วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558

รอรัก...ที่ปารีส บทที่ 6

PG-13 


บทที่ 6 โมนาลิซ่า Mona Lisa

                  .....ตอนนี้ผม หลี่อี้เฟิง ยังอยู่ในร่างเปลือยเปล่าในห้องน้ำ พร้อมกับพี่ถิง หรือเฉินเหว่ยถิง จูบแรก เจ้าของตัวและหัวใจของผมในตอนนี้ ผมมาเป็นไกด์ส่วนตัวให้เค้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอะไรๆ มันจะเกินเลยไปมากกว่าคำว่าไกด์ส่วนตัวแล้ว

พี่ถิงกำลังเอาผ้าเช็ดตัว เช็ดตัวให้ผม ที่กำลังยืนนิ่ง ไม่ยอมพูดจา 
เมื่อได้ยินเค้าพูดว่า “หลังจากเราไปพิพิธภัณฑ์ลูฟแล้ว พี่ต้องกลับพร้อมลุงโจนาธานเลยนะ” 
จะให้ผมพูดอะไร ผมก็รู้อยู่แล้วว่าอีกไม่กี่วัน ทริปนี้ก็ต้องจบ เราสองคนก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี 
แถมตอนนี้ก็มีเด็กร้ายกาจ หวังหยวนอะไรนั่น มาประกาศศึกกับผมอีก ผมควรทำยังไงดีนะ... 

“เฟิงเฟิง เป็นอะไรไป อย่าเงียบแบบนี้สิ มีอะไรก็บอกออกมา” ตอนนี้พี่ถิงหยุดเช็ดตัวผมแล้ว เค้ายืนจ้องหน้าผม


 ผมไม่อยากมองหน้าเค้าจึงหันหลังให้ ตอนนี้น้ำตาผมไหลออกมาไม่หยุด ผมร้องไห้ สะอื้นเลย หลายๆอย่างมันอัดอั้น มันอึดอัดอยู่ข้างใน…T T 



“เฟิงเฟิง ไม่เอาสิ อย่าร้องไห้แบบนี้ ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ เราไม่ใช่หยวนหยวนนะ” 

พี่ถิงโอบกอดผมจากด้านหลัง เราสองคนแนบชิดกัน ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน 

“ผม...ผม ผมก็เป็นคนขี้แยแบบนี้แหละ พี่ไม่ต้องสนใจผมหรอก” ผมยังอยากประชดต่อไป 

“แหน่ะ เราพูดแบบนี้จะให้พี่ไม่สนใจได้ยังไง จะให้พี่เชื่อเหรอ ถ้าพี่ไม่มีเฟิงเฟิง แล้วพี่จะไปเที่ยวกับใครล่ะ 
เรายังอยู่ด้วยกันได้อีกวันนะ” พี่ถิงโอบผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ 


"พี่ก็ไปกับน้องหยวนสิ น้องเค้าออกจะอยากอยู่กับพี่” ผมคงน้อยใจสินะ เลยประชดต่อไปไม่หยุด 
แต่ยิ่งพูดก็เหมือนพี่ถิงจะพอใจ ตอนนี้เค้ายังคงกอดผม พร้อมกับเริ่มเอาปากซุกไซร้ที่ใบหูผมจากด้านหลัง 

“พูดแบบนี้ ยังหึงอยู่ใช่มั้ยเนี่ยะ ดีจัง แบบนี้ก็แสดงว่าเฟิงเฟิงหวงพี่สินะ” 

ตอนนี้เหมือนร่างกายของผมและเค้าเริ่มจะมีปฏิกิริยาอีกครั้ง...

