วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

คุณชายธราถิง ตอนที่ 2 พาหุรัด

ตอนที่ 2 พาหุรัด


ห้องนั่งเล่น วังจุฑาเทพ


"เอาล่ะ วันนี้ย่ามีอะไรจะประกาศ"

หม่อมย่าเอียดพูดขึ้นเมื่อเห็นทุกคนพร้อมที่จะนั่งฟังเรื่องราวที่ท่านตั้งใจนัดมาในวันนี้ หลังจากอาหารมื้อใหญ่ที่เลี้ยงตระกูลเทวพรหม

"หม่อมย่า มีอะไรจะประกาศรึคะ เบบี้รู้สึกตื่นเต้นจังค่ะ"

"พี่ว่าน้องเบบี้เก็บอาการหน่อยมั้ยครับ บางครั้งพี่ก็รู้สึกว่าที่นี่เมืองไทย ไม่ใช่ที่ลอนดอนนะ กิริยาแบบนี้พี่ว่ามันไม่งาม"

คุณชายปวรเทียน ผู้ที่ไม่ชอบมารตีเบบี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเห็นท่าทางบนโต๊ะอาหารและทุกอย่างที่ทำ ยิ่งไม่อยากจะสนับสนุนให้พี่ชายคนเดียวของเขาไปตกนรกเลยจริง พอเขาหันกลับไปหาแนวร่วมคือคุณชายรัชชาฝาน สายตากลับไปจดจ้องอยู่ที่น้องคนเล็กแห่งตระกูลเทวพรหม

"นี่ ชายฝาน นายจะมองชายลู่หานเค้าอีกนานมั้ย"

"ชู่ววววว!!! พี่ชายเทียน เบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวน้องลู่หานก็รู้ตัวหรอกว่าผมมองอยู่ คนอะไร น่ารักชะมัด น่ารักกว่าน้องเบบี้ตั้งเยอะ"

"อันนั้นชั้นก็ไม่เถียง แต่ว่าถ้านายมองนานกว่านี้ ฝ่ายโน้นเค้าจะคิดว่าเราโรคจิตไปจ้องเค้าอยู่ได้ มานี่ มาช่วยพี่จัดการยัยเบบี้ดีกว่า"

สองพี่น้องสุมหัวกันซุบซิบ โดยไม่รู้ว่าตอนนี้สายตาพี่ชายใหญ่ของบ้าน จับจ้องไปที่แก้มชมพูระเรื่อของทายาทเทวพรหมเช่นกัน หากแต่ไม่ใช่คนที่เขาต้องขัดดอกด้วย แต่เป็นพี่ชายคนโตของตระกูลที่เขารู้สึกประหลาดเมื่อมองใบหน้านี้ทุกครั้งตั้งแต่บนโต๊ะอาหาร

"เอาล่ะ ทุกคน ย่าจะบอกว่า ในเมื่อสองตระกูลก็มากันในวันนี้แล้ว อย่างที่รู้กันว่า ย่าได้ตกลงกับทางเทวพรหม เพื่อให้ชายใหญ่ได้เข้าพิธีหมั้นหมาย หญิงมารตีเบบี้จ๊ะ ย่าอยากจะขอให้หลานได้ศึกษาเรียนรู้ชายใหญ่ให้มาก เพราะอย่างไรเสีย ย่าก็อยากจะตอบแทนความมีน้ำใจของทางเทวพรหมที่มีต่อจุฑาเทพมาโดยตลอด"

ย่าอ่อนรู้ดีว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปัญหา ก็เลยคิดว่าน่าจะมีส่วนช่วยให้สองคนที่เป็นคู่หมายได้สนิทสนมกันไว้

"เออ...นั่นสินะ พอดีว่า ย่าอยากจะรบกวนให้ชายใหญ่พามารตีเบบี้ไปเดินพาหุรัดเลือกผ้ามาตัดชุด ย่าจะตัดให้เป็นของรับขวัญ แต่ว่าอยากให้หญิงเบบี้ไปเลือกลายผ้าด้วยตัวเองดีมั้ยจ๊ะ เพราะย่าคุยกับพี่หญิงว่า เราจะจัดงานเต้นรำพร้อมประกาศเรื่องหมั้นกันที่วังจุฑาเทพในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้านี้"

