วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Gifted School...โรงเรียนนี้ที่ไม่ธรรมดา ตอนที่ 1

"ตามทฤษฎีใหม่ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ได้บอกไว้ว่า 

Love Is a Chemical Reaction...

หรือ ความรักคือปฏิกิริยาทางเคมีอย่างหนึ่ง เหมือนกับว่าถ้าคนสองคนไม่สามารถผสมรวมกันได้ ผลลัพธ์ก็ไม่เกิด แต่ถ้าหากมันลงตัวพอดี...มันก็เกิดปฏิกิริยาได้ ผมเชื่ออย่างนั้น คุณล่ะ เชื่อมั้ย???"

ตอนที่ 1 Oxygen อ๊อกซิเจน

"ผมวิลเลี่ยม...เป็นหัวหน้านักเรียนในโรงเรียนที่มีความพิเศษไม่เหมือนใครแห่งนี้ ผมจะค่อยๆพาพวกคุณชมโรงเรียนไปเรื่อยๆนะครับ ก็ช่วยไม่ได้ ผมอยากจะอวดพวกคุณ 555"

"เอาเลยวิลเลี่ยม ตอนสัมภาษณ์เนี่ยะ พี่ก็อยากให้น้องพูดให้เต็มที่เลยนะ เพราะรายการเราอยากจะเจาะลึกโรงเรียนซาเวียร์แห่งนี้ให้ชาวโลกได้รับรู้"

"ได้สิครับ เอาเป็นว่าพวกพี่ก็ถ่ายไปผมก็จะพูดไปและพาเดินไปด้วยนะ"

วิลเลี่ยม เป็นหัวหน้านักเรียนที่ได้รับการแต่งตั้งจากท่านประธานของโรงเรียน เพื่อคอยเป็นหูเป็นตาดูแลเกี่ยวกับนักเรียนในระหว่างที่ท่านประธานไม่อยู่ เพราะอะไรหน่ะเหรอคะ ก็เพราะเค้าเป็นลูกชายคนเดียวของประธานโรงเรียนนั่นเอง 555 

วันนี้มีรายการทีวีมาสัมภาษณ์ วิลเลี่ยมรู้ตัวอยู่แล้วว่าต้องทำหน้าที่นี้  เขาปลื้มใจและรักโรงเรียนแห่งนี้มาก ก็เขาวิ่งเล่นที่นี่มาตั้งแต่เกิดนี่นา 

"งั้นก็ไปทางนี้ก่อนนะครับ อย่างที่พวกคุณทราบ โรงเรียนเรารับเฉพาะเด็กที่อัจฉริยะ และมีความสามารถพิเศษทางด้านต่างๆ แต่วันนี้ผมจะพูดในรายละเอียดให้ฟังก็แล้วกัน มันจะเยอะหน่อย ก็ค่อยๆตามไปนะครับ ไหนๆพวกคุณก็มีเวลาทั้งวัน อีกอย่างช่วงนี้ปิดเทอม เด็กๆก็กลับบ้านกันหมด เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่ ที่ไม่อยากกลับบ้าน ทางโรงเรียนก็เปิดโอกาสให้อยู่ได้ ดีกว่าไปลำบากที่อื่น ดังนั้นสบายเลยครับ โรงเรียนโล่งมากช่วงนี้"

"โอเคจ๊ะ งั้นมาเริ่มกันเลย เอาล่ะ ตากล้อง เริ่มถ่ายไปเรื่อยๆนะ ช่วยไม่ได้หัวหน้านักเรียนออกจะหล่อขนาดนี้ พี่นี่อยากให้เธอมาทำรายการเทปอื่นๆให้ด้วยเลยนะ "

