วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วุ่นนัก...ที่รักผมเป็นหมอ(ฟัน) บทที่ 8


เฉินเหว่ยถิง = หมอเฉินเหว่ยถิง เป็นหมอฟัน เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ชื่อ “ถิงหยาฉือ”
                    อุปนิสัย-เงียบ สงบ เย็น ภูมิฐาน เป็นงานเป็นการ ความรู้แน่น  แต่บางทีก็สามารถขี้เล่นขึ้นมาได้

หลี่อี้เฟิง = ดาราดาวรุ่งสุดฮอตแห่งวงการ ถ่ายละครและหนัง คิวแน่นไม่หยุดหย่อน 
                   อุปนิสัย-ร่าเริง กินเก่ง ชอบกินขนม ของหวาน ลูกอม เค้ก ไอติม แต่กลัวเลือดมากที่สุด


บทที่ 8 ตัดไหม Stitched off

             วันนี้ผมนั่งทำคนไข้ด้วยความกระอักกระอ่วนทั้งวัน ผู้ช่วยคงสังเกตได้ จึงทักออกมา 
"หมอคะ!!! เป็นอะไรมากมั้ย รอใครอยู่รึเปล่า หมอทำเครื่องมือตกหลายรอบแล้วนะคะ!!! แบบนี้พวกหนูก็ไม่ไหวจะเคลียร์นะคะ"

"อะไร!!! รอใคร!!! ผมปล๊าววววววว"

"เออนะ วันนี้หมอแปลกจริงๆนั่นแหละ ปกติหมอไม่ค่อยจะทำหน้าทำเสียงแบบนี้ จริงจังตลอด ดุพวกหนูตลอด ฮั่นแน่!!! ต้องมีอะไรแน่ๆอ่ะ"

เนี่ยแหละครับวันนี้ทั้งวัน ไม่ว่าผมจะทำอะไร พวกผู้ช่วยต้องหาว่าผมแปลกๆ ผมจะไม่แปลกได้ยังไงครับ ก็วันนี้ ผมเฝ้ารอให้ถึงเวลานัดของเค้า คนไข้คนสุดท้าย ที่จะมาตัดไหมให้เรียบร้อย ผมจะได้จัดการเค้าซะที เอ้ย!!! มะใช่ หมายถึง จัดการเรื่องการคบกับเค้าสักที ปกติผมจริงจังนะกับทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร เรื่องนี้ก็เช่นกัน ผมรู้สึกหลงรักเรียวปากได้รูปนั่น กับแก้มอวบๆนั่น และหน้าสดใสแบบที่ผมไม่เคยมีกับผู้หญิงหรือใครมาก่อนเลย ดังนั้นผมจะไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องเล่นๆครับ เพราะรู้สึกว่าเค้าก็คิดกับผมมากกว่าแค่หมอฟันเหมือนกัน....


และแล้ว ก่อนเวลานัดตอนทุ่มครึ่ง ผมก็นั่งทำคนไข้ไปมองนาฬิกาไป เค้าคงมาใกล้ๆเวลาแหละ งานดาราถ่ายหนังคงจะวุ่นวายอยู่...


มีเสียงโทรศัพท์ที่ร้านดังขึ้น ผมไม่ได้สนใจ แต่หลังจากนั้นผู้ช่วยที่อยู่หน้าเคาเตอร์เดินมาบอกผมว่า

"หมอคะ หนูเสียใจจัง ผจก.อี้เฟิงโทรมาบอกว่า เค้ามาวันนี้ไม่ได้ค่ะ แล้วก็บอกว่าอาจจะพาไปอี้เฟิงไปตัดไหมที่ปักกิ่งด้วย"

"เค้าบอกรึเปล่าว่าทำไม"

"เปล่าค่ะ บอกแค่ว่า อี้เฟิงต้องกลับปักกิ่งด่วน คืนนี้มาไม่ได้แล้ว"


ผมได้แต่คิดเพราะยังทำคนไข้ตรงหน้าไม่เสร็จ ทำไมๆ ทำไมเค้าไม่บอกผมสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วนี่จะไปโดยไม่บอกกันเลยเหรอ ผมนึกว่าผมกับเค้าเรามีช่วงเวลาที่ดีหลายๆครั้ง โดยเฉพาะเมื่อคืนและเมื่อวานนี้ที่บ้านผม...


