วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

Battle of Love : Against the Devil บทนำ (NC-17)

"พาตัวเข้ามา!!!" 
เสียงคำรามใหญ่ของผู้ที่นั่งอยู่บนซากปรักหักพังของบัลลังก์เก่าแก่กึกก้องไปทั่วห้อง ที่บัดนี้หาไม่เจอว่าสิ่งของที่วางอยู่เดิมเคยเป็นอย่างไร

"อือ อือ"
องค์ชายร่างขาวอวบสว่าง ผู้สืบเชื้อสายแห่งเทพบาเตส ซึ่งมีร่างเป็นคนแต่ศีรษะเป็นแมว ว่ากันว่าดาวดวงนี้เป็นดาวแห่งเทพเจ้าแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ แต่ทว่าบัดนี้เจ้าชายของเขาถูกจองจำด้วยเครื่องพัฒนาการต่างๆ ดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด 

"คุกเข่าสิ ราชาวิลเลี่ยมมองเจ้าอยู่นะ"
ทหารคนสนิทเอาไม้ตีที่ต้นขาของเจ้าชายผู้ไม่ยอมลดตัวเองลงคุกเข่าให้คนหยาบช้าตรงหน้า แต่ด้วยความเจ็บที่พุ่งมาที่ขา ร่างกายจึงทรุดหวบลงโดยอัตโนมัติ เขามองเห็นรอยยิ้มเยาะผ่านผ้าคลุมสีดำนั่นได้เป็นอย่างดี

ผ้าที่พันปากเขาไว้ทำให้เขาไม่สามารถตอบโต้หรือกล่าววาจาใดๆต่อการกระทำทั้งหมดของอีกฝ่ายได้ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านพ่อและท่านแม่เป็นเช่นไร รวมทั้งประชาชนในดาวของเขาจะเหลือจำนวนสักเท่าไหร่

เมื่อเขาคุกเข่าลงอย่างไม่เต็มใจ และพยายามจะลุกขึ้น ทันใดนั้นร่างสูงใหญ่ภายใต้ผ้าคลุมก็เดินลงมาราวกับบินได้ มากดที่ไหล่เขาไว้ พร้อมกับเอามือบีบที่คางอย่างเต็มแรง...

"คิดจะขัดขืนข้า เจ้าอย่าหวังว่าจะรอดชีวิตไปได้ ฮึๆๆ เจ้าชายวาวา ท่านช่างน่ารักสมคำร่ำลือจริงๆ 555"

ราชาวิลเลี่ยมปลดผ้าที่ผูกปากนักโทษออก เผยให้เห็นริมฝีปากบางสีชมพูตรงหน้า ผู้เป็นฝ่ายได้เปรียบย่อมไม่รีรอ บดปากเข้ากับริมฝีปากนั่นอย่างหนักหน่วง...

"อื้อ อื้ออ"

เจ้าชายผู้ถูกใส่กุญแจมือและที่ข้อเท้ามีห่วงโซ่ที่ห้อยลูกตุ้มหนัก ไม่สามารถถอยหนีได้ นอกจากยอมรับจูบนั่นในตอนแรก ทั้งๆที่ไม่เต็มใจ เขาจึงกัดริมฝีปากผู้ได้เปรียบไปอย่างเต็มแรง จนอีกฝ่ายต้องถอนปากออกทันที 

"บัดซบ!!!" ราชาวิลเลี่ยมเอานิ้วโป้งลูบที่ปากตัวเองแล้วพบว่าเลือดไหลซิบติดปลายนิ้วมาด้วย

"ตอนนี้เจ้าคือนักโทษแห่งข้า ยังจะฤทธิ์มากอีกเรอะ"

"ถึงตาย ข้าก็ไม่มีวันยอมแพ้เจ้า"

ราชาวิลเลี่ยมมองร่างกายที่ขาวสว่างแต่เริ่มอ่อนแรงเพราะถูกจองจำมา 1 วันเต็มๆ ไม่วางตา สิ่งที่เขาปรารถนาตอนนี้คือได้จัดการกับร่างตรงหน้านี้ ที่นี่ผิดกับดาวดวงอื่นที่เขาได้ทำลายล้างมา ทุกที่ผู้คน แม้กระทั่งปีศาจและเทพทุกตนจะกลัวเขา ยอมทำตามทุกอย่างที่เขาต้องการ เขาชอบความรุนแรง ชอบให้คนต่อต้าน แต่ทุกที่น่าเบื่อมาก ไม่มีใครเป็นอย่างที่ใจเขาอยากได้เลย จนกระทั่งวันนี้....

"ทหาร มัดไว้ให้ดี อย่าให้หนีรอดไปได้ล่ะ พากลับไปดาวอาเรสของข้า ข้าเก็บกวาดแถวนี้เสร็จ จะตามไป"

ราชาสะบัดผ้าคลุมเพียงครั้งเดียว พื้นที่ด้านข้างราบเป็นหน้ากลองอีกครั้ง...

ในระบบดาวเคราะห์แห่งเทพนี้ ถูกทำลายด้วยราชาแห่งปีศาจที่ชื่อวิลเลี่ยมไปเกือบหมดแล้ว ยังไม่มีใครเอาชนะเขาได้ ตอนนี้ดาวเกือบพันดวง ต่างตกเป็นทาสดาวอาเรส ที่ปกครองโดยผู้ที่มีแต่ความป่าเถื่อน ดุร้าย ปราศจากความปราณีใดๆ...

................................โปรดติดตามตอนแรกได้เร็วๆนี้ค่ะ.......................



วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559

Tough love "นี่หรือคือรัก" ตอนที่ 3


ตอนที่ 3 "First kiss"

...คนอะไรตัวหนักชะมัด เมื่อก่อนไม่เห็นตัวหนักขนาดนี้...มือปืนหนุ่มพึมพำกับตัวเอง 

แต่คนที่อยู่ในอ้อมแขนเขาตอนนี้ เหมือนคนนอนหลับไม่รู้เรื่อง เขาจะรู้มั้ยว่ามีคนคิดถึงมากแค่ไหน???

คอยเฝ้าตาม เฝ้าดูอยู่ห่างๆ มองเห็นความสำเร็จของตัวคนถูกอุ้ม นึกถึงสิ่งที่เคยคุยให้เขาฟังว่าสักวันนึงจะเป็นหมอให้ได้ 

เขาจะรู้มั้ยว่า รุ่นพี่คนนี้เสียสละอนาคต เสียสละทุกอย่างเพียงเพื่อให้อีกคนได้เป็นอย่างที่ฝันไว้...

จนกระทั่งวันนี้วันที่เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขารู้สึกว่าถ้าเขาจะตาย อย่างน้อยก็ขอให้เขาได้เจอหน้ารุ่นน้องคนนี้อีกครั้งหนึ่งก็พอ แต่ตอนนี้เขาควรทำยังไงในเมื่อหมอที่แสนน่ารัก...ความอบอุ่นเดียวในใจเขา ทำไมถึงนิ่งไปแบบนี้

เขาวางหมออี้เฟิงลงบนโซฟาในห้องรอใหญ่ด้านนอกห้องทำแผล...

"โอ๊ย!!! เจ็บชะมัด หมอๆๆ ตื่นสิ เป็นอะไรมากมั้ย"

เขาพยายามเขย่าร่างตรงหน้า เริ่มมีการขยับเขยื้อน...

"พะ...พี่ถิง พี่อย่าทิ้งผม พี่ถิง"

หูเขาได้ยินทุกอย่างชัดเจน หน้าที่เจ็บปวดตรงหน้า เอ่ยชื่อเขาออกมาเบาๆ 

"อี้เฟิง อี้เฟิง ได้ยินพี่มั้ย"

คุณหมอเงียบและเหมือนหลับไปอีกครั้ง...

เขาไม่รู้จะทำยังไง ยาดมอะไรก็ไม่มี เรียกแล้วก็รู้สึกตัวแป๊บนึงแล้วก็เหมือนหลับไปอีกแล้ว

เขาจึงทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆโซฟาเพื่อรออีกฝ่ายรู้สึกตัว 

ภาพอดีตชัดเจนเสมอในใจเขา...

