ดินแดนเหนือฟ้า ใต้หล้านี้เพื่อเธอ
…The land before time…
“ไม่ว่าเวลาหรือสายน้ำ
ย่อมไม่ไหลย้อนกลับ ชีวิตมนุษย์ก็เช่นกัน”
บทที่ 8 มีดเหอปิง
ณ
ห้องโถงดินแดนเยว่
องค์ราชาแห่งดินแดนเยว่
ค่อนข้างมีอายุมาก เกือบ 70 ปีแล้ว ท่านปกครองดินแดนเยว่มาช้านาน สุขภาพร่างกายจึงไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่
เมื่อได้มาแต่งงานกับองค์ราชินีที่เด็กกว่าเป็นสิบปี ทำให้เกิดข้อติฉินนินทามากมาย
เมื่อก่อนนี้องค์ราชาก็ยังใส่ใจต่อคำกล่าวว่าร้ายเหล่านั้นอยู่บ้าง แต่ช่วงหลัง
เมื่ออายุมากขึ้น หลายๆอย่างในชิวิตทำให้เรียนรู้ว่า
ความทะเยอทะยานหรือความอยากที่จะครอบครองดินแดนทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่ฝุ่นควัน
เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่มีอะไร มีเพียงองค์ราชินีที่จงรักภักดีและดูแลทุกสิ่งภายในวังได้ดีมาตลอดไม่เว้นแม้แต่ตัวของเขาเอง
เขาจึงปลงมากขึ้น ไม่ใส่ใจคำคนอื่น รวมทั้งไม่อยากบังคับเฟิงเยว่อีกต่อไปแล้ว และยิ่งตอนนี้เมื่อหมอหลวงบอกว่า
เขาอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน เขาก็ยิ่งอยากเห็นเฟิงเยว่มีแต่ความสุข
แต่ทำไมเฟิงเยว่ถึงไม่ยอมรวมดินแดนโดยการแต่งงาน เขานั้นยังไม่กระจ่าง เพียงแค่
ไม่อยากเห็นการเข่นฆ่าอีกต่อไป
เช้านี้องค์ราชาฟงแห่งดินแดนเยว่ต้องแปลกใจ เมื่อผู้ที่มาเฝ้าตรงหน้าไม่เพียงแต่องค์ชายเฟิงเยว่
ลูกของเขาเท่านั้น หากแต่มีองค์ชายถิงยื่อ จากดินแดนยื่อด้วย เขาจึงเอ่ยถาม
“ไม่ทราบว่าองค์ชายมาตั้งแต่เมื่อใด
มิได้จัดการต้อนรับ ลุงต้องขอโทษเจ้าด้วยเป็นอย่างมาก
ไม่ทราบว่าน้องเซียะสบายดีหรือไม่”
“เรียนท่านลุง ท่านพ่อสบายดี ท่านฝากความระลึกถึงมาถึงท่านด้วย
ที่ข้ามาในวันนี้เป็นการภายในและไม่ได้แจ้งให้ใครทราบ ข้าเพียงแต่มีเรื่องอยากจะเรียนต่อหน้าท่าน
และทำความตกลงในฐานะผู้ที่กำลังจะขึ้นครองดินแดนยื่อให้ท่านได้คิดและตัดสินใจ”
ถิงถิงเอ่ยทุกคำอย่างหนักแน่น วันนี้เขาสุขุมมากอย่างไม่น่าเชื่อ และดูภูมิฐานในฐานะองค์ชายใหญ่แห่งดินแดนยื่อที่กำลังจะสืบต่ออำนาจอันยิ่งใหญ่เหนือดินแดนอื่นจริงๆ
เฟิงเยว่มองเขาไม่วางตา เพราะภาพตรงหน้ามันช่างทำให้เขายิ่งรักคนๆนี้มากขึ้นไปอีก
“มีสิ่งใดล่ะหลาน เจ้าพูดมาได้เลย
หรือว่าเจ้าจะพูดเรื่องแต่งงานของลูกเฟิง ในเมื่อพ่อเจ้าและข้าตกลงกันแล้ว
ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอันใดนี่นา” องค์ราชาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ตอนนี้น้องเซียงเซียงของเราไม่สามารถแต่งงานกับเฟิงเฟิงได้อีก เนื่องจากนางมีคนรักอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ท่านพ่อก็ทราบเรื่องแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน
เขาคือองค์ชายเทียนอวิ๋น ซึ่งข้าและทุกๆคนก็คงไม่ขัดข้อง เลยจะขอให้ท่านลุง
ยกเลิกการแต่งงานนี้เสีย เพื่อความสุขทั้งชีวิตของน้องข้า
ไม่ทราบว่าท่านเห็นเป็นเช่นไร”
ถิงยื่อเอ่ยถามความเห็นและอธิบายทุกอย่างด้วยความกระจ่าง
“อ้าว ถ้าเป็นเช่นนั้น
ข้าก็คงไปบังคับพวกเจ้าไม่ได้ แต่แบบนี้ ดินแดนเยว่ก็ไม่สามารถจะรวมกับดินแดนยื่อได้
ลุงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่คิดว่า ถ้ารวมกัน มันก็จะดีกับทุกฝ่าย”
องค์ราชารู้สึกเสียดายมากที่ความหวังของเขาต้องดับสิ้นลง
“หาเป็นเช่นนั้นไม่ ขอเรียนท่านลุง เรื่องนี้
ข้าขอยื่นข้อเสนอให้ โดยเป็นสิ่งที่ข้าตัดสินใจเองและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
แต่ในเรื่องนี้ท่านพ่อไม่ทราบ หากแต่ว่าเป็นข้า องค์ชายถิงยื่อเป็นผู้ทำความตกลงกับท่าน
ไม่ทราบท่านจะฟังหรือไม่”
ถิงยื่อให้ข้อเสนอที่เขาคิดมาแล้วว่าจะต้องทำให้ได้
“ยังไงกันล่ะ เจ้าลองว่ามาสิ ข้าจะลองฟังก่อน”
องค์ราชาย้อนถาม
“ข้าถิงยื่อ
พร้อมที่จะรับเฟิงเฟิงเข้าไปปกครองดินแดนร่วมกัน เราจะมีอำนาจเท่าเทียม
และรวมดินแดนใหม่ที่ชื่อว่าดินแดนยื่ออ้ายเยว่
ไม่ทราบว่าท่านเห็นเป็นเช่นไร
แต่ข้าขอบอกท่านไว้ก่อนเลยว่า การตัดสินใจของท่านมีผลกับคนทั้งแผ่นดิน
เพราะไม่ว่าอย่างไร เมื่อข้าได้ขึ้นครองราชย์ แม้นว่าท่านไม่ตกลง
ข้าก็จะทำให้เกิดดินแดนใหม่นี้ แม้จะต้องใช้การรบก็ตาม และเหนืออื่นใด
ข้าต้องการให้เฟิงเฟิงไปอยู่ที่วังใหม่กับข้า
ซึ่งข้าจะสร้างเพื่อปกครองดินแดนนี้ร่วมกัน
พูดง่ายๆว่า ถ้าท่านลุงไม่ยอม
อีกสามเดือนข้างหน้า ท่านเตรียมตัวรับศึกจากข้าได้เลย”
ถิงยื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงแสดงอำนาจ เขาคิดเช่นนั้นจริงๆ
เขาจะเอาเฟิงเฟิงมาเป็นของเขาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เขาก็คิดนะ
ทำแบบนี้องค์ราชาคงไม่ปลื้มเขาเท่าไหร่นัก
พอจบประโยคเฟิงเยว่หันหน้าไปมองถิงถิงของเขา
ที่ยังคงนิ่ง และดูเหมือนว่าจะเขาจะเตรียมการมาพร้อม
นี่เขากล้าขู่ท่านพ่อเลยเหรอเนี่ยะ!!!