พอเลิกงาน สิ่งแรกที่ผมทำคือโทร.หาเค้า ติดต่อโทรศัพท์ ก็ไม่ติด อะไรกัน ผมเลยตัดสินใจไปหาเค้าที่คอนโดที่เคยไปดีกว่า ผมพกของที่ต้องไปตัดไหมมาด้วย เพื่อหาเหตุผลมาเจอเค้าหากผจก.อยู่ เป็นไปตามคาด คนที่มาเปิดประตูห้องคือผจก.เฉินคนที่ผมคิดว่าคือแฟนเค้า


"อ้าว!!!หมอคะ ก็โทรไปบอกที่ร้านแล้วนี่คะ ว่าอี้เฟิงไปไม่ได้ หมอได้ที่อยู่มาได้ยังไงคะเนี่ยะ"

ภาพที่ผมเห็นตรงหน้า คือคุณดาราของผมกำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาประหลาดใจ ผมสบตาเค้า แต่ดูเหมือนเค้าจะดูเศร้ามากกว่าที่ผมคิดไว้

"คือพอดีคุณหลี่เคยบอกที่อยู่เอาไว้ และตอนนี้ผมแค่คิดว่าไม่อยากให้เค้าทิ้งไหมไว้นานเกินไป แผลมันจะติดจนตัดไหมยากกว่าเดิม ผมเลยลองเสี่ยงมา เผื่อเค้าจะอยู่ นี่ครับ ผมเอาอุปกรณ์มาด้วย ตัดแป๊บเดียวก็เสร็จ"

"เวลาตัดไหม ไม่ต้องไปตัดที่ร้านเหรอคะหมอ มีเครื่องมือแค่นี้ก็ทำได้แล้วเหรอคะ"

"ครับ ผมรับรองความสะอาดได้ มาครับ คุณผจก. มาช่วยผมส่องไฟหน่อย จะได้เสร็จๆไป ผมเห็นว่าเค้าเป็นดารา ไม่ควรทำให้มีปัญหาทีหลัง คือผมไม่อยากเสียชื่อหน่ะครับ"

"อ๋อ ค่ะๆ ได้ค่ะ" 

ดูเหมือนเจ๊ผจก.นี่จะว่าง่ายดีนะ เค้าเชื่อที่ผมพูดทุกอย่าง แหมๆ ความฉลาดของผมนี่มีมากจริงๆ แต่ผมไม่ได้หลอกเค้านะครับ เครื่องมือและการทำงานนอกสถานที่แบบนี้ มันสะอาดได้ เชื่อผมสิ นี่แค่ตัดไหมเองครับ  แต่คุณดาราของผมนี่สิ นิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ มองตามผม แต่แม้กระทั่งคำทักทาย ยังไม่มีเลย...


พอผมตัดไหมเสร็จ ก็เก็บของทุกอย่างใส่ถุงฆ่าเชื้อเพื่อเอาไปทำลาย ผมจึงต้องหาทางคุยกับเค้าก่อนให้ได้ จะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่


"เอ่อ ผมขอล้างมือก่อนนะครับ ไม่ทราบว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน"

ผมถามไปทั้งๆที่จริงๆก็รู้คำตอบอยู่แล้ว

"ทางนี้ค่ะ เดี๋ยวชั้นพาไป"


"อ้อ ผมลืมไป คุณหลี่ครับ ตามผมมาบ้วนน้ำเกลือล้างแผลในห้องน้ำหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากขอดูแผลชัดๆด้วย จะได้บ้วนน้ำเกลือที่อ่างได้"

ตอนนั้นเองที่ดาราดังตรงหน้าผม อ้าปากพูด และน้ำเสียงเหมือนเริ่มมีความหวัง

"เจ๊เฉิน ไม่ต้อง เดี๋ยวผมพาหมอไปเอง รอแป๊บนึงนะ"


พอเข้าไปในห้องน้ำ ผมล็อคประตู แต่ต้องแกล้งทำเสียงดังตะโกนออกมา

"เอาล่ะครับ บ้วนน้ำเกลือนี่ก่อนนะครับ"

เค้าทำหน้าแปลกใจที่ผมไม่เห็นยื่นอะไรให้ แต่ผมจับมือเค้าขึ้นมาแทนและแทบจะกระซิบข้างหู

"เกิดอะไรขึ้น คุณเป็นอะไร ทำไมต้องกลับปักกิ่ง"

"มีเรื่องหน่ะหมอ ผมยังพูดอะไรมากไม่ได้ แต่พรุ่งนี้เช้า ผมต้องกลับไปก่อน" 

