วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วุ่นนัก...ที่รักผมเป็นหมอ(ฟัน) บทส่งท้าย Final treatment...

เฉินเหว่ยถิง = หมอเฉินเหว่ยถิง เป็นหมอฟัน เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ชื่อ “ถิงหยาฉือ”
                    อุปนิสัย-เงียบ สงบ เย็น ภูมิฐาน เป็นงานเป็นการ ความรู้แน่น  แต่บางทีก็สามารถขี้เล่นขึ้นมาได้
หลี่อี้เฟิง = ดาราดาวรุ่งสุดฮอตแห่งวงการ ถ่ายละครและหนัง คิวแน่นไม่หยุดหย่อน 
                   อุปนิสัย-ร่าเริง กินเก่ง ชอบกินขนม ของหวาน ลูกอม เค้ก ไอติม แต่กลัวเลือดมากที่สุด




บทส่งท้าย...Final treatment 

         ผมยังคงอยู่บนโซฟาในคอนโดหรูด้วยร่างกายที่ไม่มีเสื้อผ้าเลยซักชิ้นเดียว คนตัวใหญ่ข้างๆ กอดผมไว้ในอ้อมกอด ราวกับว่ากลัวผมจะหนีไป ผมขยับตัวกำลังจะต้องลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เค้ายิ่งกอดผมไว้แน่นขึ้น...

"หมอ ผมต้องไปแล้ว ปล่อยก่อนนะ" ผมหันไปมองหน้าพร้อมกับแกะแขนเค้าออกจากตัว

"ก็ไปสิ ใครไปห้ามคุณไว้ล่ะ คุณดาราดัง" นั่นแหละ คำตอบที่ผมได้รับ...นี่มันประชดกันชัดๆ

"หมอถิง เราคุยกันแล้วนี่นา นี่มันคืองานของผม ไม่ว่าผมจะไปไหน สุดท้ายผมจะกลับมาหาคุณที่นี่ โอเคมั้ย!!!" ผมพยายามคุยกับเค้าด้วยเหตุผล ชักจะไม่รู้เรื่องแระนะเนี่ยะ...

เค้าคลายมือออก แล้วลุกขึ้นมาจ้องหน้าผม...

"งั้นผมให้คีการ์ดกับกุญแจคุณไว้นะ คุณจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ที่นี่ผมยกให้คุณ"

"เอ้ย!!! หมอจะมายกให้ผมทำไม คอนโดผมก็มี เงินก็มี คุณไม่ได้รวยคนเดียวนะ" ผมแย้งออกไป

"ก็ผมอยากให้เรามีบ้านของเรานี่นา โอเคนะ คุณนายเฉิน" แล้วเค้าก็ก้มลงมาจูบที่ปากผมอีกครั้ง ผมก็อดไม่ได้ที่จะจูบตอบไป อืมมมม...การเป็นคุณนายเฉินนี่มันดีจริงๆนะ รึยังไง???

"งั้นเอาเป็นว่าผมไปได้รึยัง เดี๋ยวก็ตกเครื่องกันพอดี" ผมเอ่ยปากถาม หลังจากเค้าดูพอใจกับจูบของผมแล้ว

"ก็ได้ แต่ผมขอบอกก่อนนะว่าห้ามนอกใจผม ต้องคิดถึงผมตลอด คุณยิ่งดึงดูดคนประหลาดๆอยู่ ดูอย่างผมสิ โดนคุณดูดติดหนึบเลย โทรหาผมด้วย ไม่งั้นล่ะก็ ผมจะไปจัดการกับคุณ"

"ครับ คุณหมอ!!!!" ผมรีบรับปากเค้าไปอย่างเต็มใจ แล้วผลักมือเค้าออกแต่เค้าก็ยังไม่เห็นจะยอมให้ผมไปไหน

"หมอ...อึบบบบ ปล่อยสิ ก็ผมรับปากแล้วไง??? หมออ่ะ....อย่าแกล้งผมสิ"

"ผมขอบอกอีกอย่าง จริงจังมากๆ คุณฟังนะ ผม...หมอเฉินเหว่ยถิง ไม่เคยคิดว่าจะจริงจังกับใครขนาดนี้ แต่เมื่อผมมีคุณ ผมอยากให้คุณเชื่อใจ ยอมรับและคบกับผม...คุณเป็นของผมแล้ว ผมจะดูแลคุณ ที่จริงคุณไม่ต้องทำงานอะไรเลยยังได้ แต่ในเมื่อคุณรักอาชีพนี้ ผมก็พร้อมจะช่วยเหลือและสนับสนุนคุณ คุณเข้าใจที่ผมพูดมั้ย??"

ผมอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าเค้าจะมาพูดอะไรจริงจังตอนนี้ แต่ผมก็เชื่อใจและเชื่อทุกอย่างที่เค้าพูดอยู่แล้ว ผมเลยตอบเค้าไป...

"หมอ....คุณ...คุณแน่ใจนะ"

"อี้เฟิง ทำไมคุณถามแบบนี้อีกแล้วนะ นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว จนป่านนี้แล้ว หรือว่าคุณไม่อยากอยู่กับผม"

หมอถิงดูจะไม่พอใจกับคำพูดผมสักเท่าไหร่ เค้าจึงลุกขึ้นนั่งหันหลังให้ ผมโดนคนตัวใหญ่งอนครับ...

"อ่ะ!!! ผมให้คุณไปแล้ว คุณอยากไปก็เชิญ"

ผมเลยต้องเอามือไปกอดเค้าจากด้านหลัง ก่อนจะเอาแก้มพิงพร้อมค่อยๆถูไปที่แผ่นหลังกว้างของเค้าและพูดขึ้น

"ไม่ใช่แบบนั้นนะ ผมแค่ถามเพื่อความแน่ใจอีกที ว่าคุณไม่คิดกับผมเล่นๆแน่ๆ ก็เป็นแฟนกับดาราต้องอดทนนะ เรื่องของเราก็เปิดเผยไม่ได้ ไปไหนก็ต้องหลบๆซ่อนๆ ไม่ให้ใครเห็น ยิ่งเป็นความรักแบบนี้ คุณยิ่งต้องอดทนมาก ถ้าคุณแน่ใจ ผมก็พร้อมที่จะอยู่กับคุณเสมอ ช่วยไม่ได้ก็ผมเต็มใจเป็นของคุณแล้วจริงๆ" พูดเสร็จผมก็เขิน เอาหน้าซุกที่หลังเค้า จนเค้ายอมหันมายิ้ม...

"งั้นคุณไปเมืองไทยกลับมา เราย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันนะ ผมจะจัดการทุกอย่างไว้รอ โอเคนะ นะๆๆๆ"

ผมพยักหน้าตอบ แล้วจูบเค้าไปอีกทีเพื่อยืนยัน...

"โหหหห อี้เฟิง คุณจะทำให้ผมคลั่งนะ ถ้าไม่รีบไปตอนนี้ ผมไม่รับรองว่าคุณจะตกเครื่องหรือเปล่า" หมอถิงหายงอนพร้อมกับเอามือโอบกอดผมไว้

ผมหัวเราะ พร้อมกับลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัว เค้าพยายามจะไปส่งผมที่สนามบินให้ได้ แต่ผมคิดว่าเพื่อลดปัญหา ผมไปเองดีกว่า เรื่องอื่นๆหลังจากนี้ ค่อยๆแก้ไปก็แล้วกัน...


เมื่อผมถึงเมืองไทย ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาที่นี่ ครั้งนี้ก็ครั้งที่ 3 แล้วนะ ที่ได้มา ประเทศนี้ของกินอร่อยครับ
 ผมชอบ มาทีไรน้ำหนักต้องขึ้นทุกครั้ง เพราะผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องกิน กินและกิน ตามนิสัยชอบกินของผม...ดีนะ ที่หมอไม่ได้ตามมาด้วย ไม่งั้นผมต้องโดนบ่นแน่ๆ 



และแล้วผมก็มาถึงชะอำครับ ผมพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง มองออกไปก็เห็นทะเล ที่พักก็แบ่งเป็นสองชั้นแบบปูนเปลือย ไม่ได้ทาสีอะไร ห้องพักใหญ่มาก เตียงก็ใหญ่นอนสบาย 

จากนั้นเจ๊เฉินโทรขึ้นมาตามให้ลงไปคุยกับทีมงานเพื่อเตรียมงานรายการที่ผมวางแผนไว้ พร้อมกันนั้นเจ๊เฉินก็บอกผมแล้วว่า ผมได้งานโฆษณาที่มาถ่ายที่นี่ด้วย...



