วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ที่ปรึกษาคนใหม่ ตอนที่ 2 (NC 17)

ตอนที่ 2 หายใจลึกๆ  Deep breath and me


...หลังจากวันนั้น อ.ก็มาฝึกช่วงเย็นให้พวกเราวันเว้นวัน อ.เหว่ยถิงค่อนข้างโหดทีเดียวเวลาฝึกแบบเอาจริงเอาจัง 
เย็นนั้นพอเพื่อนๆมาถึงผมก็โดนซ้อมโหดเหมือนเพื่อนๆเช่นกัน และพอเลิกฝึกซ้อมในทุกๆวัน ผมก็จะเอากล้วยไปให้อ. 1 ลูกตามที่ตกลงกัน

แต่แปลกมากๆ ที่อ.ก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับผมอีก ตรงกันข้ามตั้งแต่เย็นวันนั้นยิ่งถ้ามีพวกเพื่อนๆอยู่ อ.จะทำเฉยมากๆกับผม ทำให้ผมไม่เข้าใจว่าตกลงมันยังไงกันแน่...

ตอนนี้ก็ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้ว อ.ไม่เห็นจะฝึกอะไรผมเพิ่มมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆเลย ก็ไหนเค้าว่าจะฝึกผมเป็นพิเศษไงล่ะ,,,ผมอยากให้เค้าสนใจผม ไม่รู้ทำไม พยายามสบตา เอากล้วยไปให้ก็คุยด้วย แต่อ.ก็ยังเงียบๆและทำหน้าโหดๆ ไม่เห็นมีท่าทีอื่นๆเลย


วันนี้ซ้อมช่วงเย็น อ.ก็ไม่ได้ลงสระด้วย ได้แต่นั่งคุมพวกเราอยู่ข้างบน ให้ว่ายน้ำกลับไปกลับมา และดูเวลาแค่นั้น สายตาอ.ที่ผมมองไป อ.ก็มองผมนะ แต่ว่าทำไมไม่เห็นเป็นเหมือนวันนั้นผมก็ไม่เข้าใจ

หลังจากพวกเราอาบน้ำกันเสร็จ อ.ก็กลับไปก่อน เราก็มานั่งประชุมเพลิง เอ้ย!!! ประชุมกันเหมือนเคยๆ เดี๋ยวนี้
ผมก็สังเกตได้ว่าทุกคนเริ่มเป็นระเบียบและตั้งใจมากกว่าเดิม

“ประธานเฟิง นายไปทำอีท่าไหนอ.เหว่ยถิงเค้าถึงมาเป็นที่ปรึกษาให้ ชั้นดูอ.เค้าก็ดุนะ แต่เค้าตั้งใจสอนดีจัง ชั้นว่าโอเคเลย” หม่าเทียนที่ปกติไม่เคยชมใคร ยังต้องเอ่ยชมออกมาก


แต่จะให้บอกว่าทำท่าไหน อันนี้ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน


“นั่นสิ แถมเพิ่มเงินบำรุงให้จริงๆ ป๋ามากๆ ดีมากเลย ว่าแต่ นายต้องซื้อกล้วยมาเป็นหวีๆแบบนี้ทุกวันเลยรึไง” หยุนหลงเอ่ยชม ก็หนีไม่พ้นเรื่องเงินอยู่ดีแหละครับ


“ก็จะให้ชั้นทำไง อ.เค้าต้องกินทุกวันหน่ะ นายก็รู้”


หรือเป็นเพราะผมมีกล้วยให้ทุกวัน แล้ววันนั้นไม่มีก็เลยเป็นแบบนั้น ถ้างั้นผมต้องแกล้งลืมให้ดูสักวันแล้วสิ เอ๊ะ!!! ตกลงผมอยากให้อ.ทำแบบนั้นอีก หรือว่าอะไรกันนะ 


เปล่าซะหน่อย!!! ผมแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าดูไม่เห็นแกล้งผมเหมือนเดิม แล้วไหนบอกว่าจะฝึกพิเศษให้อีก


ผมเลยตั้งใจไว้ว่าวันเสาร์นี้ที่จะต้องมาซ้อมว่ายน้ำกันช่วงบ่าย ผมจะมาตามปกติ แต่แกล้งไม่เอากล้วยมาด้วย....


พอถึงวันเสาร์ผมและเพื่อนๆ ก็ซ้อมกันไปตามตารางที่จัดไว้เหมือนเดิม แต่แปลก อ.ก็ยังไม่เห็นมา จนกระทั่งเย็นพวกเพื่อนผมซ้อมกันเสร็จจนกลับไปหมดแล้ว สระเริ่มใกล้มืด มีแสงพระอาทิตย์กำลังจะตก ผมเลยก้าวขึ้นจากสระ แต่พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เจออ.เหว่ยถิงยืนอยู่ตรงหน้า...

“ทำไมไม่ซ้อมต่อ”


วันนี้มาแปลกแฮะ มาคุยกับผมเหมือนวันนั้นอีกแล้ว


“ผมซ้อมเสร็จแล้วนี่ครับ”


“กลับลงไป รอชั้น เดี๋ยวจะมาฝึกให้”


“ไม่เป็นไรครับอ. วันนี้ผมฝึกครบตามโปรแกรมแล้ว”


อ.ไม่พูดอะไรต่อ แต่ผลักผมลงไปในสระอีกรอบ...


“”””””””””””””ตู้มมมมม””””””””””””


ผมแทบสำลักน้ำด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัว 

แล้วก็เห็นอ.เหว่ยถิง ถอดเสื้อผ้าออกตรงนั้น และมีกางเกงว่ายน้ำใส่พร้อมอยู่แล้ว นี่แสดงว่าเตรียมตัวมาก่อนแล้วสินะ แล้วทำไมมาเอาป่านนี้....

อ.กระโดดตามลงมา แล้วยืนประจันหน้ากับผม ตรงนี้สระไม่ลึกเราจึงโผล่พ้นน้ำกันมาเกือบครึ่งตัว แต่อ.ตัวใหญ่และสูงกว่าผมมาก ผมจึงเงยหน้าแล้วถาม


“อ.เป็นอะไรรรึเปล่าครับ”


อ.ไม่พูดอะไรแต่เอามือดึงหน้าผมไปจูบอย่างรุนแรง


“อื้ออออ อ.” 


ผมผลักอ.ออกไป


“อ.ทำให้ผมหายใจไม่ออกอีกแล้วนะครับ”


“นี่ฝึกมาอาทิตย์กว่า ไม่ดีขึ้นเลยรึไง”


“หายใจในน้ำก็ดีขึ้น แต่นี่มัน...มันไม่ใช่”


อ.เหว่ยถิงสอนควบคุมการหายใจ ผมคิดว่าผมกลั้นหายใจได้ยาวและเป็นจังหวะขึ้นมาก แต่ถ้ามาจู่โจมด้วยการจูบแบบนี้ ผมตั้งตัวไม่ทันหรอกครับ


“งั้นเอาใหม่”


อ.ดึงผมไปกอดและประกบปากใหม่ คราวนี้ผมเตรียมตัวรับจูบจากอ.ได้ทัน เค้าบดปากเข้ามาที่ปากผมและค่อยๆเอาลิ้นเข้ามารุกไล่ลิ้นผมอย่างช้าๆ เนิบนาบ ไม่รีบ ราวกับจะดูว่าผมจะกลั้นหายใจมั้ย 

ลิ้นผมไปแตะเข้าที่ปลายลิ้นเค้า และเริ่มจะพันกันไปมา ผมหายใจเข้าอีกครั้ง โดยที่ไม่ปล่อยออก ตอนนี้ทั้งปากและจมูกผมกับอ.แทบจะบดขยี้กัน โดยที่ผมเผลอตัวตอบรับอย่างเต็มที่ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มันนานมากจนอ.ถอนปากออก

“อืมม ดีขึ้นนี่”


ผมยังคงยืนอยู่ในน้ำ และเริ่มรู้สึกหนาวเพราะว่าว่ายน้ำมานานแล้ว ตัวผมเริ่มสั่นเล็กๆ ไม่รู้ว่าเพราะหนาวหรือเพราะการจูบเมื่อกี้กันแน่


คราวนี้อ.เอาตัวเข้ามากอดผมไว้แน่น 


“หนาวเหรอ พะยูนน้อย”


“อะ..อาจารย์ครับ ผม...ผม”


“งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน ไป อาบน้ำกัน เดี๋ยวนายจะไม่สบาย ดูสิ เสียงสั่นแล้ว”


ผมค่อยๆเดินขึ้นจากสระ และอ.ก็เดินตามเข้ามา พร้อมหอบเสื้อผ้ามาโยนไว้ที่ตะกร้า 


ผมจึงหยิบผ้าขนหนูและกำลังจะเดินเข้าห้องอาบน้ำที่แบ่งเป็นล็อคๆแยกกัน พอผมเปิดประตูกำลังจะเข้าไป โดยที่ไม่ได้สนใจว่าอ.จะเดินตามเข้ามาด้วย 


ผมกำลังจะเอื้อมมือไปปิด อ.ก็เดินมาถึงพอดี


“อาบด้วย”


“ฮะ!!!อะไรนะครับ ห้องอื่นก็ว่าง อ.ก็ไปอาบห้องอื่นสิครับ”


“ไม่ จะอาบห้องนี้”


“งั้นผมจะไปอาบห้องอื่นนะครับ”


“ถ้านายออกไป ชั้นก็จะไม่มาที่นี่อีก”


นี่อะไรกัน ผมโดนขู่กรรโชกรึไงเนี่ยะ...นี่ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมเค้าใช่มั้ย


“ทำไมอ.ชอบแกล้งผม”


“ชั้นเปล่า”


“ไม่จริง อ.แกล้งผม อ.เงียบไป แล้วก็เฉยชา ทีพอวันนี้มาทำแบบนี้ ผมไม่เข้าใจ”


"วันนี้พูดเก่งนะนาย ตกลงคือไม่อยากให้ชั้นเงียบ”

ตัยๆๆๆ นี่ผมพล่ามพูดอะไรออกไปเนี่ยะ...