.............................................................................................................

เสียงไขก๊อกแก๊กที่ประตูห้องพยาบาลดังขึ้นยามเย็นใกล้ค่ำ...เขามาแอบหลบผู้คนหลับเหมือนทุกที

สักพักก็รู้สึกได้ถึงเสียงพูดคุยของเจ้าน้องเหมียวที่คุ้นเคย...เขาชอบฟังเสียงนี้ จึงปล่อยให้อีกฝ่ายพูดมากเหมือนเดิม

"พี่ถิง พี่ถิงตื่นสิ มีคนบอกว่าวันนี้พี่ไม่เข้าเรียนอีกแล้วเหรอ"

ผมเงียบไม่ตอบอะไร...หลับตาต่อไป

"พี่ถิง พี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ การเรียนสำคัญมาก เราอยากจะมีอาชีพที่ดีก็ควรเข้าเรียนสิ"

"พี่ถิงๆๆ ตื่นสิ พี่ได้ยินผมมั้ย"

เมื่อไม่มีเสียงตอบ แมวน้อยจึงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมอยากแกล้งอยู่แล้วจึงดึงร่างนั้นเข้าหาตัว ใช้แรงที่มากกว่า กดปากอีกฝ่ายเข้ามาหาปากผม ตอนแรกๆเขาก็ดิ้น แต่สู้แรงผมไม่ได้หรอก สุดท้ายเขาเริ่มยอมให้ผมเอาลิ้นแหวกเข้าไป สอดส่ายหาปลายลิ้นอีกฝ่าย ตวัดเกี่ยวพันแลกเปลี่ยนความร้อน ลมหายใจเขาเริ่มแรงขึ้น ผมว่าผมได้ยินเสียงหัวใจเค้าเต้นแรงนะ พอกดแรงเข้าแว่นตาเค้ากระแทกตาผม ผมจึงถอดแว่นออก เค้าจึงได้จังหวะถอนปากออกมา...

"พี่ถิง พี่ทำอะไร???"

"ทำไม??? ไม่ชอบพี่แล้วเหรอ"

"ผะ...ผมเปล่า ผมชอบพี่ครับ แต่..."

คราวนี้ผมไม่ปล่อยให้เค้าพูดอีกต่อไป ริมฝีปากอุ่นร้อนเมื่อกี้มันกระตุ้นความรู้สึกในจิตใต้สำนึกผมออกมา ผมอยากจูบเค้าอีก!!!

ผมกดเค้าให้ปากประกบลงมาอีกครั้ง คราวนี้ลิ้นสองฝ่ายแตะสลับไปมา ริมฝีปากผมดูดอีกฝ่ายไว้อย่างแน่น จนรู้สึกได้ว่าเค้าเหมือนจะผ่อนลมหายใจไม่ได้ เลยหยุดก่อน...

"ตัวแสบ เป็นไงบ้าง"

อีกฝ่ายไม่ตอบ ก้มหน้างุดๆไม่ยอมสบตา เด็กหนอเด็ก...ถึงแม้จะเริ่มมืด แต่สังเกตได้ว่าใบหน้ามีสีแดงขึ้นมาก

"ผม...เอ่อ ไม่เป็นไรครับ"

"จูบเก่งเหมือนกันนิเรา เคยจูบใครมาก่อนมั้ยเนี่ยะ"

"เปล่านะครับเปล่า!!! นี่เป็นครั้งแรก เอ่อ....ผมเพิ่งเคยจูบแบบนี้"

ร่างขาวบางตรงหน้า พอไม่มีแว่นตาก็เผยแววตาใสกลมโต โบกมือหยอยๆ ว่าผมเป็นคนให้จูบแรกกับเค้า....ผมอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ

"555 เจ้าแมวน้อยเอ้ย!!! ปกติแมวเค้าต้องเจ้าเล่ห์นิดๆมั้ย นี่มีอะไรก็พูดออกมาหมด น่ารักจริงๆ"

ผมเอามือลูบหัวเค้าที่ยังเอาหน้ามาใกล้ๆผมที่นอนอยู่...

"เอาล่ะ จำไว้ อย่าให้คนอื่นทำแบบนี้ได้ นอกจากพี่ เข้าใจมั้ย"

อีกฝ่ายก้มหน้าลงอีกครั้งพร้อมรับคำหนักแน่น

"แน่นอนครับ พี่ถิงเป็นคนเดียวเท่านั้น"

ผมลุกขึ้นจากที่นอนอยู่แล้วนั่งลง เอามือตบที่ข้างตัวเพื่อเรียกให้เค้าขึ้นมานั่งด้วย 

"ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ"

"ผมบอกที่บ้านว่าจะไปติวหนังสือกับเพื่อนครับ"

"แล้วที่บ้านก็เชื่อ!!! ร้อยวันพันปี ไม่เคยเห็นไม่กลับบ้าน"

"ก็ผมเป็นห่วงพี่ถิง ไม่อยากให้พี่ไม่ไปเรียนหนังสือ ถ้าพี่ไม่อยากเข้าเรียน ให้ผมสอนให้มั้ย"

ผมหันไปมองหน้าเค้า แล้วทำหน้าสงสัย

"นายเรียนม.ต้น ส่วนชั้นเรียนม.ปลาย นายก็สอนได้เหรอ"

"ได้สิครับ ผมอ่านมาจะหมดแล้ว สบายมาก"

"งั้นถ้านายสอนชั้น นายอยากให้ชั้นให้ค่าจ้างเป็นอะไรล่ะ"

"ผม...ไม่อยากได้อะไรหรอกครับ แค่อยากให้พี่สอบได้"

"ใจดีนักนะเรา"

ผมอดไม่ได้ จึงเอามือไปขยี้ผมเค้าอีกรอบ คราวนี้อีกฝ่ายมากอดผมเอาไว้แน่น

"ผมชอบพี่ถิงที่สุด ขอแค่พี่อยู่กับผมก็พอแล้ว"

คนที่ดูเกเรแบบผม มีคนมากอดขนาดนี้ ช่วยไม่ได้ที่ผมจะรักเค้าตอบและดีใจที่มีความอบอุ่นแบบนี้อยู่ใกล้ๆ...

ผมจึงจูบเค้าอีกครั้ง คราวนี้อีกฝ่ายไม่ขัดขืนใดๆ ผมจึงเอามือดึงเสื้อเค้าออกจากกางเกงและเข้าไปลูบสัมผัสส่วนหน้าอกและท้องอย่างแผ่วเบา เขาดูตัวสั่นนิดๆ แต่ไม่ต่อต้านอะไร ผมจึงปลดกระดุมเสื้อเค้าออกและบดจูบเข้าไปอีก  เค้าเอามือดันตัวผมออกเล็กน้อย...

"พี่ถิง...ผม...ผมกลัว"

"แมวน้อย อยู่กับพี่ นายไม่ต้องกลัวอะไร ไหนว่าอยากอยู่กับพี่ไง"

ผมจับเค้านอนลง....ท่อนบนเปลือยเปล่า คนตรงหน้าหลบสายตาผมด้วยความอาย

"พี่ถิง...พี่ถิง พี่ถิงใช่มั้ย"

ภาพตรงหน้าเลือนหาย....กลายเป็นหน้าคุณหมอที่เข้ามาใกล้ๆ เมื่อเขาลืมตาขึ้น

.....................................................................................................................
"อ้าว!!! หมอ ฟื้นแล้วเหรอ เรียกใครหน่ะ???"

"ก็พี่ไง พี่ไม่ใช่โจรโรคจิต แต่พี่คือพี่ถิงของผม"

คุณหมอหน้าอวบอูมตรงหน้า ยื่นหน้ามาหาความจริง โดยนั่งคุกเข่าจ้องหน้าผม

"หมอ!!!สลบแล้วเพี้ยนรึไง คุณพูดถึงใครกัน ผมเป็นมือปืนรับจ้าง จะไปเป็นพี่ถิงของคุณได้ยังไง เอาล่ะหมอ!!! ในเมื่อไม่เป็นไรแล้ว ก็มาต่อกันเถอะ ลูกชายผมยังต้องการหมออยู่นะ 555"

ผมเอามือเค้ามาจับเข้าที่เป้าผม และถูไปมา...

