บทที่ 4 Je t'aime เฌอ แตม ผมรักคุณ
ตอนนี้เป็นช่วงบ่ายวันที่ 4 ของการรับงานไกด์ส่วนตัวของผม "หลี่อี้เฟิง" ที่คราวนี้รับงานพาเที่ยวกรุงปารีสให้นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐี "เฉินเหว่ยถิง"
เขาคนนี้กำลังนั่งมองผมขอพรอยู่ในโบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม@@@ ครับเราอยู่กันในโบสถ์ ที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงปารีส...โบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม
ผมนับถือพระแม่มารีย์และคริสต์แบบคาโทลิก ผมจะพยายามมาที่นี่ทุกวันอาทิตย์ถ้าไม่ติดอะไร นี่คือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจผมยามไกลบ้านแบบนี้...
แต่ตอนนี้ผมอยากขอพรให้ตัวเองและคนที่จ้องผมอยู่ ขอให้เรื่องราวต่างๆ ทั้งหมดที่ผ่านมา มันไม่ใช่ความฝัน และขอให้คนข้างๆผมนี้ กลับมาหาผมอีก...และอยู่ด้วยกันตลอดไป
เมื่อเราเดินออกมาจากโบสถ์ ก็เดินมาตามสวนสาธารณะริมน้ำเรื่อยๆ เพื่อไปลงเรือที่พี่ถิงได้เช่าเหมาลำเอาไว้
พอเดินมาได้สักพัก พี่ถิงถามผมว่า
"เฟิงเฟิง ขอพรว่าอะไรหน่ะ บอกพี่ได้มั้ย???"
"ก็ขอให้พระเจ้าคุ้มครองพวกเรา โดยเฉพาะพี่ ผมอยากให้พี่มีความสุข"
พี่ถิงเอามือใหญ่มาจับมือผม แล้วค่อยๆจูงไป
"นี่พี่คิดถูกแล้วสินะ ที่กล้าพนันกับเฟิงเฟิงเมื่อคืนนี้!!!" แค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน ผมก็ร้อนหน้าขึ้นมาเลย
ทำไมหน่ะเหรอ ก็เมื่อคืนนี้ไม่รู้ผมทำไมถึงกล้าพูดและทำแบบนั้นไปได้นะ..OMG###
พี่ถิงหยุดและหันหลังกลับมามอง
"เฟิงเฟิง ถ้าเมื่อคืนนี้ พี่ไม่...เอ่อ...เลือกทำแบบนั้น เฟิงเฟิงจะกล้ารักพี่มั้ย"
นั่นสินะ ผมก็ไม่รู้!!! เมื่อคืนนี้คนตรงหน้าคนนี้ เขาคือรุ่นพี่ คือจูบแรก และเค้าคนนี้กำลังจะทำให้ผมอยากยอมเค้าทั้งตัวและหัวใจ แต่บางทีผมก็ยังไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่...
ตอนนี้เขากำลังโมโหและผมก็มาง้อเค้า จนในที่สุดผมกลับถูกเค้าดันชิดกำแพง แล้วจูบอย่างบ้าคลั่ง...
แต่แล้วยังไง ผมก็ยังกล้าถามเค้า>>>
"พี่ถิง...พี่ต้องการผมจริงๆเหรอครับ"
"ถ้าพี่บอกเฟิงเฟิงว่าใช่!!! พี่ต้องการ เฟิงเฟิงจะให้พี่ทำยังไง" พี่ถิงถามผมด้วยสายตาที่อ่อนลงกว่าตอนแรกมาก
"งั้นพี่ฟังผมนะ เราสองคนเริ่มจากเกมส์ Truth or Dare งั้น วันนี้ ผมจะถามพี่ว่า พี่จะเลือก Truth หรือว่า Dare พี่จำกติกาได้ใช่มั้ย"
"ถ้าเลือกแล้วยังไง ไม่มีใครมาสั่งให้เราทำได้ซะหน่อย" พี่ถิงเถียงผมกลับ...