“ผมแค่แปลกใจ อ.บอกว่าจะฝึกผมมากกว่าคนอื่น ก็ไม่เห็นมี แล้วที่ผ่านมาก็ทำเหมือน...เหมือน...”


“เหมือนอะไร พะยูนน้อย”


“เหมือน...เราไม่เคย...”


“5555 ติดอ่างอีกแล้ว มีอะไรก็พูดมา”


“ไม่เอาแล้ว ผมจะอาบน้ำ อ.จะอาบยังไงก็ตามสบายนะครับ”


ผมว่าผมไม่พูดอะไรเลยจะดีกว่า เพราะเหมือนว่ายิ่งพูด ยิ่งเหมือนผมดูอยากให้เค้ามาหา ซึ่งผมก็พูดออกไปตามความรู้สึกจริงๆ
ผมจึงเปิดฝักบัวให้น้ำรดมาที่หัวเพื่อสระผม อ.ก็เข้ามากอดผมจากด้านหลัง


“ตกลงนายชอบชั้นงั้นสิ”


ผมหยุดขยี้ที่ผมของตัวเอง ผมชอบอ.เหรอ นี่ผมชอบอ.จริงๆเหรอเนี่ยะ อะไรกัน...ไม่นะ ผมชอบผู้หญิง แต่ตอนนี้ร่างกายผมมันหยุดไปเองโดยอัตโนมัติเมื่อเจอคำถามนี้


“ผม….ผมไม่รู้ อ.ก็หยุดแกล้งผมซะทีสิครับ ทำแบบนี้ผมยิ่งไม่เข้าใจ”


อ.จับตัวผมให้หันหน้ามาประจันหน้ากัน แล้วดันผมเข้าไปชิดกำแพง แล้วเอื้อมมือไปปิดฝักบัว


“ตอบมาสิ ว่านายชอบชั้น”


ผมเงียบไม่พูดอะไรต่อ...แล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง 


“อย่ามาเงียบ”


ผมไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ ตอนนี้ผมก็อยากบอกว่าชอบ แต่ว่าสมองผมก็สั่งเอาไว้ว่ามันไม่ถูกต้อง


“ถ้างั้นชั้นจะเลิกเป็นที่ปรึกษาให้ชมรมนี้”


แล้วอ.ก็กำลังจะหันหลังกลับไป ไม่ได้นะ เลิกเป็นตอนนี้ไม่ได้ ผมแค่ไม่อยากให้เค้าหายไปจากผมและชมรมเรา


ผมจึงตัดสินใจเข้าไปคว้าตัวอ.แล้วกอดไว้


“อ.ครับ อย่าเพิ่งไป ผมเอ่อ...ผมชอบอ. ผมชอบอ.จริงๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมเป็นแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงด้วย แต่ถ้าอ.คิดว่าจะแค่แกล้งผมเล่น ผมก็จะได้ทำใจว่ามันไม่ใช่ ผมแค่รู้สึกบ้าๆอะไรก็ไม่รู้”


อ.หันตัวกลับมาแล้วจับที่แขนผมทั้งสองข้าง
“ก็แค่นั้นแหละที่ชั้นอยากรู้”


แล้วอ.ก็ดันผมเข้าไปชิดกำแพงอีกครั้ง แล้วเอามือถอดกางเกงว่ายน้ำผมออก ตอนนี้ผมเปลือยเปล่าต่อหน้าอ.อีกแล้ว 


“อ.มันจะดีเหรอครับ”


“ชั้นบอกแล้วไง ถ้าชั้นว่าดีก็คือดี ถ้านายไม่ชอบชั้นจะหยุดเอง”


คราวนี้อ.ก็เอามือมาลูบตรงท้องน้อยของผม แล้วย่อตัวนั่งลงพร้อมกับเอาปากมาจูบพรมไปเรื่อยๆ มือก็ลูบที่ขาด้านในของผมไปราวกับจะสัมผัสร่างกายของผมไปทั่ว
“พะยูนน้อย ตัวนิ่มดีจังนะ ฮึๆ”


ผมคว่ำมือป่ายแปะไปที่กำแพงด้านหลังเพราะตอนนี้ผมรู้สึกแปลกๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ไม่เคยมีใครมาทำแบบนี้ แต่ก็ผมก็ต้องการนะ เลยไม่ขัดขืนหรือหนีไปไหน


“ต่อไปหายใจเข้าออกลึกๆนะ นายจะชอบ เชื่อชั้น”


ผมเริ่มหายใจเข้าและออกตามที่อ.บอก ทำให้ท้องน้อยผมกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ อ.ยังคงไล่จูบและดูดไปเรื่อยๆไม่หยุด 


สักพักผมก็รู้สึกว่าปากของอ.กำลังเลื่อนลงไปเพื่อดูดกลืนส่วนแก่นกลางของผมเป็นจังหวะตามการหายใจเข้าออกด้วย ร่าวกายผมตอบรับทันที

“อ่า อ. อ่า”


ผมรู้สึกว่ามันเสียวปลาบทุกครั้งที่ปากอ.ดูดขึ้นและลง แต่ตอนนี้จังหวะมันเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนผมแทบหายใจต่อไม่ได้


“อื้ออออ อ. อ่า”


ผมร้องครางออกมาอย่างที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ กดนิ้วทั้งหมดเข้ากับกำแพง และส่วนนั้นของผมมันอึดอัดมากจนแทบจะระเบิด แต่อ.ก็ยังไม่หยุดใช้ปากเลียส่วนนั้นให้ผม พร้อมขบเบาๆยามที่ดูดขึ้นและลง อ.เก่งมาก เก่งจริงๆที่ทำให้ผมปลดปล่อยมันออกมาได้ในที่สุด...


“อื้มมมมมมม” ผมร้องคราง หลับตาและเม้มปากแน่น


อ.ถอนปากออกมาแล้ว แต่ผมยังคงปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นจากส่วนนั้นอยู่ อ.บอกผมว่า


“นายไม่หายใจสินะ หายใจสิ หายใจลึกๆ มันจะช่วยให้นายสบายขึ้น”


ผมจึงค่อยๆควบคุมการหายใจตามที่อ.บอก แต่แล้วอ.ก็เปิดฝักบัวออกมา แล้วอาบน้ำสระผมตัวเองต่อ ปล่อยให้ผมยืนเหมือนคนหมดแรงอยู่ตรงนั้น 


อ.ยื่นมือมาที่ตัวผมแล้วก็เอาน้ำลูบที่หน้าและตัว สัมผัสทุกอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกดีและชอบมากจริงๆ ผมเลยอยากอยู่ใกล้อ.มากขึ้นอีก แต่ผมก็เหนื่อยพอสมควรและไม่มีแรงแล้ว จึงเอาตัวไปพิงอ.ไว้ทั้งตัว เหมือนอยากจะอ้อนเค้า


“ถึงกับหมดแรงเลยเหรอ 555 นายนี่มัน...น่ารักอีกแล้ว”


"อ.ครับ อย่าไปไหนเลยนะ ผมอยากให้อ.อยู่ด้วย"


"อือ ก็ชั้นเป็นที่ปรึกษาชมรมนี้นี่นา"

อ.ดีกับผมมาก เอาผ้ามาเช็ดตัวเช็ดหัวให้ จนผมจะลุกไปแต่งตัว อ.ก็ดึงมือผมกลับจนมานั่งตักอ.ซะงั้น อ.กระซิบข้างหูผมว่า


“ต่อไปนี้ไม่ต้องเอากล้วยมาแล้วนะ เพราะชั้นจะกินนายแทน พะยูนน้อย”

............................โปรดติดตามตอนต่อไป...........................

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ที่ปรึกษาคนใหม่ ตอนที่ 1 (NC17)

ตอนที่1 น้ำขุ่นๆ...Muddy water and me



วันรุ่งขึ้น พอเลิกเรียนคาบบ่าย ผมรีบวิ่งไปที่ชมรมเพื่อบอกเพื่อนๆ แต่ให้ตายสิ ยังไม่มีใครมาสักคน สงสัยติดเรียนเย็นกันหมด ผมเลยจัดการเก็บของ เอกสารต่างๆ อ้อ!!! ใช่ต้องทำเรื่องแต่งตั้งอ.เหว่ยถิงเป็นที่ปรึกษาด้วย จะได้ให้อ.เซ็นต์เย็นนี้ 

ว่าแต่เค้าจะมาตอนไหนกันนะ ผมก็ไม่กล้าถามซะด้วยสิ 


สักพักก็มีเสียงเดินของใครคนนึงเข้ามาในชมรม พร้อมด้วยเสียงเตะถังน้ำด้านนอก....เพล้ง!!!! อะไรบางอย่างแตกรึเปล่า ผมรีบวิ่งออกไปดู

"อะไรเนี่ยะ!!! ทำไมวางของริมสระแบบนี้"

อ.เหว่ยถิงนี่นา เค้ามาได้ยังไง ยังไม่ถึงเวลาเข้าชมรมเลย...

