วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน ภาคพิเศษ บทที่ 5

บทที่ 5 คำทำนาย

หลังจากนั้น ผมเริ่มรู้สึกตัวแต่ยังไม่สามารถลืมตาได้ 
ได้ยินแต่เสียงดังมาจากด้านข้าง...

"หมอ ทำไมเค้ายังไม่ฟื้นอีกล่ะ นี่มันคืนนึงแล้วนะ"

"คุณชายครับ คุณชายก็รู้ ร่างกายเค้าไม่ได้แข็งแรงแบบคุณชาย คง
ต้องพักอีกสักหน่อย แต่ไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ"

"แล้วชั้นต้องรอถึงเมื่อไหร่??? ฮะ!!! ชั้นถามนะหมอ"

นี่มันเสียงนายฉีซานนี่นา เค้าเสียงดังมาก ดุชะมัด ดุใครหน่ะ!!! น่ากลัวมากเลย

แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกปวดหัวและยังไม่สามารถขยับตัวได้ ทั้งๆที่ได้ยินทุกอย่างชัดเจน


"เอ่อ คุณชายใจเย็นๆสิครับ ผมก็จนใจที่จะบอกได้ อาจจะพรุ่งนี้หรืออีกกี่วัน คงต้องแล้วแต่ฟ้าหน่ะครับ"

"ออกไป!!! ออกไปให้หมด ไม่ได้เรื่อง ไม่มีใครได้เรื่องสักคน"

มีเสียงคนกลุ่มนึงเดินซุบซิบกันออกไป สักพักทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ ทุกคนคงออกไปหมดแล้ว

"อู๋น้อย ทำไมนายยังไม่ฟื้นอีก ชั้นพานายมาด้วย นายไม่อยากมาใช่
มั้ย อู๋น้อย ได้ยินมั้ย ตื่นสิ ตื่นขึ้นมาว่าชั้นเป็นปู่บ้า หรืออะไรก็ได้ อย่านิ่งไปแบบนี้"

ระหว่างที่มีเสียงพูด นายฉีซานจับมือผมเขย่า หลังจากนั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆสัมผัสที่ปาก เป็นสัมผัสที่เริ่มคุ้นเคย

นายฉีซาน!!! นายจูบชั้นอีกแล้วนะ แต่แปลกแฮะ ผมรู้สึกเหมือนมีหยดน้ำ ตกลงมาที่ข้างแก้มผม เป็นไปไม่ได้!!! คนตัวใหญ่แข็งแรงแบบนี้ เค้าร้องไห้เหรอ น้ำที่หยดลงมามันคือน้ำตาใช่หรือเปล่า เพราะมันอุ่นๆด้วยเหมือนกันและผมได้ยินเสียงเค้าสั่นเมื่อพูดต่อ


"อู๋น้อย ชะ...ชั้น เอ่อ..."
...............................


"ฉีซาน นายไม่เคยอ่อนแอแบบนี้นะ"


ผมได้ยินอีกเสียงที่ไม่คุ้นอีกเสียงนึงเข้ามาในห้อง

"ฉีจุ่ย นายมาได้ยังไง ทำไมไม่ดูอู๋เหล่าไว้ล่ะ"

"ชั้นได้ข่าวว่านายกลับมาแล้ว เลยมาดู คิดไม่ถึง นายจะพาเค้ามาจริงๆ นายยังจำที่ชั้นบอกได้ใช่มั้ย ฉีซาน"

"จำได้สิ แต่นายก็บอกเองหนิว่า ไม่ว่ายังไงชั้นก็ต้องพาเค้ามา ทำนายเองแล้วทำเป็นลืมนะ"

"เปล๊า!!! ชั้นไม่ได้ลืม แต่ไม่คิดว่าจะเห็นนายมาคร่ำครวญแบบเมื่อกี้ 
ตั้งแต่รู้จักกันมาขนาดตอนอู๋เหล่าเป็นแบบนี้ นายยังไม่มีน้ำตาสักหยด แล้วนี่อะไร ชั้นเห็นนะว่านายร้องไห้ ฉีซาน!!! ไหนตอนแรกนายหัวเราะที่ชั้นทำนายไงเล่า 555 ตอนนี้ไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้"