"ก็พี่เลือกมา ผมนี่แหละจะเป็นคนบอกเองว่าให้พี่ทำอะไร ถ้าเลือก Truth คือพูดสิ่งที่ผมถาม ส่วน Dare พี่ก็ต้องทำแบบที่ผมอยากให้ทำ ตกลงมั้ย" ผมยื่นข้อเสนอไปด้วยความอยากรู้
"ได้!!! งั้นพี่ก็เลือก Dare สิ ทีตอนนั้นเฟิงเฟิงยังเลือก dare เลย แล้วยังไง จะให้พี่ทำอะไร???"
มาถึงตอนนี้ เค้ายังงงว่าผมจะให้ทำอะไร แต่ก็ยังจับมือผมเอาไว้แน่น
"ถ้าพี่ต้องการผม แสดงให้ผมเห็นได้มั้ย ว่าผมจะต้องรักพี่!!!" ผมพูดออกไปแล้ว โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำได้มั้ย...
"เฟิงเฟิง แน่ใจเหรอ!!!" พี่ถิงถามพร้อมเอาหน้ามาใกล้มากขึ้นอีก
"ก็ถ้าพี่เลือกที่จะทำ ผมอยากให้พี่ทำให้ผมรักครับ" หลังจบประโยคนั้น พี่ถิงเหมือนมีอะไรมากระตุ้นอย่างแรง
เค้ายกขาผมขึ้น แล้วเอาพาดไว้ที่เอวทั้งสองข้าง พร้อมดันตัวเข้ามาอีก...
ตอนนี้ผมปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก ส่วนพี่ถิงเอามือลงไปปลดส่วนกางเกงผมออก พร้อมเอามือลงไป
สัมผัสส่วนนั้นของผมอย่างช้าๆและเป็นจังหวะ จนผมรู้สึกเสียวซ่านไปหมด...
ถึงตรงนี้ ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้วเหมือนกัน ผมเอามือโอบคอเค้าไว้ แล้วโน้มลงมาจูบพรมไปทั่ว
จนพี่ถิงพูดออกมาว่า "เฟิงเฟิง พี่จะทำให้นายกล้าที่จะรักพี่!!!"
หลังจากนั้นพี่ถิงก็อุ้มผมมานอนที่เตียง แล้วถอดกางเกงผมออก ตอนนี้ร่างกายผมหมดจากพันธนาการทุกอย่าง
ในตัวพี่ถิงมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เค้าจึงสะบัดทิ้งไปอย่างง่ายดาย...
ตอนนี้เราทั้งคู่เหมือนพร้อมที่จะตอบรับกันในทุกท่วงท่า ทั้งกอด จูบ และล่วงล้ำเข้าไปในกันและกัน
ทุกจังหวะมันหวานและเร่าร้อนมาก จนผมร้องออกไป...
"อือออ...พี่ถิง ผมรักพี่ได้ใช่มั้ย???"
"เฟิงเฟิง เชื่อพี่นะ พี่ต้องการเฟิงเฟิงจริงๆ"
พี่ถิงพูดและทำให้ผมเห็นว่าเค้าต้องการผมมากแค่ไหน คืนนั้นทั้งคืน ผมแทบไม่ได้หายใจทั่วท้องเลย...
พี่ถิงเก่งมากที่ทำให้ผมทั้งเจ็บปวดแต่ก็มีความสุขไปพร้อมๆกัน...
จนผมเหนื่อยและหลับไป...
เมื่อผมค่อยๆลืมตาขึ้น ในร่างเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่ม ผมเห็นคนตรงหน้ายิ้ม
"เฟิงเฟิง เฟิงเฟิงที่น่ารัก พร้อมที่จะรักพี่แล้วใช่มั้ย???"
ผมยิ้มตอบแต่ไม่พูดอะไรและหลับต่อไป จนกระทั่งสายมาก...