"นี่พะยูนน้อย มาเก็บกระป๋องน้ำ กะแก้วที่แตกนี่ไปทิ้ง"

"เอ่อ...อ.ครับ ผมชื่อหลี่อี้เฟิง อ.เรียกว่าอี้เฟิงก็ได้นะครับ"

"ชั้นจะเรียกอะไรมันก็เรื่องของชั้น เก็บสิ!!!!  รออะไร"

อ.บ้านี่ ผมล่ะอยากจะเอาอะไรทุบหัวอ.จริงๆ ถ้าไม่ติดว่ากลัวเพื่อนจะด่าเอา.......>_<!!!


"ครับ ว่าแต่อ.มาทำอะไร ชมรมเราจะซ้อมกันช่วงเย็นนะครับ"

อ.โรคจิตนี่ไม่ตอบผม เดินสำรวจสระไปทั่ว เหมือนกับจะหาอะไร

"ทำไมสระขุ่น"

เออนะ...ตัวเองก็เคยอยู่ชมรมนี้มาแท้ๆ ก็น่าจะรู้สระที่นี่มีใครดูแลและเค้าจะมาเปลี่ยนน้ำให้ทุกๆกี่วันกัน

"พรุ่งนี้ถึงจะเปลี่ยนน้ำครับ สระเราเป็นน้ำเกลือ ก็อาจจะขุ่นเร็วหน่อยนะครับ แต่พวกเจ้าหน้าที่เค้าก็ดูให้ตลอดนะครับ"

อ.ไม่พูดอะไรต่อ ย่อตัวลงเอานิ้วจิ้มน้ำในสระ เอาเข้าปาก อร๊ายยย!!! คนอะไรจิ้มน้ำในสระกินเลยอ่ะ ถึงจะกินอยู่ดีตอนว่ายก็เหอะ แต่ชิมแบบนั้นมันใช่เหรอ???

"เป็นประธานชมรมต้องหัดรู้ว่าน้ำขุ่นได้แค่ไหน นี่เกือบจะใช้ไม่ได้แล้วนะ"

"ครับ ผมทราบ แต่!!! ผมมีเครื่องวัดนะครับ แล้วเย็นนี้ก็น่าจะมาใช้กันไม่กี่คน พรุ่งนี้ก็เปลี่ยนน้ำแล้ว"

"อืมม มันมีผลกับเวลาซ้อม นายต้องจำไว้ น้ำขุ่นๆแบบนี้ไม่ดีเท่าไหร่ ว่าแต่กล้วยของชั้นล่ะ"

เออนะ...ใครจะคิดว่าอ.จะมาตอนนี้ ผมเลยยังไม่ได้ไปซื้อมาเลย นี่ถ้าต้องให้ทุกวันจริงๆ ผมต้องปลูกกล้วยเองแล้วมั้ง @_@ 

"ไม่มีครับ ก็ผมไม่คิดว่าอ.จะมาเร็วขนาดนี้"

"ฮะ!!! ไม่มี งั้นนายจะต้องโดนลงโทษ ชั้นฝึกนายก่อน แล้วค่อยไปซื้อกล้วยมาให้ชั้นกิน ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"

"ตอนนี้เหรอครับอ.  แต่ว่า......"

"ใช่สิ!!! ทำไม!!! อย่าลืมนะ ชั้นแค่รับปาก ยังไม่ได้ถูกแต่งตั้ง จะเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็ได้ อีกอย่างถ้าอยากจะเป็นพะยูนเกยตื้นไปตลอดแบบนี้ก็ตามใจ 5555"

ฮืม!!!!! ผมชักจะโมโหแระนะ คำก็พะยูน สองคำก็พะยูน คอยดูนะ ผมจะทำให้อ.เห็นว่าผมไม่ใช่พะยูนให้ได้!!!

ผมจึงไม่พูดอะไรต่อเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าออกแล้วใส่กางเกงว่ายน้ำตัวโปรดของผม แปลกแฮะ!!! ทำไมผมต้องใจเต้นแรงแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้ ผมไม่รู้ว่าอ.จะทำอะไรบ้าง...ผมเดาไม่ออกจริงๆ พอผมปิดประตูล็อคเกอร์ อ.ก็มายืนหน้าล็อคเกอร์ผม มาตอนไหนเนี่ยะ!!! ผมกำลังจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัว

"หยุด อย่าเพิ่งไป"

"ทำไมเหรอครับอ." 

"อ่ะนี่ กางเกงว่ายน้ำ เปลี่ยนกางเกงให้หน่อย"

เอ้ย!!!! จะบ้ารึไง ให้ผมเปลี่ยนให้ ก็....เห็นหมดดิ มันใช่รึเนี่ยะ!!! แต่อย่างว่านะ ผมก็เห็นของพวกเพื่อนๆมาหมดแระ จริงๆอยู่ชมรมนี้ทั้งอาบน้ำ เปลี่ยนชุด เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่กับคนๆนี้ แค่ถอดเสื้อผมยังกลัวเค้าเลย นี่...เอ่อ...จะให้เปลี่ยนกางเกง

"ทำไม!!! แค่นี้ทำไม่ได้ เป็นการทำโทษที่นายไม่มีกล้วยมาให้ชั้น"


ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จำเป็นต้องเข้าไปยืนหน้าอ.แล้วค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ตเค้าออก แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ทีละเม็ด

"พะยูนน้อย นายนี่มัน...น่ารักดีนะ กลัวชั้นขนาดนี้ มือสั่นเชียว 5555"

อีอ.นี่ตกลงจะโหดหรือโรคจิตฟระ เรียกผมเป็นพะยูนน้อยจนติดปากไปแล้วรึไงนะ เอาแต่หัวเราะอยู่ได้ มีอะไรน่าขำหรือไง ก็คนมันตื่นเต้นนี่นา ยิ่งได้เห็นกล้ามเนื้อส่วนบนของอ.ที่แน่นมากขนาดนี้ คนที่ออกกำลังกายมาอย่างจริงจังมันเป็นแบบนี้นี่เอง แค่นี้หัวใจผมก็เต้นโครมครามๆแล้วครับ...

ยังไม่ทันคิดอะไรต่อ อ.ก็เอามือมาจับมือผม ค่อยๆลูบไปทีละส่วน...

"นี่ต่างหาก ที่เค้าเรียกว่ากล้ามเนื้อ"

ผมค่อยๆสัมผัสตามมือที่อ.พาไป อืมมมม จริงๆนะ หลังจากนั้นผมเผลอเอาหน้าเข้าไปมองตรงซิกแพ็คโดยไม่ได้ตั้งใจ...

อ.คงเห็นพอดี เลยจับคอผมให้แนบชิดตัว ตอนนี้แก้มผมถูกับซิคแพ็คอ.ไปแล้ว...อ๊ากกกกก

"อืมมมม ดีมาก" อ.พูดออกมา พร้อมกับค่อยให้หน้าผมลูบไปกับกล้ามเนื้อท้องนั้น ผมรู้สึกชอบนะ ผมไม่เคยได้สัมผัสแบบนี้มาก่อน กับพวกแก๊งค์โฉด ผมเห็น...แต่ไม่เคยทำแบบนี้เลย ตอนนี้ใจผมเต้นแรงมากและหน้าผมคงจะแดงมากเช่นกัน อ.ดึงตัวผมขึ้นมา

"พะยูนน้อย สัมผัสชั้นแล้วชอบเหรอ ดูสิ!!! หน้าแดงเลย นี่อย่าบอกนะ ว่านายยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้"


อะไรครับ...ใครจะไปเคยเอาหน้าถูไถกับอกผู้ชายกล้ามโตแบบนี้ ผมชอบผู้หญิงนะ แต่ก็อย่างที่อ.บอก ผมชอบสัมผัสนี้ หน้าผมมันคงบ่งบอกแบบนั้น แล้วอีกอย่างผมแค่เกือบมีอะไรกับแฟนเก่า แต่สุดท้ายผมก็ทำไม่ได้ตอนนั้นมันมีเหตุนิดหน่อย ช่างเถอะ...เอาว่าตอนนี้ ผมจะทำไงกับคนตรงหน้านี่ดี

"อ.เอ่อ.......ผม.......ไปได้รึยัง"


"อะไรกัน นายนี่ ชั้นบอกว่าไง กางเกงล่ะ ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย" 


"ผม....เอ่อ....ผม...ไม่ทำดีกว่าครับ ผม...ไม่กล้า"

ในที่สุด ผมก็บอกความจริงออกไป...จนอ.ระเบิดหัวเราะออกมา

"5555555 น่ารักๆ น่ารักที่สุด นานแล้วที่ไม่มีใครมาทำให้ชั้นหัวเราะได้ขนาดนี้"


"งั้นชั้นทำเอง แต่นายอย่าเพิ่งไปไหน อยู่นี่ก่อน"

หลังจากนั้นผมก็เหมือนถูกสต๊าฟให้ยืนนิ่ง ยังไม่ทันที่ผมจะหนีไปไหนพ้น อ.เหว่ยถิงก็ถอดกางเกงตัวเองออกอย่างรวดเร็ว จนเหลือกางเกงในตัวเดียวแล้ว เค้าก็หันหน้ามามองผมที่กำลังจ้องอย่างไม่วางตา ก็ทำไมหน่ะเหรอครับ...