"555 ผมก็พอรู้ครับ ว่าผมหล่อ งั้นเริ่มจากหมู่ผมก่อนละกัน ที่นี่เราแบ่งนักเรียนเป็นหมู่ครับ ตามลักษณะธาตุในร่างกายและความพิเศษของแต่ละคน บ้านแต่ละบ้าน ก็คือหมู่ของธาตุตามตารางธาตุทางเคมีเลยครับ...
แท่มแท้มมมม ยินดีต้องรับสู่บ้านโลหะ ที่นี่ทุกอย่างจะมีส่วนผสมของโลหะ เพราะพวกเราคุ้นเคยกับธาตุที่เป็นแบบเดียวกับสารในร่างกายเรา
ผมเป็นธาตุเหล็ก หรือ Fe ดังนั้นความสามารถของผม จะทำให้ทุกอย่างที่สัมผัสกลายเป็นเหล็กได้ทั้งหมด พี่อยากจะลองสัมผัสความหล่อของผมดูมั้ยล่ะ"

"555 มิน่าล่ะ จริงเหรอเนี่ยะ ว่าแต่ทุกคนในโรงเรียนนี้มีธาตุพิเศษประจำตัวกันหมดเลยเหรอ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าคนไหนธาตุอะไร"

"อ้อ เรามีเครื่องตรวจครับ ไว้ผมจะพาพี่ไปดู  อ้าว!!!คริส นายจะไปไหน แป๊บนึงนะครับพี่ ผมไปทักเพื่อนก่อน อย่างนายนี่อ่ะ เป็นนิเกิล ไม่ไหวหรอกครับ กลวงๆ เหมือนพวกแสตนเลส 555"

วิลเลี่ยมเห็นเพื่อนรักเดินออกมาจึงรีบตรงเข้าไปทัก

"ก็กำลังจะกลับบ้าน แต่พอดีตรงสวนด้านหลัง มีน้องคนนึง ไม่รู้ทำยังไง ล้มมั้ง เลือดออกเต็มแขน แถมเป็นเด็กบ้านก๊าซด้วย ว่าจะมาเอาชุดปฐมพยาบาล เจอนายก็ดี ไปช่วยตรวจหน่อยสิ เกิดเป็นอะไรขึ้นมา ระเหยไปกับอากาศแล้วจะยุ่งนะ"

"บ้า!!! นายก็พูดไปเรื่อย ได้ๆ พี่ครับ ผมต้องไปดูนักเรียนที่บาดเจ็บ พี่จะตามผมมาหรือจะรอตรงนี้ล่ะครับ"

พูดยังไม่ทันจบดี วิลเลี่ยมก็วิ่งนำหน้าไปก่อนเลย...

พอไปถึงสวนด้านหลัง เขาเห็นเด็กผู้ชายคนนึง ร่างกายไม่สูงมากนัก ออกแนวอวบๆนิดๆ แต่ขาวมากทีเดียว สงสัยจังว่ามีก๊าซอะไรในตัวเยอะนะ ถึงได้ขาวขนาดนี้ เด็กคนนั้นจับแขนที่กำลังเลือดอาบและไหลออกมาเรื่อยๆ เขากัดฟันแน่น ท่าทางคงจะเจ็บน่าดู

"ไหน ขอดูหน่อยสิ ทำไมเลือดออกมากขนาดนี้ นายเป็นเด็กธาตุอะไรเนี่ยะ"

เด็กชายพิเศษตัวขาวซีดมากกว่าเก่าไม่พูดอะไร ยังกัดฟันแน่นและกำลังจะลุกขึ้น เลือดยังไหลไม่หยุด

"เอ๊ะ!!! อะไรของนาย ดูสิ ชั้นถามว่านายเป็นเด็กบ้านไหน ธาตุอะไร จะได้รักษาถูก นี่ไม่กลัวเลือดไหลหมดตัวตายหรือไงนะ"

เด็กคนนั้นยังคงไม่ตอบอะไร วิลเลี่ยมเอามือไปจับที่แขน เขาสะบัดแขนออกให้ห่าง แล้วลุกขึ้น แต่เซไปด้านหลังจนถอยหลังล้มลงอีกครั้ง...

วิลเลี่ยมไม่เข้าใจท่าทางหยิ่งยะโสนี้ เขารู้แค่ว่าเขายอมให้เด็กคนนึงมาทำปฏิกิริยาแบบนี้ใส่เขาไม่ได้ ใครกันเนี่ยะ เด็กบ้านไหน ทำไมถึงไม่เชื่อฟังเขาเลยนะ...