ผมอยู่ที่นี่เป็นวันที่สามแล้ว พอตกเย็น หลังจากทานอาหารเย็นพร้อมๆทีมงานเสร็จ ผมเลยมาเดินเล่นชายหาด คิดไรไปเรื่อยเปื่อย มาที่นี่ก็ดีนะ ไม่มีค่อยมีใครรู้จักมากนัก ผมอยากเดินไปไหนก็ได้ตามสบาย ถึงผมจะชอบเป็นเป้าสายตา แต่บางทีก็เหนื่อยอยากอยู่แบบส่วนตัวพักผ่อนกะเค้าบ้าง 

นั่งริมหาดแบบนี้อดคิดถึงเค้าไม่ได้ อยากให้เค้ามานั่งริมหาดอยู่ด้วยกัน...วันนี้ทั้งวันเค้ายังไม่รับโทรศัพท์ผมเลย สงสัยจะทำคนไข้ยุ่งอยู่ แต่ผมก็ส่งข้อความกับเฟสไทม์หาตลอดเลยนะ คงต้องปล่อยให้เค้าทำงานบ้าง

ผมนั่งได้สักพักจึงเดินกลับเข้าห้องไป วันนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เจ๊เฉินบอกให้ผมรีบเข้านอน เพราะเราก็จะกลับกันแล้วพรุ่งนี้ ต่อจากนี้ไปชีวิตผมจะย้ายไปอยู่กับหมอถิงที่คอนโดของเค้า ผมคงมีความสุข แต่ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรอีกบ้างนี่สิ...พอประตูปิด ผมก็เสียบการ์ดลงในช่องด้านข้างเพื่อให้ไฟและแอร์ทำงาน...


ทันใดนั้นก็มีมือใหญ่โอบเอวผมมาจากด้านหลัง แล้วเอาหน้ามาซุกที่ซอกคอผม...
“คิดถึงจังเลย คุณล่ะคิดถึงผมมั้ย!!!”

เสียงนี้...นี่มัน...


“หมอถิง คุณมาได้ยังไง ก็ไหนว่าวันนี้ต้องทำคนไข้แล้วไงล่ะ หมออ่ะ...หลอกผมเหรอ แล้วเข้ามาในห้องผมนี่นะ ได้ยังไงกัน...คนที่มีการ์ดอีกใบ...ก็...”

“ตกลงคุณคิดถึงผมมั้ยเนี่ยะ ไม่เห็นตอบ สงสัยจะไม่คิดถึงเท่าที่ผมคิดถึงแน่ๆ งั้นผมขอยาแก้คิดถึงก่อนนะ”

เค้าเอาริมฝีปากซุกไซร์ไปตามลำคอและแก้มของผม...มันเป็นสัมผัสที่ผมก็คิดถึง ผมจึงปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติตามที่หัวใจของผมและคนด้านหลังนี้ต้องการ

เค้าอุ้มผมไปวางที่เตียงเบาๆ แล้วเริ่มจูบอย่างช้าๆ เค้าถอนปากออกแล้วพูดกับผม...

“ตกลงคิดถึงผมมั้ย หรือว่าทำงานจนเพลิน ลืมที่ผมบอกแล้วเหรอครับ”

ผมยิ้มไม่ตอบอะไร แค่เค้ามาหาผมถึงที่นี่ ผมก็ไม่อยากจะคิดอะไรตอนนี้ แต่แล้วก็นึกขึ้นมาได้...

“เอ๊ะ!!!อย่าบอกนะ...ว่าเจ๊เฉินร่วมมือกับคุณ” เพราะอีกคนที่มีการ์ดห้องผมคือเจ๊เฉิน และถ้าไม่ใช่เจ๊เฉิน เค้าจะตามผมมาถึงนี่ได้ยังไง...