"พอเลยฉีจุ่ย นายกลับไปดูอู๋เหล่าไว้ ทางนี้ชั้นจัดการเอง ถ้าเค้าฟื้น ชั้นจะพาเค้าไปช่วยนายอีกที ว่าแต่เค้าจะฟื้นใช่มั้ย นายบอกหน่อยสิ"

"ฉีซาน นายไม่เชื่อชั้น แล้วจะมาให้ชั้นบอกทำนายอะไรอีก 555"

หลังจากนั้นเสียงก็เงียบไปอีกครั้ง

ผมได้ยินเสียงนายฉีซานวิ่งตามออกไป แล้วสักพัก ผมก็ไม่รู้สึกตัวอีก จนกระทั่ง นานเท่าไหร่ไม่รู้ ผมไม่ค่อยปวดหัวมากแล้ว และรู้สึกว่าร่างกายเริ่มขยับได้...

พอลืมตาขึ้น ภาพที่ผมเห็นคือ นายฉีซาน หลับฟุบอยู่ที่โต๊ะ ผมจึงค่อยๆลุกขึ้น แต่ก็...

"โอ๊ยย!!! ปวดหัวชะมัด" ผมเริ่มมองสำรวจห้อง ที่นี่ค่อนข้างกว้าง ตกแต่งด้วยของใช้หรูหราแต่ให้ความรู้สึกโบราณ

"โอ๊ย!!!" ผมเอามือจับที่หัวตัวเองเพราะมันปวดจี๊ดขึ้นมาอีกแล้วและเหมือนนายตัวยักษ์ที่โต๊ะจะเริ่มได้ยินเสียงผม เค้าจึงพุ่งมาที่เตียงทันที

"อู๋น้อยๆๆ นายเป็นยังไงบ้าง เจ็บเหรอ เจ็บหัวเหรอ"

ผมมองหน้าเค้า เค้าดูเป็นห่วงผมมาก แต่ยังไม่พูดอะไร

"อะไร ทำไมล่ะ จำไม่ได้เหรอ ชั้นเฉินฉีซานไง อู๋น้อย พูดอะไรกับชั้นหน่อยสิ"

ผมยังไม่ตอบอะไร ขอดูปฏิกิริยาขำๆของคนตรงหน้าก่อน ผมอดแอบยิ้มไม่ได้

"ที่นี่ที่ไหน" ในที่สุด ผมก็ถามออกไป

"ที่นี่เหรอ ที่นี่บ้านชั้น บ้านเฉินฉีซาน นายไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีใครทำอันตรายนายทั้งนั้น นะ...นาย ตกลงนายไม่เป็นไรใช่มั้ย จำชั้นได้มั้ย"

"นายเป็นใคร???" ผมแกล้งถามออกไป แล้วทำหน้ามึนๆ โอ๊ย!!! ทำไงดี ผมจะหลุดขำ

"ฮะ!!! อะไรนะ อู๋น้อย ชั้นไง ชั้น เฉินฉีซาน คนที่ชอบบอกว่าเป็นปู่นาย แต่นายก็ไม่เชื่อ"

"ปู่อะไร ชั้นไม่รู้จัก"

"อะไรเนี่ยะ ทำไมล่ะ ทำไมนายจำชั้นไม่ได้ หรือว่าจะเป็นผลจากการข้ามเวลามา ไหนขอดูหน่อยว่ายังมีไข้ไม่สบายตรงไหนมั้ย"

เค้าเอามือมาแตะหน้าผากผม จับแก้มหันไปมา ดูตกใจและเป็นห่วงมาก...แต่เด๋วนะ ข้ามเวลา!!! อะไรคือข้ามเวลามา

"อะไรนะ นี่ปีอะไร???"