“หลานถิงยื่อ เจ้าใจเย็นก่อน
ถ้าถึงขนาดจะต้องรบกัน ใยข้าจะอยากให้เกิด
ข้ารู้ว่าดินแดนเยว่นั้น
ไม่สามารถจะสู้กำลังของเจ้าได้อยู่แล้ว
ข้าไม่อยากให้ประชาชนของข้าต้องลำบาก แต่ว่าการรวมดินแดนก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
เหตุใดเจ้าจึงอยากให้เฟิงเฟิงของข้าไปปกครองกับเจ้าล่ะ”
องค์ราชาไม่ได้อยากสู้รบอยู่แล้ว
แต่เขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจในเป้าหมายขององค์ชายถิงยื่อนัก
“เอาเป็นว่า ข้าอยากดูแลเฟิงเฟิง
และอยากให้เฟิงเฟิงมาเป็นคู่คิดในการปกครองดินแดนใหม่นี้ร่วมกับข้า ไม่ทราบว่าท่านลุงจะขัดข้องหรือไม่”
ถิงยื่อยังคงยืนยันคำเดิม
“ลุงก็แก่แล้ว คงอยู่ได้อีกไม่นาน มีคนมาดูแลและให้อำนาจ รวมทั้งทำให้ดินแดนและคนของลุงเป็นสุข
ลุงก็ย่อมยินดี แต่ลุงก็ต้องถามความคิดของลูกเฟิงก่อนว่าเขาเห็นเป็นเช่นไร
เฟิงเฟิงเ จ้าว่าไงล่ะ เจ้าทะเลาะกับพ่อมาหลายวันเพราะเรื่องนี้
หรือเจ้าก็รู้เรื่องดินแดนใหม่นี้”
จริงๆองค์ราชาก็ยังไม่เข้าใจเท่าใดนัก
เขารู้เพียงว่าไม่ว่าจะคิดในแง่ไหน นี่ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น
แต่เขาก็ต้องถามความเห็นเฟิงเยว่ด้วย
“เปล่านะ ท่านพ่อ ข้าไม่รู้มาก่อนจริงๆ
ข้ารู้เพียงว่า ถ้านั่นทำให้ท่านพ่อและทุกคนสบายใจ
ข้าก็จะทำ และอีกอย่าง
ข้าก็เชื่อว่าถิงถิงสามารถดูแลประชาชนของเราได้
เขาแข็งแกร่งและเก่งมาก
ข้ายอมรับทั้งตัวและหัวใจ”
พูดเสร็จเขาก็มองหน้าลิงยักษ์ตรงหน้าและนึกขำ
นี่เหมือนเขาจะมาสู่ขอข้าเลยนะเนี่ยะ
แต่เขาก็รู้สึกดีมากที่ท่านพ่อเห็นด้วยในวิธีการนี้
องค์ราชาเห็นสายตาที่สองคนมองกันแล้วรู้สึกว่า
ไม่มีอะไรไม่ดี ดูทั้งสองคนนี้จะผูกพันลึกซึ้งมากกว่าที่เขาคิด
แต่เอาเถอะไม่ว่าจะอย่างไร
ก็ดีต่อทั้งสองดินแดน เขาจึงตกลงและบอกให้ถิงยื่อจัดการตามนั้นเมื่อได้ครองบัลลังก์แล้ว
หลังจากนั้นจึงบอกว่าให้องค์ราชินีจัดห้องรับรองให้กับถิงยื่อ