คือผมว่ามัน...มันใหญ่มาก ขนาดผมว่าหลายๆคนที่ผมเห็นมา ทำให้ผมรู้สึกว่ามันใหญ่มากแล้ว 

แต่นี่...ผมแทบไม่สามารถละสายตาไปจากตรงนั้นของอ.ได้ นี่ผมกำลังคิดอะไรเนี่ยะ...


“จ้องอยู่นั่นแหละ ไม่เคยเห็นรึไง เอากางเกงว่ายน้ำของชั้นมาสิ”


ผมรู้ตัวเลยว่าอ.ต้องรู้แน่ๆว่าผมกำลังสนใจมันอย่างมาก เค้ามีรอยสักรูปกางเขนอยู่ที่ขอบกางเกงในด้านบนด้วย
ถึงแม้จะเป็นกางเกงในยี่ห้อสุพรีมที่ผมรู้จักและเป็นสีดำแต่มันก็ไม่สามารถบดบังความอูมนูนนั่นได้เลย...


ผมหยิบกางเกงว่ายน้ำที่อ.ส่งให้ตอนแรกคืนกลับไป โดยพยายามจะเบือนหน้าไปทางอื่น เพราะรู้ว่าอ.กำลังจะถอดกางเกงในตัวเองแล้ว 

“อยากมองก็มองสิ อย่ามาทำเป็นไม่สนใจ!!!”


ยิ่งอ.พูดแบบนี้ผมยิ่งไม่กล้ามองครับ แต่ตอนนี้อ.ก็ยังไม่ยอมหยิบกางเกงว่ายน้ำไป ตรงข้ามเค้ากลับเอามือมาจับมือผม


“ใส่สิ” 


เฮ้ย!!! ไม่นะ ผมไม่อยากรู้สึกอะไรมากไปกว่านี้ แค่นี้ผมก็คิดว่ามันบ้ามากๆ ที่ผมมายืนทำแบบนี้และคิดอะไรก็ไม่รู้ในห้องแต่งตัวของชมรมผมเอง


“ชั้นบอกว่าให้ใส่!!! หลี่อี้เฟิง”


ผมทำอะไรไม่ถูก ใจมันเต้นไม่เป็นส่ำ พอหันหน้ากลับไปก็พบว่า แก่นกลางนั่นยังแน่นิ่ง แต่ว่าขนาดจริงของมันทำให้ผมถึงกับนิ่งไปจริงๆ


อ.ดึงกางเกงไปจากมือผม แล้วโยนกองไว้ข้างตัว หลังจากนั้นก็ยืนเข้ามาแนบชิดกับผมอย่างรวดเร็ว...

“เป็นอะไรไป กลัวชั้นมากเหรอ”

“เอ่อ...เปล่านี่ครับ”

อ.ขยับเอาตัวเบียดด้านหน้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนผมรู้สึกได้ถึงส่วนล่างนั้น

“อวดเก่งนักนะนาย”

“อ.ครับ ใส่กางเกงก่อนมั้ย ผม...เอ่อ”

“ก็ชั้นให้นายใส่ ในเมื่อนายไม่ใส่ก็ตามใจ”

อ.ยืนเข้ามาชิดตัวผมมากขึ้นอีก คราวนี้ส่วนด้านล่างของอ.ที่กำลังมีปฏิกิริยาบางอย่าง และกำลังเริ่มไถไปกับร่างกายส่วนของผม...ตอนนี้ผมควรทำยังไงดี หัวผมมันตื้อไปหมด...


ไวกว่าใจผมจะคิดอะไรได้ อ.ก็เอามือผมไปจับส่วนนั้นของอ.ทันทีและเคล้าคลึงเล่น เหมือนไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับอ.เลย แต่ผมนี่สิ...

“อ. อื้อออ อ.ทำอะไร”

“นายไม่เคยทำให้ตัวเองหรือยังไง ก็แค่ช่วยชั้นแค่นี้ พะยูนน้อยนะพะยูนน้อย นายยังต้องเรียนรู้อีกมาก”

“แต่...นี่มัน...ผม...”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เอาเป็นว่าชั้นไม่เร่งรีบ ค่อยๆฝึกไปนะ เรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน อืมมม ดี ดี...”

ผมเอาฝ่ามือเคล้าคลึงส่วนนั้นอยู่สักพัก มันเริ่มตั้งชันขึ้นมาทันที มือผมเริ่มไปเองโดยที่อ.ไม่ต้องบอกอะไรเลย

อ.เอาแขนอีกข้างมาดันตัวผมให้เข้ามาชิดมากขึ้นไปอีก ตอนนี้มีเพียงมือผมที่สัมผัสจนรู้สึกได้ว่าส่วนนั้นแข็งและขยายจนมีน้ำไหลออกมาเปรอะที่มือผม.

“อื้อออ อ. มัน...”

ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร อ.ก็เอาปากมาประกบที่ปากผม 

ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอยากจะปฏิเสธเหมือนครั้งก่อน ร่างกายผมมันไม่ยอมหนี แปลกจริงๆ ผมรู้สึกอยากแนบชิดกับเค้ามากขึ้นไปอีก อื้มมม มันดีมากจริงๆ!!!

ลิ้นอ.แหวกเข้ามาชอนไชในปากผม จนผมแทบหายใจไม่ออก ผมรู้สึกว่ามันหวานปนขมแปลกๆ แบบที่ผมไม่เคยลิ้มลอง ผมพยายามจะหายใจทางจมูก แต่ว่าไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนี้ผมแทบไม่หายใจซะมากกว่า

“อื้ออ อ. อื้อ...”

ผมเริ่มมีสติขึ้นมานิดหน่อยจึงพยายามจะผละตัวออก พร้อมด้วยมือที่เลอะน้ำสีขาวขุ่นนั่น...

พอมองไปส่วนนั้นของอ.ยังคงตั้งชูขึ้น ภาพตรงหน้ายิ่งทำให้ผมตะลึงเพราะมันยิ่งขยายขนาดขึ้นอีกกว่าตอนแรก...

“ไปล้างมือ ตรงนี้ชั้นจัดการเอง”

ผมยังรู้สึกว่าเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้ผมแทบลืมหายใจ ตอนนี้ขาแทบยืนไม่ไหว นี่มันอะไรกัน คนอย่างผม ประธานชมรมนะ มาทำอะไรแบบนี้กับอ.แค่คิดผมก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองแล้ว...
ผมค่อยๆเดินคิดทบทวนไปจนถึงห้องน้ำ พอล้างมือเสร็จผมเดินออกมาก็เห็นอ.อยู่ในกางเกงว่ายน้ำ ทำหน้ายิ้มมุมปาก

“ว่าไงพะยูนน้อย บางทีน้ำขุ่นๆ นายก็ดูชอบนี่นา”

“อ.ทำไมทำแบบนี้ ผม...ผมไม่ใช่พวกบ้ากามนะครับ”

“เหรอ ชั้นก็ไม่ใช่ 555”

ดูหน้าเค้าสิ ดูสนุกมากกว่าที่จะรู้สึกผิดหรือว่าอะไร


“แต่ว่า...ที่เราทำกันเมื่อกี้ มัน เอ่อ...ไม่ดีนะครับ”

“ใครว่าดี ใครว่าไม่ดี ชั้นตัดสินเอง ถ้านายไม่ต้องการชั้นก็จะหยุด”

ไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องการแต่ผมแค่รู้สึกว่ามันไม่ดี ถ้าเกิดใครรู้เข้าและจะอะไรอีกหลายอย่างที่ผมว่ามันไม่ถูกต้อง


“อ.ครับ ผม...ไม่รู้...ผมแค่...”

“ตกลงนายนี่ติดอ่างรึไงนะ เรียนพวกหนังละคร เค้าต้องพูดจาฉะฉานสิ แต่นี่นายไม่เคยพูดเต็มประโยคได้เลย”

“ก็...ผม...ผมไม่เคย...เอ่อ...ทำแบบนี้”

“555 ชั้นรู้ ชั้นถึงได้บอกว่านายนี่มันน่ารักดีไง ไปเถอะไปฝึกว่ายน้ำกัน ชั้นจะสอนนายหายใจใหม่”

“อ.ครับ อ.จะทำอะไรกับผมกันแน่”

ผมไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรแล้ว บางทีก็โหด บางทีก็ดูตลก ผมเลยอดถามไม่ได้

"ก็ฝึกสอนพะยูนน้อยไง

“อ.แต่ว่า.....”

“ถามมาก มาไปฝึกกัน”

หลังจากนั้นอ.ก็จับข้อมือผมแล้วลากไปยังสระว่ายน้ำ...

.................โปรดติดตามตอนต่อไป....................................

















วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วุ่นนัก...ที่รักผมเป็นหมอ(ฟัน) บทส่งท้าย Final treatment...

เฉินเหว่ยถิง = หมอเฉินเหว่ยถิง เป็นหมอฟัน เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ชื่อ “ถิงหยาฉือ”
                    อุปนิสัย-เงียบ สงบ เย็น ภูมิฐาน เป็นงานเป็นการ ความรู้แน่น  แต่บางทีก็สามารถขี้เล่นขึ้นมาได้
หลี่อี้เฟิง = ดาราดาวรุ่งสุดฮอตแห่งวงการ ถ่ายละครและหนัง คิวแน่นไม่หยุดหย่อน 
                   อุปนิสัย-ร่าเริง กินเก่ง ชอบกินขนม ของหวาน ลูกอม เค้ก ไอติม แต่กลัวเลือดมากที่สุด




บทส่งท้าย...Final treatment 

         ผมยังคงอยู่บนโซฟาในคอนโดหรูด้วยร่างกายที่ไม่มีเสื้อผ้าเลยซักชิ้นเดียว คนตัวใหญ่ข้างๆ กอดผมไว้ในอ้อมกอด ราวกับว่ากลัวผมจะหนีไป ผมขยับตัวกำลังจะต้องลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เค้ายิ่งกอดผมไว้แน่นขึ้น...