ก็มีปากเย็นๆมาจูบที่แก้มผม พร้อมกับเสียงกระซิบข้างหู
"ตื่นได้แล้วครับคุณไกด์ ผมอยากไปล่องแม่น้ำแซนตอนบ่ายนี้"
ผมจึงดันตัวเองลุกขึ้น พร้อมกับบอกว่า
"พี่ถิง...ผม...งั้นผมไปอาบน้ำนะ แล้วเราไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารจีนกันก่อน"
"แหมๆ ตื่นมาก็หิวเลยนะครับ คุณไกด์ตาโต นี่ เฟิงเฟิง...อย่าทำหน้าตอนตื่นนอนน่ารักแบบนี้ได้มั้ย
เดี๋ยวพี่จะต้องการจนทนไม่ไหวอีก คราวนี้ไม่รอให้ท้าด้วย จะจัดการเองเลยนะ 55555"
ผมหันไปแลบลิ้นใส่เค้าอีกรอบ พร้อมกับวิ่งกลับมาที่ห้องตัวเอง
ตอนอาบน้ำอยู่ผมเริ่มคิด เค้าต้องการผม ตกลงเค้ารักผมมั้ยนะ!!!
แต่ตอนนี้ผมรักเค้าไปแล้ว ผมแน่ใจ...ไม่เป็นไร แค่เค้าดีกับผม ยังไงผมจะถามเค้ากลับบ้าง!!!
#####พอกลับมาคิดถึงคำถามที่พี่ถิงกำลังถามผมที่เรากำลังจะไปลงเรือกัน
"เฟิงเฟิง ถ้าเมื่อคืนนี้ พี่ไม่...เอ่อ...เลือกทำแบบนั้น เฟิงเฟิงจะกล้ารักพี่มั้ย"
"ผมก็ไม่รู้ ผมไม่แน่ใจอะไรเลยว่าพี่คิดยังไง พี่ต้องการผมเพราะอะไร ตกลงพี่รักผมมั้ย"
"อ้าว นี่พี่ถามเฟิงเฟิงก่อนนะ ไม่ใช่ให้เฟิงเฟิงมาถามพี่"
"เรือมาแล้วครับ เราไปลงเรือกันเถอะ" ผมยังไม่ตอบอะไร จนกว่าเค้าจะตอบผมบ้าง...
ตอนนี้เราสองคนอยู่ในเรือที่เหมาลำ เป็นเรือนำเที่ยวที่เป็นกระจกใสด้านบน โดยปกติคนอื่นที่ผมเคยพามา เค้าก็จะไปกับทัวร์อื่นๆ คนเต็มเรือครับ...
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ล่องแม่น้ำแซนแบบลำพังมีแค่เราสองคน กับคนขับเรือที่อยู่ส่วนนอกห้องชมวิวนี้
"ผมก็ไม่รู้ ผมไม่แน่ใจอะไรเลยว่าพี่คิดยังไง พี่ต้องการผมเพราะอะไร ตกลงพี่รักผมมั้ย"
"อ้าว นี่พี่ถามเฟิงเฟิงก่อนนะ ไม่ใช่ให้เฟิงเฟิงมาถามพี่"
"เรือมาแล้วครับ เราไปลงเรือกันเถอะ" ผมยังไม่ตอบอะไร จนกว่าเค้าจะตอบผมบ้าง...
ตอนนี้เราสองคนอยู่ในเรือที่เหมาลำ เป็นเรือนำเที่ยวที่เป็นกระจกใสด้านบน โดยปกติคนอื่นที่ผมเคยพามา เค้าก็จะไปกับทัวร์อื่นๆ คนเต็มเรือครับ...
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ล่องแม่น้ำแซนแบบลำพังมีแค่เราสองคน กับคนขับเรือที่อยู่ส่วนนอกห้องชมวิวนี้
แม่น้ำแซนเป็นแม่น้ำสายสำคัญของกรุงปารีส และถือเป็นแม่น้ำที่โรแมนติคที่สุด
เป็นฉากในหนังหลายเรื่องเลยล่ะ...