"ไม่ๆ พี่ถิง พี่อย่าทำแบบนี้ พี่แกล้งลืมผมใช่มั้ย หยุดนะ...ไอ้บ้า ปล่อยสิ ปล่อย"

เค้าเอามือที่เหลือทุบอกผมไม่หยุด ในขณะที่พยายามดึงมือออกจากเป้าที่ผมจับเอาไว้...

น้ำตาเริ่มซึมจากหางตาคุณหมอตรงหน้า ผมจึงอดทนไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ผมหมดแรงแกล้งเค้าแล้วล่ะ จึงรวบตัวเข้ามากอดไว้ เค้าจึงพิงมาบนตัวผม

"จะฆ่าพี่รึไง เดี๋ยวแผลก็ปริพอดี ทำไมเดี๋ยวนี้แรงเยอะนักนะ เจ้าเหมียวน้อย"

สักพักอีกฝ่ายแทบจะโถมเข้าหาผม น้ำตาไหลอาบแก้มพร้อมเสียงปล่อยโฮ เหมือนอัดอั้นมานาน

"พี่ถิงๆ พี่ถิงจริงๆด้วย พี่มาหาผมแล้ว ฮือๆๆๆ"

...........................................................โปรดติดตามตอนต่อไป..................................





วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

ลิขิตแห่งฟ้า ใต้หล้านี้เพื่อเธอ ตอนที่ 3

ตอนที่ 3 เกสรดอกโบตั๋น

"สติคือการระลึกรู้"



...วันนี้เฟิงเยว่รู้สึกเบื่อๆ ก็เลยออกมานั่งเล่นในสวนของวังพร้อมกับจัดดอกไม้ไปด้วย จริงๆแล้วเขาไม่เคยคิดเลยว่า ชีวิตจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ด้วยความที่ถิงยื่อไม่อยากให้เข้าไปยุ่งกับงานที่เป็นส่วนของการดูแลทหารหรือภายนอกวัง จึงยกหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในวังแห่งดินแดนยื่ออ้ายเยว่นี่ให้เขาหมด เขาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถือว่านี่เป็นงานของเขาแทน โดยไม่รู้สึกว่าติดขัดอะไร ตรงกันข้าม กลับรู้สึกว่าเขาทำได้ดีกว่าให้ไปนั่งคุยราชการกับคนอื่นซะอีก...

"ผิงอัน เจ้ายิ้มอะไร ข้าเห็นนะ" เฟิงเยว่เอ่ยถามสาวรับใช้คนสนิท

"ข้าก็แค่ชื่นชมราชินีของข้า ท่านดูงามมากเมื่ออยู่ในสวนดอกไม้นี่"

"เจ้านี่นะ ชักจะเป็นเหมือนถิงถิงเข้าไปทุกวัน"

"แหมๆๆ ดูท่านสิ คิดถึงองค์ราชาถิงยื่ออยู่ล่ะสิคะ"

"ไม่ใช่ซะหน่อย ข้าแค่คิดว่าคำพูดคำจาเจ้า ชักจะถอดแบบนายของเจ้าเข้าไปทุกทีแล้วนะ"

"เปล่านะคะ ข้าแค่ชมไปตามที่เห็น อุ้ย!!! นั่น ราชินีของข้า ท่านต้องระวังนะคะ นางมาโน่นแล้ว"


"ใครกัน??? อ้อ องค์หญิงอู๋อี้ มาอยู่ในวังตั้งหลายวัน อยู่แต่ในห้องคงจะอึดอัด ก็ออกมาเดินเล่นบ้างไม่เห็นเป็นไร"

"ดูสิ!!! พี่กวงเมาก็อะไร ตามติดไม่ห่างเลย เชอะ!!!"


"เอาน่า ผิงอัน นี่เป็นคำสั่งถิงถิง เจ้าก็ต้องเข้าใจนะ"

สองนายบ่าวหยุดการพูดคุยเมื่ออีกฝ่ายก้าวเท้าเข้ามาใกล้ จนน่าจะได้ยินการสนทนาบ้างแล้ว

"ถวายคำนับเพคะ ราชาเฟิงเยว่"

"หามิได้องค์หญิง ไม่ต้องมากพิธี เราก็เป็นพันธมิตรผูกสัมพันธไมตรีกันแล้ว เรียกข้าว่าเฟิงเยว่เฉยๆก็ได้"

"งั้นข้าขอเรียกว่าพี่เฟิงเยว่แล้วกันนะคะ ส่วนท่านก็เรียกข้าว่าอู๋อี้เฉยๆก็ได้ ในเมื่อข้าอายุน้อยกว่า"


"เจ้าคงจะเบื่อสินะ ว่าแต่กำหนดกลับของเจ้าคิดว่าจะเป็นสักเมื่อไหร่กันรึ"

ราชาเฟิงเยว่ไม่รอช้า เอ่ยถามสิ่งที่อยู่ในใจทั้งหมด ทำให้องค์หญิงอู๋อี้แทบซ่อนสายตาแค้นเคืองไว้ไม่อยู่แต่ก็ยังกลั้นใจคิดถึงแผนที่วางไว้

"ข้าคิดว่าคงอีกไม่ช้า เพียงแต่ว่า ข้ารู้สึกอยากชมวังและเมืองให้ทั่วๆก่อน ที่นี่ไม่เหมือนดินแดนซาท่านก็รู้ แผ่นดินข้าแห้งแล้ง เรามีแต่ทรัพยากรมีค่าทางการค้า แต่ไม่มีธรรมชาติแบบนี้เลย"

"อืม ข้าเข้าใจ งั้นเจ้าก็พักผ่อนให้สบายเถอะ อยากไปไหนก็บอกท่านแม่ทัพกวงเมาได้ ไม่ต้องเกรงใจ"

ราชาเฟิงเยว่หันไปสบตากวงเมา สหายเก่าจากหมู่บ้านดินแดนเหอที่ติดตามกันมานาน จนสังเกตได้ว่าสายตานั่น ไม่ได้มองที่ผิงอันเหมือนที่ผ่านๆมา กลับไปจดจ่ออยู่ที่องค์หญิงตรงหน้า

"ถ้าอย่างไรเสีย ข้าอยากให้พี่เฟิงเยว่พาข้าชมสวนทางด้านโน้นหน่อยได้หรือไม่ ข้าเห็นมีบ่อน้ำและเรืออยู่หลายลำ"

"เอ่อ...ข้าไม่ค่อยสะดวกใกล้น้ำสักเท่าไหร่"

เขากับน้ำควรอยู่ให้ห่างกันไว้ ทุกครั้งที่เจอน้ำ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะไม่รู้สึกทรมานเลย มันทำให้เขาหนาว และร่างกายเย็นขึ้นแทบสิ้นใจทุกครั้งไป...


"ไม่เอาน่าพี่เฟิงเยว่ ไหนท่านว่าเราเป็นพันธมิตรกันไงล่ะ ท่านพี่ช่วยพาข้าชมหน่อยเถอะ ใครจะมารู้จักวังนี้ได้ดีเท่าท่านกันล่ะ"

ในที่สุดราชาเฟิงเยว่ก็ต้องจำใจพาองค์หญิงอู๋อี้มาชมวังส่วนที่เขาไม่ค่อยได้มา จะมาก็ต่อเมื่อราชาถิงยื่ออยู่ด้วยเท่านั้น 

"เอ๊ะ ท่านพี่เฟิงเยว่ ขอข้าขึ้นไปบนเรือได้มั้ย"

"ได้สิ เรือนี้ ดินแดนเหอให้เป็นของกำนัล ทั้งสวยงามและมีความพิเศษมากมาย"


"อ้อ ถ้าอย่างนั้น ท่านช่วยส่งข้าขึ้นไปชมหน่อย"

ระหว่างการเดินไปขึ้นเรือนั้น เฟิงเยว่รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยที่มี เขาคิดว่าองค์หญิงอู๋อี้ไม่ได้มาดีแน่ๆ แต่ใครจะคิดว่านางจะทำจริงๆ เมื่อสองคนอยู่ใกล้เรือและไม่ทันตั้งตัว องค์หญิงอู๋อี้ก็ผลักเฟิงเยว่ตกน้ำลงไปจริงๆ ถึงแม้ทหารจะมีหลายคนและผิงอันก็จับตามองอยู่ แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ๆได้เพราะทั้งสองเป็นเจ้านายตน

"อร๊ายยย พี่กวงเมา ทหารเร็วเข้าๆ ราชินีของข้า ตกน้ำไปแล้ว!!!"

