโลมเลียส่วนอกและท้องไปมาเหมือนอาหารมื้อหนึ่ง

ร่างกายขาวอวบตรงหน้าเริ่มไม่ต่อต้าน ปลายเท้าสองข้างจิกที่เตียง ริมฝีปากล่างเริ่มเม้มแน่น....

"อ๊าาา อ๊าาาส์ เจ้า...เจ้า"

"ดูท่าทางเจ้าสิ คงไม่เคยถูกใครทำแบบนี้สินะ ฮึๆ นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ"



ราชาวิลเลี่ยมหยุดทุกอย่าง แล้วหันไปถอดเสื้อที่ด้านหลังชุ่มไปด้วยเลือดออก ลงจากเตียงแล้วไปหยิบขนมปังมากิน พร้อมกับนั่งเก้าอี้ตัวใหญ่ กับจิบไวน์แดง มองมาที่ผลงานของตัวเอง...

ตอนนี้เจ้าชายวาวายังคงใช้ปลายเท้าถูกันไปมาด้วยตัวเองทั้งๆที่ข้อเท้าถูกตรึงไว้ ร่างกายท่อนบนยังแดงเป็นจ้ำๆ เนินอกถูกกระตุ้นจนเหมือนจะฟูขึ้นกว่าเดิมด้วยการแอ่นตัวของเจ้าของร่าง ลิ้นเลียริมฝีปากเหมือนต้องการการตอบสนอง...

"ปิศาจร้าย ราชาวิลเลี่ยม เจ้ามันคือปิศาจร้าย"

"ฮึๆๆ ใช่ ข้าคือปิศาจร้าย!!!"


ภาพตรงหน้าสวยงามมากในสายตาเขา ความเจ็บปวดจากแส้ที่ด้านหลัง ไม่ระคายผิวเขาเลยสักนิด เพราะมันด้านชาไปหมดแล้ว แต่เขากำลังคิด ถ้าปล่อยมือเล็กๆขาวๆนั่นมาสัมผัสตัว มันจะเป็นยังไงนะ... 

แต่ไม่ว่ายังไง โซ่ที่มัดไว้ก็ทำให้เขารู้ว่า เจ้าชายวาวาจะเป็นเหยื่อที่สวยงามสำหรับเขาต่อไป เขาเคยเจ็บปวดแค่ไหน เขาอยากให้คนตรงหน้าได้รับไปเช่นกัน...

หากในทางตรงกันข้าม ราชาวิลเลี่ยมคงคิดไม่ถึงว่า จริงๆแล้วความรักและความอบอุ่นที่เจ้าชายวาวามี ก็สามารถถ่ายทอดให้เขาได้ด้วยเช่นกัน...


...................................โปรดติดตามตอนต่อไป.................................





















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น