“เอาเป็นว่า คุณดารา ผมกลายเป็นผู้กุมชีวิตทั้งในวงการและนอกวงการของคุณแล้วนะ คุณหนีผมไปไหนไม่รอดหรอกครับ” ยิ่งคิดผมยิ่งไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่น่าเชื่อว่าเจ๊เฉินจะยอมบอกหมอถิงได้


“ผมไม่หนีหมอไปไหนหรอก หมอรู้มั้ย ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ผมคิดถึงคุณตลอดนะคราวนี้จะบอกได้รึยัง ว่าคุณทำได้ยังไง”

หมอไม่ตอบอะไร แต่หันมาถอดเสื้อผ้าของเค้าและผมออก ระหว่างที่เค้ากำลังจะก้มลงมาจูบผมอีกรอบ...ผมเอาสองมือปิดปากเค้า

“หมออ่ะ บอกก่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้จูบด้วย” ผมอยากรู้เลยลองต่อรองออกไป

“คุณไม่มีทางหนีพ้นหรอก บอกแล้วว่าตั้งแต่วันที่คุณก้าวเข้ามาในคลินิกและอ่อยผมวันนั้น คุณก็ไปไหนไม่รอดแล้ว 555” 

ผมยิ่งงงกับคำพูดของเค้า พยายามจะเบือนหน้าหนีไม่ยอมให้เค้ามาจูบจริงๆ แต่ไม่สำเร็จเพราะเค้าก็เอามือมาบังคับให้ผมรับจูบเค้าจนได้ และสุดท้ายผมก็หนีไม่รอดจริงๆครับ เราสองคนปล่อยความคิดถึงให้พาไปจนถึงความสุขที่ต้องการ นี่แค่ไม่กี่วันที่จากกัน ทั้งเค้าและผมคิดถึงกันมากมายขนาดนี้เลยเหรอ จนสุดท้าย ผมก็นอนหลับคาอยู่ที่อกเค้า...

หมอถิงกำลังห่มผ้าให้ผมและมอง ผมจึงลืมตาขึ้นไปมองหน้าเค้า ใบหน้าและดวงตานี้เหมือนสะกดผมตั้งแต่วันแรกที่เจอจริงๆ ผมจึงยื่นหน้าขึ้นไปจูบแก้มเค้าแล้วนอนลงเหมือนเดิม...อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้อีกแล้ว


สักพักก็มีเสียงข้อความเข้าที่โทรศัพท์ผม ผมจึงหันไปหยิบขึ้นมาอ่านดู...

“อี้เฟิง...เจ๊ต้องบินกลับไปก่อนนะ ไฟลท์เราหมอถิง เอ้ย!!!ท่านประธานถิง เค้าเปลี่ยนให้ใหม่แล้ว จะได้พักที่นี่เพิ่มอีกวันนึง ก็ต้องขอบคุณท่านนะ เรื่องอื่นถามท่านเอาเองแล้วกัน” 
เจ๊เฉิน...


พออ่านจบผมเงยหน้ามองเค้า...เห็นเค้านอนหลับตายิ้มอยู่

“นี่มันอะไรครับหมอ...ประธานถิง???” เค้าไม่ตอบเอาแต่หลับตายิ้มต่อไปแล้วพูด

“ต่อไปนี้ผมจะมาดูแลคุณทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวครับ เข้าใจมั้ย ผมซื้อตัวคุณ เอ้ย!!! ไม่ใช่สิ ผมซื้อบริษัทคุณไว้และตกลงรับผิดชอบดูแลในส่วนของคุณแล้ว ดังนั้น เรื่องถ่ายหนังนั่น ไม่ต้องไปสนใจ ต่อไปนี้งานที่คุณจะรับ ผมก็จะรับรู้ด้วย แต่ผมไม่เข้าไปยุ่งหรอกนะ เพราะผมเป็นหมอฟัน ไม่ใช่ดารา ผมแค่อยากให้คุณทำงานอย่างสบายใจ ผมบอกแล้วไง ผมดูแลคุณนายของผมได้ ฮึฮึ”


ผม...ผมอธิบายไม่ถูกเลยครับ ว่านี่มัน...ดีแค่ไหน 
ไม่สิ...เป็นไปได้ยังไง แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงตอนนี้ผมก็อยู่ในอ้อมกอดของหมอฟันคนนี้...ที่ตอนนี้พ่วงตำแหน่งเจ้าของบริษัทและตัวผมด้วย...จะวุ่นแค่ไหนกันนะ ช่วยไม่ได้ก็ที่รักผมเป็นหมอ(ฟัน)คนนี้นี่นา

ผมยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูเค้า... “ผมรักคุณนะ...คุณหมอของผม”...


.........................................จบค่า........................................................







3 ความคิดเห็น:

  1. ท่านประธาน(เทพบุตรมาโปรด.....อร๊ายยยย) 5555

    ตอบลบ
  2. มีคนมากรีดร้องกะท่านประธานถิง 555

    ตอบลบ