กวงเมาไม่รอช้า กระโดดลงไปช่วยทันที แต่เฟิงเยว่ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายตัวเองหนาวมากและเย็นลง เขาไม่รับรู้เรื่องราวและได้ยินอะไรอีก...


เฟิงเยว่เห็นภาพตรงหน้า เป็นราชาถิงยื่อที่เดินห่างออกไป ข้างกายเขาเป็นผู้หญิงคนนึง ซึ่งเขาจำได้ดีว่านั่นคือองค์หญิงอู๋อี้ นี่เขาตายไปแล้วหรือยังไงนะ องค์หญิงทำให้เขาตายเหรอ แล้วถิงยื่อก็ไปกับนาง...

"ถิงถิง เจ้าจะไปไหน เจ้าจะทิ้งข้าไปเหรอ"

แต่แล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่เข้ามาในตัว ริมฝีปากเริ่มมีความรู้สึก ไอร้อนจากจมูกของอีกคนเข้ามาปะทะใบหน้า...

ลำแขนแข็งแรงที่โอบกอดร่างกายเขาไว้ ความอบอุ่นนี้ที่เขาจำได้ ทำให้เฟิงเยว่ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็พบว่าถิงยื่อยังคงจูบเขาไม่ยอมปล่อยและกอดให้แน่นขึ้นอีก จนกระทั่งเขาได้สติก็กอดตอบและจูบรับกันอย่างแนบแน่น...

สองร่างกายประสานกันเหมือนเดิม ไม่ยอมแยกออกจากกัน แต่สักพักก็เริ่มมีเสียงขึ้นจากด้านข้าง

"อะ...แฮ่มมมม!!!"

เมื่อริมฝีปากอุ่นถูกถอนออกจากคนตัวเย็นตรงหน้า ก็เริ่มมีเสียงดังขึ้น

"แหม...แม่เฒ่า ท่านจะอะไรนักหนา" ถิงยื่อหันหน้าไปต่อว่า

"หามิได้เพคะ ราชาทั้งสองช่วยเกรงใจคนแก่อย่างข้าด้วย"

"แม่เฒ่าตงสุ่ย ท่านมาได้ยังไง" คราวนี้เฟิงเยว่เริ่มได้สติและหันไปถาม


"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าหม่อมชั้นไม่มา เกรงว่าจะไม่ทันการ"

"โธ่!!! แม่เฒ่า จะมาหม่อมชั้นอะไรกัน แทนตัวเองเหมือนเดิมเถอะ เราใช่คนอื่นคนไกล" 

ถิงยื่อที่กำลังร้อนใจยังเอ่ยต่อว่าคนแก่ไม่หยุด

"ตอนนี้ราชาถิงยื่อคงหายกังวลแล้วนะ นี่ท่านแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับมาสองวันแล้ว"


"ฮะ!!! อะไรกัน นี่ข้าเป็นอะไร ไม่รู้สึกตัวสองวันเลยรึ"

เฟิงเยว่ไม่รู้เลยว่ามันนานขนาดที่จะทำให้คนตัวใหญ่ตรงหน้าแทบจะฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะองค์หญิงอู๋อี้ที่เอาแต่ปฏิเสธและร้องไห้ แต่เขาก็ยังสั่งให้เก็บตัวอยู่แต่ในห้องเท่านั้น

"แม่เฒ่า ขอบคุณท่านมากที่มา ถ้าไม่ได้ท่านเอายามาให้และรักษา เฟิงเฟิงก็ไม่รู้จะเป็นยังไง"

"องค์ราชาถิงยื่อ รบกวนท่านออกไปก่อนได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับราชาเฟิงเยว่เพียงลำพัง"

"อะไรกัน ท่านนี่...ข้าไม่ไป ท่านจะคุยอะไร ในเมื่อข้ากับเฟิงเฟิงก็เป็นคนๆเดียวกัน มีอะไรจะต้องปิดข้าอีก"

"ถิงถิง เจ้าอย่าว่าแม่เฒ่าสิ ออกไปก่อน ข้ายังไม่อยากเถียงกับเจ้านะ"

"ไม่สิ เฟิงเฟิง เจ้าห้ามมีความลับกับข้า ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบตาย แต่พอฟื้น เจ้าก็จะมาไล่ข้าออกไป"

หลังจากถกเถียงกันสักพัก ราชาถิงยื่อก็ต้องยอมออกไปแต่โดยดีเพราะคนเดียวที่เขาไม่กล้าขัดก็คือราชาเฟิงเยว่

"แม่เฒ่าตงสุ่ย ท่านมีอะไรก็ว่ามาเถอะ ข้าพร้อมจะฟังแล้ว"

"ข้าแค่จะบอกว่า ร่างกายของท่าน ตอนนี้พลังของไข่มุกยังไม่จางหายใช่หรือไม่ บางวันท่านก็ร้อน บางวันท่านก็หนาว แต่ด้วยความที่ท่านมีพลังจากร่างกายของราชาถิงยื่อ ทำให้อาการดีขึ้น"

"ท่านแม่เฒ่า ข้ารู้ดี ว่าพลังของไข่มุกเลี่ยงซิน มีผลกับตัวข้าแค่ไหน แต่ว่ามันรุนแรงขึ้นทุกทีตามที่ท่านบอก หากวันไหนข้าไม่ได้ใกล้ชิดกับถิงยื่อมันก็จะเป็นมากขึ้น"

"นั่นล่ะ ข้าเลยสงสัยว่าร่างกายท่านอาจจะมีทายาทพวกท่านก็เป็นได้ แต่ด้วยความที่ท่านโดนความเย็นของน้ำซ้ำเติม ข้าจึงยังไม่แน่ใจ ตอนนี้ยาที่ข้าให้ประกอบกับความร้อนจากร่างกายของราชาถิงยื่อก็ยังช่วยท่านได้ แต่ข้าขอบอกตามตรง เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในดินแดนเหนือฟ้ามาก่อน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป ตอนนี้ข้าทำนายได้เพียงว่า หนทางข้างหน้าจะวุ่นวายมาก ท่านต้องมีสติและระมัดระวังให้ดี"

"แม่เฒ่า ข้าเข้าใจ"

"เอาเป็นว่า ตอนนี้ท่านจะบอกราชาถิงยื่อว่าอย่างไรดี"


"ข้าขอยังไม่บอกได้หรือไม่ แค่ทุกวันนี้เขาก็เป็นห่วงข้าจะแย่แล้ว อีกอย่างยังไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าเขารู้ว่าร่างกายข้าเป็นยังไง เขาจะยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก"

"ท่านนี่น้า เป็นอย่างไรก็อย่างนั้น เก็บทุกอย่างไว้กับตัวตลอด ไม่เหมือนราชาถิงยื่อสักนิด รายนั้น มีอะไรแทบจะร้องตะโกนบอกทั้งดินแดนแล้ว"

"ก็เพราะเขาเป็นแบบนี้ไง ข้าถึงยิ่งให้รู้ไม่ได้ ท่านแม่เฒ่า ท่านไม่รู้หรอกว่าข้าคิดว่าข้ากำลังถูกปองร้าย"

"องค์หญิงอู๋อี้สินะ"

"อืม ข้าถูกนางผลักตกน้ำ ทั้งๆที่ข้ารู้ว่านางเป็นอันตราย แต่ข้าก็เลี่ยงไม่ได้ ข้ายังไม่อยากให้ถิงยื่อต้องมีปัญหาระหว่างดินแดนเพราะข้าอีก"

"เอาล่ะ ทุกอย่างสุดแล้วแต่ฟ้า ในเมื่อพวกท่านเป็นแบบนี้ เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะอยู่ที่วังสักระยะ คอยดูแลท่านด้วยดีมั้ยล่ะ อีกอย่างฮวาเมาคงคิดถึงพี่สาวของนางจะแย่แล้ว ขอข้าไปรับนางมาด้วยได้มั้ย"



"ได้สิ ข้าก็คิดถึงนาง ดีเหมือนกันข้าจะได้ไม่เหงา ขอบคุณท่านแม่เฒ่ามาก"

หลังจากแม่เฒ่าออกไป ถิงยื่อก็สั่งให้ห้องครัวทำอาหารและข้าวต้มมาให้เฟิงเยว่ เขาดูแลไม่ห่าง เขาไม่อยากปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว 

"ผิงอัน นี่อะไร!!!"