ตอนนี้คนตัวใหญ่ที่เอาแต่ใจและดูเหมือนจะมีความเศร้าอยู่ในใจอย่างมาก กอดผมเอาไว้อย่างหลวมๆโดยที่เราสองคนนั่งกลางเรือ เงยหน้ามองวิวต่างๆผ่านกระจกใสด้านบน...
วันนี้ผมอยากให้เค้ามีความสุขที่สุด แล้วเค้าก็อ้อนผมมาตั้งแต่สายๆแล้วว่าอยากมาล่องเรือแบบสบายๆ พร้อมดูพระอาทิตย์ตก ริมแม่น้ำแซนแห่งนี้ ผมก็ขัดเค้าไม่ได้หรอก...
เรือนำเที่ยวที่ปกติก็แล่นไปเร็วพอสมควร แต่วันนี้เรือเหมาลำนี้ กลับแล่นช้ามาก ตามคำสั่งว่าให้ค่อยๆไป ตอนนี้เราเห็นหอไอเฟลอีกจากมุมนี้ พร้อมแสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับฟ้า...
"เฟิงเฟิง พี่อยากอยู่แบบนี้ตลอดไป นั่นไง หอไอเฟล พี่ยังจำได้ว่าเราขึ้นไปถึงข้างบนยังไง
แล้วพี่สนุกแค่ไหน" เขาโอบกระชับไหล่ผมเข้าไปอีก ทำให้ตอนนี้ผมแทบจะซุกอยู่ในอกเค้าแล้ว
"เมื่อไหร่พี่อยากมา พี่ก็มาสิ ไม่มีใครห้ามซะหน่อย"
"เฟิงเฟิงนี่ เราจะพูดหวานๆกับพี่บ้างไม่ได้เลยรึไงนะ อะไรๆ ก็ต้องขวางพี่ตลอด ทีเมื่อคืนล่ะก็....ฮึๆ"
เป็นฉากในหนังหลายเรื่องเลยล่ะ...
ตอนนี้คนตัวใหญ่ที่เอาแต่ใจและดูเหมือนจะมีความเศร้าอยู่ในใจอย่างมาก กอดผมเอาไว้อย่างหลวมๆโดยที่เราสองคนนั่งกลางเรือ เงยหน้ามองวิวต่างๆผ่านกระจกใสด้านบน...
วันนี้ผมอยากให้เค้ามีความสุขที่สุด แล้วเค้าก็อ้อนผมมาตั้งแต่สายๆแล้วว่าอยากมาล่องเรือแบบสบายๆ พร้อมดูพระอาทิตย์ตก ริมแม่น้ำแซนแห่งนี้ ผมก็ขัดเค้าไม่ได้หรอก...
เรือนำเที่ยวที่ปกติก็แล่นไปเร็วพอสมควร แต่วันนี้เรือเหมาลำนี้ กลับแล่นช้ามาก ตามคำสั่งว่าให้ค่อยๆไป ตอนนี้เราเห็นหอไอเฟลอีกจากมุมนี้ พร้อมแสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับฟ้า...
"เฟิงเฟิง พี่อยากอยู่แบบนี้ตลอดไป นั่นไง หอไอเฟล พี่ยังจำได้ว่าเราขึ้นไปถึงข้างบนยังไง
แล้วพี่สนุกแค่ไหน" เขาโอบกระชับไหล่ผมเข้าไปอีก ทำให้ตอนนี้ผมแทบจะซุกอยู่ในอกเค้าแล้ว
"เมื่อไหร่พี่อยากมา พี่ก็มาสิ ไม่มีใครห้ามซะหน่อย"
"เฟิงเฟิงนี่ เราจะพูดหวานๆกับพี่บ้างไม่ได้เลยรึไงนะ อะไรๆ ก็ต้องขวางพี่ตลอด ทีเมื่อคืนล่ะก็....ฮึๆ"
ผมรีบเอามือปิดปากเค้า ก่อนที่จะพูดอะไรออกมาทำให้ผมเขินมากกว่านี้
"ดูวิวดีกว่านะ พี่ถิงชอบล้อผมอยู่เรื่อย เดี๋ยวอีกหน่อย พี่ไม่อยู่ ผมคงเหงาแย่"
"เฟิงเฟิง อย่าพูดแบบนั้นสิ พี่บอกแล้วไง ว่าพี่จะกลับมาหา ตอนนี้เรามีเวลาอยู่ด้วยกันอีก 3 วันเองนะ
เอาใจพี่หน่อยไม่ได้รึไง อยากได้อะไรเดี๋ยวพี่ซื้อให้อีก พี่จะได้เก็บค่าของด้วย 5555"
พี่ถิงนี่ติดนิสัย เอาเงินซื้อทุกอย่างจริงๆนะ เค้าคิดว่าผมอยากได้ของหรือยังไงกัน ถ้าผมไม่คิดถึงเค้าอีก
ก็ดีหน่ะสิ เพราะอีกไม่นาน เค้าก็จะจากผมไป จริงๆนะครับ กฎเหล็กอีกข้อของคนเป็นไกด์คือ อย่าผูกพันธ์กับลูกทัวร์มากเกินไป แต่นี่มันไม่ใช่!!! นี่มันไปไกลมากแล้วจริงๆ...