"หมอ ผมต้องไปแล้ว ปล่อยก่อนนะ" ผมหันไปมองหน้าพร้อมกับแกะแขนเค้าออกจากตัว

"ก็ไปสิ ใครไปห้ามคุณไว้ล่ะ คุณดาราดัง" นั่นแหละ คำตอบที่ผมได้รับ...นี่มันประชดกันชัดๆ

"หมอถิง เราคุยกันแล้วนี่นา นี่มันคืองานของผม ไม่ว่าผมจะไปไหน สุดท้ายผมจะกลับมาหาคุณที่นี่ โอเคมั้ย!!!" ผมพยายามคุยกับเค้าด้วยเหตุผล ชักจะไม่รู้เรื่องแระนะเนี่ยะ...

เค้าคลายมือออก แล้วลุกขึ้นมาจ้องหน้าผม...

"งั้นผมให้คีการ์ดกับกุญแจคุณไว้นะ คุณจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ที่นี่ผมยกให้คุณ"

"เอ้ย!!! หมอจะมายกให้ผมทำไม คอนโดผมก็มี เงินก็มี คุณไม่ได้รวยคนเดียวนะ" ผมแย้งออกไป

"ก็ผมอยากให้เรามีบ้านของเรานี่นา โอเคนะ คุณนายเฉิน" แล้วเค้าก็ก้มลงมาจูบที่ปากผมอีกครั้ง ผมก็อดไม่ได้ที่จะจูบตอบไป อืมมมม...การเป็นคุณนายเฉินนี่มันดีจริงๆนะ รึยังไง???

"งั้นเอาเป็นว่าผมไปได้รึยัง เดี๋ยวก็ตกเครื่องกันพอดี" ผมเอ่ยปากถาม หลังจากเค้าดูพอใจกับจูบของผมแล้ว

"ก็ได้ แต่ผมขอบอกก่อนนะว่าห้ามนอกใจผม ต้องคิดถึงผมตลอด คุณยิ่งดึงดูดคนประหลาดๆอยู่ ดูอย่างผมสิ โดนคุณดูดติดหนึบเลย โทรหาผมด้วย ไม่งั้นล่ะก็ ผมจะไปจัดการกับคุณ"

"ครับ คุณหมอ!!!!" ผมรีบรับปากเค้าไปอย่างเต็มใจ แล้วผลักมือเค้าออกแต่เค้าก็ยังไม่เห็นจะยอมให้ผมไปไหน

"หมอ...อึบบบบ ปล่อยสิ ก็ผมรับปากแล้วไง??? หมออ่ะ....อย่าแกล้งผมสิ"

"ผมขอบอกอีกอย่าง จริงจังมากๆ คุณฟังนะ ผม...หมอเฉินเหว่ยถิง ไม่เคยคิดว่าจะจริงจังกับใครขนาดนี้ แต่เมื่อผมมีคุณ ผมอยากให้คุณเชื่อใจ ยอมรับและคบกับผม...คุณเป็นของผมแล้ว ผมจะดูแลคุณ ที่จริงคุณไม่ต้องทำงานอะไรเลยยังได้ แต่ในเมื่อคุณรักอาชีพนี้ ผมก็พร้อมจะช่วยเหลือและสนับสนุนคุณ คุณเข้าใจที่ผมพูดมั้ย??"

ผมอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าเค้าจะมาพูดอะไรจริงจังตอนนี้ แต่ผมก็เชื่อใจและเชื่อทุกอย่างที่เค้าพูดอยู่แล้ว ผมเลยตอบเค้าไป...

"หมอ....คุณ...คุณแน่ใจนะ"

"อี้เฟิง ทำไมคุณถามแบบนี้อีกแล้วนะ นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว จนป่านนี้แล้ว หรือว่าคุณไม่อยากอยู่กับผม"

หมอถิงดูจะไม่พอใจกับคำพูดผมสักเท่าไหร่ เค้าจึงลุกขึ้นนั่งหันหลังให้ ผมโดนคนตัวใหญ่งอนครับ...

"อ่ะ!!! ผมให้คุณไปแล้ว คุณอยากไปก็เชิญ"

ผมเลยต้องเอามือไปกอดเค้าจากด้านหลัง ก่อนจะเอาแก้มพิงพร้อมค่อยๆถูไปที่แผ่นหลังกว้างของเค้าและพูดขึ้น

"ไม่ใช่แบบนั้นนะ ผมแค่ถามเพื่อความแน่ใจอีกที ว่าคุณไม่คิดกับผมเล่นๆแน่ๆ ก็เป็นแฟนกับดาราต้องอดทนนะ เรื่องของเราก็เปิดเผยไม่ได้ ไปไหนก็ต้องหลบๆซ่อนๆ ไม่ให้ใครเห็น ยิ่งเป็นความรักแบบนี้ คุณยิ่งต้องอดทนมาก ถ้าคุณแน่ใจ ผมก็พร้อมที่จะอยู่กับคุณเสมอ ช่วยไม่ได้ก็ผมเต็มใจเป็นของคุณแล้วจริงๆ" พูดเสร็จผมก็เขิน เอาหน้าซุกที่หลังเค้า จนเค้ายอมหันมายิ้ม...

"งั้นคุณไปเมืองไทยกลับมา เราย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันนะ ผมจะจัดการทุกอย่างไว้รอ โอเคนะ นะๆๆๆ"

ผมพยักหน้าตอบ แล้วจูบเค้าไปอีกทีเพื่อยืนยัน...

"โหหหห อี้เฟิง คุณจะทำให้ผมคลั่งนะ ถ้าไม่รีบไปตอนนี้ ผมไม่รับรองว่าคุณจะตกเครื่องหรือเปล่า" หมอถิงหายงอนพร้อมกับเอามือโอบกอดผมไว้

ผมหัวเราะ พร้อมกับลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัว เค้าพยายามจะไปส่งผมที่สนามบินให้ได้ แต่ผมคิดว่าเพื่อลดปัญหา ผมไปเองดีกว่า เรื่องอื่นๆหลังจากนี้ ค่อยๆแก้ไปก็แล้วกัน...


เมื่อผมถึงเมืองไทย ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาที่นี่ ครั้งนี้ก็ครั้งที่ 3 แล้วนะ ที่ได้มา ประเทศนี้ของกินอร่อยครับ
 ผมชอบ มาทีไรน้ำหนักต้องขึ้นทุกครั้ง เพราะผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องกิน กินและกิน ตามนิสัยชอบกินของผม...ดีนะ ที่หมอไม่ได้ตามมาด้วย ไม่งั้นผมต้องโดนบ่นแน่ๆ 



และแล้วผมก็มาถึงชะอำครับ ผมพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง มองออกไปก็เห็นทะเล ที่พักก็แบ่งเป็นสองชั้นแบบปูนเปลือย ไม่ได้ทาสีอะไร ห้องพักใหญ่มาก เตียงก็ใหญ่นอนสบาย 

จากนั้นเจ๊เฉินโทรขึ้นมาตามให้ลงไปคุยกับทีมงานเพื่อเตรียมงานรายการที่ผมวางแผนไว้ พร้อมกันนั้นเจ๊เฉินก็บอกผมแล้วว่า ผมได้งานโฆษณาที่มาถ่ายที่นี่ด้วย...



ผมอยู่ที่นี่เป็นวันที่สามแล้ว พอตกเย็น หลังจากทานอาหารเย็นพร้อมๆทีมงานเสร็จ ผมเลยมาเดินเล่นชายหาด คิดไรไปเรื่อยเปื่อย มาที่นี่ก็ดีนะ ไม่มีค่อยมีใครรู้จักมากนัก ผมอยากเดินไปไหนก็ได้ตามสบาย ถึงผมจะชอบเป็นเป้าสายตา แต่บางทีก็เหนื่อยอยากอยู่แบบส่วนตัวพักผ่อนกะเค้าบ้าง 

นั่งริมหาดแบบนี้อดคิดถึงเค้าไม่ได้ อยากให้เค้ามานั่งริมหาดอยู่ด้วยกัน...วันนี้ทั้งวันเค้ายังไม่รับโทรศัพท์ผมเลย สงสัยจะทำคนไข้ยุ่งอยู่ แต่ผมก็ส่งข้อความกับเฟสไทม์หาตลอดเลยนะ คงต้องปล่อยให้เค้าทำงานบ้าง

ผมนั่งได้สักพักจึงเดินกลับเข้าห้องไป วันนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เจ๊เฉินบอกให้ผมรีบเข้านอน เพราะเราก็จะกลับกันแล้วพรุ่งนี้ ต่อจากนี้ไปชีวิตผมจะย้ายไปอยู่กับหมอถิงที่คอนโดของเค้า ผมคงมีความสุข แต่ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรอีกบ้างนี่สิ...พอประตูปิด ผมก็เสียบการ์ดลงในช่องด้านข้างเพื่อให้ไฟและแอร์ทำงาน...


ทันใดนั้นก็มีมือใหญ่โอบเอวผมมาจากด้านหลัง แล้วเอาหน้ามาซุกที่ซอกคอผม...
“คิดถึงจังเลย คุณล่ะคิดถึงผมมั้ย!!!”