เขาเห็นขวดที่วางอยู่ข้างสำรับอาหาร หลังจากที่ป้อนข้าวต้มให้เฟิงเยว่กินจนเกือบหมด 

"เห็นแม่เฒ่าฝากเอาไว้ บอกว่าเป็นยาบำรุงให้ราชินีของข้า ราชาถิงยื่อห้ามกินนะคะ"

"ก็แล้วมันอะไรเล่า ไหนดูสิ!!!"

"ถิงถิง เจ้าอย่ายุ่งเลย เอามาให้ข้านี่ ผิงอันหมดธุระแล้วเจ้าออกไปก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการต่อเอง"

"โธ่!!! องค์ราชินีของผิงอัน เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ใจดีอีกแล้วนะคะ ไม่เห็นเหมือนยัยองค์หญิงนางยักษ์นั่น"

"ผิงอัน เจ้าไม่ต้องพูดมาก ออกไปก่อน"

เฟิงเยว่อยากคุยกับถิงยื่อลำพัง จึงได้ไล่ผิงอันออกไปก่อนที่จะพูดมากจนเป็นเรื่อง...

"เฟิงเฟิงนี่อะไรหน่ะ ตกลงเมื่อบ่าย แม่เฒ่าคุยอะไรกับเจ้ากันแน่ ข้าไม่ชอบเลยที่เจ้ามีความลับกับข้าอีกแล้วนะ"

ถิงยื่อเอาขวดนั่นลงไปนั่งข้างเตียงใกล้ๆเฟิงเยว่

"ทีเจ้ายังมีความลับกับข้าเลย เจ้าลืมไปแล้วหรือไง"

"โธ่เอ้ย!!! นี่มันเหมือนกันซะทีไหนเล่า แล้วนี่อะไร ตกลงข้างในคืออะไรกันแน่"

"อันนี้เป็นเกสรดอกโบตั๋น ข้าต้องกินทุกคืนแม่เฒ่าสั่งเอาไว้ แล้วก็...ก่อนจะไปยังสั่งอีกว่า..."


"ว่าอะไรเล่า รีบๆบอกสิ ข้าอยากรู้"


"ถิงถิง เจ้าต้องป้อนเกสรนี่ให้ข้าทุกคืน เพราะมีแต่เจ้าเท่านั้นที่ทำให้ร่างกายข้าอบอุ่นได้"

"โธ่เอ้ย!!! ถึงไม่ต้องป้อนเกสรนี่ ข้าก็ทำให้เจ้าอบอุ่นอยู่ทุกคืนอยู่แล้ว จริงมั้ย 555"

"ถิงถิง ลิงยักษ์บ้า"

ถิงยื่อยิ้มจนแก้มบุ๋ม มีลักยิ้มขึ้นมา เขาดูมีความสุขมากเมื่อเห็นคนตาสีฟ้าตรงหน้าดวงตากลับสุกสว่างอีกครั้ง 

"ไหนๆ ข้าต้องอมเข้าไปก่อนสินะ โหหห!!! ขมจังเลยแต่ไม่เป็นไร พอผ่านปากข้า มันก็จะหวานแล้ว"

"ถิงถิง แม่เฒ่าให้เจ้าป้อนอย่างเดียวนะ ไม่ได้บอกให้เจ้าทำแบบนี้"

"อะไรเล่า ก็ข้าจะให้ความอบอุ่นนี่ไง"

ถิงยื่อไม่รอช้าถอดชุดตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แล้วดันตัวคนตรงหน้าให้นอนลงที่เตียง กดปากที่มีเกสรขมๆนี่ลงไปแล้วเอาลิ้นดันให้อีกฝ่ายกลืนเข้าไปอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นจึงเอาปลายลิ้นแตะเข้าออกเพื่อให้ความหวานมีเพิ่มขึ้น แล้วจึงไปกระซิบที่ข้างหู

"ข้ารู้ว่าเจ้าเพิ่งฟื้น ข้าไม่รุนแรงหรอกน่า ข้าแค่อยากบอกว่าข้าคือความอบอุ่นของเจ้า เจ้าไม่ต้องห่วงนะ ข้ารักเจ้าคนเดียวเท่านั้น จะไม่มีวันแยกจากเจ้าไปไหน"

เฟิงเยว่ยิ้มเอามือกอดและดึงคนตัวใหญ่ตรงหน้ามากอดไว้ ความอบอุ่นนี้ เขาจะต้องมีมันทุกวัน จะไม่หายไปไหน เขามั่นใจ ตราบใดที่ร่างกายทั้งสองยังกอดก่ายกันไปมาแบบนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่มีทางทำอะไรได้แน่ๆ

สองร่างเปลือยเปล่าแนบแน่นในห้องแห่งจันทราเหมือนทุกครั้ง สักพักร่างกายเฟิงเยว่เหมือนจะร้อนขึ้นอีก...
"อื้อออออ ถิงถิง"



ในขณะเดียวกันคนที่ถูกกักบริเวณอยู่ที่อีกฝากหนึ่งของวังก็กอดนัวเนียกับแม่ทัพหนุ่มบนเตียง พร้อมกับถามว่า...


"ท่านเปลี่ยนขวดแล้วแน่นะ"

"เปลี่ยนแล้วสิ เจ้าสั่งให้ข้าทำอะไรข้าก็ทำตามนั้น"

"ดีมาก ท่านแม่ทัพกวงเมา"

ใบหน้าหญิงสาวที่ถูกกระหน่ำจูบบนร่างกายไม่หยุดยังคงกัดฟันแน่นและยิ้มในความมืดอย่างไม่ปราณี...


......................................โปรดติดตามตอนต่อไป.............................
















วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

บอดี้การ์ดหน้าใส กับคุณหนูตัวร้าย... (NC17) ตอนที่ 6

เฉิน เหว่ยถิง : บอดี้การ์ดหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลา ดึงดูดใจ นิสัยเงียบขรึม บางครั้งก็ขี้เล่น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถูกประธานเคน เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ 10 ขวบ ไม่รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง จำได้เพียงชื่อตัวเองเท่านั้น

หลี่ อี้เฟิง : คุณหนูของบ้านตระกูลหลี่ เป็นลูกคนเดียวของประธานบริษัทผลิตน้ำหอมรายใหญ่ของโลก จึงถูกเรียกว่าคุณหนู นิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถูกตามใจแต่เล็ก รวมทั้งพอแม่เสียตอนอายุ 15 ปี นิสัยนี้ยิ่งเป็นมากขึ้น อยากได้อะไรก็ต้องได้ เอาเงินซื้อทุกอย่าง

ประธาน เคน : ประธานบริษัทหลี่เพอร์ฟูม ทำธุรกิจมากมาย ไม่มีเวลาให้กับลูกชายคนเดียวมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเมียตายจึงเสียใจมากและทุ่มเทกับงาน มีศัตรูมากมายจึงต้องจ้างบอดี้การ์ดดูแลหลายคน