เขาจึงไม่รอช้า เอื้อมมือไปโอบที่เอวแล้วยกเด็กคนนั้นขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนทั้งสองข้าง พร้อมกับอุ้มแล้วเดินออกไป

"คริส ชั้นฝากนายดูพวกพี่ที่มาถ่ายทำด้วย ขอเอาตัวเด็กนิสัยแย่นี่ไปทำแผลก่อน"

เด็กคนนั้นยังคงกัดริมฝีปากพร้อมดิ้นไปมา แต่สู้แรงเขาไม่ได้หรอก คอยดูนะ ดื้อแบบนี้มันต้องจัดการให้เข็ด รอให้จัดการแผลเลือดออกที่ไหลจนมาเปรอะเสื้อเขาก่อนเถอะ...

พอมาถึงห้องของเขา เขาก็วางเด็กคนนั้นที่โซฟา พร้อมกับจับแขนมาดูที่แผลเลือดออกที่ยังไหลไม่หยุดนั่น ดูจากแผลและหลายอย่างที่ทำ เด็กคนนี้น่าจะเป็นพวกหมู่ก๊าซอ๊อกซิเจนแน่ๆ พ่อเคยบอกไว้ ที่โรงเรียนมีอยู่แค่ไม่กี่คนที่เป็นก๊าซนี้ เด็กพวกนี้เป็นเด็กพิเศษ ความสามารถของเขาคือ ฆ่าคนตายได้ เพราะเขาสามารถขโมยก๊าซที่เราจะหายใจเข้าไปจนเราไม่สามารถหายใจต่อได้อีก ดังนั้นเด็กกลุ่มนี้จึงไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับอันตรายซะทีเดียว เพียงแต่พ่อก็ยังหาทางแก้ปัญหาให้ไม่ได้...

"เอ๊ะ!!! นายนี่ จะดึงแขนหนีทำไม ดูสิ เลือดไหลใหญ่แล้ว มา ชั้นจะทำแผลให้"

เขาแค่หันหลังไปจะไปหาอุปกรณ์ทำแผลเท่านั้นแหละ เด็กคนนี้ลุกขึ้นเหมือนจะวิ่งไปที่ประตู ผมต้องรีบไปขวางไว้ 

"ถอยไปนะ"

"อ้าว พูดได้เหรอ ชั้นนึกว่านายพูดแล้วก๊าซจะออกหมดตัวซะอีก"

"ชั้นบอกให้ถอยไป"

"อะไรกัน นายนี่ กล้าขึ้นเสียงกับชั้น หัวหน้านักเรียนวิลเลี่ยม"

"ถ้านายไม่อยากตาย ก็ถอยไป"

"ก็เอาสิ นายจะทำอะไรชั้น อยากรู้เหมือนกัน เด็กธาตุอ๊อกซิเจนมันจะสักเท่าไหร่กัน"

"มานี่ เอาแขนนายมา ชั้นจะหยุดเลือดให้"

เขาเกือบลืมไปเลย เขาสามารถแตะสิ่งที่เขาอยากให้มันแข็งเป็นโลหะได้นี่นา เขาเอื้อมมือไปแตะที่แขนและส่งพลังไปเพื่อจะหยุดเลือด แต่คนตรงหน้าไม่ยินยอมแต่โดยดี เขาส่งสายตาเหมือนจะฆ่ามาใส่ผม ผมรู้สึกว่าอากาศที่จะหายใจมันน้อยลงทุกที...

จนกระทั่งผมหายใจไม่ออก...สะลึมสะลือเบลอๆ แต่เห็นเลือดที่แขนของคนตรงหน้าค่อยๆกลายเป็นของเหลวหนืดที่เริ่มแข็งตัว เลือดคงจะใกล้หยุดแล้วสินะ โอ๊ยๆๆ นี่ผมจะตายแล้วเหรอ ผมพยายามสูดหายใจให้เต็มปอด แต่ว่า...ไม่มีอากาศจริงๆ

ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อมีลมอุ่นๆ เข้ามาในปากและจมูกผม ผมรู้สึกได้ว่ามีอากาศผ่านเข้าปอดอีกครั้ง ผมจึงสูดและดูดลมนั่นเต็มที่ แต่สัมผัสที่ได้บ่งบอกว่าเป็นปากใครนุ่มๆที่มีลมปล่อยออกมาด้วย

ผมค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นอีกฝ่ายกำลังปล่อยลมเข้าปากผมพร้อมทั้งดูดริมฝีปากอย่างร้อนรน...