ผมรู้สึกได้ถึงส่วนล่างของพี่ถิงที่เริ่มสอดส่ายมาหาทางสอดรับกับร่างกายของผม 

“พี่ถิง นี่พี่รักผมจริงๆ หรือเปล่า ผมอยากรู้แค่นี้” 
“เฟิงเฟิง จะต้องให้พี่พูดอีกกี่ครั้งฮะ เฟิงเฟิง อ่า......ทำไม พี่ถึงต้องการเราไม่หยุดเลย พี่รักเฟิงเฟิงขนาดนี้ ยังไม่พออีกเหรอ” 

ตอนนี้ผมรู้สึกได้ถึงความต้องการของพี่ถิงจริงๆ เค้าดันผมเข้าหาตัวเค้าเป็นจังหวะที่เร็วและแรง 

ส่วนตัวผมตอนนี้เอามือลูบไล้แขนอันแข็งแรงนั้นไม่หยุดเพื่อตอบรับกับจังหวะทางด้านล่างที่เหมือนจะถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ พี่ถิงเริ่มดันผมให้เดินเข้าไปจนชิดกำแพง ผมเริ่มต้านทานไม่ไหวจนต้องเอามือยันที่กำแพง ตอนนี้เหมือนโลกหยุดหมุน ผมรู้สึกถึงพลังความต้องการที่ส่งเข้ามาอย่างมากมายและไม่หยุดเลยจริงๆ........ 

สักพักหนึ่งพอพี่ถิงเริ่มช้าและเบาลง เค้าเอาหน้ามาเกยที่ไหล่ผมไว้... 

“เฟิงเฟิง คืนนี้เป็นคืนสุดท้าย ก่อนที่พี่จะต้องกลับ พี่อยากบอกว่า พี่รักเราจริงๆ ไม่ใช่แค่ต้องการ อยากได้ แต่เป็นความรู้สึกที่พี่ไม่เคยเป็นกับใคร รู้ไหม” 


ผมเอ่ยตอบด้วยเสียงแหบพร่า เพราะเริ่มจะอ่อนแรง แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่กับเค้า 

“ผมก็รักพี่ ผมอยากให้พี่ต้องการผมแบบนี้ตลอดไป พี่กล้าสัญญาไหม ว่าจะกลับมาหาผมอีก” 
ผมยังคงไม่วายท้าทายเค้าด้วยคำพูดอีกแล้ว 

“นี่เรา กล้าท้าพี่อีกแล้วเหรอ ไม่ต้องท้าพี่ก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว สัญญาจริงๆ ว่าแต่สัญญาแล้วจะให้รางวัลอะไรตอบแทนมั้ยครับ เฟิงเฟิงคนกล้าของพี่” 

“พี่กล้าตอบแบบนี้ พี่มั่นใจนะ ถ้าพี่มั่นใจ ผมก็จะให้รางวัลกับพี่ถิง” 

“จริงๆนะ พี่ให้สัญญา ไม่ว่ายังไงพี่จะกลับมาหาเฟิงเฟิงแน่ๆ ไหน ขอดูรางวัลหน่อยสิ จะให้อะไรเหรอ? ถ้าถูกใจพี่จะรีบกลับมาเลยนะ” 

“แล้วพี่ก็ห้ามมีคนอื่นอีก พี่ต้องการคนอื่นอีกไม่ได้นะ ต้องมีผมคนเดียว ผมจะรอพี่อยู่ที่ปารีสนี่ เข้าใจมั้ย?” 

“เอาล่ะ!!! สัญญาด้วยเกียรติของพี่เลย พี่จะไม่มีใครอีก พอจัดการธุระเสร็จ ก็จะรีบกลับมาหาคนตรงหน้านี้ โอเคมั้ย ขอรางวัลด้วย น้าาาา เฟิงเฟิง” 

ตอนนี้ผม เริ่มหายใจได้เป็นปกติอีกครั้ง และคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่เราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้อีก ถึงคนตัวใหญ่นี่จะสัญญาแบบนี้ ก็ใช่ว่ามันจะเป็นไปได้เสมอไป 

ผมหันหน้ามาหาเค้า ตอนนี้เค้าเหงื่อออกท่วมตัว ยิ่งทำให้ร่างกายดูกำยำแข็งแรง สวยงามมากในสายตาผม 