อู๋ อี้ฝาน : ลูกชายของบริษัทอู๋ คู่แข่งคนสำคัญของอี้เฟิง นิสัยร่าเริงสนุกสนาน มองโลกในแง่ดีตลอดเนื่องจากครอบครัวอบอุ่นมากจนบางทีเค้าก็บ่นว่าร้อนเลยที เดียว

แม่ นมเหยียน : ผู้ดูแลความเรียบร้อยในบ้านและอาหารการกินทุกอย่างของคุณหนูอี้เฟิง และเป็นคนดูแลเหว่ยถิงมาตั้งแต่ถูกเก็บมาเลี้ยงที่บ้านตระกูลหลี่


เลขา เทียน : ผู้คอยดูแลเรื่องเกี่ยวกับในบริษัทให้กับคุณหนูหลี่อี้เฟิง และต้องคอยบอกรายละเอียดงานกับบอดี้การ์ดเฉินเหว่ยถิงด้วย เขามักจะเห็นว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแปลกๆ แต่ก็ยังไม่มั่นใจนัก


ตอนที่ 6 กลัว (I'm scared)


...เมื่อหมดงานน้ำหอมแล้วก็ถึงเวลาที่คุณท่านสั่งให้คุณหนูต้องไปอยู่บ้านตระกูลอู๋ ผมได้เล่าความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับความลับที่ผมตามสืบอยู่ให้คุณหนูฟังทั้งหมด คุณหนูพูดกับผมตอนพวกเรากำลังไปยังคฤหาสถ์สกุลอู๋ว่า

"พี่ถิง สัญญากับผมนะ ว่าระหว่างที่อยู่บ้านนั้น พี่จะไม่ไปยุ่งกับมัน"

"คุณหนูครับ แล้วเรื่องที่ผมตามสืบอยู่ล่ะ"
"ถ้าพี่รู้อะไรต้องมาบอกผมก่อน ถ้ามันนัดไปคุยพี่ก็ต้องให้ผมไปด้วย เข้าใจมั้ย"
"งั้นก็ได้ครับคุณหนู"
...ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบ้านสกุลอู๋ ผมก็รู้สึกได้ว่าปัญหาและเรื่องวุ่นวายต่างๆคงตามมาแน่นอน ซึ่งก็เป็นจริงตามที่คิดตั้งแต่แรกที่สองคนนี้เจอหน้ากัน
"ป๊ะป๋า ดูสิว่าใครมา ฮึๆๆ"
คุณชายอู๋ทักทายก่อนพร้อมรอยยิ้มที่ผมว่า สำหรับผม มันทำให้ผมหวั่นใจมากกว่าจะยินดี...
"อ้าว มากันแล้ว มาๆๆ มานั่งลงกินข้าวด้วยกัน ลุงคุยกะพ่อเราแล้วนะ ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเราสองบริษัทจะร่วมหุ้นกัน"
คุณหนูเงียบไม่ตอบอะไรกับประธานอู๋ ทุกคนนั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ตรงกลาง
"คุณลุงจะให้ผมอยู่ที่นี่สักกี่วันครับ พอดีป๊าก็ไม่ได้บอกผมด้วย ว่าผมต้องอยู่ที่นี่นานแค่ไหน"
"ก็อยู่จนกว่าหลานจะพอใจนั่นแหละ"

ประธานอู๋ตอบแบบไม่เปิดช่องให้คุณหนูได้พูดต่อเลย ทั้งโต๊ะเงียบ ไม่มีการสนทนาใดๆอีก ผมสังเกตเห็นคุณนายอู๋ลอบมองผมอยู่บ่อยครั้งเหมือนมีเรื่องจะคุย จนกระทั่งตอนท้าย...


"ลุงให้แม่บ้านจัดห้องไว้ให้แล้วนะ ห้องหลานก็อยู่ข้างๆห้องอี้ฝานนั่นแหละ ส่วนบอดี้การ์ดหลาน ลุงให้อยู่ห้องข้างล่างนะ ที่บ้านไม่มีอันตรายที่ไหน คงไม่ต้องให้บอดี้การ์ดขึ้นไปวุ่นวายข้างบนหรอกมั้ง"

ประธานอู๋จัดแจงเสร็จสรรพ แต่คุณหนูไม่ยอมจึงบอกออกไป

"เห็นจะไม่ได้หรอกครับคุณลุง ผมกับพี่ถิง เราต้องอยู่ห้องเดียวกัน ผมจะไม่ยอมให้พี่ถิงไปนอนที่อื่นแน่ๆ"

"อะไรกัน หลานเห็นว่าบ้านลุงนี่มันอันตรายขนาดนั้นเชียวรึ"

"โธ่!!! ป๋า คนมันขี้ขลาด ไม่กล้านอนคนเดียว เด็กน้อยแบบนี้ เค้าก็ต้องกลัวผีเป็นธรรมดา 555"

"นายอี้ฝาน มันจะมากไปแล้วนะ"

"เอาล่ะๆ ลุงรับประกันเลย ที่นี่ปลอดภัย ไม่มีอันตรายอะไรหรอก อีกอย่าง ลุงไม่อยากให้ใครอื่นขึ้นไปยุ่งวุ่นวายข้างบน"

"ก็ได้ครับ แต่เอาเป็นว่า ช่วงกลางวันที่ผมไปทำงานและช่วยงานลุงที่บริษัท พี่ถิงต้องอยู่กับผมนะครับ"

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณหนูถึงได้ยอมง่ายนัก คงเป็นเพราะคำดูถูกของคุณชายอู๋ล่ะมั้งที่ทำให้คุณหนูไม่อยากโดนสบประมาท 

"คุณท่านครับ เดี๋ยวผมขอขึ้นไปดูแลความเรียบร้อยในห้องคุณหนูสักครู่ แล้วจะลงมานอนห้องข้างล่างนะครับ เพราะที่บ้านผมก็ทำหน้าที่นี้ตลอด"

"งั้นก็ได้ เดี๋ยวให้แม่บ้านขึ้นไปด้วยแล้วกัน"

ผมขึ้นไปข้างบนเพื่อตรวจดูทุกอย่าง ก็ไม่น่าจะมีอะไร ห้องด้านในก็สะอาดเรียบร้อยดี แม่บ้านก็มาทำความสะอาดด้วยอีกรอบ จนคุณหนูเข้ามาในห้องและบอกแม่บ้านให้ออกไปก่อน...

คุณหนูพุ่งตัวเข้ามากอดผมไว้แน่น...

"พี่ถิง จำที่สัญญากับผมได้นะ พี่อย่ายุ่งกับมันเด็ดขาด ที่ผมยอมให้พี่ไปนอนข้างล่างเพราะไม่อยากให้ใครมาว่าเอาได้ ว่าผมไม่เอาไหน เป็นเด็กไม่รู้จักโต แต่พี่ก็น่าจะรู้ว่าทำไมผมต้องหวงพี่"

"คุณหนู พี่ถิงของคุณหนูไม่มีวันทรยศคุณหนูอยู่แล้วครับ"

ผมจับคางคุณหนูขึ้น และกำลังจะก้มลงจูบ ก็มีเสียงไขประตูเปิดเข้ามา

"นี่!!! ยัยคุณหนูตัวร้าย หยุดอ้อนคนอื่นได้แล้ว"

ผมตกใจมาก นั่นมันเสียงคุณชายอู๋นี่นา...ผมเลยแยกออกจากคุณหนู

"แหมๆ นี่ถ้าไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ผมคงไม่รู้เลยนะ ว่าคุณหนูร่างอวบนี่ ออดอ้อนพี่แค่ไหน"

"นายอู๋อี้ฝาน ใครใช้ให้นายเข้ามาในห้องชั้น"

"555 ไหนห้องนาย ที่นี่บ้านชั้น นายลืมไปแล้วเหรอ ห้องทุกห้องก็คือห้องของชั้น ชั้นมีกุญแจทุกห้องนั่นแหละ"

"เอ่อ...คุณชายอู๋ครับ พวกเราเหนื่อยกันมามากแล้ว แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะครับ"

"อ้อ...พี่หน่ะครับ แยกได้ พอดีแม่อยากคุยกับพี่ เชิญที่ห้องหนังสือลงไปแล้วเลี้ยวขวานะครับ"

"ไม่!!! พี่ถิง พี่ห้ามไปนะ"

คุณหนูมาคว้าแขนผมไว้...