หากแต่ถิงยื่อปฎิเสธและยืนกรานว่าจะพักกับเฟิงเยว่ในห้องแห่งจันทราอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อทำอะไรไม่ได้ คืนนี้ลิงยักษ์ก็ได้มาครอบครองที่เตียงของเฟิงเยว่อีกคืนซึ่งเขาชอบมาก
ห้องแห่งจันทรานี้มีมนต์ขลัง...เพิ่มพลังลึกล้ำในจิตใจ...ถิงยื่อบ่นพึมพำ เขารู้สึกแบบนี้จริงๆเมื่ออยู่ในห้องนี้
ตอนนี้ลิงยักษ์นอนเล่นสบายอยู่บนเตียง ในขณะที่เฟิงเยว่กำลังจะไปอาบน้ำ เขาจึงบอกว่า
"ถิงถิง เจ้ารออยู่นี่นะ ข้าจะไปอาบน้ำและเตรียมน้ำอาบเอาไว้ให้เจ้า นอนเล่นไปก่อนก็แล้วกัน
คนอะไร บอกมาได้ ไม่อยู่ห้องอื่น จะอยู่ห้องนี้ แล้วก็มาแย่งเตียงนอนคนอื่นเค้า ตัวเจ้าก็ใหญ่จะแย่" คนตาสีฟ้าหันมาทำตาเขียวใส่
ลิงยักษ์รู้สึกสนุกและเป็นสุขที่ได้อยู่แบบนี้ แต่แล้ว เขาก็คิดแผนใหม่ได้ เขาลุกขึ้น กระโดดอย่างเร็วไปที่ตัวของเฟิงเยว่ และกอดจากด้านหลัง
"เฟิงเฟิง ให้ข้าไปอาบน้ำด้วยนะ เจ้าจะได้ไม่ต้องเตรียมน้ำอาบใหม่หลายรอบ ข้าอยากอาบน้ำกับเจ้า นะๆๆๆ" ลิงยักษ์อ้อนและเขย่าร่างอีกฝ่ายเบาๆ
"อะไรนะ!!! เจ้าจะไปอาบน้ำกับข้า ทะลึ่งอีกแล้วนะ" เฟิงเยว่ตกใจร้องขึ้น
"น้าๆๆเฟิงเฟิง ไม่มีใครว่าอะไรหรอก องค์ชายถิงยื่อจะอาบน้ำด้วย ถ้าเจ้าไม่สั่งคนให้เตรียมน้ำอาบด้วยกัน ข้าจะไปฟ้องท่านน้านะ" ถิงยื่อเอาองค์ราชินีมาขู่ เพราะก่อนจะออกไป นางสั่งเขาเอาไว้ว่าถ้าต้องการอะไรอีกก็บอกได้เลย
"เจ้านี่มัน....เอาแต่ใจจริงๆเลยนะ ลิงยักษ์บ้า" เฟิงเยว่ขัดไม่ได้ เพราะไม่ว่ายังไง แม่เขาก็ต้องทำตาม ท่านแม่นี่ก็แปลก ดูจะเอาใจเจ้าลิงยักษ์และชอบเขามากซะด้วย
หลังจากนั้นถิงยื่อไม่รอช้า ลงอาบในถังน้ำใบใหญ่ด้วยร่างเปลือยเปล่าพร้อมกับเฟิงเยว่ เขารู้สึกว่าน้ำอุ่นกำลังดี ช่วยให้เขาสบายและกล้ามเนื้อผ่อนคลายมาก ที่สำคัญ แมวน้อยน่าหงิกตรงหน้า มันช่างเป็นความสุขเสียนี่กระไร
"เฟิงเฟิง ถูหลังให้ข้าหน้อยสิ นะๆๆ ที่รักของข้า" พูดเสร็จก็ก้มลงหอมแก้มสีชมพูระเรื่อของเฟิงเยว่
ตอนนี้น้ำอุ่นทำให้เขาร้อน หรือว่าเขาเขินลิงยักษ์นี่จนร้อนไปหมดก็ไม่รู้นะ
"เจ้าก็ถูเองสิ มือก็มี ใหญ่อีกต่างหาก ดูสิ มาถึงบ้านเค้า มานอนห้องเค้า ยังจะมาใช้เค้าอีกนะ" เฟิงเยว่ตัดพ้อด้วยความเขินอาย