เหล่าพี่น้องจุฑาเทพ ไม่รู้จะเอ่ยขัดได้อย่างไร ในเมื่อเป็นคำสั่งที่ระบุตัวของท่านย่าทั้งสองจึงได้แต่นิ่ง แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งออกมา

"โหหห...คุณย่าอ่อนลำเอียงจังนะครับ ทำไมตัดชุดให้แต่น้องเบบี้ล่ะ ผมก็อยากได้สูทใหม่บ้าง ขอไปเลือกผ้าที่พาหุรัดด้วยได้มั้ย"

คุณชายรัชชาฝานเกิดความคิดขึ้นมาทันที...

"พี่ชายฝาน พี่ก็มีเสื้อสูทเยอะแยะ ยังจะเอาไปทำไมอีก"

คุณชายรณหยาง น้องเล็กผู้ไม่รู้เท่าทันความคิดพี่ชายว่าอยากจะไปขัดคอว่าที่คู่หมาย และอีกเป้าหมายที่เขาต้องการที่ยังไม่ได้เอ่ยออกไป...

"แหม ชายหยาง พี่ก็อยากได้อีก ทำไมล่ะ แล้วก็พี่อยากไปเดินพาหุรัดบ้าง ถ้ายังไงรบกวนน้องลู่หาน พาพี่ไปด้วยได้มั้ยครับ อีกหน่อย เราก็จะเกี่ยวดองกันแล้ว"

คุณชายรัชชาฝานเข้าสู่สิ่งที่ต้องการทันที เล่นเอาอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว

"เอ่อ...พี่ชายฝานอยากให้ผมพาไปพาหุรัดด้วยเหรอครับ ผมจะไปด้วยได้เหรอ คือว่า..."

"ทำไมล่ะ พี่ว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราไปกันหมดนี่แหละ จริงมั้ย ชายโป๋"

คุณชายปวรเทียนสรุปเอาเองหน้าตาเฉย ในเมื่อสกัดกั้นคำสั่งคุณย่าไม่ได้ ก็ลากไปให้หมดนี่ล่ะ 555

"ผมขอตัวดีกว่าครับ พอดีมีผ่าตัดที่ผมคงต้องเริ่มไปทำแล้ว"

คุณชายพุฒิโป๋ หมอผ่าตัดผู้ที่ไม่ค่อยจะมีเวลาส่วนตัวเท่าไหร่นัก รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องไปก็ได้ คนอื่นๆน่าจะช่วยพี่ชายใหญ่ได้เหมือนกัน

"งั้นก็ตามใจหลาน ก็ถือซะว่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ทำความรู้จักกันไว้ก็แล้วกันนะ พรุ่งนี้ให้นายฮั่น ขับรถไปก็แล้วกัน"
หม่อมย่าเอียดสรุปในที่สุด

........................................เช้าวันรุ่งขึ้น..................................................

"สวัสดียามเช้าครับ คุณชายหยาง ทำไมตื่นเช้าจังเลยครับ"

นายฮั่นคนขับรถประจำตระกูลจุฑาเทพ เอ่ยถามคุณชายคนสุดท้องที่เขาก็ไม่ได้เจอหน้ามานานตั้งแต่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ

"อ้าว พี่ฮั่น ผมอยู่โน่นก็ต้องฝึกทหาร ก็ตื่นเช้าแบบนี้แหละครับ พี่กำลังทำอะไรอยู่เหรอ"

ชายหยางเห็นคนขับรถประจำบ้านที่เขาเคยเล่นด้วยเมื่อตอนเด็กๆ ตอนนี้เติบใหญ่เหมือนพี่ชายคนสนิท เขาไม่เคยคิดดูถูกว่านายฮั่นเป็นแค่คนขับรถเลย แต่คงไม่ใช่สำหรับใจของคนขับรถที่ต่ำต้อย ซึ่งเอ็นดูคุณชายคนเล็กนี้มาตลอด เพราะเธอไม่เคยถือตัวใดๆกับเขา เมื่อเห็นอีกฝ่ายในวันนี้ในใจเขาก็มีแต่ชื่นชม

