วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน ภาคพิเศษ ตอน เราจะข้ามเวลามาพบกัน...



"บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน"
ภาคพิเศษ ตอน เราจะข้ามเวลามาพบกัน...

หมายเหตุ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับต้นฉบับชื่อเดียวกันแต่อย่างใด เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงใจของถิงเฟิงล้วนๆค่ะ 555

บทนำ...
...ผมอยู่วัดต้ามู่นี้มาตั้งแต่เด็ก ผมได้เรียนหนังสือแต่ไม่ได้บวชเป็นพระ เนื่องจากพระอาจารย์เคยบอกว่าชะตาผมผูกพันกับที่นี่แต่ไม่ใช่คนของที่นี่ และเมื่อถึงเวลาชะตาผมจะเปลี่ยนไป...
ผมไม่เคยเข้าใจประโยคนี้จนกระทั่งวันนึงที่ผมได้พบเค้า เรื่องวุ่นวายทั้งหลายก็ตามมา
...เช้านี้หนาวมากผมว่าอุณหภูมิถึงขั้นติดลบแน่ๆ แต่ผมก็ต้องออกไปทำหน้าที่ดูแลความสะอาดยามเช้าเป็นปกติ
ผมจึงกวาดหิมะอยู่ที่ลานหน้าวัด และกำลังอธิษฐานขอพรให้ทุกๆอย่างในวัดสงบสุขรวมทั้งชีวิตผมดังเช่นทุกวัน
"ผมหลี่อู๋เสีย ขอให้ความดีทุกอย่างที่ผมได้ทำไว้ คุ้มครองให้วัดปลอดภัยและให้ผมพบแต่ความสุขด้วยเถิดครับ"
จู่ๆก็มีลมพัดแรงมากพร้อมด้วยแสงสีแดงพุ่งทะยานไปที่ป่าด้านข้างวัด ผมจึงทิ้งไม้กวาดแล้วรีบวิ่งไปดู
พระ!!! สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากกองหิมะ เค้าปัดหิมะทิ้งจากตัวและใบหน้า ผมเห็นหน้าไม่ชัดเพราะเค้าใส่แว่นอยู่ ใครเนี่ยะ!!! เค้ามาจากไหนกัน ผมยืนมองอยู่ห่างๆ จึงถามออกไป
"นะ นาย นายเป็นใคร มาได้ยังไงหน่ะ"
เค้าไม่ตอบแต่หันมามองผมด้วยหางตา แล้วเอามือปัดที่ขากางเกงต่อ
"นี่!!! ไม่ได้ยินรึไง นายเป็นใคร ที่นี่วัดต้ามู่ นาย!! หูหนวกรึยังไง"
เค้าหันหน้ามาพร้อมบอกผมว่า
"นี่ปีอะไร"
อะไรของเค้าฟระ มาถามว่าปีอะไร
"2016 แต่ชั้นถามว่านายเป็นใคร ตอบมาสิ ไม่งั้นชั้นจะไปตามคนมาจัดการกับนายนะ"
คราวนี้เค้าถอดแว่นออก มองผม แล้วตอบกลับว่า
"นายนี่น่ารักกว่าปู่นายเยอะนะ ชั้นเฉินฉีซาน ยินดีที่ได้รู้จัก"


บทที่ 1 แผนที่ดาว 

...หลังจากที่หลี่อู๋เสียได้เสีย เอ้ย!!! ได้พบกับชายร่างยักษ์ผู้มาพร้อม
กับลำแสงสีแดง จนรู้ว่าเค้าชื่อ เฉินฉีซาน ก็ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆ จึง
ได้เห็นหน้าชัดๆว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาดีไม่น้อย เค้ายอมรับว่าเฉินฉี
ซานคนนี้เป็นคนหล่อมากเลย แต่แล้วยังไงก็เค้าอยู่กับพระมาทั้งชีวิต
ตั้งแต่เด็ก คนมีผมแบบนี้เค้าก็ว่าหน้าตาดีแระล่ะ 555

เอ้ย!!! นี่ไม่ใช่เวลามาคิดว่าใครหล่อนะ ดังนั้น เค้าจึงถามต่อเพราะไม่
เข้าใจสิ่งที่คนตรงหน้าทักทายออกมา