"เฟิงเฟิง เจ้าจะทำดีๆหรือต้องให้ข้าบังคับและทำโทษ โทษฐานขัดคำสั่งข้า อ้อ!!!ต่อไป เมื่อรวมดินแดนแล้ว เจ้าห้ามขัดคำสั่งข้า ข้าบอกไว้เลยนะ มาลองซ้อมดูก่อน" เขาเอ่ยบอกแกล้งคนตรงหน้า นี่มันสนุกจริงๆนะ
"อะไรของเจ้าเนี่ยะ!!!" ว่าแล้วก็บ่นกระปอดกระแปด แต่มือก็ต้องเอาใยบวบมาถูที่หลังให้ลิงยักษ์ที่หันไปแต่โดยดี พร้อมกับเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
"ถิงถิง เจ้าจะทำแบบที่บอกท่านพ่อจริงๆเหรอ จะรวมดินแดนจริงๆเหรอ เจ้าไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย"
"ข้าอยากทำแบบนี้ ข้าอยากให้เจ้าอยู่กับข้าอย่างเปิดเผย เราปกครองดินแดนด้วยกัน ไม่ต้องกลัวใคร เจ้าเข้าใจมั้ย ข้ารักเจ้า ข้าบอกแล้วว่าข้าจะอยู่กับเจ้า ข้าให้สัญญา"
พูดถึงตรงนี้ เฟิงเยว่รู้สึกว่าข้างในเขามีพลังบางอย่างไหลเวียนและเรียกร้องอีกแล้ว เขาจึงเอาปากจูบที่แผ่นหลังคนตรงหน้าไปหนึ่งที แล้วใช้น้ำสะอาดลูบไล้ไปทั่วหลัง สลับกับใช้ปากจูบไปเรื่อยๆ
"เฟิงเฟิง เจ้า...เจ้ายั่วข้าอีกแล้วนะ ข้าให้เจ้าถูหลัง นี่เจ้าจะทำอะไร" เขารู้สึกเย็นวาบที่หลังเมื่อเฟิงเยว่เอาปากมาจูบและเอามือมาลูบไล้เขาจึงหันกลับไปประจันหน้า
แล้วจับข้อมือทั้งสองของอีกฝ่ายชูขึ้นเหนือหัว เผยให้เห็นหน้าอกที่ขาวนวลและดูเหมือนจะอูมนูนขึ้นทุกวัน หลังจากนั้นจึงเอามือของอีกฝ่ายพาดมาที่ไหล่ของตัวและเอามือบีบคลึงที่หน้าอกตรงหน้า พร้อมกับก้มลงจูบและดูดที่ยอดเนินสีชมพูนั่นอย่างเป็นสุข
เฟิงเฟิง ซึ่งตอนนี้แทบจะละลายไปกับน้ำอุ่นแล้ว เริ่มซุกหน้าไปที่แก้มลิงยักษ์ตรงหน้าแล้วพูดด้วยเสียงกระซิบว่า
"ถิงถิง ข้าก็ถูหลังให้เจ้าไง ข้าก็รักเจ้า ข้าจะทำทุกอย่างให้เจ้ามีความสุข เจ้าเชื่อข้ามั้ย อยากให้ข้าถูหลังให้อีกมั้ยล่ะ"
ตอนนี้ลิงยักษ์แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว เฟิงเฟิงของเขาเร่าร้อนและต้องการตลอดเวลา แถมตอนนี้ทรวดทรงองค์เอว ดูจะยั่วยวนมากขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังแฝงความแข็งแกร่งและเย็นเฉียบแบบที่เขาชอบ ไม่รู้สิ มันมีเสน่ห์จนห้ามใจที่จะพุ่งเข้าใส่ไม่ได้ทุกครั้งไป เจ้าแมวน้อยนี้ทำไมถึงได้น่าฟัดแบบนี้นะ เขาจะขย้ำไม่ให้ได้หายใจเลยคอยดู