"ไม่ คุณต้องไปกับผมก่อน อ่ะ บ้วนนี่ซะ ถึงผมจะพูดไปงั้น แต่มันก็ควรทำด้วย"

คนตรงหน้างงเข้าไปใหญ่ แล้วทำเสียงเบาๆถามผม

"ไป ไปไหน ผมจะไปได้ยังไง เจ๊เฉินคุมผมแจมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"


"อี้เฟิง หมอคะ เสร็จรึยัง ทำไมเงียบไป นานจังเลย" เสียงเคาะประตูทำให้ผมต้องรีบคิดแผนลักพาตัวซะแล้ว คิดสิคิด หมอเหว่ยถิง ทำยังไงๆดี????

รู้แล้วว่าควรทำยังไง ใช้วิชาหมอให้เป็นประโยชน์ แต่นี่มันผิดทางนะ แต่เอาเถอะ!!! ตั้งแต่มาเจอเค้า ผมทำผิดจรรยาบรรณไปหลายข้อแล้ว อีกสักข้อจะเป็นไร ผมเลยบอกคนข้างๆ

"คุณเอาน้ำให้ผมกับเจ้เฉินกิน ก่อนผมกลับหน่อยสิ ที่เหลือผมจัดการเอง"

หลังจากนั้น ผมก็ไม่เคยคิดว่ายาที่ใช้ให้คนไข้ผ่อนคลายก่อนทำฟัน หรือถ้าให้มากปริมาณนึง มันจะทำให้หลับได้ที่ผมติดไว้กับกระเป๋าทำฟันที่ไว้ออกนอกสถานที่แบบนี้จะมีประโยชน์กับผมในการลักพาตัวดาราดังวันนี้ ผมนี่เป็นหมอฟันที่ชั่วร้ายจริงๆ......


หลังจากนั้นไม่นาน แผนการของผมก็สำเร็จ เจ้เฉินหลับอยู่ตรงโซฟา กว่าจะตื่นคงสายๆ คุณดาราตกใจเล็กน้อย พูดกับผมเมื่อขึ้นรถมา

"หมอ...เจ๊เฉินจะไม่เป็นไรใช่มั้ย"
"ไม่เป็นไรหรอกคุณ ดีซะอีก ดูเครียด พักผ่อนซะนะครับ 555"
"หมอเจ้าเล่ห์ คุณจะพาผมไปไหน พรุ่งนี้ผมต้องไปขึ้นเครื่องกลับปักกิ่งนะ"
"ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ทำไมคุณต้องกลับ"


ผมหันไปถามขณะกำลังมุ่งหน้าพาเค้าไปยังที่ๆผมอยากพาไป
"ผมโดนสั่งพักงานยาวหน่ะ เพราะอีตาผกก.ลามกนั่นโทรไปฟ้อง ใส่ความผม และขอยกเลิกการเป็นผกก.รวมทั้งถอดผมออกจากพระเอกด้วย ถ้าจะให้เค้ากำกับต่อ"
"ไอ้บ้า!!! มันกล้าทำแบบนี้เลยเหรอ คุณก็ต้องยอมเนี่ยะนะ"
"ผมกับเจ๊เฉินพยายามปรึกษากันแล้ว เราไม่มีหลักฐานไปโต้แย้ง ผกก.ใส่ความเราหมด เค้าค่อนข้างมีอิทธิพลในวงการหน่ะ บริษัทเลยอยากให้กลับไปคุยกันก่อนว่าจะเอายังไง แต่ดูเหมือนว่าทางฝ่ายนั้นเค้าจงใจเอาผมออก เค้าบอกว่าผมไม่ทำตามที่เค้าสั่ง ไม่เคารพเค้า ผมล่ะไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเลย"
"งั้นมันก็เป็นเรื่องของพรุ่งนี้นะ ตอนนี้คุณจะหลับไปก่อนก็ได้ ผมว่าคุณดูเหนื่อยพอๆกะเจ๊เฉินนั่นล่ะ ถึงแล้วผมจะปลุกคุณเอง"

"คุณจะพาผมไปไหนกันแน่" 
"เอาน่า ผมไม่หลอกคุณไปขายหรอก รับรองได้ อีก 20 นาทีก็น่าจะถึงแล้ว เชื่อใจหมอสิครับ"
"เชื่อคุณ หมอถิงครับ ดูเจ๊เฉินสิ เชื่อหมอจนหลับปุ๋ยไปแล้ว"
เค้าทำหน้าเหมือนไม่เชื่อผม  555 แต่สุดท้ายก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า 

เมื่อถึงจุดหมาย ผมเลยต้องปลุกเค้าขึ้นมา...