ทั้งส่วนกล้ามหน้าอก กล้ามท้อง ทุกๆอย่างที่เป็นเค้า โดยเฉพาะส่วนล่างนั่น มันแทบจะทำให้ทุกคนสยบใต้เท้าเค้าเลยล่ะ...
ผมไล่มองให้ชัดทุกส่วน เพื่อจำภาพนี้เอาไว้ 

“ฮั่นแน่!!! เฟิงเฟิง ไหนล่ะรางวัล อย่ามาลวนลามพี่ด้วยสายตาแบบนี้นะ เดี๋ยวตาโตๆนี่จะหมดแรงมองนะ พี่จะบอกให้ ขอเตือนด้วยความหวังดี"

พี่ถิงก็ยังคงเป็นพี่ถิง ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง เค้าก็ยังคงทะเล้นเบาๆได้ตลอดเวลา ผมคงคิดถึงเค้ามาก ถ้าเค้าไม่กลับมาหาผมอีก ผมคง..........ทนไม่ไหว... 

ดังนั้นคืนนี้ ผมจะให้เค้ามีความสุขที่สุด จะตอบแทนทุกๆอย่าง ความสุขในหลายๆวันที่เรามีด้วยกันมา ผมจะจดจำไว้ให้ดีที่สุดในชีวิต... 

“พี่อุ้มผมไปที่เตียงหน่อยได้มั้ย” ผมพูดออกไป โดยคนตรงหน้าทำหน้ายิ้มอย่างพอใจ 

“โหหหหหหหหหหหห รางวัลนี่เริ่มต้นด้วยคำนี้ พี่ชอบจัง” 

แล้วพี่ถิงก็อุ้มผมขึ้นได้อย่างสบาย เค้าดูมีเรี่ยวแรงและแข็งแรงจริงๆ นี่คืนนี้ผมจะเอาแรงที่ไหนไปสู้เค้าต่อเนี่ยะ แต่ไม่ได้หรอก ผมต้องทำให้เค้ามีความสุขและจำผมคนเดียวตลอดไป... 

เมื่อมาถึงที่เตียง พี่ถิงค่อยๆวางผมลงอย่างเบา แล้วเค้าก็คร่อมลงมาที่ตัวผม

 “ไม่ พี่ถิง นอนตรงนี้ต่างหาก” ผมค่อยๆผลักเค้าให้นอนหงาย ตอนนี้ผมเป็นฝ่ายคร่อมเค้าแทน 

แสงไฟจากตึกด้านนอกลอดเข้ามาบางส่วน เผยให้เห็นใบหน้ายิ้มพอใจของพี่ถิง ที่ทำตามที่ผมบอกแต่โดยดี 

จากนั้นผมจึงค่อยๆจูบ ไล้ลงมาจากแผงอก พร้อมกับขบเนื้อเบาๆไปเรื่อยๆ อย่างอ้อยอิ่ง ลงมาจนถึงเขตแดนส่วนล่างที่เป็นรอยสัก ที่ผมชอบมาก ผมระดมจูบที่รอยสักนั่น และขบกัดอย่างแผ่วเบาแต่ถี่ๆ จนพี่ถิงเอามือมาขยี้หัวผม พร้อมกับร้องว่า “เฟิงเฟิง อ่าาาาาาาา พี่ชอบรางวัลนี้จัง” 

เมื่อเห็นพี่ถิงพอใจ ผมจึงพุ่งตรงเข้าสู่เป้าหมายส่วนล่าง ใช้ปากอม พร้อมกับรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ อย่างช้าๆ และเร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าจะมีของเหลวใดๆไหลออกมาที่ปากผม แค่ผมเห็นเค้ามีความสุขและผมชอบผมพอใจที่จะทำให้ก็พอแล้ว..... 