เสร็จแล้วทั้งคู่ก็คลอเคลียกันอยู่ในน้ำไม่หยุด น้ำในถังหกกระเฉาะออกมาเป็นระยะๆราวกับมีคลื่นน้อยๆถาโถมเข้าใส่กัน ตอนนี้ถิงถิงอุ้มเฟิงเยว่ขึ้น ก้าวขาออกมาจากถังใบใหญ่ ที่อยู่ในส่วนด้านหลังของห้องแห่งจันทราตรงมาที่เตียงนอน
เฟิงเยว่นอนเหมือนแมวน้อยเปียกน้ำที่หมดแรง แต่ทว่ายังคงอวบอัดไปทุกสัดส่วน ถิงถิงเพ่งมองไม่วางตา ให้ตายเหอะ ยิ่งเปียกน้ำยิ่งยั่วเย้าเขา ร่างกายตรงหน้าดูวิบวับในความคิดเขา มีผ้าบางๆห่อหุ้มร่างนั่นไว้ เขาจึงบอกออกไปเบาๆว่า
"ต่อไปข้าจะเช็ดตัวให้เจ้าล่ะนะ เฟิงเฟิงของข้า"
ถิงยื่อเอาผ้าออก ใช้ปากและลิ้น จูบและดูด เหมือนจะซับน้ำไปทั่วทั้งร่างไม่หยุด แมวน้อยยังคงส่งเสียงอืม สลับครางด้วยความพอใจเป็นระยะ ยิ่งถิงถิงของเขาไล่ลงไปต่ำเท่าไหร่ เสียงครางยิ่งถี่และดังขึ้น เมื่อถิงถิงมาหยุดแถวท้องน้อยของเขา พลังความร้อนยิ่งทวีความรุนแรง จนเขาต้องเอามือขยี้ที่หัวลิงยักษ์ตรงหน้า พร้อมกับเสียงร้อง
"อ่าาา ถิงถิง เจ้า...เจ้า...ข้าจะเป็นของเจ้าตลอดไป" สิ้นเสียงนั้น แมวน้อยอ่อนปวกเปียกไปทั้งร่าง แต่ทว่าลิงยักษ์ยังไม่หยุด คราวนี้เขาไล่ขึ้นจูบที่ปาก พร้อมกับแผ่ความร้อนไปยังด้านล่างเป็นจังหวะที่เร็วและรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ เขาไม่สามารถหยุดทุกอย่างได้แล้ว ตอนนี้ในอกเขาเหมือนพร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ เขาจึงบอกว่า
"เฟิงเฟิง ข้ารักเจ้าๆๆ" เขาพูดได้แค่นี้จริงๆ ตอนนี้จังหวะของการเรียกร้องของทั้งคู่เร่งเร้าขึ้นอีกครั้ง แล้วค่อยๆช้าลง จนกระทั่งสงบนิ่ง...ค่ำคืนอันหอมหวานของทั้งคู่ใกล้จะผ่านไปอีกแล้ว แต่ถิงยื่อไม่อยากให้เช้าเลย เขาอยากให้แมวน้อยนี่ยั่วเขาและต้องการเขาไม่หยุดตลอดเวลาแบบนี้ เขาเองก็มีพลังที่ไม่เคยมอดไหม้ เมื่ออยู่กับคนข้างๆนี้เช่นเดียวกัน...
แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนอยู่ที่ด้านนอกห้อง เขาจึงไม่รอช้า ห่มผ้าให้เฟิงเยว่และใส่เสื้อคลุมทันที พอเปิดประตูออกมาก็ไม่พบใคร แต่เหมือนเห็นเงาวูบๆไปตามทางเดิน เขาเลยเดินสำรวจออกมาอีกหน่อย
ตอนนี้ภายในวังเยว่ยังเงียบเชียบอยู่ มีเพียงเสียงทหารองครักษ์และนางกำนัลที่เข้าเวรเท่านั้น แต่เมื่อเขาเดินต่อไปอีกหน่อย เขาจึงได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง
"อ้อ องค์ชายถิงยื่อ ท่านต้องการสิ่งใด มีอะไรให้น้าช่วยมั้ยจ๊ะ" เสียงหวานๆจากหญิงวัยกลางคน แต่ทว่าใบหน้ายังอ่อนเยาว์น่ารักเอ่ยถามอย่างเอ็นดู ถิงถิงจึงหันไปตอบ
"หามิได้ท่านน้า พอดีหลานอยากได้น้ำร้อนไปชงชา หลานรู้สึกกระหายและหนาวนิดหน่อยเท่านั้น"
"อืม ข้าก็ว่าห้องลูกเฟิงหน่ะมีพลังเย็นจากพระจันทร์ เจ้าก็ยังอยากจะอยู่ เอาล่ะๆ เดี๋ยวข้าจะให้เด็กๆเอาไปให้เจ้านะ ว่าแต่ข้ามีอะไรจะถามเจ้าพอดี เจ้าพอจะมีเวลาคุยกับน้าสักหน่อยมั้ย ไป เราเดินไปด้วยกันจะได้ไม่เสียเวลา" องค์ราชินีชวนคุยเล่นไปจนถึงหน้าห้องแห่งจันทรา
องค์ราชินีนึกชมชอบองค์ชายถิงยื่ออยู่แล้ว แค่มองตาเฟิงเฟิงทีเดียวก็รู้ว่าสองคนนี้เป็นยังไง
คนเป็นแม่มีรึจะดูไม่ออก นางไม่รู้สึกแปลกอะไร ตรงข้ามกลับชอบถิงยื่อซะด้วยซ้ำ
และคิดว่าคงดูแลเฟิงเฟิงของนางได้เป็นอย่างดี นางจึงเอ่ยถามประโยคที่ตรงจุด เมื่อทั้งสองมาหยุดยืนหน้าห้อง
"องค์ชายถิงยื่อเจ้ารักลูกเฟิงของน้าใช่มั้ย?"
คราวนี้ถิงถิงถึงกับชะงัก แต่แล้วก็หันไปตอบอย่างหนักแน่นว่า
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้ารักเฟิงเฟิงและขอดูแลเขาตลอดไป
ท่านน้า ท่านไม่ต้องเป็นห่วง"
ฉับพลันก็ปรากฎเงาของคนที่รวดเร็วมากมาจากทางด้านหลังเขารู้สึกถึงพลังเย็นวาบได้
องค์ราชินีเห็นเมื่อเงานั้นโผล่มาใกล้มากและกำลังจะแทงด้านหลังของถิงยื่อ นางจึงผลักเขาหลบและรับมีดนั้นเอง ทันใด ร่างส่วนท้องที่ถูกมีดแทง กลายเป็นน้ำแข็งทันทีและแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ นางร้องเสียงดังขึ้นมา
รวดเร็วเช่นเดียวกัน เฟิงเยว่เปิดประตูห้องออกมาประจันหน้ากับเงานั่นที่กำลังจะหลบหนี จึงถูกมีดแทงแฉลบมาที่ท้อง เขาทรุดลงแต่ยังเป็นห่วงแม่ของเขา