ตอนนี้เรายังอยู่ในเรือ ที่กำลังแล่นผ่านเทพีเสรีภาพ ผมเลยบอกพี่ถิง
"พี่ถิง...นี่คือเทพีเสรีภาพ หลายคนอาจไม่รู้นะ เทพีเสรีภาพที่อยู่ที่อเมริกาหน่ะ ฝรั่งเศสเป็นคนมอบให้นะ"
พี่ถิงหันมาจ้องหน้าผม..........
"พี่ถิง พี่ฟังที่ผมพูดมั้ย"
"เฟิงเฟิง พี่รักเฟิงเฟิงนะ"
"พี่ถิง!!! นี่ตกลงพี่จะไม่ฟังที่ผมเล่าใช่มั้ย เอ๊ะ!!! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พี่พูดว่า???"
"พี่บอกไง ว่าพี่รักเฟิงเฟิง ตอนแรกมันคืออะไรพี่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตั้งแต่วันที่พี่จูบเราที่แวร์ซาย จนกระทั่งเมื่อคืน
พี่รู้ว่าคนที่พี่เคยอยากได้ตั้งแต่ตอนจูบในเกมส์ Truth or dare นั่น น้องคนที่กล้า บ้าบิ่นและก็น่ารักคน
นั้น กลับมาอยู่ตรงหน้าพี่แล้ว ความอยากได้ก็คือความรักในแบบของพี่ แค่ตอนนี้มันทำให้พี่มีความสุขมาก
"ดูวิวดีกว่านะ พี่ถิงชอบล้อผมอยู่เรื่อย เดี๋ยวอีกหน่อย พี่ไม่อยู่ ผมคงเหงาแย่"
"เฟิงเฟิง อย่าพูดแบบนั้นสิ พี่บอกแล้วไง ว่าพี่จะกลับมาหา ตอนนี้เรามีเวลาอยู่ด้วยกันอีก 3 วันเองนะ
เอาใจพี่หน่อยไม่ได้รึไง อยากได้อะไรเดี๋ยวพี่ซื้อให้อีก พี่จะได้เก็บค่าของด้วย 5555"
พี่ถิงนี่ติดนิสัย เอาเงินซื้อทุกอย่างจริงๆนะ เค้าคิดว่าผมอยากได้ของหรือยังไงกัน ถ้าผมไม่คิดถึงเค้าอีก
ก็ดีหน่ะสิ เพราะอีกไม่นาน เค้าก็จะจากผมไป จริงๆนะครับ กฎเหล็กอีกข้อของคนเป็นไกด์คือ อย่าผูกพันธ์กับลูกทัวร์มากเกินไป แต่นี่มันไม่ใช่!!! นี่มันไปไกลมากแล้วจริงๆ...