"กำลังดูเครื่องยนต์หน่ะครับ พอดีเมื่อวานผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ วันนี้ต้องพาคุณๆไปพาหุรัดกันอีก เลยไม่แน่ใจว่าจะไปได้หรือเปล่า"

"อ้าว เราก็เอารถคันอื่นออกสิครับ แล้วก็เอาคันนี้เข้าอู่ไป"

"อีกคัน พ่อก็ขับไปส่งคุณชายพุฒิโป๋ที่โรงพยาบาลแต่เช้า ส่วนอีกคันก็ไปตลาดครับ ตอนนี้ก็เหลือคันนี้กับรถของคุณชายใหญ่แล้วล่ะครับ"

นายฮั่นอธิบายพร้อมเอามือตรวจสอบบิดๆ เครื่องยนต์จนเขม่าติดมือและปาดเหงื่อบนใบหน้า รอยดำเปื้อนที่แก้มเป็นแถบ จนอีกฝ่ายเห็นก็อดขำไม่ได้

"พี่ฮั่น 555 เปื้อนหมดแล้วครับ"

"หะ!!! อะไรครับคุณชาย หน้าผมเหรอ"

ด้วยความสนิทสนมที่เคยมีมาตั้งแต่เด็ก และความไม่ถือตัวของชายหยาง เขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเช็ดไปที่แก้มของอีกฝ่าย

"อุ้ย!!! คุณชาย ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปล้างเอง"

"เฉยๆน่า พี่ฮั่น อยากจะหน้าดำแต่เช้ารึไง ผมเช็ดให้จะเป็นอะไร"

คุณชายหยางเช็ดรอยดำออกจากแก้ม และแถมเช็ดเหงื่อที่หน้าให้ด้วย ทำให้นายฮั่นตกใจเล็กน้อย จึงเอามือขึ้นมาจับที่มืออีกฝ่ายที่บรรจงเช็ดอย่างตั้งใจ

"โธ่!!! คุณชาย อย่าลำบากเลยครับ คนอย่างผม...มันก็"

"พี่ฮั่น ผมว่าผมเคยบอกพี่ตั้งแต่เด็กๆแล้ว ว่าเราไม่ใช่คนอื่น แล้วก็ห้ามพูดแบบนี้กับผมอีก อยู่เฉยๆสิ ผมจะเช็ดไม่หมดก็เพราะพี่นี่แหละ"

อีกฝ่ายจึงหยุดพูด เอามือลงแล้วยืนมองหน้าอีกฝ่าย คุณชายรณหยางคงไม่รู้ตัวหรอกว่า ได้ทำให้เขาตกหลุมรักอย่างหมดใจ แต่ไม่อาจเอื้อมไปยุ่งเกี่ยวได้ 

"เอาล่ะ เรียบร้อย ไหน  ขอผมดูบ้าง พี่สอนผมหน่อยสิ ผมอยากซ่อมเครื่องยนต์เป็น ตอนฝึกทหารเค้าก็ให้เรียนบ้างนะ แต่ผมก็ยังไม่ชำนาญเลย" 

นายฮั่นผู้เต็มใจทำทุกอย่างที่อีกฝ่ายขอ ชี้และอธิบายหลักการเครื่องยนต์ทุกอย่างที่เขาคลุกคลีมาตั้งแต่เกิดอย่างมีความสุข ชีวิตเขาไม่ขออะไรมากกว่าได้อยู่ใกล้ๆคนๆนี้

ดังนั้นเลยกลายเป็นว่า คุณชายธราถิงต้องขับรถตัวเองไปเพื่อรับตระกูลเทวพรหม พร้อมกับคุณชายปวรเทียนและคุณชายรัชชาฝาน เนื่องจากคุณชายรณหยาง อยากจะอยู่ซ่อมรถคันนั้นต่อกับนายฮั่น เขาจึงอนุญาตเพราะคิดว่า ไม่ต้องวุ่นวาย แค่นี้ก็คนเยอะมากพอแล้ว

............................................................................................