ผมพาเค้ามายังหลุมหลบภัยแห่งที่ 2 ของผม คอนโดหรูชั้น 22 ที่สามารถมองเห็นริมฝั่งทะเลเซี่ยงไฮ้ รวมทั้งแสงไฟจากตึกทั้งหลายที่อยู่รายล้อมรอบ เป็นวิวที่สวยมากๆ ที่นี่ผมซื้อไว้หลายปีแล้ว มักจะใช้เพื่อหลบความวุ่นวายมาอ่านหนังสือ หรือชมวิวกลางคืนแบบนี้ ถ้าผมมานี่เป็นอันรู้กันว่าผมจะไม่กลับไปนอนบ้าน...


หลี่อี้เฟิงดาราดังก้มหน้าก้มตาเพื่อหลบสายตาคนอื่นด้วยความเคยชินของเค้า เดินตามผมมาจนถึงห้อง พอเข้าไปเห็นวิวเท่านั้นแหละ เค้าถึงกับอึ้ง เดินนำผมไปที่ริมหน้าต่างบานใหญ่ จริงๆไม่ควรเรียกหน้าต่างครับ มันคือผนังห้องที่ทำด้วยกระจกแข็งทั้งแถบ เพื่อให้มองเห็นวิวได้อย่างเต็มตา...



"โหหหห สวยมาก สวยมากจริงๆ ขนาดผมไปถ่ายหนังมาตั้งหลายที่ยังไม่เคยเห็นวิวสวยขนาดนี้เลยนะ"


เค้าพูดไปยืนมองวิวไปที่หน้าผนังกระจกนั่น ผมยังไม่ทันได้เปิดไฟเลย เพราะแสงไฟจากด้านนอกสาดเข้ามายังห้องด้านในทำให้เห็นทุกอย่างได้ ผมจึงเดินไปกอดเค้าจากด้านหลัง...

"คุณชอบมั้ยล่ะ???"

"ชอบสิ ชอบมากด้วย อืม...ได้ยืนมองทุกอย่างตรงหน้า เหมือนปัญหาผมมันเล็กนิดเดียว ข้างนอกนั่นมีอะไรอีกตั้งเยอะ บางทีนะ ผมก็อยากเป็นคนธรรมดาแบบหมอ ไม่ต้องถูกคาดหวัง ไม่ต้องคิดอะไร อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ บางทีผมก็เหนื่อยเหมือนกัน"

คนตรงหน้าดูเหนื่อยล้า ผมเลยยิ่งกอดกระชับเค้าแน่นขึ้น

"งั้นคุณก็ไม่ต้องเป็นดาราไม่ได้เหรอ ผมจะได้เจอคุณง่ายขึ้น ไม่ต้องหาทางหลบผจก.หรือทำอะไรแบบนี้"

"เห็นมั้ย ผมเอาปัญหามาให้หมอจริงๆ หมอยังคิดจะคบผมอีกเหรอ"

ผมหอมแก้มเค้าไปทีนึงแล้วจับไหล่เค้าให้หันหน้ามามองที่ผม

"ผมบอกแล้วไง คุณดึงดูดผมด้วยเรียวปากนี้ ผมไม่สามารถไปไหนได้จริงๆ"

ผมจึงค่อยๆก้มลงเอาปากไปบรรจงประกบปากอวบอิ่มตรงหน้าจนพอใจ จึงถอนปากออกมาแล้วพูด

"คุณมาเป็นคุณนายเฉิน แล้วอยู่ที่นี่มั้ยล่ะ ถ้าคุณชอบ"

เค้าตีที่ต้นแขนผมเต็มแรง...

"หมอ...พูดอะไรหน่ะ!!!"