ตอนนี้เรายังอยู่ในเรือ ที่กำลังแล่นผ่านเทพีเสรีภาพ ผมเลยบอกพี่ถิง
"พี่ถิง...นี่คือเทพีเสรีภาพ หลายคนอาจไม่รู้นะ เทพีเสรีภาพที่อยู่ที่อเมริกาหน่ะ ฝรั่งเศสเป็นคนมอบให้นะ"
พี่ถิงหันมาจ้องหน้าผม..........
"พี่ถิง พี่ฟังที่ผมพูดมั้ย"
"เฟิงเฟิง พี่รักเฟิงเฟิงนะ"
"พี่ถิง!!! นี่ตกลงพี่จะไม่ฟังที่ผมเล่าใช่มั้ย เอ๊ะ!!! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พี่พูดว่า???"
"พี่บอกไง ว่าพี่รักเฟิงเฟิง ตอนแรกมันคืออะไรพี่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตั้งแต่วันที่พี่จูบเราที่แวร์ซาย จนกระทั่งเมื่อคืน
พี่รู้ว่าคนที่พี่เคยอยากได้ตั้งแต่ตอนจูบในเกมส์ Truth or dare นั่น น้องคนที่กล้า บ้าบิ่นและก็น่ารักคน
นั้น กลับมาอยู่ตรงหน้าพี่แล้ว ความอยากได้ก็คือความรักในแบบของพี่ แค่ตอนนี้มันทำให้พี่มีความสุขมาก
พี่บอกได้แค่ว่าพี่ก็คงรักเฟิงเฟิงแล้วจริงๆ"
ตอนนี้แสงไฟสองข้างแม่น้ำ ทั้งส่วนของโบสถ์และสถานที่ต่างๆได้เปิดไฟหมด ทำให้เห็นเป็นแสงระยิบระยับตัดกับผืนน้ำ ดูสวยงามมาก...
ผมมองไปตรงหน้า ขณะที่อยู่ในอ้อมกอดคนๆนี้ แล้วร้องเพลง
Tu ne sais pas me "je t'aime"
C'est mon doux thé orè me: "I love you"... Et toi.
Do you love me too?
... Je t'aime.
"อะไร เฟิงเฟิง ร้องเพลงอะไร เพราะจัง มันแปลว่าอะไรเหรอ???"
"เพราะเธอไม่รู้วิธีที่จะบอกกับฉันว่า "เฌอแตม"
ผมมองไปตรงหน้า ขณะที่อยู่ในอ้อมกอดคนๆนี้ แล้วร้องเพลง
Tu ne sais pas me "je t'aime"
C'est mon doux thé orè me: "I love you"... Et toi.
Do you love me too?
... Je t'aime.
"อะไร เฟิงเฟิง ร้องเพลงอะไร เพราะจัง มันแปลว่าอะไรเหรอ???"
"เพราะเธอไม่รู้วิธีที่จะบอกกับฉันว่า "เฌอแตม"
นี่คือทฤษฎีที่ไพเราะที่สุดของฉัน " I love you" ...แล้วเธอล่ะ
รักฉันเหมือนกันใช่มั้ย?"
พอผมพูดจบ พี่ถิงก้มลงมาจูบที่ปากผมอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล ภายใต้ท้องฟ้า ดวงดาวและแสงไฟกลางกรุงปารีส ในแม่น้ำแซนสายโรแมนติคแห่งนี้ พี่ถิงโอบกระชับสองแขนแน่นขึ้น พร้อมกระซิบที่หูผมว่า
"เฌอแตม แบบนี้ใช่มั้ยที่เฟิงเฟิงอยากได้ยิน"
ตอนนี้ทั้งร่างกายและหัวใจของผมอบอุ่นมาก อากาศภายนอกเริ่มเย็นขึ้น ผมชักจะเห็นด้วยกับพี่ถิงว่าอยากอยู่แบบนี้ตลอดไป...
เรือยังคงลอยไปสักพัก เสียงโทรศัพท์พี่ถิงก็ดังขึ้น...
ปล.เพื่อประกอบฉากสุดท้าย โปรดฟังเพลงนี้ตามไปด้วยค่ะ https://youtu.be/Z0AFJ-8K0gM
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น