เมื่อทุกคนไปถึงพาหุรัดและกำลังเดินไปที่ร้านขายผ้าที่ใหญ่ที่สุดในย่านนั้น

"น้องเบบี้เข้าไปเลือกผ้าตามสบายเลยนะ พี่ไม่สันทัดเรื่องนี้ ขอนั่งรออยู่ตรงนี้แทนแล้วกัน"

คุณชายใหญ่เอ่ยขึ้นเมื่อไปถึงร้าน และคิดว่าตัวเองเดินไปก็ไม่เกิดประโยชน์ 

"อ้าว พี่ชายใหญ่ ไม่ช่วยเบบี้เลือกหรอกหรือคะ"

"พี่เลือกไม่เป็นหรอก น้องไปเลือกเถอะ เดี๋ยวพี่รอจ่ายสตางค์ให้ตรงนี้แหละค่ะ"

"งั้นก็ได้ งั้นหญิงขึ้นไปเลือกที่ชั้นสองก่อนนะคะ ผ้าดีๆจากยุโรปจะอยู่ด้านบน"

"เอ้า ชายฝาน นายจะมายืนทำไม ไหนบอกอยากได้สูทใหม่ ก็ไปดูผ้าสิ"

คุณชายใหญ่หันไปบอกน้องชาย ที่ทำทีอยากจะตามมาให้ได้ ไม่รู้ทำไม...

"เอ่อ...น้องลู่หาน ไปช่วยพี่ดูสีหน่อยสิครับ พี่อยากได้ความเห็น"

"งั้นก็ได้ครับ ถ้าพี่ชายฝานอยากให้ผมช่วยดู"

สองตาประสานกันอีกครั้ง เหมือนทั้งคู่จะรู้กันอยู่ในใจว่าอีกฝ่ายก็พึงพอใจเช่นกัน...

"งั้นผมขอไปเดินเล่นแถวนี้นะครับพี่ชาย เผื่อจะมีวัตถุดิบอะไร ที่จะไปทำเครื่องว่างทานเล่นบ่ายนี้ได้"

"ตามใจสิชายเทียน ไหนๆก็ออกมาแล้ว"

ถึงตอนนี้คุณชายเกษเฟิง ผู้ตกกระไดพลอยโจน ไม่มีความเห็นใดๆมาตั้งแต่ต้น ยืนหันไปหันมาเพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะอ้างอะไร หรือไปไหนดี ทำให้คุณชายธราถิงแอบอมยิ้มไม่ได้ ท่าทางเหมือนจะเขินเขาหรือไงนะ ช่างน่ารักอะไรแบบนี้

เขาจึงเข้าไปคว้าแขนของอีกฝ่ายแล้วดึงมา...

"น้องเฟิงมานั่งกับพี่ตรงนี้สิครับ"

"เดี๋ยวครับ พี่ชายใหญ่ เดี๋ยวสิ"

คุณชายเกษเฟิงไม่รู้จะทำตัวยังไง เขาไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้ๆคุณชายใหญ่แห่งจุฑาเทพเท่าใดนัก เพราะทุกครั้งที่เข้าใกล้ หัวใจเขาจะเต้นแรง หน้าก็จะเริ่มร้อนทุกครั้งเขารู้ดี

"น้องเฟิงนี่ ชอบทำเหมือนรังเกียจไม่อยากคุยกับพี่นะ"

"ผมเปล่านะครับ"

"แหน่ะ ทำไมทุกครั้งที่คุยกับพี่ ต้องหลบตาแบบนี้ เหมือนเมื่อวานอีกแล้ว"

อีกฝ่ายเอามือช้อนใบหน้าที่ก้มอยู่ เพื่อสบตาตัวเอง

"พี่ชายใหญ่ ทำอะไรครับ"

"น้องเฟิง เรียกพี่ว่าพี่ถิงก็ได้นะ เรียกพี่ชายใหญ่ แล้วเหมือนเหล่าทะโมนน้องพี่ยังไงก็ไม่รู้"

