วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน ภาคพิเศษ บทที่ 4



บทที่ 4 รอยสักมังกร

ผมมาหยุดอยู่ตรงห้องโถงใหญ่ ตรงกลางเป็นเพดานสูงคล้ายๆรูปโดม มีเถาวัลย์เลื้อยไปมา และเหมือนมีช่องขึ้นไปด้านบนอยู่หลายช่อง ถึงจะมีอากาศเข้ามาได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ค่อยมีแสงเท่าไหร่ มีเพียงที่ลอดลงมาบ้างและแสงจากไฟฉายที่ส่องตามหลังผมมานั่นเอง ทำให้รู้ว่าเค้าก็ตามผมมาทันแล้ว

"นี่อู๋น้อย!!! นายทำไมไม่รอชั้น พอดีขึ้นก็ทิ้งชั้นเลยนะ"

ผมไม่กล้าหันไปมองเค้า เพราะตอนนี้ผมทำหน้าไม่ถูก ใจก็เต้นโครมครามอยู่ได้ แต่พอเค้าส่องไฟไปตรงกลางห้อง ผมก็ได้เห็น

"นายฉีซาน นั่นมันโครงกระดูกนี่นา"

ผมชี้มือไปที่เค้าส่องไฟ เค้าจึงเดินเข้าไปใกล้ และไม่วายหันมาฉุดมือผมเดินไปด้วย

"ไปดูกัน...อืมมมม...เอ้อร์หงพูดถูก มันอยู่ที่นี่จริงๆ"

ผมไม่รู้เค้าพูดถึงอะไร แต่ผมเห็นหีบสมบัติที่มีกระดูกคนกอดมันเอาไว้

"ถ้านายจะเอาของในนั้นก็ต้องเอากระดูกนั่นออกไปหน่ะสิ"

"นายไม่กลัวเหรออู๋น้อย"

"ใครจะไปกลัว ชั้นอยู่กับวัดเห็นคนตายมาตั้งแต่เด็ก ตกลงว่าไงต้องทำยังไงต่อ ยกออกมั้ยล่ะ"

"นี่แหละชั้นถึงต้องให้นายช่วยไง"

ตอนนี้เค้าหันกลับมามองหน้าผม

"อะไรนะ ให้ชั้นช่วย ช่วยทำอะไร ย้ายโครงกระดูกเนี่ยะนะ นายก็ย้ายเองสิ เกี่ยวอะไรกับชั้นล่ะ"

ผมเถียงและพยายามจะแกะมือตัวเองออกจากมือเค้า แต่ไม่สำเร็จ

"ถ้าชั้นจะบอกว่า นี่เป็นบรรพบุรุษของนายล่ะ นายจะทำยังไง"

"ฮะ นายฉีซาน นายอย่ามามั่วนะ นายรู้ได้ยังไง"

"ถ้านายไม่เชื่อ ชั้นจะบอกให้ฟัง มีแต่คนตระกูลอู๋เหมือนกันเท่านั้นที่จะยกโครงกระดูกนี่ออกได้ และเลือดจากคนตระกูลอู๋เท่านั้นถึงจะเปิดหีบใบนี้ได้เช่นกัน"

"นายอย่าบอกนะว่าโครงกระดูกแค่นี้นายยกไม่ได้"

"ใช่!!! ไม่เชื่อดูนะ เอ้า!!! ถือไฟฉายไว้ก่อน"

ผมรับไฟฉายมาถือไว้ เห็นเค้าทำท่ายก แกะ โครงกระดูกนั่นเต็มแรง เท่าไหร่ก็ไม่ออก เค้าโกหกรึเปล่านะ!!! แต่ก็ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะตอนนี้เหงื่อเค้าออกเต็มตัวไปหมด

"นะ...นายยกไม่ขึ้นจริงๆเหรอ"

"ใช่สิ นายคิดว่าชั้นจะแกล้งไปทำไม ถ้าชั้นยกเองได้ชั้นยกไปแล้ว แต่นี่คือคำสาปแห่งสุสาน เพื่อปกป้องสิ่งมีค่าในตระกูลอู๋ คนอื่นเปิดหีบไม่ได้หรอก มีอีกอย่างที่ชั้นจะพิสูจน์ให้ดู"

เค้าถอดเสื้อตัวเองออกหมด เผยให้เห็นกล้ามเนื้อและรอยสักบนตัว รูปคล้ายๆมังกร

"นายจะทำอะไร???"