เสียงนี้...นี่มัน...


“หมอถิง คุณมาได้ยังไง ก็ไหนว่าวันนี้ต้องทำคนไข้แล้วไงล่ะ หมออ่ะ...หลอกผมเหรอ แล้วเข้ามาในห้องผมนี่นะ ได้ยังไงกัน...คนที่มีการ์ดอีกใบ...ก็...”

“ตกลงคุณคิดถึงผมมั้ยเนี่ยะ ไม่เห็นตอบ สงสัยจะไม่คิดถึงเท่าที่ผมคิดถึงแน่ๆ งั้นผมขอยาแก้คิดถึงก่อนนะ”

เค้าเอาริมฝีปากซุกไซร์ไปตามลำคอและแก้มของผม...มันเป็นสัมผัสที่ผมก็คิดถึง ผมจึงปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติตามที่หัวใจของผมและคนด้านหลังนี้ต้องการ

เค้าอุ้มผมไปวางที่เตียงเบาๆ แล้วเริ่มจูบอย่างช้าๆ เค้าถอนปากออกแล้วพูดกับผม...

“ตกลงคิดถึงผมมั้ย หรือว่าทำงานจนเพลิน ลืมที่ผมบอกแล้วเหรอครับ”

ผมยิ้มไม่ตอบอะไร แค่เค้ามาหาผมถึงที่นี่ ผมก็ไม่อยากจะคิดอะไรตอนนี้ แต่แล้วก็นึกขึ้นมาได้...

“เอ๊ะ!!!อย่าบอกนะ...ว่าเจ๊เฉินร่วมมือกับคุณ” เพราะอีกคนที่มีการ์ดห้องผมคือเจ๊เฉิน และถ้าไม่ใช่เจ๊เฉิน เค้าจะตามผมมาถึงนี่ได้ยังไง...

“เอาเป็นว่า คุณดารา ผมกลายเป็นผู้กุมชีวิตทั้งในวงการและนอกวงการของคุณแล้วนะ คุณหนีผมไปไหนไม่รอดหรอกครับ” ยิ่งคิดผมยิ่งไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่น่าเชื่อว่าเจ๊เฉินจะยอมบอกหมอถิงได้


“ผมไม่หนีหมอไปไหนหรอก หมอรู้มั้ย ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ผมคิดถึงคุณตลอดนะคราวนี้จะบอกได้รึยัง ว่าคุณทำได้ยังไง”

หมอไม่ตอบอะไร แต่หันมาถอดเสื้อผ้าของเค้าและผมออก ระหว่างที่เค้ากำลังจะก้มลงมาจูบผมอีกรอบ...ผมเอาสองมือปิดปากเค้า

“หมออ่ะ บอกก่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้จูบด้วย” ผมอยากรู้เลยลองต่อรองออกไป

“คุณไม่มีทางหนีพ้นหรอก บอกแล้วว่าตั้งแต่วันที่คุณก้าวเข้ามาในคลินิกและอ่อยผมวันนั้น คุณก็ไปไหนไม่รอดแล้ว 555” 

ผมยิ่งงงกับคำพูดของเค้า พยายามจะเบือนหน้าหนีไม่ยอมให้เค้ามาจูบจริงๆ แต่ไม่สำเร็จเพราะเค้าก็เอามือมาบังคับให้ผมรับจูบเค้าจนได้ และสุดท้ายผมก็หนีไม่รอดจริงๆครับ เราสองคนปล่อยความคิดถึงให้พาไปจนถึงความสุขที่ต้องการ นี่แค่ไม่กี่วันที่จากกัน ทั้งเค้าและผมคิดถึงกันมากมายขนาดนี้เลยเหรอ จนสุดท้าย ผมก็นอนหลับคาอยู่ที่อกเค้า...

หมอถิงกำลังห่มผ้าให้ผมและมอง ผมจึงลืมตาขึ้นไปมองหน้าเค้า ใบหน้าและดวงตานี้เหมือนสะกดผมตั้งแต่วันแรกที่เจอจริงๆ ผมจึงยื่นหน้าขึ้นไปจูบแก้มเค้าแล้วนอนลงเหมือนเดิม...อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้อีกแล้ว


สักพักก็มีเสียงข้อความเข้าที่โทรศัพท์ผม ผมจึงหันไปหยิบขึ้นมาอ่านดู...

“อี้เฟิง...เจ๊ต้องบินกลับไปก่อนนะ ไฟลท์เราหมอถิง เอ้ย!!!ท่านประธานถิง เค้าเปลี่ยนให้ใหม่แล้ว จะได้พักที่นี่เพิ่มอีกวันนึง ก็ต้องขอบคุณท่านนะ เรื่องอื่นถามท่านเอาเองแล้วกัน” 
เจ๊เฉิน...


พออ่านจบผมเงยหน้ามองเค้า...เห็นเค้านอนหลับตายิ้มอยู่

“นี่มันอะไรครับหมอ...ประธานถิง???” เค้าไม่ตอบเอาแต่หลับตายิ้มต่อไปแล้วพูด

“ต่อไปนี้ผมจะมาดูแลคุณทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวครับ เข้าใจมั้ย ผมซื้อตัวคุณ เอ้ย!!! ไม่ใช่สิ ผมซื้อบริษัทคุณไว้และตกลงรับผิดชอบดูแลในส่วนของคุณแล้ว ดังนั้น เรื่องถ่ายหนังนั่น ไม่ต้องไปสนใจ ต่อไปนี้งานที่คุณจะรับ ผมก็จะรับรู้ด้วย แต่ผมไม่เข้าไปยุ่งหรอกนะ เพราะผมเป็นหมอฟัน ไม่ใช่ดารา ผมแค่อยากให้คุณทำงานอย่างสบายใจ ผมบอกแล้วไง ผมดูแลคุณนายของผมได้ ฮึฮึ”


ผม...ผมอธิบายไม่ถูกเลยครับ ว่านี่มัน...ดีแค่ไหน 
ไม่สิ...เป็นไปได้ยังไง แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงตอนนี้ผมก็อยู่ในอ้อมกอดของหมอฟันคนนี้...ที่ตอนนี้พ่วงตำแหน่งเจ้าของบริษัทและตัวผมด้วย...จะวุ่นแค่ไหนกันนะ ช่วยไม่ได้ก็ที่รักผมเป็นหมอ(ฟัน)คนนี้นี่นา

ผมยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูเค้า... “ผมรักคุณนะ...คุณหมอของผม”...


.........................................จบค่า........................................................







วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ที่ปรึกษาคนใหม่

อ.เฉินเหว่ยถิง : อ.สอนคณะบริหารธุรกิจ ผู้ชื่นชอบการว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ มีรางวัลการันตีมากมาย แต่ความโหดขึ้นชื่อไปทั่ว นักศึกษากลัวกันทั้งมหาลัย เพราะแท้จริงแล้ว เค้ายังเป็นลูกชายอธิการบดีด้วย...

หลี่อี้เฟิง : นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ ปี2 เขายังมีตำแหน่งเป็นประธานชมรมว่ายน้ำชาย ตั้งแต่เขามารับตำแหน่งเมื่อปีก่อนแทนรุ่นพี่ที่จบไป สมาชิกก็ลาออกหายไป ไปแข่งที่ไหนก็ไม่ค่อยได้รางวัล ยกเว้นแต่เขาที่ยังพอสร้างชื่อให้ได้บ้าง...


บทนำ "เรื่องกล้วยๆ...Banana and me"



ณ ห้องพักชมรมว่ายน้ำชาย มหาวิทยาลัยกู่เจี้ยน>>>>>>>>>>

"ประธานเฟิง ปล่อยไว้แบบนี้ เราจะถูกยุบชมรมได้นะ" หม่าเทียนหยู หนึ่งในสิบสมาชิกชมรมที่เหลืออยู่ถามผมออกมา

"แล้วนายจะให้ชั้นทำยังไง พอมีที่ปรึกษาชมรมเข้ามา อยู่ได้ไม่นาน เค้าก็ออกหมด ไม่ใช่เพราะพวกนายหรอกเหรอ" 

สาเหตุส่วนใหญ่ที่อ.ที่ปรึกษารับไม่ได้ก็คือความเกเรของเหล่าแก๊งค์คนโฉดที่เหลืออยู่นี่ล่ะ!!!!


"พวกชั้นเปล่าซะหน่อย ใช่มะ หยุนหลง" หม่าเทียนหันไปถามเพื่อนแก๊งค์โฉดอีกคน 


"แล้วไง ไม่มีที่ปรึกษาจะตายมั้ย ชมรมก็ไม่เห็นต้องมีที่ปรึกษาเลย แค่เอาเงินบำรุงจากมหาลัยมาก็พอ" 

ดูสิครับ.... เพื่อนผมทั้งหลาย นี่แค่ตัวอย่าง ยังไม่นับความเกรียนของพวกมัน ที่มารวมตัวกันอยู่ในชมรมนี้ มันเห็นชมรมว่ายน้ำของผมเป็นที่พบปะพูดคุยเล่นสนุกรึไงนะ


"นี่พวกนาย สมัยรุ่นพี่ยังอยู่ พวกนายไม่เห็นเป็นแบบนี้ แล้วทำไมพอชั้นขึ้นมารับผิดชอบ เป็นประธานให้ กลายเป็นแย่ไปได้" ผมไม่เข้าใจพวกนี้จริงๆ ผมรักพวกมันทุกคนนะ จริงๆแต่ละคนก็มีข้อดี แต่ว่าเดี๋ยวนี้ชักจะหนักข้อขึ้นทุกวัน

ผมยังคงถกเถียงกับพวกมันต่อไป เหล่าแก๊งค์คนโฉดก็ไม่ยอมช่วยให้ทุกอย่างมันดีขึ้น วีรกรรมพวกมันเยอะมากครับ ไว้มีเวลาผมจะเล่าให้ฟัง แต่อยู่ดีๆก็มีความคิดนึงสะดุดหูผมขึ้นมา...