"คุณหนูครับ ไม่มีอะไรหรอก คุณนายอู๋เคยคุยกับผมบ่อยๆ คุณหนูก็พักผ่อนดีกว่า ไปครับคุณชายอู๋"


 พอผมลงไปจากห้องคุณหนู ก็ลงมาพบคุณนายอู๋ที่ห้องหนังสือ พอเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ คุณนายก็น้ำตาคลอหน้า เข้ามากอดผมอีกคน...นี่เป็นอะไรกันไปหมดนะ

"ลูกๆ ลูกแม่จริงๆด้วย ฮือๆๆๆๆ"

"เดี๋ยวครับ คุณนาย นี่มันอะไรกันครับ"

"ในที่สุด ก็เป็นแบบนั้น ที่ผ่านมา แม่ขอโทษนะลูก"

ผมคุยกับคุณนายอู๋จนเข้าใจ ที่จริงแล้ว ก่อนจะเกิดเรื่องผมถูกให้อยู่กับพ่อ และประธานอู๋ไม่รู้ว่าคุณนายมีผมอยู่ก่อนแล้ว เรื่องราวซับซ้อนมากมาย ที่สุดท้าย ประธานอู๋มารู้ทีหลัง จึงให้คนไปจัดการและทำให้ผมไปนอนอยู่ข้างถังขยะนั่นในที่สุด คุณนายอู๋เล่าเรื่องราวทุกอย่างเพราะเธอไปสืบมาหลังจากเห็นแผลเป็นที่หน้าผากผมและก็เพื่อให้มั่นใจจึงวางแผนให้คุณหนูมาอยู่ที่นี่ เพื่อที่เธอจะได้คุยกับผม

"อย่าโกรธใครเลยนะจ๊ะ ทุกอย่างเพราะแม่ไม่ดีเอง ตอนนั้นแม่อยากให้ตัวเองสบาย เลยต้องทำแบบนี้"

"ผมงงไปหมดแล้วครับ แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ คุณชายอู๋ไปไหนแล้ว"

ผมมองไปมองมา ก็ไม่เห็น ไม่สิ!!!เหมือนเค้าจะรู้ทุกอย่างอยู่ก่อนแล้วมากกว่า...

"ลูกอู๋คงขึ้นไปนอนแล้วมั้ง ที่ผ่านมา เค้าก็ช่วยแม่คิดนะ รวมถึงแผนการณ์ให้ลูกมาอยู่ที่นี่ด้วย"

"จริงเหรอครับ ทำไมคุณชายอู๋ถึงคิดว่าจะให้ผมมาอยู่ที่นี่"

"เค้าบอกว่าแม่ว่า ถ้าเอาคุณหนูอี้เฟิงมาอยู่บ้านเรา ลูกก็จะมาเอง"

ผมรู้สึกติดใจอะไรบางอย่างกับคำพูดนี้ แต่ก็ยังอยากรู้เรื่องของตัวเองมากกว่า...โดยที่ผมไม่รู้เลยว่า ข้างบนนั้น ที่ห้องของคุณหนู ตอนนี้กำลังเกิดเรื่องใหญ่มาก จนได้ยินเสียงดังโครมครามลงมาข้างล่าง

เพล้ง!!!! โครม!!!

ผมวิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว พยายามเปิดประตูก็เปิดไม่ออก...

"คุณหนูครับ คุณหนู เป็นอะไรรึเปล่า ไอ้ประตูบ้านี่!!!"
ผมกระแทกประตูเท่าไหร่ก็ไม่เปิด และหมุนลูกบิดเท่าไหร่ก็ไม่ออก สุดท้ายผมต้องถีบประตูนั่นอย่างแรง!!!

พอผมเข้าไปถึงสภาพที่เห็นคือ คุณหนูเสื้อผ้าหลุดลุ่ย กางเกงถูกถอดออก แต่ที่ผมไม่อยากเชื่อสายตาเลยคือ คุณชายอู๋ที่คร่อมอยู่บนตัวคุณหนู สภาพก็ไม่ต่างกัน แต่คุณหนูถูกผ้ามัดที่ปากไว้ ผมเลยเข้าไปดึงคุณชายอู๋ออกมาแล้วต่อยเข้าไปเต็มแรง...

พร้อมแก้มัดที่ปากคุณหนูออก...คุณหนูกอดผมไว้

"พี่ถิง ช่วยด้วย ไอ้บ้านี่ ไอ้บ้าอี้ฝาน มัน...มัน!!!"

เนื้อตัวคุณหนูมีแต่รอยช้ำ ผมหันไปมองคุณชายอู๋ที่กำลังลุกขึ้นมา และถุยเลือดในปากทิ้งจากหมัดที่ผมต่อยไปเต็มแรง

"อ้าว!!! คุยธุระกับแม่เสร็จแล้วเหรอครับพี่ชาย ทำไมเร็วจังล่ะ"

ผมกอดคุณหนูไว้แน่น...

"คุณชายจะบ้าเหรอไง ทำไมทำแบบนี้"

"พี่ถิงไม่รู้เหรอว่า ผมอยากได้เค้ามากแค่ไหน ผมเฝ้ามองเค้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่คนที่เค้ามอง ทำไมมีแต่พี่"


"คุณชายชอบคุณหนูเหรอครับ!!!"

"ใช่!!! แล้วยังไงล่ะผมไม่เคยคิดเลยว่าคนชั้นต่ำแบบพี่ เป็นแค่บอร์ดี้การ์ดจะมาเอาตัวเค้าไป ทั้งๆที่ผมพยายามจะให้เค้าสนใจผมมานานแค่ไหน พี่ไม่รู้หรอก"

"ถ้างั้นก็บอกคุณหนูดีๆสิครับ ไม่เห็นต้องทำกันแบบนี้"

คุณหนูสลบไปแล้ว ผมคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ที่นี่ต่อ ผมจึงอุ้มคุณหนูไว้ กำลังจะออกจากห้อง

"พี่ถิงจะเอาอี้เฟิงไปไหน"

"คุณชายไม่จำเป็นต้องรู้ ผมมีหน้าที่ปกป้องคุณหนู ผมไม่ฆ่าคุณชายเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ผมเพิ่งได้ทราบ แต่ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก ผมจะไม่ปล่อยคุณชายไว้แน่"

ผมพาคุณหนูทิ้งทุกอย่างออกมาจากบ้านใหญ่โตหลังนั้น ถึงวันนี้ผมจะเจอแม่ผมแล้ว และเรื่องราวทุกอย่างกำลังจะกระจ่าง แต่ในเมื่อคุณหนูเป็นแบบนี้ผมก็ไม่สามารถปล่อยให้คุณหนูอยู่ที่นี่ได้อีก...

จะพากลับบ้านหลี่ตอนนี้ก็คงไม่ได้ ผมจึงตัดสินใจไปเปิดโรงแรมที่นอกเมืองอยู่คืนนี้ก่อน...