คราวนี้คนตัวใหญ่ส่งเสียงร้อง...อ่าาาาาา ไม่หยุด และเอามือขยี้ผ้าปูเตียง...
ผมยังคงเอามือบีบเค้นต้นขาเค้าเป็นจังหวะไปด้วยกัน 

หลังจากนั้นสักพัก ผมพลิกตัวเค้าให้นอนคว่ำ คราวนี้เค้าทำตามเหมือนลิงตัวใหญ่ ที่อยู่ในโอวาสผมมาก ยินยอมพร้อมใจที่จะทำทุกอย่างตามที่ผมอยากให้เค้าทำ... 
ผมจึงไม่รอช้า ขึ้นคร่อมเค้าจากด้านหลังแล้วดันส่วนล่างของผมเข้าไปในตัวเค้าเป็นจังหวะอีกครั้ง ต่อเนื่องอย่างรวดเร็วและใช้กำลังทั้งหมดที่มี เพื่อให้เค้าจดจำผมได้ตลอดไป... 

คราวนี้มีเพียงเสียงหอบ หายใจถี่ๆที่ประสานกันจากสองคนที่พร้อมจะรับความสุขไปด้วยกัน...

เมื่อผมหมดแรง จึงนอนทับลงไปบนตัวพี่ถิง ที่ตอนนี้เหมือนลูกกระต่ายเชื่องๆไปแล้ว แต่เค้ายังคงมีแรงพูด “เฟิงเฟิง พี่ไม่อยากไปไหนเลย เราไม่ต้องไปลูฟแล้วได้มั้ย พี่อยากอยู่กับเฟิงเฟิงแบบนี้ตลอดไป” 


ผมไม่อยากจะบอกหรอกครับว่า คืนนั้น ผมและพี่ถิง แทบไมได้นอน เพราะเราสองคนผลัดกันรุกและรับตลอดคืน จนใกล้สว่างถึงได้หลับไป...

ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าผมไปเอาเรี่ยวแรงมาสู้เค้าจากไหนเหมือนกัน 


....แต่พอเช้า ผมลุกขึ้นก่อนเค้า จริงๆผมนอนไม่หลับเท่าไหร่ ผมจูบแก้มเค้าอีกครั้งก่อนจะไปหาอาหารเช้าแบบง่ายๆ ทอดไข่ดาว และแฮมกับเบคอน กับน้ำส้มอีกแก้ว อ้อ!!! กินไข่ลวกด้วยนะ จะได้บำรุงร่างกาย 

ผมได้ยินเสียงพี่ถิงอาบน้ำ และพอเค้าแต่งตัวออกมา พบอาหารตรงหน้า เค้าก็เข้ามากอดผมจากด้านหลัง ในขณะที่ผมกำลังเทน้ำส้มใส่แก้ว 

“โอ้ย พี่ถิง เดี๋ยวน้ำส้มหกครับ” 

“เฟิงเฟิง ทำไมน่ารักขนาดนี้ ขอหอมอีกทีนะ ถึงแม้จะช้ำไปทั้งตัวแล้วก็ตาม เราไม่ต้องไปดูภาพโมนาลิซ่ากันหรอก เฟิงเฟิงพี่น่ารักกว่าอีก” 

แล้วเค้าก็หอมแก้มผมอีกที เป็นอย่างที่เค้าบอกแหละครับ ถ้าผมเหมือนผลไม้ ตอนนี้ผมคงช้ำ น่วมไปหมดแล้วจริงๆ อิอิ... 