"ใคร ใครเป็นปู่ชั้น เด๋วนะ นายจะมารู้จักปู่ชั้นได้ยังไง"

"เอาน่า นี่ชั้นเริ่มจะหนาวแล้ว นายมีที่ให้ชั้นพักมั้ย" เค้าย้อนถามผม

อะไรเนี่ยะ คนเรา!!! มาจากไหนจะมาขอพักกับคนแปลกหน้าแบบนี้ 
วัดก็มีคนมาขออาศัยนะ แต่เค้าดูไร้บ้านน่าสงสาร ไม่ใช่พวกร่างกาย
แข็งแรง ไม่สิ ออกจะดูกล้ามเนื้อมากมาย บึกบึนมากด้วยซ้ำ 

หลี่อู๋เสีย...นายจะพาใครก็ไม่รู้ไปพักที่ไหนดี เช้าขนาดนี้ พระอาจารย์
กับพระรูปอื่นๆก็ยังทำสมาธิไม่เสร็จแน่ๆ ปรึกษาใครก็ไม่ได้

"เฮ้!!! อู๋เสีย นายไม่คิดจะช่วยเหลือผู้ใหญ่เลยรึไงนะ ชั้นถือว่าเป็นปู่นายเลยนะจะบอกให้"
"ผู้ใหญ่ที่ไหน ปู่อะไร นายแก่กว่าชั้นไม่กี่ปีหรอก อย่ามาทำเป็นออกคำสั่ง จะขอที่พักไม่ใช่เหรอ ชั้นจะพาไปห้องพักเรือนไร้ญาติละกัน"
"ไม่ ชั้นจะพักห้องนาย"
"อะไร??? นายจะบ้าเหรอ ชั้นไม่รู้จักนาย ชั้นไม่มีญาติ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่เป็นใคร นายจะมาอยู่ห้องชั้นได้ยังไง"
"นายไปไม่ถูกเหรอ งั้นชั้นจะพานายไปเอง"
"เฮ้ย!!! นี่นายทำบ้าอะไรหน่ะ ปล่อยนะ ปล่อยชั้น" สภาพผมตอนนี้ถูก
เค้ายกตัวลอยพาดบ่า ผมทั้งทุบทั้งตีทั้งดิ้น เค้าก็ดูไม่สะทกสะท้าน

"ไหนล่ะห้องพักนาย ไปทางไหน???" เค้าหันไปหันมาจนผมเวียนหัว
ไปหมด เลยจำใจต้องชี้ทางไปและบอกเค้าจนมาถึงห้องพัก

เค้าเลื่อนประตูไม้ออกอย่างง่ายดาย เพราะตอนออกไปผมไม่ได้ล็อค
เอาไว้ พอเข้าไปในห้องเรียบร้อย นายนี่กลับรู้ดี ล็อคประตูซะงั้น!!!

"ปล่อย ปล่อยสิ ชั้นจะลง เฉินฉีซาน นายเป็นใคร ปล่อยนะ" ผมได้ที
ดิ้นสุดแรงอีกรอบ ประกอบกับเค้ายอมปล่อยผมลงแล้ว แต่จังหวะลง
ทำให้ผมหงายท้องและฉุดเค้าลงมาคร่อมบนตัวผมพอดี ผมตกใจ
มากดิ้นและผลักเค้าออก แต่ไม่ทันแล้ว เค้าทับลงมาบนตัวผมเต็มๆครับ

"โอ้ยยยย เฉินฉีซาน นายนี่มัน!!! ออกไปจากตัวชั้นเดียวนี้ วันนี้มันวันบ้าอะไรเนี่ยะ"

อีกฝ่ายไม่ตอบอะไร นอนแผ่ทับบนตัวผม พร้อมเสียงหัวเราะออกมา
จากใบหน้าที่หันไปคนละข้างกับหน้าผมพอดี

"หลี่อู๋เสีย นายนี่น่ารักกว่าปู่นายมากจริงๆ ก็เอาสิ คราวนี้นายจะเคารพ
ปู่อย่างชั้นได้รึยัง"

"ไม่ๆๆ ออกไปนะ หยุดพูดเรื่องที่ไม่รู้เรื่องแล้วลุกออกไปจากตัวชั้นเดี๋ยวนี้"

คราวนี้เค้าหันหน้ามาทำให้ปากเค้ามาอยู่ข้างหูผมพอดี

"ถ้าไม่หยุดดื้อกับชั้น นายจะได้รู้ว่าเฉินฉีซานคนนี้ไม่ชอบให้ใครมา
ออกคำสั่ง!!!"