ผมถามออกไปเพราะไม่อยากจะเชื่อที่เค้าพูด

"ปีนี้ 1937 ชั้นพานายย้อนเวลามายังปีที่ชั้นอยู่"

"ฮะ!!! นายว่าไงนะ" ผมเริ่มตกใจ สำรวจรอบๆใหม่อีกครั้ง และพอมองชุดเค้าและชุดที่ตัวเองกำลังใส่ก็พบว่ามันดูเป็นแบบโบราณ แต่เดี๋ยวนะ ผมถูกเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนไหน...

"ใครเปลี่ยนชุดนี่"

"ก็ชั้นเองสิ ทั้งเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า จะให้คนอื่นทำได้ยังไง"

"นะ...นายฉีซาน นายมายุ่งอะไรกับตัวชั้นอีกแล้ว ใครอนุญาตให้นายทำแบบนี้ ชั้นจะกลับวัด นายเลิกยุ่งกับชั้นสักที"

ผมพุ่งเข้าไปเอามือทุบตีที่ตัวและท้องเค้าไม่หยุด เค้าเอามือมาจับแขนผมไว้ทั้งสองข้าง

"เดี๋ยวนะ อู๋น้อย ตกลงนายจำชั้นได้นี่นา ร้ายกาจมาก อยากจะลองดีใช่มั้ย ไม่รู้จักพลังนิ้วดัชนีแห่งสกุลเฉินซะแล้ว"

เค้าเอามือมาจั๊กจี้เอว คอและลำตัวสลับไปมา ผมบ้าจี้นะ เลยหัวเราะและดิ้นไม่หยุด จนกระทั่งนอนลงไปที่เตียงอีกรอบ

"555 โอ๊ย นายฉีซาน หยุดนะ หยุดสิ 555"

ตอนนี้เค้าคร่อมอยู่บนตัวผมและหยุดจั๊กจี้ เปลี่ยนมาจับที่ข้อมือไว้เหนือหัว ทำให้ผมไปไหนไม่ได้ สายตาที่มองมามันดูจริงจังมาก
เค้าก้มลงมากำลังจะจูบผมอีกแล้ว ผมเลยรีบพูดแทรก

"นายฉีซาน นายแกล้งชั้นอีกแล้ว นายชอบแกล้งชั้น นายต้องการอะไร"

เค้าไม่ฟังผมเลยก้มลงเอาปากประกบลงมาอีกครั้ง คราวนี้เค้าเริ่มเอาลิ้นลุกล้ำเข้ามาในปากผม พร้อมทั้งตวัดเพื่อสัมผัสไปทั่ว ผมจูบรับตอบเค้า ปากต่อปากบดเบียดกันไปมาไม่หยุด ลมหายใจปะทะกันอย่างอบอุ่น เค้าค่อยๆเลื่อนไปจูบที่จมูก แก้ม และไล่ไปจนถึงใบหูผม มือเค้าเริ่มเปลี่ยนมาสัมผัสที่ด้านในเสื้อของผม ค่อยๆลูบไล้ไปตามหน้าท้องอย่างแผ่วเบา

...ใจนึงผมเริ่มรู้สึกต้องการสัมผัสจากเค้า แต่อีกใจนึงผมก็ไม่มั่นใจ ผมกับเค้าเราอยู่กันคนละยุคเหรอ แล้วตกลงเค้าคิดอะไรกันแน่ ทำแบบนี้มันจะดีเหรอ upset emoticon!!!

"นะ...นาย ฉีซาน"

"อู๋น้อย นายอยู่กับชั้นที่นี่เลยได้มั้ย"

เค้ากระซิบด้วยเสียงแผ่วเบาที่ข้างหู ผมควรจะทำยังไงดี ควรตอบไปว่ายังไง???

"นาย...ฉีซาน ชะ...ชั้นอยากกลับบ้าน"

ฉับพลันนั้นเค้ากลับมามองหน้าผมที่กำลังหลับตาปี๋และหันหน้าไปอีกทางเพราะรู้ว่าเค้าต้องโกรธแน่ๆ

"อู๋น้อย นายว่ายังไงนะ!!!"


..........โปรดติดตามตอนต่อไป.......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น