จนกระทั่งเช้าผมนั่งเฝ้าคุณหนูจนหลับไป มีไออุ่นบางอย่างมาปะทะแก้มผม

"หืมม อื้มมม"

กลิ่นหอมที่ผมคุ้นเคยลอยมาปะทะจมูก ผมลืมตาเงยหน้ามอง ก็เห็นคุณหนูเพิ่งหอมแก้มผมไป

"คุณหนูฟื้นแล้ว!!! เป็นไงบ้างครับ"

"อื้ม พี่ถิง ผมปวดไปหมดทั้งตัวเลยล่ะ ไอ้บ้าอี้ฝานนี่ก็แรงเยอะมาก ผมสู้นะ มันก็มาต่อยผมจนจุกไปหมด พร่ำบอกว่ารักผมๆ จะบ้ารึเปล่า"


"แต่คุณชายอู๋รักคุณหนูจริงๆนะครับ เค้าบอกผมเมื่อคืน"

"พี่ถิงก็เชื่อมันเหรอ มันทำกับผมขนาดนี้ พี่ยังไปเชื่อมันอีก"

คุณหนูเดินไปที่ริมระเบียงห้องพัก มองออกไปนอกหน้าต่าง...ผมรู้ว่าคุณหนูอ่อนแอและต้องการความอบอุ่นอย่างมาก ผมจึงเข้าไปกอดเค้าจากด้านหลัง

"คุณหนู เจ็บมากมั้ย ไม่เป็นไรนะ พี่ถิงอยู่ตรงนี้แล้ว อยู่ข้างๆคุณหนูไม่เคยไปไหน เห็นมั้ยครับ"

"พี่ถิง ผมไม่อยากกลับไปเลย เราไปหาที่อยู่ใหม่กันเถอะนะ ผมกลัวแล้ว กลัวทุกอย่าง กลัวทุกคน"

ผมเลยตัดสินใจพาคุณหนูไปหลบที่บ้านพักของคนๆนึงที่ผมคิดออกเพราะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี...

"เลขาเทียน!!!"


"ใช่ครับคุณหนู ไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่มีใครทราบว่าผมมีบ้านพักที่นี่ รับรองความปลอดภัยได้ คุณหนูอยู่ที่นี่ตามสบายเลยครับ อ้อ!!! นี่ครับ พี่เหว่ยถิง กุญแจบ้าน เดี๋ยวผมต้องกลับไปที่ออฟฟิศก่อน เรื่องคุณหนูหายออกจากบ้านตระกูลอู๋ตอนนี้คุณท่านทราบแล้ว และโกรธมาก แถมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนสองตระกูลจะมีปัญหากันแล้วล่ะครับ...ท่านประธานก็กลัวนักข่าวจะรู้ด้วย เลยปิดข่าวกันใหญ่ ก็กลัวหุ้นตกกันทั้งคู่แหละครับ เอาเป็นว่ามีอะไรผมจะแจ้งมาอีกทีแล้วกันนะครับ พักกันให้สบายนะครับ"

"ขอบคุณมากนะเลขาเทียน คุณนี่พึ่งได้จริงๆ"

พอผมเดินออกไปส่งเลขาเทียนหน้าบ้าน เค้าหันมากระซิบกระซาบกับผม


"ผมว่าแล้ว ว่าพี่กับคุณหนูต้องมีอะไรกันแน่ๆ ชอบส่งสายตาแปลกๆ 555 ดูแลคุณหนูของผมด้วยนะ"

ผมตบบ่าเค้าไปทีนึงแล้วยิ้มให้ หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรตามมาในเร็วๆนี้ก็แล้วกัน

พอผมเดินเข้าไปในบ้าน ก็เห็นคุณหนูหลับไปบนโซฟา คงจะเหนื่อยและเพลียไม่หายสินะ...

ผมเดินเข้าไปจูบที่แก้มเบาๆ และก็อดไม่ได้เมื่อเห็นปากอวบอิ่มนั่นยิ้ม..จึงกดจูบลงไป อีกฝ่ายไม่รอช้า จูบตอบทันทีและเอาลิ้นเข้ามากวนในปากผมเล่น จนผมต้องถอนปากออก...

"เอ้า!!! คุณหนู ไม่หลับเหรอครับ"

"พี่ถิงอยากให้ผมหลับเหรอ???"

"คุณหนู!!!"

"พี่ถิงกอดผมหน่อยสิ"

ผมยกคุณหนูตัวลอย แล้วอุ้มไว้ คุณหนูเอามือกอดคอผม

"ในเมื่อไม่หลับ ก็ไม่ใช่แค่กอดแล้วล่ะครับ ฮึๆ"

ผมไม่รอช้า เปิดประตูห้องนอนที่ยังมืดสนิท วางคุณหนูลงบนเตียงใหญ่...

"เลขาเทียนบอกให้ผมดูแลคุณหนู"

"พี่ถิงก็กอดผมสิ จูบผมสิ ผมอยากให้พี่มาลบรอยที่นายอู๋อี้ฝานนั่นทำไว้"

ผมจึงถอดเสื้อตัวเองออกและคุณหนูก็ช่วยถอดสิ่งพันธนาการของเราทั้งสองออกอย่างรวดเร็ว จนร่างกายเปลือยเปล่าทั้งคู่ ร่องรอยเก่าๆ เมื่อวันก่อน ยังมีอยู่เป็นจ้ำๆ

ผมจูบตรงหน้าอก หน้าท้องที่เห็นยังมีรอยช้ำอยู่...

"อ่ะ...โอ๊ย!!!"

ผมตกใจเงยหน้าขึ้น...

"คุณหนูเจ็บเหรอครับ"

"อื้ม นิดหน่อย ไม่เป็นไร พี่ถิงจะทำให้ผมหายกลัวทุกอย่าง มีพี่อยู่ผมไม่เคยกลัวอะไร"

"ครับ พี่ถิงคนนี้จะปกป้องคุณหนูเอง"

ผมยังคงใช้ปากลูบไล้ทุกส่วนในร่างกายของคนตรงหน้า ที่นอนกัดริมฝีปากแน่น เพราะยังมีบางส่วนที่เจ็บอยู่บ้าง...

แต่เมื่อร่างกายเค้าถูกกระตุ้นและสอดใส่ส่วนของผมเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้คุณหนูไม่ร้องแต่ดึงผมไปกอดไว้ ผมจึงใส่เข้าไปได้แรงขึ้นๆ

"อ๊าาาส์ อ๊าาาส์ พี่ถิง"

สองร่างกอดก่ายกันไปมา เหมือนคุณหนูอยากจะลืมความรุนแรงทุกอย่าง ด้วยความรุนแรงแบบที่มากกว่า คุณหนูนั่งคร่อมบนตัวผม และจับส่วนนั้นของผมใส่เข้าไปในช่องทางด้านหลังนั้นด้วยมือของตัวเอง และเริ่มโยกเป็นจังหวะที่แรงขึ้นตามความต้องการของตัว...

ผมนอนพร้อมมีเหงื่อแตกเต็มหน้าและตัวไปหมด แต่ยังเอามือเคล้าคลึงส่วนกลมกลึงที่หน้าอกนั่นเพื่อสอดรับกับแรงกระแทกที่คุณหนูใส่ลงมา

"อึ้บส์ อ๊าาาส์"

คุณหนูยังแอ่นตัวและเงยหน้าขึ้นเพื่อกระแทกไม่หยุด เหมือนไม่หมดความต้องการ...

ผมบีบแขนสองข้างคุณหนูแน่น และปลดปล่อยทุกอย่างออกมาหมด ภาพตรงหน้ามันช่างยั่วยวนใจจนผมต้องยอมจริงๆ ผมไม่รู้จะขอบคุณเหตุกาณ์ของคุณชายอู๋ดี หรือว่าจะขอบคุณคุณหนูดี ที่รักผมขนาดนี้...

สุดท้ายคุณหนูก็หลับอยู่ในอ้อมแขนผมเหมือนเคย ผมกอดกระชับร่างกายอวบแน่นเต็มวงแขน คุณหนูเอาหน้าซุกเข้ามาอีกเหมือนกระหายความอบอุ่นจากผม เค้าลืมตาแล้วเอามือลูบหน้าอกผมเล่น...

"ผมอยากให้มีแค่เราสองคนแบบนี้ ผมกลัวว่าวันเวลาแบบนี้จะหายไปอีก ผมมีความสุขมาก เราอย่ากลับไปเลยได้มั้ยพี่ถิง"

ผมไม่รู้จะตอบยังไง ผมจูบหน้าผากคุณหนูไปทีนึง กอดเค้าไว้ เพื่อให้คุณหนูได้พักผ่อน ผมจะต้องดูแลคนๆนี้ไปตลอดชีวิตให้ได้ ผมสัญญา...


............................จบแบบนี้ได้มั้ยนะ..........................อิอิ