ผมหันไปจัด ผ้าพันคอเค้าให้เข้าที่ พร้อมกับบอกว่า “วันนี้พี่ห้ามกันผมออกมานะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะอยู่กับพี่ เข้าใจไหมครับ” 

หลังจากนั้นเราก็ยังจูบกันแบบอ้อยอิ่งอีกรอบ นี่ถ้าไม่ต้องไปไหนต่อ ผมก็อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้จริงๆ

 ...แต่ก็คงไม่ง่ายขนาดนั้น หลังจากเราออกไปจากห้อง พอมาเจอลุงโจนาธานและเจ้าตัวแสบ หวังหยวน

 ผมก็เหมือนถูกกันออกจากพี่ถิงทันที หวังหยวนกอดแขนพี่ถิงตลอด และก็ชวนคุยนั่นนี่เรื่อยๆไม่หยุด แต่พี่ถิงก็ดูสนุกสนานและมีความสุขมาก เค้าหันมามองผมเป็นระยะๆ แต่ผมไม่เป็นไรแล้ว 

ผมสัญญากับตัวเอง อะไรที่ทำให้พี่ถิงมีความสุข ผมก็ยอมทั้งนั้น 

 ผมจึงคุยกับลุงโจนาธานไปเรื่อยๆ จนได้ข้อมูลว่า วันนี้เป็นวันที่พวกแก๊งค์ที่เคยขโมยภาพ โมนาลิซ่าไปจากพิพิธภัณฑ์ลูฟคราวก่อน นัดลุงและพี่ถิงมาเจรจา 

เนื่องจากลุงเคยบอกตำรวจและให้ข้อมูลไป ทำให้ภาพโมนาลิซ่านี้ได้รับการค้นหาจนพบ ทำให้ตอนนี้เมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ จะเห็นการล้อมกรอบและใส่ระบบกันขโมยที่ภาพอย่างแน่นหนา... 

และด้วยความแค้น พวกแก๊งค์นี้ถึงกับลักพาน้องสาวของพี่ถิงมา นั่นก็คือ"ยื่อปา"
เพื่อให้ลุงและพี่ถิง มอบเงินค่าไถ่และชดเชยให้พวกมัน 
ในฐานะที่เหมือนกับหักหลังพวกมันนั่นเอง....


เมื่อมาถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟ ที่นี่กว้างใหญ่มาก แต่ดูเหมือนการมาเที่ยวครั้งนี้จะไม่ใช่การมาเที่ยวธรรมดา 

“นี่ พี่หน้าแมว เมื่อคืนพี่ไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้ดูโทรมขนาดนี้ คงจะคิดที่ผมพูดมากล่ะสิ 555"

หวังหยวนเสียงดังขึ้นมาเมื่ออยู่ในพิพิธภัณฑ์และพี่ถิงได้แยกไปกับลุงโจนาธานเพื่อหาเบาะแสจุดนัดพบ ปล่อยผมไว้ให้ดูแลเด็กแสบนี่ 

“ผมบอกไว้เลยนะ ว่าอะไรก็ตามที่พี่ถิงทำให้พี่ เค้าก็เคยทำให้ผมมาแล้วทั้งนั้น อย่าคิดว่าผมสู้พี่ไมได้” 

อะไรกัน!!! ที่หวังหยวนพูดมันคืออะไร ทำไมต้องมาพูดอะไรแบบนี้ มันทำให้ผมคิดมากนะ แต่ผมไม่ยอมหรอก

“ที่พี่ถิงทำให้แปลว่าอะไร แต่จริงๆพี่ไมได้สนใจหรอกนะ พี่สนใจแต่ว่า พี่ทำอะไรให้พี่ถิงได้มากกว่า” 

ผมรู้สึกว่าผมเหนือกว่าเด็กคนนี้ ยังไงผมก็ต้องเหนือกว่า ผมต้องมั่นใจในตัวเองสิ...

แต่ยังไม่ทันที่จะเถียงอะไรกันต่อ หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาเหมือนจะพุ่งตรงเข้ามาที่ตัวหวังหยวน 
ผมเลยเข้าไปขวางไว้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนผมไม่รู้ว่าอะไร เหมือนมีของแข็งบางอย่างทุบลงมาที่ท้ายทอยผม ทำให้ผมต้องล้มลง หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย..... 





                              ....โปรดติดตามตอนต่อไป.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น