มือยังคงจับที่ปลายคาง ทำให้คุณชายเกษเฟิงรู้สึกว่านี่มันเป็นที่เปิดเผย ทำแบบนี้เกิดใครมาเห็นเข้าจะคิดยังไง เขาจึงเอามือจับที่ข้อมือของอีกฝ่ายเพื่อเอาลง แต่กลายเป็นว่า มือเขากลับไปอยู่ในอุ้งมือใหญ่ไปซะแล้ว

"มือน้องเฟิงนี่นุ่มดีนะ พี่รู้สึกว่าเมื่อก่อนพี่เคยจับมือเอาไว้แบบนี้ ใช่มั้ยครับ"

"เอ่อ...พี่ชายใหญ่"

"พี่ถิง!!!"

"ครับ พี่ถิง ปล่อยเถอะ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้าจะเข้าใจผิดเอาได้"

"555 ใครจะเข้าใจอย่างไรก็ปล่อยเค้า พี่พอใจแบบนี้ก็แล้วกัน"

"พี่ถิง ปล่อยเถอะครับ"

เขาพยายามจะชักมือออกจากอีกฝ่าย แต่ไม่เป็นผล เหมือนเล่นชักกะเย่อกันอย่างนั้น สุดท้ายเขาจึงปล่อยไว้อย่างนั้น

"พี่จำเรื่องราวในอดีตไม่ค่อยได้ น้องเฟิงพอจะจำเรื่องที่ย่าอ่อนพูดเมื่อคืนได้มั้ย ช่วยเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ"

"มันไม่มีอะไรน่าจดจำอย่างที่ผมบอกแหละครับ พี่ถิงไม่ต้องใส่ใจ"

"ไม่นะ!!! พี่จำได้ลางๆว่าพี่เคยจับมือน้องเฟิงเอาไว้แบบนี้จริงๆ แต่มันก็นานมากแล้ว พี่จำได้แต่ว่า เมื่อก่อนพี่มักจะคิดว่าน้องเฟิงเป็นเด็กผู้หญิง เคยบังคับให้ใส่ชุดผู้หญิงให้ดูด้วยซ้ำ น่ารักมากๆ"

"แค่นั้นเหรอครับ ที่พี่จำได้"

"รู้แล้ว!!!"

อยู่ดีๆ คุณชายตัวใหญ่เสียงดังขึ้น จนอีกฝ่ายตกใจ แล้วเขาก็เข้าไปกระซิบข้างหู

"พี่เคยทำแบบนี้ด้วยนะ"

ถึงตรงที่นั่งนั้นจะถูกบดบังไปด้วยม้วนผ้ามากมายในร้าน แต่คุณชายแห่งเทวพรหมก็ต้องใจเต้นรัวอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายแตะปากมาเบาๆที่ริมฝีปากเขาแล้วถอนออก...

"พี่ถิง!!!"

"5555 น้องเฟิง หน้าน้องแดงมากอย่างกับลูกตำลึงเลย 5555"

เขาลุกขึ้นไม่รอช้า เดินจ้ำอ้าวออกไปจากร้านอย่างรวดเร็วด้วยความเขิน คุณชายใหญ่รีบวิ่งตามไปใกล้ๆ เขารู้สึกสนุกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้ ชีวิตเขาเรียบง่าย ไม่เคยหวือหวา แต่นี่เป็นเหมือนเรื่องเด็กๆที่เขารู้สึกว่าอยากทำ การได้แกล้งคุณชายคนนี้ทำไมมันมีความสุขจังนะ เขาไม่รู้หรอกว่าเมื่อตอนเด็กๆนั้น ได้แกล้งอะไรเด็กหญิงเฟิงของเขาเอาไว้บ้าง ถึงตอนนี้จะกลายเป็นคุณชายเกษเฟิงของตระกูลเทวพรหมไปแล้ว ความรู้สึกในตอนนั้นก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปเลย

"น้องเฟิงๆๆ รอด้วย รอพี่ด้วย"

...........................................โปรดติดตามตอนต่อไป...........................



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น