"อื้มมม..."

ผมปล่อยลมอย่างพอใจ เขาจึงตกใจและลุกขึ้นนั่งข้างๆผมที่นอนอยู่

"ขอโทษ"

ผมมองหน้าเค้าเต็มตาอีกครั้ง เมื่อกี้มันวุ่นวายเกินกว่าจะสนใจอะไร ใบหน้านั้นขาวเนียล แก้มใสจนเห็นเส้นเลือด ไม่รู้ว่าเพราะอายหรืออะไร ผมว่าเค้าแก้มแดงมาก ผมยังไม่เปลี่ยนใจที่ต้องสั่งสอนเด็กอ๊อกซิเจนแสนร้ายกาจคนนี้ ที่ทำเอาผมเกือบตาย!!!

"นายทำชั้นเกือบตาย แล้วพูดแค่ขอโทษ"

"ก็ขอโทษ จะให้ทำยังไงล่ะ"

ผมลุกขึ้นพร้อมเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆแก้มแดงๆนั่น 

"ทำอะไรดีล่ะ???"

ฝ่ายตรงข้ามถอยด้วยความตกใจจนไปนั่งแปะลงบนโซฟาอีกครั้ง 

ผมไม่รอช้า นั่งลงที่พื้นแล้วจับแขนสองข้างติดกับโซฟา ไม่ให้คนตรงหน้าลุกไปไหนได้อีก

"นะ...นายจะทำอะไร"

"ก็นายอยากทำชั้นเกือบตาย ชั้นจะเอาคืนบ้าง"

"นายอยากตายอีกหรือไง"

"เด็กคนนี้ ทำไมถึงได้กล้าต่อปากต่อคำกับนักนะ"

"เปล่านะ ก็นายจะมาล็อคไว้แบบนี้ไม่ได้ จะกลับ เลือดก็หยุดแล้ว"

"ไม่ได้ นายต้องอยู่ที่นี่ก่อน แผลยังไม่ทันได้ทำเลย ดูสิเนี่ยะ กลายเป็นโลหะเทาๆเหนียวๆแบบนี้แปะที่แขน มันจะดีได้ยังไงกัน"

"ปล่อยสิ ทำเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง"

เด็กคนนี้ยังคงดิ้นไปมา จนผมเริ่มรำคาญ จะอะไรกันนักกันหนานะ

"ถ้านายไม่หยุดดิ้น ชั้นจะจูบนายเหมือนที่นายจูบชั้นเมื่อกี้"

"อะไรกัน มะ...เมื่อกี้...ผมเปล่า ปล่อยนะ"

เขายังคงดิ้นไปมาและทำท่าจะลุก เหมือนไม่เชื่อว่าผมจะทำจริงๆ ผมจึงอาศัยแรงที่มากกว่าดึงเค้าเข้ามาใกล้และประกบปากอุ่นๆเข้าไปอีกครั้ง ลมหายใจแรงปะทะกัน ตาเค้าโตมากขึ้นจนถลึงตามองผม

"อื้ออออ!!!" 

ผมบดเบียดริมฝีปากไปบนปากนิ่มๆแรงขึ้น ยิ่งจูบก็ดูเหมือนจะยิ่งหวาน ผมค่อยๆโถมตัวกดเค้าไปพิงกับผนังโซฟา อีกฝ่ายดูไม่ต่อต้านเหมือนตอนแรก มันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ ร่างกายเขาดูผ่อนคลายขึ้น และดูจะร้อนขึ้นกว่าเดิม ผมไม่ค่อยเข้าใจมากนัก จึงถอนปากออกมาก่อน มองหน้าเค้า...

"นายชื่ออะไร"

เค้าก้มหน้าลงด้วยแก้มที่ยังคงแดงมาก ตอบด้วยเสียงเบาๆ

"อี้เฟิง"


.......................................โปรดติดตามตอนต่อไป......................