"รอยสักนี่ สำหรับตระกูลชั้น ถ้าคนในตระกูลอู๋สัมผัสมัน มันจะนูนขึ้นทันที ไม่เชื่อนายลองจับสิ"

"อะไร ทำไม ชั้นต้องเชื่อนายด้วย ชั้นเกิดตระกูลหลี่ ไม่ใช่ตระกูลอู๋ นายฉีซาน!!! ปล่อยมือสิ ปล่อย"

เค้าเอามือผมลากไปตามรอยสักรูปมังกรนั่น ร่างกายเค้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ เอามือไล่ไปที่ไหล่ แผ่นอกและแผ่นหลัง ทุกที่ที่ผมสัมผัส มันจะนูนเด่นและยุบลงเมื่อมือผมลากผ่านไป...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ!!!
ผมนิ่งไป ทำอะไรไม่ถูก เค้าดึงผมไปกอดไว้!!!

"อู๋น้อย นายเข้าใจรึยัง ชั้นมีหน้าที่ต้องปกป้องคนสกุลอู๋ทุกคน รวมทั้งนายด้วย แต่ตอนนี้ปู่นายกำลังจะตาย ถ้านายไม่ช่วย ชั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง เชื่อชั้นเถอะ ได้โปรด!!!"

ร่างกายผมผสานเข้ากับร่างกายเค้า เฉพาะส่วนใบหน้าที่ผมพาดบนไหล่เท่านั้น รอยสักจึงนูนเด่นขึ้นมา ผมเอามือลูบมันแล้วถาม

"มันเป็นแบบนี้ นายเจ็บรึเปล่า!!!"

"ไม่เจ็บหรอก แค่รู้สึกเบาๆเหมือนมีลมวิ่งผ่าน"

"ทำไมล่ะ ทำไม???"

ผมรู้สึกสงสารเค้า คล้ายกับว่าสิ่งที่เค้าพูดมันผูกเค้าไว้กับหน้าที่ที่ต้องแบกไว้อย่างลำบาก

"อู๋น้อย มันคือคำสาปของตระกูลเรา นายไม่ต้องเป็นห่วง ชั้นเต็มใจยอมรับ ตกลงนายจะช่วยชั้นใช่มั้ย"

"อืมมม"

ผมรับปากแล้วผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดเค้าเบาๆ

"จริงๆนะ ขอบใจมากๆๆ"

แต่เค้าไม่ยอมให้ผมผละออก เค้าดึงผมไปกอดอีกครั้ง แบบคนที่ดีใจ...

"นายฉีซาน ปล่อยสิ ชั้นจะได้ไปจัดการโครงกระดูกนั่นให้"

เค้าจับแขนผมทั้งสองข้าง แล้วจ้องตาผมอีกรอบ ผมเห็นแววตาเค้าสุกใสเป็นครั้งแรก คงดีใจมากสินะ

"อู๋น้อย ทำไมนายน่ารักแบบนี้"

คราวนี้เค้าก้มหน้าลงมาจูบผมเบาๆ ริมฝีปากสัมผัสกันอีกครั้ง เค้ากดปากแนบอยู่อีกสักพัก ผมรู้สึกได้ถึงรสหวานจากปลายลิ้นอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้นานเหมือนคราวก่อน เค้าจึงถอนปากออกจ้องหน้าผมอีก

"นายฉีซาน นายทำแบบนี้อีกแล้ว"

เค้าไม่ตอบอะไร ปล่อยแขนผม แล้วส่องไฟฉายไปที่โครงกระดูกนั่น
ผมจึงพักเรื่องจูบไว้ก่อน แล้วไปย้ายโครงกระดูกนั่นออกไปอย่างง่ายดาย ผมก้มหน้าดูหีบต่อแต่ไม่ได้สนใจเค้า จึงถามต่อว่า

"นายบอกว่าอะไรนะ ถ้าจะเปิดหีบต้องใช้เลือดชั้นเหรอ"

ผมยังไม่ทันเงยหน้าขึ้นมา นายฉีซานวิ่งเข้ามาคว้าหีบไว้ แล้วทิ้งอะไรบางอย่างลงบนพื้น ทำให้มีลำแสงสีแดงพุ่งขึ้นบนเพดาน ทะลุขึ้นไปบนฟ้า ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก สักพักมีควันบางๆหมุนวนรอบลำแสงนั่น

"นายฉีซาน นายอยู่ไหน"

ผมมองไม่เห็นเค้าเพราะมีกลุ่มควันมาบัง ผมต้องเอามือบังควันที่จะเข้าตาไว้ แต่แล้วก็มีมือมาฉุดผมเข้าไปในกลุ่มควันนั่น

"อู๋น้อย นายต้องไปกับชั้น"

ผมพยายามดิ้นๆๆ

"ม่ายยยย ชั้นไม่ไป ชั้นจะอยู่ที่นี่"

แล้วทุกอย่างก็มืดสนิท ผมไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป............

....โปรดติดตามตอนต่อไป.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น