"ประธานเฟิง ชั้นว่านายไปเชิญอ.เหว่ยถิงมาเป็นที่ปรึกษามั้ย มีคนบอกชั้นว่าเค้าว่ายน้ำเก่งมาก กวาดรางวัลมาเยอะแยะ แถมเคยอยู่ชมรมเรามาก่อนอีก" หม่าเทียนเพิ่งเสนอไอเดียที่ผมคิดว่าเริ่มจะเข้าท่าขึ้นมา

"ใช่ๆ อ.เหว่ยถิงก็ดีนะ ได้ข่าวว่าเค้าเป็นลูกชายอธิการ คงจะขอเงินสนับสนุนเพิ่มได้" หยุนหลงผู้เห็นเงินเป็นชีวิตจิตใจ พูดเรื่องเงินอีกแระ

"นี่พวกนาย พูดอะไรกัน อ.เหว่ยถิงเนี่ยะนะ เค้าโหดขั้นไหน ใครๆก็รู้กันทั้งมหาลัย พวกนายยังจะให้ชั้นไปเชิญเค้า อยากให้ชั้นไปตายรึไง" ผมเถียงพวกเค้าออกไป

"ก็ไหนนายว่าพวกชั้นไม่ช่วยคิด พอคิดแระก็ว่าไร้สาระอีก เฮ้อๆๆๆ เหมียวอ้วนเอ้ย จะเอาไงอีก ที่เรียกประธานเนี่ยะ เพราะไม่อยากจะเรียกชื่อเล่นนะ 5555" ดูหม่าเทียนครับพี่น้อง มันคือเพื่อนสนิทผมมั้ย ถามใจดู...แต่ละคำ ตัวเองผอมตายล่ะ!!!

สุดท้ายผมก็ทนการรบเร้าจากสมาชิกในชมรมทุกคนไม่ไหว มันสั่งให้ผมไปเชิญอ.เหว่ยถิงมาให้ได้ แต่ผมติดใจคำพูดสุดท้ายของหยุนหลงมาก

"ชั้นจะบอกอะไรให้นะ ท่านประธานเฟิง นายจะต้องไปเชิญอ.เหว่ยถิงมาให้ได้ แม้จะต้องเอาตัวเข้าแลกก็ตาม 555"


หลังจากที่ช่วยกันคิดพวกมันให้ผมไปเจออ.ที่รถของเค้า แถมไปสืบมาให้หมดว่าอ.เค้าชอบอะไร ไปไหนบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มมากนัก เพราะข่าวอ.มีบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่ เพราะเค้าค่อนข้างเก็บตัวไม่ยุ่งกับใคร ดังนั้นอีก 2 วันต่อมา ผมจึงมีหน้าที่ดักเจออ.ที่หน้ารถคันหรูของเค้า 

ผมเห็นแล้ว อ.เหว่ยถิงกำลังเดินมาที่รถ พร้อมกับกดกุญแจเพื่อเปิดประตู ผมจึงเอาตัวเข้าไปขวางไว้ก่อนอ.จะถึงประตูรถ

“เอ่อ...อ.ครับ ผม...”

“หลีก”  อ.เหว่ยถิงมองหน้าผมด้วยสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อผมเข้าไปด้วย

“อ.ครับ ผมขอ...”


“หลีก”



 อ.เค้าพูดเป็นคำเดียวรึไงนะ ผมไม่ใช่เด็กคณะบริหารครับ จะได้กลัว ผมไม่เคยรู้หรอกว่าอ.เค้าเป็นยังไงกันแน่ เพียงแค่ได้ยินกิตติศัพท์ความโหดมานาน เพิ่งเจอกับตัวเองก็วันนี้ ผมควรจะทำยังไงดี อ้อ!!!ใช่ หยุนหลงให้ของผมมาเพื่อมาหยุดอ.โดยเฉพาะ ผมจึงยื่นมือออกไปพร้อมของที่เตรียมมา...



ได้ผลแฮะ...อ.หยุดมองที่มือผม 


“อ.ครับ ผมหลี่อี้เฟิง อันนี้ผมเอามาให้ครับ” 


ในมือผมคืออะไรหน่ะหรือครับ มันคือกล้วยหอม 1 ลูก ใช่ครับ!!!กล้วยหอม ผมก็ไม่เข้าใจ หยุนหลงบอกว่าอ.เค้าชอบกินกล้วยมาก ถ้าได้กินกล้วยอารมณ์จะดีขึ้น แต่ไงก็ตามเด็กบริหารพยายามเอากล้วยไปวางไว้ในห้องเรียนแล้ว แต่บางครั้งก็ไม่ช่วยอะไร...


อ.เหว่ยถิงหยิบกล้วยหอมจากมือผม ปอกและยืนกินตรงนั้นโดยไม่สนใจผมสักนิด ผมเลยถือโอกาสพูด ตอนอ.กำลังกินกล้วยอยู่พอดี

“ผมเป็นประธานชมรมว่ายน้ำชายครับ ผมอยากขอร้องให้อ.มาเป็นที่ปรึกษาชมรมให้พวกผม ผมรู้ครับว่ามันออกจะแปลกสักหน่อย...”

“หยุด...หลีกไป!!! พรุ่งนี้มาใหม่นะ เอากล้วยมาด้วยล่ะ อ่ะ!!! เอาไปทิ้งด้วย”


เฮ้ย+++ อะไรฟระ!!! ผมล่ะงงมาก เค้าเอาเปลือกกล้วยที่กินหมดอย่างรวดเร็วมายัดใส่มือผม แล้วผลักผมออกจากประตูรถ แล้วขึ้นรถขับออกไป อย่างไม่สนใจผมที่ยืนงงอยู่ริมถนน...


คุณครับ...เชื่อมั้ยว่า ผมทำแบบนี้มา 3 วันแล้ว อ.เหว่ยถิงก็ไม่พูดอะไรสักคำนอกจาก


“หลีกไป” ผมไม่รู้จะทำยังไง ทุกคนในชมรมบอกว่า แค่เค้ายังไม่ปฏิเสธ ผมก็ต้องทำต่อไป แต่ผมใกล้จะบ้าแล้วนะ อะไรกัน ให้ผมเอากล้วยมาให้เค้าทุกวัน ผมไม่ได้เลี้ยงลิงนะ จะได้ทำแบบนี้...


แต่แล้ววันนี้วันที่ 4 พอดี เมื่ออ.ยื่นเปลือกกล้วยคืนมา...

"พรุ่งนี้ไปที่ห้องพักชั้นตอนทุ่มนึงนะ ชั้นมีสอนเย็น เอากล้วยมาด้วยล่ะ”

เออนะ...พรุ่งนี้ให้ผมเปลี่ยนที่ให้กล้วยหรือยังไง??? แต่ก็เอาเหอะ ก็ยังดีกว่ามายืนดักที่นี่ทุกวันโดยไม่มีอะไรคืบหน้าก็แล้วกัน


....ห้องพักอ.เหว่ยถิง...

“เข้ามาสิ” 

หลังจากผมเคาะประตูก็มีเสียงบอก ผมจึงเดินเข้าไป ภายในห้องก็ดูเรียบร้อยสะอาดดี และด้านหลังโต๊ะยังมีใบประกาศ ถ้วยรางวัลมากมาย ที่เค้าว่าอ.เก่งทั้งกีฬาและการเรียนท่าจะจริงแฮะ ผมจึงนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะอ.


“กล้วยล่ะ”

ฮ่วย!!! คนเรา จะกินกล้วยอะไรกันนักหนานะ

ผมจึงยื่นกล้วยหอมออกไปให้เค้าเหมือนเคย เค้ารับไปแล้วก็ปอกกิน ในระหว่างที่กำลังกินอยู่ เค้าเดินไปที่ประตูและล็อคที่ลูกบิด...

เฮ้ย!!! จะทำอะไรหน่ะ ล็อคทำไม เค้าจะต่อยผมมั้ยนะ ตัวอ.ก็ใหญ่กว่าผมมาก เดี๋ยวลองดูท่าทีก่อนแระกัน ไม่เป็นไร ทุกคนในชมรมรู้ว่าผมมาพบอ. ถ้าผมเป็นอะไรไป ก็ต้องมีเพื่อนที่รู้อยู่ดี


“ไปนั่งที่โซฟา”

อ.นี่ทำไมชอบพูดประโยคสั้นๆ แล้วก็สั่งอยู่ได้นะ


“เอ่อ อ.ครับ ผมนั่งตรงนี้ก็ได้ ว่าแต่อ.จะยอมรับเป็นที่ปรึกษาชมรมให้พวกผมแล้วใช่มั้ยครับ”

“หลี่อี้เฟิง ชั้นบอกให้ไปนั่งที่โซฟา” โหหหหห ดุชะมัด ชักเริ่มเข้าใจพวกที่กลัวเค้าแล้วอ่ะ

ผมจึงจำเป็นต้องลุกจากเก้าอี้ไปนั่งที่โซฟาสีฟ้าตัวใหญ่ด้านข้าง อ.เค้าเดินเอาเปลือกกล้วยไปทิ้ง แล้วมานั่งข้างๆผม เอามือมาแกะกระดุมเสื้อผมทีละเม็ด...