"เอ้า!!!ก็ถ้าคุณไม่อยากทำงาน คุณมาอยู่นี่ได้นะ มาอยู่กับผม ผมจะดูแลคุณเอง ผมรวยนะจะบอกให้"

"หมอจะบ้าเหรอ ผมจะไม่ทำงานได้ยังไง แล้วอีกอย่าง ผมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาเกาะสามีเป็นแม่บ้านนะ"

"ฮั่นแน่!!! พูดแบบนี้แสดงว่าอยากได้ผมเป็นสามีแล้วล่ะสิ 555"

ผมหัวเราะพร้อมกับดึงเค้ามากอดไว้แนบอก 

"ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ผมบอกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยังไงต่อไปก็ตาม ผมจะเผชิญปัญหาเหล่านั้นไปด้วยกันกับคุณ"

ว่าแล้วผมก็นั่งคุกเข่าลง จับมือเค้าไว้แล้วมองหน้าที่กำลังงงๆ

"คุณหลี่อี้เฟิง คุณจะแต่งงานกับผม เฉินเหว่ยถิงได้มั้ยครับ"

"หมอออออออออ...คุณทำอะไรหน่ะ"

ผมไม่รอช้า ดึงเค้าเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว แรงที่โถมเข้ามาทำให้เค้าล้มลงนอนทับลงบนตัวผมพอดี...เค้ายันตัวจะลุกขึ้น

"หมอเจ็บมั้ย ผมขอโทษ...หนักหรือเปล่าเนี่ยะ"

"โอ๊ยๆๆๆ ดาราอะไรเนี่ยะ คุมอาหารบ้างมั้ย ทำไมตัวหนักแบบนี้"

ยังไม่ทันไร เค้าเอามือตีแขนผมอีกแล้ว

ผมเลยได้ทีจับเค้าพลิกลงนอนแล้วผมก็ตะแคงอยู่ข้างตัวเค้า


"ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ล้อเล่น ผมต้องการคุณ ผมรักคุณ จริงๆนะ อี้เฟิง"

"หมอ...แต่...แต่ว่า ผมเป็นผู้ชายนะ"


ผมพูดไปมือนึงเท้าที่หัว อีกมือหนึ่งเอานิ้วลากไปตามปากเค้า

"แล้วยังไง ผมก็เป็นผู้ชาย...คุณยังบอกว่าชอบผมเลยใช่มั้ยล่ะ???"

"ก็ผม...ผมชอบหมอจริงๆนี่นา ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น แต่..."

"คุณไม่ต้องคิดอะไรหรอก ทำใจให้สบาย รู้แค่ว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว โอเคมั้ย"

"อ่ะ...อืม" แล้วผมก็ค่อยๆเอามือละจากปากด้านบน เริ่มมาแกะกระดุมเสื้อเค้าทีละเม็ด จนกระทั่งเม็ดที่สาม ผมเอามือแหวกให้เป็นช่องทางที่ผมจะเอามือสอดเข้าไปด้านในได้ เพื่อสัมผัสเค้ามากขึ้น ตลอดเวลานั้นคนตรงหน้าหันมามองผม ตอนแรกเค้าก็ดูลังเลใจ แต่พอผมเริ่มเอามือเข้าไป เค้าเอามือตัวเองมาแกะกระดุมเสื้อที่เหลือเผยให้เห็นเนื้อด้านในที่ขาวผ่องไปทั่ว ต้องแสงไฟดูเย้ายวนใจมากขึ้นไปอีก...

ในขณะที่ผมกำลังเอามือลูบไล้ผิวขาวละเอียดนั่นอย่างเบามือ เค้าก็เอาสองมือมาคล้องที่คอผมให้โน้มต่ำลงมาจนเกือบติด...

"ผมพร้อมแล้ว หมอบอกผมแล้วกันนะว่าต้องทำยังไง!!!"

"คุณนี่ช่างเป็นคนไข้ที่เหมือนจะอ่อยผมได้น่ารักตลอดตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันจริงๆ"

หลังจากนั้นผมก็เริ่มลุกล้ำสัมผัสทุกส่วนสัดของคนตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ผิวเค้าช่างเนียนละเอียดและให้สัมผัสเหมือนผิวหญิงสาว ส่วนล่างที่เริ่มตอบรับผมมากขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกว่าพร้อมแล้วที่จะให้ผมเข้าไปชื่นชม...

แสงไฟสาดเข้ามาสลัวๆ พื้นพรมสีเทาด้านล่างที่กำลังรองรับสองร่างที่แนบชิด....

ผมแทบไม่เคยคิดเลยว่าที่นี่จะกลายเป็นหลุมหลบภัยที่เริ่มต้นความรักและเรื่องหลายๆอย่างที่ชีวิตหมอฟันผู้เคร่งเครียดกับการทำงานจะต้องพบเจอต่อไป...


                      ...โปรดติดตามตอนต่อไป...

































                 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น