จึงรีบคลานเข้าไปดู ถิงยื่อตามเงานั่นไปได้ไม่ไกลนัก มันหายตัวไปทางไหนแล้วไม่รู้ แต่เขาเป็นห่วงสองคนที่เป็นคนสำคัญของเขาเท่าชีวิต จึงกลับไปดู
"ท่านแม่ๆ ท่านเป็นยังไง ท่านแม่ ท่านตอบข้าสิ ท่านพูดกับข้าสิ" ตอนนี้เขาไม่อายใคร น้ำตาไหลอาบไปทั่วใบหน้า
องค์ราชินีหายใจแผ่วเบา แต่กลั้นใจจับมือเฟิงเยว่และถิงยื่อมาไว้ด้วยกันพร้อมกับพูดว่า
"ถิงยื่อ น้าฝากด้วยนะ เฟิงเฟิง ดูแลตัวเองนะลูก แม่รักเจ้า" พอขาดคำ น้ำแข็งที่ร่างก็ลามไปทั่ว จนองค์ราชินีหลายเป็นน้ำแข็ง นางกำนัลเข้ามาเห็นแระกรีดร้อง ทหารถึงเพิ่งจะเข้ามา
แต่ตอนนี้เฟิงเยว่แทบสิ้นสติ แม่เขาๆๆ แม่เขาตายแล้ว เขายังคงร้องไห้และเอามือกุมท้องส่วนที่มีน้ำแข็งเกาะ
"ถิงถิงๆๆ ท่านแม่ๆๆ โอ้ย!!!ข้าปวด ปวดท้องจังเลย" ถิงยื่อเห็นหน้าเฟิงเฟิงซีดมาก เขาคิดอะไรไม่ออก ทำไงดี มีเพียงคนเดียวที่จะช่วยได้ ใช่!!! แม่เฒ่าตงสุ่ย
เขาจึงหันไปออกคำสั่งทหาร
"เจ้าไปบอกองค์ราชา มีคนร้ายเข้ามา...รักษาร่างองค์ราชินีด้วย และบอกท่านลุงว่าเฟิงเฟิงบาดเจ็บข้าจะพาเขาไปหาแม่เฒ่าเพื่อรักษา เข้าใจมั้ย" ทหารรับคำสั่ง เขาจึงรีบเรียกเจ้าเอ้อมาและพาเฟิงเยว่ไปหาแม่เฒ่าทันที
ระหว่างทางเฟิงเยว่ยังคงกุมท้องเอาไว้แล้วเอาแต่ร้องว่า "ข้าปวด ปวดเหลือเกิน ถิงถิง ช่วยข้าด้วยๆ"
ตอนนี้ถิงยื่อรู้สึกใจไม่ดีเลย เมื่อมาถึงหมู่บ้าน แม่เฒ่าก็ออกมาเปิดประตูรับด้วยความตกใจ
เขาอุ้มเฟิงเยว่ที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วเข้าไปให้แม่เฒ่าตรวจอาการ
เมื่อตรวจดูอาการ นางก็ส่ายหัว พร้อมกับพูดว่า "องค์ชาย พิษจากมีดน้ำแข็งเหอปิงได้ทำลายเขาแล้ว ทายาทท่านถูกทำลายแล้ว"
"ฮะ!!!อะไรนะ!!! ท่านว่าอะไรนะแม่เฒ่า" ตอนนี้เขางงมาก อะไรทายาท
อะไรคือมีดน้ำแข็งเหอปิง
"ใช่ท่านฟังไม่ผิดหรอก ก่อนนี้พลังจากไข่มุกที่หลอมรวมกับร่างกายขององค์ชายเฟิงเยว่ เมื่อรวมกับท่าน ได้ก่อตัวขึ้นเป็นทารกน้อย แต่ว่าตอนนี้ข้าไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้แล้ว...แต่ข้าจะพยายามยื้ออีกชีวิตนี้ให้ได้แล้วกันนะ"
เฟิงเฟิงของเขาจะต้องไม่เป็นอะไร แล้วเงาที่รวดเร็วนั่นเป็นใคร ต้องการอะไร มันฆ่าลูกของเขา เขาจะต้องให้มันชดใช้อย่างสาสม...
โปรดติดตามตอนต่อไป......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น