“อ.ครับ จะทำอะไร ผม...เอ่อ คิดว่า ผมกลับก่อนดีกว่า” 

ผมเริ่มไม่เข้าใจท่าทีเข้าแล้วนะ ผมคิดว่าผมไปดีกว่า แต่พอผมจะลุกขึ้น เค้าก็พูดขึ้นพร้อมกับใช้แรงดันตัวผมให้นั่งลง

"นั่งลง!!!" ผมยังพยายามจะดันตัวขึ้น

“ตกลงมาขอร้องชั้นไม่ใช่เหรอ แค่นี้ก็จะกลับแล้ว???” 

อ.พูดไปก็แกะกระดุมเสื้อผมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเม็ดสุดท้าย ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ ที่ตอนนี้เสื้อผมเผยออกให้เห็นหน้าอกและส่วนท้อง

แต่ผมก็ไม่สามารถทิ้งความหวังไปตอนนี้ ในเมื่ออ.เค้าพูดแบบนี้

“ครับ ผมอยากขอให้อ.เป็นที่ปรึกษาให้ ผมหวังว่าอ.จะช่วยชมรมเราได้หน่ะครับ”

“ถอดเสื้อ” ฮะ!!! คำสั่งนี้ เค้าจะให้ผมถอดเสื้อทำไม มันเกี่ยวอะไรกับการเป็นที่ปรึกษาชมรมฟระ!!!

ผมจึงเอามือดึงเสื้อปิด พร้อมกับจะยืนขึ้น...

“ตกลงนายยังอยากจะให้ชั้นเป็นที่ปรึกษามั้ย” อ.ดึงชายเสื้อผม ทำให้ผมต้องลงมานั่ง ผมยังคงเอามือดึงเสื้อปิดไว้

“อยากครับ” แต่ผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วที่ตอบแบบนี้ไป


“งั้นถอด” เค้าพูดแค่นี้ แล้วผมจะทำยังไงได้นอกจากทำตาม


ผมจึงค่อยๆถอดเสื้อตัวเองออก โดยที่มีอ.เหว่ยถิงมองผมไม่วางตา @_@


ทำไมผมรู้สึกเขินนะ ก็ผู้ชายด้วยกัน ถอดเสื้อออกก็ไม่เห็นจะเป็นไร แต่เค้ามองเหมือนจะกลืนผมเข้าไปให้ได้นี่สิ ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าอ.เหว่ยถิงจะหื่นขนาดนี้ ผมว่าเค้าต้องมีจิตประหลาดวิปริตไปแล้วแน่ๆนี่มาจ้องนิสิตถอดเสื้อเนี่ยะ!!!

หลังจากนั้นเค้าเอามือมาลูบกล้ามเนื้อที่ท้องและส่วนหน้าอกของผม จนผมเสียววาบไปหมด เดี๋ยวนะ!!! ผมว่านี่มันชักจะยังไงๆแระ

“กล้ามเนื้อไปไหนหมด ทำไมมีแต่ไขมัน เป็นแบบนี้จะไปว่ายน้ำแข่งกับคนอื่นเค้าได้ยังไง ดูแผ่นหลังนี่สิ นุ่มนิ่มขนาดนี้ นี่เป็นประธานชมรมว่ายน้ำหรือปลาพะยูนฮะ...หลี่อี้เฟิง” 

ผมทั้งอาย ทั้งร้อนไปหมดทั้งหน้า ตกลงนี่เค้าสำรวจกล้ามเนื้อผม ว่าผม แต่ทำไมผมรู้สึกได้ว่าสัมผัสเหล่านี้มันทำให้ผมเคลิ้มล่ะ นี่มันจะบ้าไปแล้ว...หลี่อี้เฟิง เค้าว่านายเป็นพะยูน นายควรจะโมโหเค้าสิ!!! 


“อาจารย์...เอ่อ...”

ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อ อ.เขยิบตัวเข้ามาใกล้มากแล้วจ้องตาผม เอาปากและจมูกเข้ามาใกล้มากจนแทบจะหายใจรดกัน 

“นายกลั้นหายใจได้นานแค่ไหนตอนอยู่ในน้ำ” 


ผมยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร อ.ก็เอาปากมาประกบปากผม พร้อมกับเอามือมาบีบจมูกผมไว้ ตอนนี้ผมหายใจไม่ออกเลยเอามือมากันอ.ออก 
แต่อ.เอามือเดียวมาจับมือสองข้างของผมรวบเข้าไว้ไขว้หลังผมเองอย่างรวดเร็ว...


“อื้ออออ อื้อออ” ผมได้แค่หายใจทางปากผ่านปากอ.เท่านั้น อ.ยังคงส่งลมหายใจและผมก็รับ สลับไปมาแบบนั้นไปเรื่อยๆ เกินนาทีเลยที่ผมหายใจไปพร้อมกับอ. จนผมแทบจะลืมหายใจเองไปด้วย และในที่สุดอ.ก็ถอนปากและมือออกไป ทำให้ผมได้หายใจได้อีกครั้ง...

ผมแอบนั่งหายใจตัวโยน พร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของอ. 
ผมเลยลอบมองไปทีนึง เห็นเค้ายิ้มน้อยๆด้วย เหมือนจะอารมณ์ดีนะ
เวลาเค้ายิ้มนี่แอบน่ารักนะ มิน่า!!!สาวๆในมหาลัยถึงได้บอกว่า อ.เหว่ยถิงโหดแต่น่ารัก 
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิดว่าอ.บ้านี่น่ารักนะ นี่มันวิธีอะไรของเค้าเนี่ยะ


“ฮึๆๆ เนี่ยะนะ กลั้นหายใจได้แค่นี้ อย่าคิดว่าจะชนะใครได้” 

“อ.แกล้งผม ถ้าอ.ไม่เต็มใจช่วย ผมคิดว่า ผมกลับดีกว่าครับ” 



พอดีกว่าก่อนที่มันจะมีอะไรแปลกๆเกิดกับผมอีก 
ผมกำลังจะลุกขึ้น อ.ก็ดึงมือผมไว้ ผมก็ต้องนั่งลงที่โซฟาอีกครั้ง เมื่อไหร่จะหลุดจากตรงนี้นะ

“ชั้นจะเป็นที่ปรึกษาชมรมให้นาย ถ้านายรับปากชั้นอย่างนึง” 


“จริงรึครับอ. ให้ผมทำอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น ขอเพียงให้ช่วยให้ชมรมผมดีขึ้น”

เย้ๆๆ ผมรับปากไป สบตากับอ.ตรงๆ ผมรู้สึกว่าเค้าจ้องผมตอบเหมือนมีอะไร แต่ผมก็เผลอจับมืออ.เขย่าโดยที่ไม่ได้ฟังที่อ.จะบอกเลย จะอะไรก็ได้ขอแค่ให้เค้ามาเป็นที่ปรึกษาให้ ผมก็พอใจแล้ว...


“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป หลังเลิกชมรม นายจะต้องเอากล้วยมาให้ชั้นและอยู่ฝึกกับชั้นตามที่ชั้นสั่งทุกวัน ถ้าไม่รับปาก ชั้นก็ไม่เป็นที่ปรึกษาให้”


“เอากล้วยมาให้!!! แล้วฝึกอะไรครับอ. ผมนี่เก่งที่สุดในชมรมแล้วนะครับ” นี่ถ้ามาฝึกแบบนี้ทุกวัน ผมว่าต้องบ้าแน่ๆ


“เนี่ยะเหรอเก่ง ไม่ได้เรื่องเลยสิไม่ว่า คนอื่นชั้นจะสอนให้ แต่กับนาย ชั้นจะฝึกพิเศษให้ ถ้าไม่อยากทำก็ตามใจ งั้นก็แค่นี้แหละ ไปได้”


อะไรกัน ขอแบบนี้เนี่ยะนะ แล้วผมควรรับปากมั้ย ถ้าไม่รับปาก ผมต้องโดนพวกแก๊งค์โฉดด่าแน่ๆ


“ก็ได้ครับ” ผมจึงรับปากไป ผมเห็นอ.เหว่ยถิงยิ้มที่มุมปากทีนึง ก่อนจะทำหน้าโหดอีกรอบแล้วเอื้อมมือมาติดกระดุมกลับให้ทีละเม็ด พร้อมประโยคสุดท้าย

“หลี่อี้เฟิง นายจำไว้ ถ้าอยากเก่งขึ้นต้องเชื่อฟังชั้น” 

หลังจากนั้นผมจึงกลับออกจากห้องพักอ.ไป พร้อมด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่บอกไม่ถูก ผมเอามือลูบริมฝีปากตัวเอง 

...แบบนี้เค้าเรียกว่าจูบกันมั้ยนะ ผมรีบส่ายหัว นี่จะบ้าใหญ่แล้วหลี่อี้เฟิง!!!
แล้วทำไมผมรู้สึกว่าคำพูดอ.มันลอยอยู่ในหัวผมเต็มไปหมด แต่ช่างเถอะ ไงก็ตามภารกิจขอร้องเค้าก็สำเร็จ ต้องรีบไปบอกที่ชมรมแล้ว...




..............................โปรดติดตามตอนต่อไป..........................................