"นะ นาย นายจะทำอะไรหน่ะ" เค้าลุกขึ้นเอาหน้ามาจ้องหน้าผมตรงๆ 
แต่ทั้งตัวยังคงทิ้งน้ำหนักกดผมเอาไว้

"เรียกปู่เฉินสิ อู๋เสีย" ผมเห็นท่าไม่ดี เลยจำใจต้องเรียกเสียงเบาๆออก
ไป

"ปะ...ปู่เฉิน..." เค้ายื่นหน้ามาใกล้ผมอีก จนลมหายใจแทบจะรดจมูก
ผม ทำไมหัวใจผมมันเต้นแรงผิดปกติ ผมก็ไม่รู้ ผมรู้สึกตื่นเต้นแบบที่
ไม่เคยเป็นมาก่อน เค้าพูดจนปากแทบจะจ่อปากผม

"ก็แค่นั้นแหละ เด็กดื้อ"

ทันใดนั้น เค้าลุกขึ้นและดึงผมตัวลอย จนขึ้นมายืนอีกครั้ง พอผมยืน
ขึ้นมาได้ใหม่ก็รีบถอยออกมาตั้งหลักก่อน ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
 แทบจะไม่มีแรงยืนด้วยซ้ำถ้าเค้าไม่ดึงผมขึ้นมา...

ในขณะที่อีกฝ่ายเดินสำรวจห้องผม จนกระทั่งไปเจอภาพวาดที่พระ
อาจารย์ติดเอาไว้ที่ห้อง นายนั่นดึงภาพออกจากฝาผนัง พร้อมทั้งแกะ
ออกจากกรอบ...

"นาย นายทำอะไร นี่มันของที่พระอาจารย์ให้ชั้นนะ" ผมตรงเข้าไปยืน
ข้างเค้ากำลังจะยื่นมือไปแย่งภาพนั่น แต่เจอสายตาเค้าที่หันมามอง

"ชั้นบอกให้เรียกว่าอะไร???"

"เอ่อ...ปู่เฉิน นายจะให้ชั้นเรียกว่าปู่เนี่ยนะ คนอะไร อยากจะแก่"

"เอ้า...นี่ ดูซะ" เค้ายื่นภาพวาดนั่นที่ด้านหลังมีลวดลายสามเหลี่ยม
เส้นตรง เหมือนแผนที่อะไรสักอย่าง

"นี่มันอะไรหน่ะ???"

"นี่คือแผนที่ดาว นายไม่รู้หรอกว่ามันมีค่าแค่ไหน รอให้มืดก่อน ชั้นจะแสดงให้ดู"

"หาาาา อะไรนะ นายจะอยู่ที่นี่จนมืด"

"ไอ้เจ้าเด็กนี่ สอนไม่รู้จักฟัง บอกให้เคารพชั้น ยังจะมาทำตัวแบบนี้
 เดี๋ยวเหอะ"

"คนอะไร อยู่ดีก็มาห้องคนอื่นแล้วยังจะมาอ้างว่าเป็นปู่ แล้วยังจะมา
เอาของเค้าไปอีก เอาแต่ใจชะมัด"

"รอก่อน...ไว้ชั้นจะเล่าประวัติให้ฟัง ตอนนี้ขอนอนก่อน นายจะไปทำ
อะไรก็ไป อ้อ!!! หิวแล้ว หาอะไรให้กินด้วยล่ะ"

ผมยังงงๆครับ แต่ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เพราะนายนี่เล่นมานอน
ในห้องผมเฉย ผมจึงจำเป็นต้องออกไปจัดการกิจวัตรของเองแบบจำ
ใจยอม แล้วค่อยแอบเอาข้าวกลับมาที่ห้องอีกทีละกัน...

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น